บทที่ 61 : ผู้อาวุโสรั่วหยุนตกตะลึง!
บทที่ 61 : ผู้อาวุโสรั่วหยุนตกตะลึง!
“นี่เจ้าหมายความว่าเธอสามารถปรุงโอสถก่อกำเนิดได้แล้วงั้นเหรอ?”
องครักษ์สิบสามเบิกตากว้าง, พรางจ้องมองไปที่สุ่ยหนิงด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ!
โอสถก่อกำเนิด!
นั่นเป็นโอสถที่ปรุงยากที่สุดในบรรดาโอสถระดับสีเหลืองขั้นสูง!
นักปรุงโอสถที่สามารถปรุงโอสถก่อกำเนิดได้ แสดงว่าอีกนาน…พวกเขาก็จะสามารถปรุงโอสถระดับลึกลับได้แล้ว
“ใช่แล้ว!”
“สุ่ยหนิงปรุงโอสถก่อกำเนิดสำเร็จมาแล้วสิบสามเตา!”
“เเละไม่ใช่แค่ปรุงสำเร็จทุกเตาเท่านั้น, แต่เตาที่ดีที่สุดของเธอ…ปรุงได้ถึงสามเม็ด!” รั่วหยุนพูดอย่างภาคภูมิใจ
“หนึ่งเตาปรุงได้สามเม็ด?”
ดวงตาขององครักษ์สิบสามเบิกกว้างขึ้นไปอีกขั้น!
สามเม็ด, คือจำนวนโอสถสูงสุดที่สามารถปรุงได้ในหนึ่งเตา
สุ่ยหนิงสามารถปรุงโอสถก่อกำเนิดได้ถึงสามเม็ด แสดงว่าเธอเชี่ยวชาญการปรุงโอสถก่อกำเนิดอย่างมาก
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
“พวกเจ้าต้องการเลือดของอสูรโลหิตทองคำ…ก็เพื่อนำไปปรุงโอสถระดับลึกลับขั้นต้นสินะ!”
จู่ๆองครักษ์สิบสามก็คิดอะไรบางอย่างออก
“ไม่ผิด!”
“เจ้าก็ยังไม่ถือว่าโง่มากเกินไป!”
“แต่น่าเสียดายที่พวกเจ้าเพิ่งจะมาคิดได้ตอนนี้!”
“เอาล่ะ เจ้าจะยอมแพ้ก็ได้นะ ถ้าข้าอารมณ์ดี…อาจจะแบ่งเลือดของอสูรโลหิตทองคำให้พวกเจ้าบ้างก็ได้” รั่วหยุนกล่าวพรางหัวเราะเยาะ
สำนักเทียนเซียวไม่ถนัดเรื่องปรุงโอสถ…เขาไม่เชื่อหรอกว่า จู่ๆจะมีอัจฉริยะด้านปรุงโอสถโผล่ออกมาได้
“คุณหนูสุ่ยหนิง, พรสวรรค์ของเจ้าช่างน่าทึ่ง…แต่ข้าก็ยังอยากจะลองดูสักตั้ง!” หลินเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มสุภาพ
“นี่เจ้าก็ปรุงโอสถก่อกำเนิดได้ด้วยเหรอ?” รั่วหยุนถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย
“ไม่เคยปรุงครับ”
หลินเสวียนส่ายหน้าปฎิเสธ
“โอสถที่ดีที่สุดที่ข้าเคยปรุงก็แค่โอสถหลอมลมปราณ”
“โอสถหลอมลมปราณ?”
รั่วหยุนมองหลินเสวียนด้วยสายตาแปลกใจ…ก่อนจะกล่าวว่า
“ก็ไม่เลวนี่!”
“ในบรรดาศิษย์สายนอกของสำนักเทียนเซียว…เจ้าถือว่าเป็นอัจฉริยะในด้านการปรุงโอสถแล้วล่ะ”
“ไม่แปลกใจเลยที่องครักษ์สิบสามจะพาเจ้ามาหาอสูรโลหิตทองคำด้วย”
“แต่น่าเสียดายที่โอสถหลอมลมปราณ…เป็นแค่โอสถระดับสีเหลืองขั้นต่ำ”
“เทียบกับสุ่ยหนิงแล้ว, ยังห่างไกลกันมากนัก”
รั่วหยุนหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ
“ข้าได้ยินท่านองครักษ์สิบสามเรียกเจ้าว่าหลินเสวียน, งั้นข้าขอเรียกเจ้าว่าน้องหลินก็แล้วกัน”
“น้องหลิน เจ้าเคยปรุงแค่โอสถหลอมลมปราณ…แสดงว่าเจ้าคงไม่มีแม้แต่วัตถุดิบสำหรับปรุงโอสถก่อกำเนิดสินะ”
รั่วหยุนส่ายหัวด้วยความเสียดาย
ความหมายของเขานั้นชัดเจน เจ้าไม่มีแม้แต่วัตถุดิบ…เเล้วจะเอาอะไรมาประลองปรุงโอสถก่อกำเนิด?
“ถึงแม้ข้าจะไม่เคยปรุงโอสถก่อกำเนิดมาก่อน…แต่เรื่องวัตถุดิบข้าได้เตรียมมาแล้วครับ!”
หลินเสวียนหยิบวัตถุดิบออกมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ
“เจ้ามีวัตถุดิบด้วยเหรอ?”
“ฮึ่ม…ดูเหมือนคนของสำนักเทียนเซียวจะเหมือนกันหมด ถ้าไม่เห็นโลงศพก็ไม่หลั่งน้ำตา!”
“น่าเสียดายวัตถุดิบชั้นดีจริงๆ!” รั่วหยุนแสร้งทำเป็นเสียดายของ
“ทำไมต้องเสียดาย!”
“วัตถุดิบเเบบนี้สำนักเทียนเซียวของข้ามีเยอะแยะ…จะต้องไปเสียดายอะไร?”
“หลินเสวียน, เจ้าตั้งใจปรุงโอสถไปเถอะ!”
“เรื่องวันนี้ ข้าจะรายงานเบื้องบนอย่างละเอียด…วัตถุดิบเตานี้ของเจ้าถือว่าเป็นของสำนัก, ถ้าหากปรุงโอสถไม่สำเร็จ ทางสำนักจะชดเชยให้เจ้าเอง”
องครักษ์สิบสามพูดอย่างองอาจ
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของสำนัก…ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญคนไหนของสำนักเทียนเซียวก็สามารถตัดสินใจเเบบนี้ได้
“ครับ!”
หลินเสวียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโล่งใจ!
จริงๆแล้ว, หลินเสวียนตั้งใจจะใช้วัตถุดิบเตานี้กับเลือดของอสูรโลหิตทองคำ
แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ คงต้องเอามาใช้เพื่อชนะการประลองตรงหน้าเสียก่อน
“ในเมื่อกล้าประลองก็ดี!”
“สุ่ยหนิง…เจ้าจงตั้งใจปรุงโอสถให้ดี”
“ให้พวกมันได้เห็นฝีมือของสำนักเสินโหยวของพวกเรา!”
“เจ้าค่ะ, ท่านอาจารย์” สุ่ยหนิงพยักหน้า
“เอาล่ะ…งั้นก็เริ่มได้เเล้ว!”
องครักษ์สิบสามโบกมือ
เเต่ถึงแม้เขาจะมั่นใจในตัวหลินเสวียนมาก, อย่างไรครั้งนี้ในใจก็อดกังวลไม่ได้อยู่ดี!
เพราะหลินเสวียนไม่เคยปรุงโอสถก่อกำเนิดมาก่อน
…..
หลังจากนั้น หลินเสวียนและสุ่ยหนิงต่างก็ก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมๆกัน!
ทั้งสองคนสบตากัน, เเละทันใดนั้นเตาปรุงโอสถสองเตาก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขาราวกับนัดกันไว้
“ฟู่~”
จากนั้น, ทั้งหลินเสวียนและสุ่ยหนิงต่างก็รวบรวมเพลิงโอสถขึ้นมา
บนฝ่ามือของหลินเสวียน, มีเพลิงบัวแดงร้อนแรงที่แผดเผาจนอากาศโดยรอบบิดเบี้ยว
ส่วนบนฝ่ามือของสุ่ยหนิง กลับเป็นเพลิงสีม่วง…เเละเพียงแค่ปรากฏขึ้น มันก็มีกลิ่นหอมของสมุนไพรฟุ้งกระจายออกมา!
“นั่นมันเพลิงแก่นแท้จื่อหลิง!”
“ไม่แปลกใจเลยที่เธอสามารถปรุงโอสถก่อกำเนิดได้ทั้งที่ยังอายุน้อยเเบบนี้!”
เมื่อเห็นเพลิงโอสถบนฝ่ามือของสุ่ยหนิง, รูม่านตาขององครักษ์สิบสามก็หดเล็กลงทันที!
เพลิงแก่นแท้จื่อหลิง!
มันคือเพลิงโอสถระดับสีเหลืองขั้นสูง!
ถ้าองครักษ์สิบสามจำไม่ผิด มันน่าจะเป็นของนักปรุงโอสถอาวุโสของสำนักเสินโหยวสายนอก
“ไม่ผิด!”
“นี่คือเพลิงแก่นแท้จื่อหลิงของผู้อาวุโสจื่อหลิง, นักปรุงโอสถแห่งสำนักเสินโหยวสายนอกของพวกเรา”
“ตอนนี้ท่านมอบให้กับสุ่ยหนิงแล้ว!”
“เพลิงแก่นแท้จื่อหลิง ถูกผู้อาวุโสจื่อหลิงใช้ปรุงโอสถมานานจนมีพลังโอสถ…มันสามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จในการปรุงโอสถได้อย่างมาก!” รั่วหยุนพูดอย่างมั่นใจ
แต่หลังจากนั้นไม่นาน, สายตาของรั่วหยุนก็พลันเปลี่ยนไป!
เพราะ ณ ขณะนี้…หลินเสวียนและสุ่ยหนิงได้ลงมือปรุงโอสถเเล้ว!
ภายใต้การควบคุมของทั้งคู่ เพลิงโอสถทั้งสองชนิดได้รวบรวมเอาวัตถุดิบเข้าไปและเริ่มหลอมละลายเป็นน้ำโอสถ
มือทั้งสองข้างของทั้งคู่ต่างก็ร่ายรำเเละหลอมละลายวัตถุดิบทีละอย่างอย่างชำนาญ…ก่อนจะหยดทุกอย่างลงในเตาปรุงโอสถ
“ไม่เลวเลยนี่!”
รั่วหยุนเพียงแค่เหลือบมองหลินเสวียน…ก็ต้องพบความน่าประหลาดใจ!
ความชำนาญ!
ความสมบูรณ์แบบ!
ทักษะในการหลอมละลายน้ำโอสถของหลินเสวียนนั้นสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
แม้แต่สุ่ยหนิงก็ยังเทียบไม่ติด
เเถมความเร็วในการหลอมละลายสมุนไพรของหลินเสวียนยังเร็วกว่าสุ่ยหนิงเล็กน้อย!
ส่วนทางด้านสุ่ยหนิงก็มองหลินเสวียนด้วยความประหลาดใจเช่นกัน
เธอไม่คิดเลยว่าหลินเสวียนจะมีฝีมือในการหลอมละลายน้ำโอสถถึงขั้นนี้!
“รั่วหยุน, ดูเหมือนเจ้าจะชนะไม่ง่ายแล้วล่ะ!”
ถึงแม้องครักษ์สิบสามจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องปรุงโอสถมากนัก, แต่เขาก็เป็นคนช่างสังเกต
“ฮึ่ม!”
“ก็แค่ชำนาญการหลอมสมุนไพรเท่านั้นเอง!”
“สิ่งสำคัญที่สุดในการปรุงโอสถก็คือทักษะการควบแน่นโอสถและทักษะการสำเร็จเป็นโอสถ!”
“อย่าหาว่าข้าไม่เตือน, ถ้าหากโอสถก่อกำเนิดเตานี้ระเบิดขึ้นมา…หลินเสวียนคงไม่เหลือแม้แต่ซาก!”
“ระวังจะดีใจได้ไม่นาน!”
เมื่อรั่วหยุนตั้งสติได้…เขาก็รับพูดอย่างดูถูก
“ลอยขึ้น!”
“ตูมมมม!”
ในขณะที่รั่วหยุนและองครักษ์สิบสามกำลังโต้เถียงกันอยู่นั้น
หลินเสวียนและสุ่ยหนิงก็หลอมละลายน้ำโอสถจนเสร็จสิ้นพร้อมกัน
จากนั้น, ทั้งคู่ก็ร่ายรำด้วยมือทั้งสองข้าง…เตาปรุงโอสถทั้งสองเตา ก็ลอยขึ้นไปในอากาศ ภายใต้การห่อหุ้มของเพลิงโอสถ!
“มาแล้ว!”
“ต่อไปนี้ จะถึงช่วงที่สำคัญที่สุด!”
รั่วหยุนจ้องมองอย่างไม่ละสายตา!
ส่วนองครักษ์สิบสามก็จ้องมองเตาปรุงโอสถด้วยความหวาดหวั่น…เขาพร้อมที่จะเข้าไปช่วยหลินเสวียนทุกเมื่อถ้าหากเตาระเบิด
……
“ฟูมมมมๆๆๆๆ!”
สุ่ยหนิงโบกมือร่ายรำ
ณ ขณะนี้…แขนของเธอก็กลายเป็นสีม่วงสว่างราวกับหยกสีม่วงใส
ตูม!
ตูม!
ตูม!
ฝ่ามือสีม่วงของสุ่ยหนิง ตบลงบนเตาปรุงโอสถอย่างต่อเนื่อง…พร้อมท่วงท่าก้าวเดินอันแสนพิสดารเเต่งดงามราวกับนางฟ้า
เคล็ดวิชาควบแน่นโอสถ!
เห็นได้ชัดว่า, สุ่ยหนิงก็ฝึกฝนเคล็ดวิชาควบแน่นโอสถมาเช่นกัน!
เเละเคล็ดวิชาของเธอสามารถเพิ่มสรรพคุณของโอสถ และเร่งความเร็วในการควบแน่นโอสถได้!
“ฟุบ!”
ในเวลาเดียวกัน!
หลินเสวียนก็ร่ายรำเคล็ดวิชาควบแน่นโอสถสมบูรณ์เช่นกัน!
ร่างของหลินเสวียนลอยละล่อง….ฝ่ามือทั้งสองข้างตบลงบนเตาปรุงโอสถอย่างต่อเนื่อง
ณ ขณะนี้…เตาปรุงโอสถและเพลิงโอสถต่างก็สั่นสะเทือนเป็นจังหวะอันแสนลึกลับ!
“ยังไม่ระเบิดอีกเหรอ?”
“หรือว่าเขาที่เพิ่งจะเคยปรุงโอสถก่อกำเนิดเป็นครั้งแรก…จะสามารถปรุงโอสถได้สำเร็จจริงๆ?”
รั่วหยุนมองร่างของหลินเสวียนที่ลอยละล่องอยู่กลางอากาศ
บนใบหน้าของเขาเผยให้เห็นความไม่มั่นใจออกมาเป็นครั้งแรก
“หึๆๆ บอกแล้วไงว่าถ้ายังไม่ถึงวินาทีสุดท้าย….ก็ไม่มีใครรู้ผลแพ้ชนะหรอก!”
องครักษ์สิบสามกล่าวอย่างอารมณ์ดี
“งั้นก็รอดูกันต่อไป!” รั่วหยุนพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
……
อีกด้านหนึ่ง
หลินเสวียนและสุ่ยหนิงต่างก็กำลังควบแน่นโอสถอย่างใจเย็น
ส่วนองครักษ์สิบสามและรั่วหยุนต่างก็จ้องมองทั้งสองคนอย่างตั้งใจ… ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงดวงอาทิตย์ตก
“สำเร็จเป็นโอสถ!”
เมื่อท้องฟ้าเริ่มมีแสงสีแดงของดวงอาทิตย์ยามเย็น
หลินเสวียนและสุ่ยหนิงต่างก็ตบฝ่ามือลงบนเตาปรุงโอสถพร้อมๆกัน!
ปัง!
ฝาเตาปรุงโอสถเปิดออก!
ทันใดนั้นก็มีเม็ดโอสถลอยออกมาจากเตา…พุ่งตรงไปยังหลินเสวียนและสุ่ยหนิง
“ตรวจสอบโอสถ!”
เม็ดโอสถยังไม่ทันจะลอยมาถึงตัว....หลินเสวียนและสุ่ยหนิงต่างก็ใช้นิ้วดีดไปที่เม็ดโอสถที่พุ่งเข้ามา
ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เม็ดโอสถที่ทั้งคู่ปรุงขึ้นมาต่างก็ลอยไปหาฝ่ายตรงข้าม
จากนั้นก็ถูกทั้งสองคนก็รับไว้ในมือ!
เมื่อสุ่ยหนิงได้รับเม็ดโอสถที่หลินเสวียนปรุง, ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง!
“สำเร็จแล้ว!”
“หลินเสวียน เจ้าปรุงสำเร็จจริงๆ!”
ตอนนี้องครักษ์สิบสามดีใจยิ่งกว่าหลินเสวียนเสียอีก
เขารีบเข้าไปตบไหล่ของหลินเสวียนอย่างแรง
ส่วนทางด้านรั่วหยุนนั้นไม่อาจปกปิดความตกตะลึงได้อีกเเล้ว!
หลินเสวียนปรุงโอสถก่อกำเนิดสำเร็จจริงๆ!
ต้องรู้ว่าแม้แต่สำนักเสินโหยวที่ขึ้นชื่อเรื่องปรุงโอสถและตีเหล็ก…ศิษย์สายนอกที่สามารถปรุงโอสถก่อกำเนิดได้ก็มีแค่สุ่ยหนิงคนเดียวเท่านั้น
“รั่วหยุน เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกหรือเปล่า?”
“เมื่อกี้เจ้าบอกเองว่า ถ้าหากหลินเสวียนปรุงโอสถก่อกำเนิดได้สำเร็จ, เจ้าก็จะถือว่าหลินเสวียนชนะ!”
องครักษ์สิบสามพูดอย่างยิ้มแย้ม
“ไม่ถูกต้อง!”
“จำนวนโอสถไม่ถูกต้อง!”
“เมื่อกี้ข้าเห็นว่า โอสถที่หลินเสวียนปรุงได้สำเร็จไม่ใช่สามเม็ด…แต่เป็นสี่เม็ด!”
รั่วหยุนขมวดคิ้ว
ตามที่เขาทราบ ขีดจำกัดของโอสถก่อกำเนิดต่อหนึ่งเตาคือสามเม็ด…ถ้าเป็นสี่เม็ดเเสดงว่าเป็นโอสถที่ระดับต่ำกว่า
เเละด้วยระดับพลังลมปราณขั้นก่อกำเนิดเเก่นเเท้ของเขา, เขาไม่มีทางมองผิดพลาดแน่นอน!
“งั้นก็ตรวจสอบโอสถกันเถอะ!” หลินเสวียนแบมือออก
เม็ดโอสถทั้งสามเม็ด, ต่างก็เปล่งประกายระยิบระยับเเละมีกลิ่นหอมของสมุนไพรฟุ้งกระจายออกมา
มันช่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ!
“ไม่ผิด!”
“สุ่ยหนิงปรุงโอสถก่อกำเนิดสำเร็จจริงๆ….แถมจำนวนโอสถยังสูงถึงสามเม็ด!”
รั่วหยุนเพียงแค่เหลือบมองโอสถในมือของหลินเสวียน, จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างมั่นใจ
“สุ่ยหนิง, รีบดูโอสถที่หลินเสวียนปรุงเร็วเข้า!”
“ข้าขอสาบานด้วยศักดิ์ศรีนักปรุงโอสถที่สั่งสมมามากกว่าสิบปี….โอสถที่หลินเสวียนปรุงต้องไม่ใช่โอสถก่อกำเนิดอย่างแน่นอน!” รั่วหยุนพูดอย่างมั่นใจ
“ค่ะ…ท่านอาจารย์!”
สุ่ยหนิงได้ยินดังนั้น ก็มองหลินเสวียนด้วยแววตาสับสน…ก่อนจะค่อยๆ แบมือออก!
“นั่นอะไร!”
“ลวดลายโอสถ!”
เมื่อรั่วหยุนเห็นเม็ดโอสถทั้งสี่เม็ดที่เปล่งประกายระยิบระยับอยู่ในมือของสุ่ยหนิง
เขาก็เบิกตากว้าง, เเละร้องออกมาด้วยความตกตะลึงทันที!
………………………….