ตอนที่แล้วตอนที่ 18 เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางเป็นไปได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 ทุกคนคือจอมมารผู้ชั่วร้าย ที่ชอบเสแสร้ง!

ตอนที่ 19 วิถีแห่งการอยู่รอดเพื่อชีวิตนิรันดร์


ระดับพลังของเซวียนเฉิงเต้าเหรินสูงถึงขั้นมหาเต๋าขั้นที่เจ็ด! เขาแอบซ่อนพลังถึงหกขั้น ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้อยู่แค่ขั้นที่หนึ่ง!

เซวียนเฉิงเต้าเหรินยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย เขากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าแล้ว แต่พวกเจ้าไม่รู้จักใช้มัน อย่าโทษข้าเลย!”

เมื่อสิ้นเสียง ดาบในมือของเขาถูกฟันออกไปในทันที

ปีศาจเซียนกุ้ยที่พยายามหนีตายถึงกับกรีดร้องลั่น เขาพยายามสร้างเงาผีปกคลุมหนาแน่นราวกับกำแพงเพื่อสกัดการโจมตีของเซวียนเฉิงเต้าเหรินแต่ด้วยความแตกต่างของพลังอันมหาศาล การโจมตีของเขาก็เปรียบเหมือนกระดาษบางที่ถูกฉีกขาดในพริบตา แสงดาบพุ่งเข้ามาเฉือนร่างของปีศาจเซียนกุ้ยทันที

“ไม่!” ปีศาจเซียนกุ้ยกรีดร้องด้วยเสียงสุดท้าย ร่างของเขาถูกแสงดาบฉีกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แม้แต่พลังชีวิตภายในก็ถูกทำลายจนสิ้น!

เพียงแค่สองดาบก็สามารถสังหารผู้มีพลังขั้นมหาเต๋าสองคนได้อย่างง่ายดาย!

เสียงร้องคร่ำครวญดังออกมาจากปากของกุ้ยหมิงจื่อ “อาจารย์!”

ทันใดนั้น ความสนใจของเซวียนเฉิงเต้าเหรินก็หันไปหากุ้ยหมิงจื่อ เขาฟันดาบออกไปอีกครั้ง และร่างของกุ้ยหมิงจื่อก็ถูกแปรเปลี่ยนเป็นผุยผงในทันที...

“บรรพบุรุษท่านสุดยอดจริง ๆ!”

“แข็งแกร่งมาก! ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!”

“นี่คือขุมพลังที่แท้จริงของสำนักเรา ข้าภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสำนักเกาซาน!”

เหล่าศิษย์ของสำนักต่างร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น ความแข็งแกร่งของเซวียนเฉิงเต้าเหรินถูกประทับลงในใจของพวกเขา มันทำให้พวกเขารู้สึกทึ่งอย่างที่สุด ผู้มีพลังระดับมหาเต๋าาในมือของเขานั้น เปรียบเสมือนการฆ่ามดตัวหนึ่งเท่านั้น!

ทันใดนั้น ศิษย์คนหนึ่งก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “ดูนั่น! เจ้าคนชรานั่นกำลังหนี!”

หลี่ฉุนเซี่ยวพุ่งทะยานขึ้นฟ้า พาเอาสองพี่น้องหลี่ชิงฉางเข้าไปในมิติความว่างเปล่า เขาฉีกช่องว่างออกและพยายามหลบหนีไป

“บรรพยุรุษท่านต้องรีบตามพวกมันไป!” ศิษย์คนหนึ่งร้องตะโกนด้วยความกระวนกระวาย

“พวกเขาเป็นถึงผู้อาวุโสของนิกายดวงอาทิตย์และจันทรา หลี่ฉุนเซี่ยวก็ยิ่งเป็นผู้อาวุโสสูงสุด ฆ่าไม่ได้หรอก” เซวียนเฉิงเต้าเหรินส่ายหัวอย่างไม่ใยดี เขาเลือกที่จะไม่ไล่ตาม

ในฐานะผู้อาวุโสของสำนัก เขาจำเป็นต้องมีความยับยั้งชั่งใจและต้องคิดอย่างรอบคอบ หลี่ฉุนเซี่ยวและพี่น้องของเขานั้นไม่สามารถฆ่าได้ หากฆ่าพวกเขาไป นั่นเท่ากับการเปิดศึกกับนิกายดวงอาทิตย์และจันทรา ซึ่งจะนำไปสู่สงครามครั้งใหญ่ที่อาจลามไปทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออก สำนักเกาซานไม่มีอาวุธระดับจักรพรรดิ ดังนั้นหากต้องสู้กับนิกายดวงอาทิตย์และจันทราก็จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างมาก

แม้พวกเขาจะร่วมมือกับกุ้ยหมิงจื่อเพื่อโค่นล้มสำนักเกาซาน เขาก็ต้องยอมอดทนไว้ ไม่สามารถฆ่าได้ นี่คือกฎของโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง เจ้าอาจจะฆ่าพวกเขาได้ แต่เจ้าต้องรับผลของมันด้วย! เซวียนเฉิงเต้าเหรินไม่คิดจะเอาสำนักเกาซานมาเสี่ยง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดศึกกับนิกายดวงอาทิตย์และจันทราอย่างเปิดเผย อีกทั้งยังขัดต่อหลักการของสำนักด้วย

“น่าแค้นใจยิ่งนัก!”

“นิกายดวงอาทิตย์และจันทรา ดูเหมือนว่าการล่มสลายของพรรคใหญ่เมื่อสามสิบปีก่อนจะมีเงาของพวกมันอยู่ด้วย!”

“ใช่แล้ว! ครั้งนี้พวกมันยังกล้ามาเหยียบย่ำสำนักเกาซานอีก!”

“โชคดีที่บรรพบุรุษท่านช่วยเราไว้ ไม่อย่างนั้นถ้าบรรพบุรุษเซียนเหอไม่อยู่ สำนักเราคงถึงกาลวิบัติ!”

เหล่าศิษย์ต่างทุบอกทุบตัวด้วยความโกรธแค้น แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะนิกายดวงอาทิตย์และจันทราเป็นขั่วอำนาจใหญ่ที่มีอาวุธระดับจักรพรรดิ สำนักเขาซานไม่อาจต่อกรกับพวกมันได้

เซี่ยเสวียนเจินเหรินถามขึ้น “อาจารย์ ท่านจะจัดการกับเหล่าบรรพบุรุษของกุ้ยหมิงจื่ออย่างไร?”

เมื่อได้ยินคำถามนี้ บรรพบุรุษของกุ้ยหมิงจื่อรวมถึงเหล่าผู้เฒ่าขั้นเทียนเหรินแห่งกุ้ยหมิงฟู่ต่างพากันตัวสั่นและใบหน้าซีดเซียว พวกเขาจ้องมองเซวียนเฉิงเต้าเหรินด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าเขาจะสังหารพวกเขาในทันที

เหล่าปีศาจโลหิตหลายสิบตนที่เคยโอหังก็ถึงกับเหงื่อตกไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง ผู้นำของพวกเขาที่มีพลังขั้นเทียนเหรินชั้นที่สี่กัดฟันพูดขึ้น “เผ่าพันธุ์ปีศาจโลหิตของเรามีผู้อาวุโสระดับมหาเต๋าชั้นที่เก้า หากพวกเจ้าสังหารพวกเรา...”

“พรวด!”

ก่อนที่เขาจะได้พูดจบ หัวของเขาก็ลอยกระเด็นขึ้นฟ้าพร้อมกับพลังจิตวิญญาณที่ถูกทำลายจนสิ้น

“นิกายดวงอาทิตย์และจันทรายังพอพูดได้ แต่เผ่าพันธุ์ปีศาจโลหิตอย่างเจ้าเป็นอะไร?”

“แค่มหาเต๋าชั้นที่เก้า เจ้ายังกล้าเอามาอวด?” เซวียนเฉิงเต้าเหรินแค่นเสียงเย็นชา เขาไม่ใส่ใจแม้แต่น้อยกับผู้อาวุโสระดับมหาเต๋าขั้นที่เก้าของเผ่าปีศาจโลหิต

เหล่าปีศาจโลหิตที่เหลืออยู่ต่างหวาดกลัวจนถึงขีดสุด ไม่มีใครกล้าเอ่ยคำใดออกมาอีก

“บรรพบุรุษ!” ฮั่วหยุนเฟยลอยตัวมายังข้าง ๆ เซวียนเฉิงเต้าเหรินและโค้งคำนับ “เหล่าปีศาจโลหิตพวกนี้ยังมีประโยชน์ ข้าอยากขอให้ท่านไว้ชีวิตพวกมันด้วย”

“อ้อ?”เซวียนเฉิงเต้าเหรินมองดูฮั่วหยุนเฟย สายตาของเขาแสดงความสนใจขึ้นมาในทันที “เจ้าหนุ่ม...ไม่ธรรมดาจริง ๆ!”

เขามองไม่ออกเลยว่าฮั่วหยุนเฟยเป็นใคร มันเป็นเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมาก

ฮ่า ๆ ดูเหมือนว่าสำนักเกาซานของข้าจะมีผู้สืบทอดวิถีการอยู่รอดต่อไปได้แล้ว!

เซวียนเฉิงเต้าเหรินเคย “ฝึกบำเพ็ญในท่านั่งสมาธิจนสิ้นชีวิต” ไปเมื่อสามร้อยปีก่อน ทำให้เขาไม่เคยพบกับฮั่วหยุนเฟยผู้ซึ่งมี

อายุเพียงหนึ่งร้อยปี

“ข้าเป็นประมุขรุ่นที่หนึ่งร้อยของยอดเขาเต๋าหยวน มีนามว่าฮั่วหยุนเฟย” ฮั่วหยุนเฟยแนะนำตัว

“เจ้าคือลูกของฮั่วซางฉงสินะ”เซวียนเฉิงเต้าเหรินหัวเราะและตบไหล่ฮั่วหยุนเฟยด้วยความชื่นชม “เสือย่อมไม่ให้กำเนิดลูกหมา ตอนที่ข้ายังมีชีวิต ฮั่วซางฉงพ่อเจ้าเคยบ่นว่าไม่อยากจบชีวิตลงด้วยการนั่งสมาธิไปจนหมดลมหายใจ ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง?”

เมื่อฮั่วหยุนเฟยนึกถึงบิดาที่ชอบออกเดินทาง เขาก็ยิ้มแห้ง ๆ ออกมา “ท่านพ่อข้าปลดภาระและออกไปท่องเที่ยวตามอำเภอใจแล้ว”

“ฮ่า ๆ ๆ ดีจริง! สมแล้วที่เป็นเจ้านั้น พ่อเจ้าช่างเป็นคนที่ทำในสิ่งที่ข้าปรารถนา!” เซวียนเฉิงเต้าเหรินไม่ได้ถือโทษโกรธเคือง เขากลับรู้สึกยกย่องในการกระทำของฮั่วซางฉงอย่างมาก

เพราะในอดีตเขาเองก็เคยคิดจะทำแบบนั้น แต่โดนบิดาของตัวเองลงโทษจนต้องยอมแพ้และยอมนั่งสามธิสิ้นลมหายใจปลอมๆนั้น

เซวียนเฉิงเต้าเหรินกล่าวว่า

"เสี่ยวหยุน เจ้าบอกว่าการเก็บชีวิตพวกปีศาจโลหิตพวกนี้ไว้มีประโยชน์อย่างไร?"

ฮั่วหยุนเฟยตอบว่า

"สำนักของเราใช้เส้นทางแห่งการหลบเลี่ยงเพื่อแสวงหาชีวิตอันยาวนาน หัวใจหลักก็คือการหลบหลีก"

"ถ้าข่าวแพร่ออกไปว่าสำนักของเราสามารถโจมตีพวกปีศาจโลหิตในขณะเดียวกันก็ล้างบางสำนักเซียนกุ้ยที่มีกำลังทัดเทียมกันได้"

"มันจะทำให้สำนักเราถูกผลักขึ้นไปอยู่บนเวทีแห่งการเฝ้าระวังทันที"

"ไม่นานนัก ทั่วทั้งหวงโจวก็จะรู้ว่าสำนักของเราซ่อนกำลังไว้ และมีจอมยุทธ์ระดับมหาเต๋าหลายคนคอยคุ้มครองอยู่"