ตอนที่ 114 กัวกั๋ว (ฟรี)
ตอนที่ 114 กัวกั๋ว
“บรรพบุรุษ ท่านสุดยอดจริงๆ” ผู้อาวุโสสาม ลู่ไห่รีบกล่าวชมเชย
ลู่ซุนไม่สนใจเขา และเดินไปข้างหน้า
หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็หยุดอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่ง
“บรรพบุรุษ ท่านแน่ใจหรือว่านี่คือหอเทียนเซียง” ลู่เซียวเซียวกะพริบตาดวงโตแล้วพูดด้วยสีหน้าหมองคล้ำ
"ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นที่ตั้งของสำนักจุ้ยหลง..." ลู่เหยามองดูสถานที่ตรงหน้าอย่างระมัดระวัง แล้วพูดด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
ข้างหน้าเธอ มีศาลาข้างใหญ่ลอยอยู่เหนือพื้นดิน ดูสง่างาม และน่าเกรงขามอย่างยิ่ง
ถัดจากศาลามีรูปปั้นมังกรตั้งอยู่ซึ่งดูสมจริง และดูน่าสะพรึงกลัวมาก
“หยุด พวกเจ้าเป็นใคร! มากำลังทำอะไรลับๆ ล่อๆ ที่สำนักจุ้ยหลงของข้า?”
ในขณะนี้ ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังเข้าหูของทุกคน จากนั้นชายหนุ่มร่างสูงก็ปรากฏตัวออกมา
ชายผู้นี้มีใบหน้าหล่อเหลา สวมชุดคลุมขงจื๊อสีขาวบริสุทธิ์ และมีจี้หยกรูปมังกรห้อยอยู่ที่เอว เขาดูสง่างามมาก
“ถ้าบอกว่าเรามาผิดที่ เจ้าจะเชื่อหรือไม่?” ลู่เหยาพูดกับชายหนุ่มอย่างช่วยไม่ได้
“พวกเจ้าไม่รู้กฎของอ่าวมังกรซ่อนเหรอ? นี่คืออาณาเขตของสำนักจุ้ยหลง ไม่มีใครเข้ามาใกล้ได้ ผู้ที่ฝ่าฝืนต้องถูกสังหาร!” ชายหนุ่มตอบอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อคำพูดของลู่เหยา
ไม่มีใครในอ่าวมังกรซ่อนที่ไม่รู้ว่านี่คือ อาณาเขตของสำนักจุ้ยหลง สถานที่แห่งนี้ไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้า นอกจากศิษย์ของสำนักแล้ว ก็แทบไม่มีคนอื่นให้เห็นอีกเลย
“ขออภัย เดิมทีข้าวางแผนจะไปที่หอเทียนเซียง แต่ดันมาอยู่ที่นี่โดยบังเอิญ” ลู่ซุนก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดอย่างสุภาพกับชายหนุ่ม
“อย่าหลอกข้า หอเทียนเซียงตั้งอยู่ทางเหนือของอ่าวมังกรซ่อน และนี่คือทางใต้ มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างทั้งสอง พวกเจ้าจะมาผิดทางได้ยังไง ข้าคิดว่าพวกเจ้าต้องเป็นสายลับที่สำนักอื่นส่งมาอย่างแน่นอน!” ชายหนุ่มกล่าวว่าด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม เขามองดูลู่ซุน และคนอื่นๆ ขึ้นๆ ลงๆ แล้วพูดอย่างไม่ไว้หน้า
“นี่เจ้าไม่เข้าใจหรือยังไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ เราบอกว่ามาผิดทางก็ผิดทางสิ ทำไมเจ้าถึงดื้อรั้นมากนัก?” ลู่เซียวเซียวโกรธมากจนลืมปลาย่างที่อยู่ในมือ และตอบกลับด้วยถ้อยคำที่รุนแรง
“หา?” ชายหนุ่มมองไปที่ลู่เสี่ยวเซียวโดยไม่รู้ตัว หลังจากเหลือบมองเพียงครั้งเดียว ม่านตาของเขาก็หดตัวลง
“พลังสายเลือดที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ผู้หญิงคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน!” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม
เขาเป็นนายน้อยของสำนักจุ้ยหลง และเขามีสายเลือดมังกรเสี้ยวหนึ่งอยู่ในตัว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าลู่เซียวเซียว เขารู้สึกได้ถึงความกดดันจากสายเลือด
ภูมิหลังของคนพวกนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็กรุณาหลีกทางด้วย” ลู่ซุนขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดอย่างช้าๆ
“พวกเจ้าไม่ใช่คนท้องถิ่นของอ่าวมังกรซ่อนเหรอ?” สีหน้าของชายหนุ่มดูอ่อนลงเล็กน้อยแล้วเขาก็ถามออกมา
“เราแค่ผ่านทางแล้ว และอยากสัมผัสถึงประเพณีท้องถิ่นของอ่าวมังกรซ่อน” ลู่ไห่ตอบเสียงดัง
“พวกเจ้าเพิ่งบอกว่าจะไปที่หอเทียนเซียงใช่ไหม? บังเอิญว่าข้าก็ไม่ได้ไปกินอาหารที่นั่นนานแล้วเหมือนกัน ในเมื่อพวกเจ้าไม่รู้ทาง ข้าจะช่วยพาไปเอง” ชายหนุ่มครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณ” ลู่ซุนไม่มีความคิดอื่นใดเกี่ยวกับสำนักจุ้ยหลง ในเมื่อมีคนนำทางก็ถือเป็นเรื่องนี้
หลังจากที่ชายหนุ่มได้ยินคำพูดของลู่ซุน เขาก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินตรงมาหา
“ข้าขอแนะนำตัวก่อน ข้าเป็นศิษย์ของสำนักจุ้ยหลงนามกัวกั๋ว” ชายหนุ่มโค้งคำนับให้ทุกคน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
“อุบ!” หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ลู่เซียวเซียวก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“เอ่อ ทำไมเจ้าถึงหัวเราะล่ะ” กัวกัวดูสับสน
“เจ้าชื่อกัวกั๋วงั้นเหรอ! ฮ่าๆๆ หรือเจ้ามีพี่ชายที่ชื่อชวีชู่ด้วย!” มุมปากของลู่เซียวเซียวกระตุกอย่างรุนแรง และเธอก็หัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
( ***เธอหมายถึง 蝈蝈 ที่แปลว่าตั๊กแตนนะครับ อ่านออกเสียงคล้ายกันๆ แต่กัวกั๋วในเรื่องเขียนด้วย 郭国 ที่แปลประมาณว่าพิทักษ์ชาติ และยังมีการกล่าวถึงนิทานเรื่อง 蝈蝈和蛐蛐 ( ตั๊กแตนและจิ้งหรีด ) )
“หรือเจ้าจะมีความสามารถในการทำนายด้วย? เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้ามีพี่ชายชื่อชวีชู่อยู่!” กัวกั๋วดูตกใจ และพูดอย่างโง่เขลา
หลังจากที่ลู่เซียวเซียวได้ยินสิ่งที่เขาพูด รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็แข็งค้าง และเนื้อปลาในปากก็แทบจะร่วงหล่นลงมา
“แคะ แคะ พ่อของเจ้าเป็นผู้นำในโลกแห่งการตั้งชื่อจริงๆ!” ลู่ไห่ไอสองครั้งแล้วยกย่องอีกฝ่ายอย่างจริงใจ
“พ่อของข้าคาดหวังในตัวข้ามาก เขาหวังว่าข้าจะจงรักภักดีต่อจักรวรรดิต้าเฉียนตลอดไป ดังนั้นเขาจึงตั้งชื่อนี้ให้กับข้า” กัวกั๋วกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เขารู้สึกภาคภูมิใจมาก
“ข้าเดาว่าพ่อของเจ้าชอบเล่นจิ้งหรีดใช่ไหม” จู่ๆ ลู่เหยาก็พูดขึ้น
“ฟู่... พวกเจ้ามาจากสำนักเทียนจี้ที่เดินไปรอบโลกเหรอ? ทำไมถึงได้เชี่ยวชาญเรื่องการทำนายมากขนาดนี้!” กัวกั๋วสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดด้วยความตกใจ
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเพิ่งได้พบกันครั้งแรก แต่อีกฝ่ายก็สามารถอธิบายเกี่ยวกับคนรอบตัวเขาได้อย่างแม่นยำ คนพวกนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!
“ชายคนนี้นิสัยค่อนข้างดีนะ แต่ดูเหมือนในหัวของเขาจะกลวงไปหน่อย น่าเสียดายจริงๆ” ลู่เซียวเซียวแลบลิ้นออกมาแล้วพูดพึมพำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“สาวน้อย เจ้ากำลังนินทาอะไรข้าหรือเปล่า” กัวกั๋วขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย และความสับสน
“เธอเป็นแค่เด็กจึงพูดไปเรื่อย โปรดอย่าโกรธเคืองไป” ลู่เหยาหันกลับมา จ้องมองที่ลู่เซียวเซียว แล้วพูดอย่างเร่งรีบ
“ไม่เป็นไร พวกเจ้าอยากไปที่หอเทียนเซียงไม่ใช่เหรอ? ข้ายินดีจะนำทางให้” กัวกั๋วโบกมืออย่างไม่แยแส
หลังจากนั้น พวกเขาก็มุ่งหน้าไปทางเหนือ
ระหว่างทาง ทุกคนยังได้รู้จักชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ มากขึ้นด้วย
เมื่อมองแวบแรก ชายคนนี้ดูเหมือนเป็นนายน้อยที่เอาแต่ใจ แต่ไม่ใช่อย่างงั้นเลย ไม่เพียงแต่เขาจะมีนิสัยที่ดี เขายังมีพรสวรรค์อยู่ไม่น้อย แม้จะอายุน้อย เขาก็มาถึงขอบเขตศักดิ์สิทธิ์แล้ว
กัวกั๋วยังคงพูดเป็นนัยๆ โดยพยายามค้นหาตัวตนของลู่ซุน และคนอื่นๆ
เมื่อกัวกั๋วรู้ว่าลู่ซุน และคนอื่นๆ มาจากมณฑลเฉียนหยวน เขาก็มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ
มณฑลเฉียนหยวนอ่อนแอมาก และไม่มีผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตสวรรค์ลวงแม้แต่คนเดียวจึงเทียบไม่ได้กับอ่าวมังกรซ่อน
อย่างไรก็ตาม กัวกั๋วไม่ได้ว่าทาง แต่คำพูดของเขาค่อนข้างเย่อหยิ่ง
ท้ายที่สุดแล้ว เขาเป็นนายน้อยของสำนักจุ้ยหลง และเป็นผู้ปกครองอ่าวมังกรซ่อนในอนาคต โดยธรรมชาติแล้ว เป็นเรื่องปกติที่เขาจะมีความเย่อหยิ่งอยู่ในใจ
"ทุกคน หอเทียนเซียงอยู่ข้างหน้า อาหารที่นี่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก แม้แต่พ่อของข้าก็ชอบมันมาก" กัวกั๋วหยุด และชี้ไปที่ร้านอาหารตรงหน้าแล้วพูดกับคนอื่นๆ
ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าคนเหล่านี้เดินไปผิดทางจริงๆ และไม่ใช่สายลับของสำนักศัตรู ดังนั้นภาวะอารมณ์ของเขาจึงไม่ตึงเครียดเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป แต่เต็มไปด้วยความเป็นกันเอง