ความฝันแรก (17)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
<เรื่องราวของอารอน ตอนที่ 25>
3. ความฝันแรก (17)
****
ไปกันเถอะ
อารอนย่อมรู้ความหมายของมันดี
ซาจินพูดพร้อมกับยิ้มว่า
"หลายสิบปีที่ฉันมาที่นี่ ฉันครุ่นคิดมาตลอดว่า การแข็งแกร่งที่แท้จริงคืออะไร การใช้ดาบได้เก่งกว่าคนอื่น? การฆ่าคนได้เก่งกว่าใคร? นั่นคือความแข็งแกร่งอย่างงั้นเหรอ?"
"หมายความว่านายได้คำตอบแล้วงั้นเหรอ?"
อารอนถามอย่างหมดแรง
ซาจินพยักหน้า
"ฉันได้คำตอบในแบบของฉันแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันยื่นข้อเสนอชวนนาย"
ซาจินยื่นมือออกมา
หากอารอนจับมือเขา เขาจะได้กลับไปยังโลกภายนอก
"ยอมรับมันซะ แล้วก็ทำทุกอย่างเท่าที่นายจะทำได้ นายพยายามอย่างหนักแล้ว ไม่มีใครตำหนินายหรอก”
ความแข็งแกร่ง
ในขณะที่อารอนยังคงหลงทางอยู่ในเขาวงกตที่ไม่มีทางออก
แต่ซาจินกลับค้นพบคำตอบของคำที่ซับซ้อนนี้แล้ว
“กลับไปงั้นเหรอ?”
อารอนพึมพำ
เขาจะกลับไปหาเพื่อนร่วมทีม
ที่กำลังรอเขาอยู่ในทาวน์เนียงั้นเหรอ?
"แล้วฉันได้อะไรมาบ้างล่ะ?"
อารอนตั้งคำถามกับถามตัวเอง
ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา เขาได้เรียนรู้อะไรบ้างเมื่อเทียบกับซาจินที่ฝึกฝนอย่างไม่รู้จบ?
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้อะไรเลย
เขารู้ว่ามีตัวตนอีกคนที่เขาไม่รู้จักซ่อนอยู่ในตัวเขา
และเขาก็รู้ว่าเขาไม่มีวันก้าวไปข้างหน้าได้ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่
หลายปีที่ผ่านมา เขาได้เรียนรู้เพียงสองสิ่งเท่านั้น
“ฮ่าๆ”
เสียงหัวเราะเล็ดลอดออกมา
อารอนเคยคิดว่าซาจินเป็นเพื่อนที่ไม่มีใครเหมือน
และซาจินก็เคยพูดในทำนองเดียวกันว่า "เราเป็นเพื่อนกัน"
'เพื่อนงั้นเหรอ?'
เป็นไปไม่ได้….
ความหมายของคำว่าเพื่อนคือความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกัน
สามารถช่วยเหลือกันและกันได้ นี่ไม่ใช่เพื่อน
เขาแค่เข้าใจผิดกันไปเองเท่านั้น
อารอนตระหนักได้ในที่สุด
เขาจึงไม่ได้ยื่นมือไปจับมือของซาจิน
และนั่นคือคำตอบโดยไม่ต้องเอ่ยคำใดออกมา
"...อารอน"
สีหน้าของซาจินเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
จากความคาดหวังกลายเป็นความกังวล จากความกังวลกลายเป็นเศร้า
และสุดท้ายก็กลายเป็นความสิ้นหวัง
"ขอโทษด้วย"
อารอนหันหน้าหนี
เขาไม่สามารถกลับไปได้
เพราะเขาไม่พบคำตอบใด ๆ เลย
'ถ้าอารอนกลับไป...'
พวกพี่ชายและเพื่อนร่วมทีมของเขาจะคิดยังไงกับคนที่หายไปนานแต่ไม่ได้คำตอบอะไรเลย?
พวกเขาคงไม่ตำหนิเขา
และพวกเขาอาจจะสงสารและปลอบใจเขาก็ได้
ความแข็งแกร่ง
คำตอบของซาจินสำหรับคำถามนี้
นั้นคือการยอมรับความเป็นจริงและใช้ชีวิตให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
จากนี้ไป ต่อให้ซาจินต้องเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่งกว่านี้ เขาก็จะไม่ล้มลงง่ายๆเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
เขาจะไม่มีความอิจฉาหรือความริษยาที่ไร้ประโยชน์
เขาจะปล่อยให้อารมณ์เหล่านั้นไหลผ่านไปเหมือนสายน้ำ
เขาจะทำทุกอย่างเพื่อชีวิตของเขาในอนาคต
'แล้วอารอนล่ะ...'
เพราะเขาทำไม่ได้ก็เลยยอมแพ้
พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีและใช้ชีวิตต่อไปในฐานะมด
เขาไม่สามารถยอมรับคำตอบแบบนี้ได้
"นั่นคือคำตอบของนายสินะ"
ซาจินยิ้ม
ความรู้สึกที่ผุดในใจขึ้นมาคือความสิ้นหวัง
และในขณะเดียวกันก็เป็นการให้กำลังใจที่จริงใจ
"ถ้าอย่างนั้นก็อย่ายอมแพ้ล่ะ"
ซาจินหันหลังให้แล้วเดินจากไปอย่างไม่ลังเลและหายตัวไปในพอร์ทัล
พรึ้บ!
พอร์ทัลเริ่มบิดเบี้ยว
พื้นที่สั่นสะเทือนราวกับจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนที่จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ตอนนี้ไม่มีอะไรเหลืออยู่ในลานกว้างอีกต่อไปแล้ว
"หืม"
เด็กชายมองอารอนอย่างแปลกใจ
อารอนพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน
"มีอะไรหรือเปล่าครับ?"
"แปลกดีนะ ฉันนึกว่านายจะไปกับเขาด้วยซะอีก"
"ผมยังไม่พบคำตอบครับ"
"นายก็รู้แล้วนี่ว่านายต้องลำบากมากแค่ไหน?"
เด็กชายยักไหล่
"นายเพิ่งปล่อยโอกาสทองหลุดมือไปนะ รู้ไหม? ครั้งต่อไปไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ อาจจะเป็นอีกหลายสิบปี หลายร้อยปี หรืออาจจะมากกว่าพันปี นายจพไม่เป็นไรแน่เหรอ?"
“อาจจะไม่เป็นไรมั้งครับ….”
"คำตอบของนายมันไม่ชัดเจนเลยนะ"
เด็กชายพูดอย่างไม่ใส่ใจ
"นายรู้ไหม?"
"รู้อะไรครับ?"
"รู้ใช่ไหมถ้าเกิดนายกลายเป็นวิญญาณพเนจรแบบนั้น ฉันจะทำยังไงกับนาย นายอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่านายเพิ่งทิ้งโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป"
อารอนไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเด็กชายคนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
เขาพูดเล่นหรือพูดจริง?
อารอนจึงตัดสินใจถามกลับไป
"ผมเองก็อยากจะถามเหมือนกัน ทำไมคุณถึงไม่เป็นไรเลย?"
ดูเหมือนเด็กชายนั้นจะไม่เป็นอะไรเลย
เขาคงอยู่ในที่แห่งนี้นานกว่าอารอนหลายร้อยหลายพันเท่า
"เพิ่งจะมาถามตอนนี้เนี่ยนะ?"
"ครับ ถ้าไม่เป็นเป็นการมากเกินไป ช่วยบอกผมได้ไหมครับ?"
"ก็ได้ๆ ไม่มีปัญหาอะไรนี่"
เด็กชายไม่ลังเลที่จะตอบ
"ฉันมี 'ความฝัน' น่ะ"
"ความฝัน?"
"ใช่ เท่ไหมล่ะ? ฉันนี่มันผู้ชายโรแมนติกชัด ๆ"
"..."
"อ้อ นายคิดว่าเด็กอย่างฉันจะไปเป็นผู้ชายโรแมนติกอะไรแบบนั้นได้ นั่นสินะที่นายคิด?"
"ไม่ใช่นะครับ"
"โกหก! มันเขียนอยู่บนหน้าของนายหมดแล้ว!"
"เข้าใจผิดแล้วครับ"
จริงๆ แล้วอารอนก็คิดแบบนั้นอยู่แวบหนึ่ง
แต่เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกไป