ตอนที่แล้วตอนที่ 19 วิถีแห่งการอยู่รอดเพื่อชีวิตนิรันดร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21 สำนักกุ้ยหมิงล่มสลาย เหล่าผู้แข็งแกร่งแห่งทิศตะวันออกตกตะลึง

ตอนที่ 20 ทุกคนคือจอมมารผู้ชั่วร้าย ที่ชอบเสแสร้ง!


หลังจากที่ฝังวิญญาณลงไปในเหล่าปีศาจโลหิตเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเซวียนเจินเหรินก็ใช้พลังควบคุมพวกมันไปยังสำนักกุ้ยหมิง ในที่สุดภัยคุกคามต่อสำนักก็ถูกกำจัด และถึงเวลาที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างมหาศาลแล้ว!

"ท่านบรรพบุรุษ เมื่อครู่ข้าได้ยินพวกปีศาจโลหิตพูดว่า จักรพรรดิปีศาจโลหิตถึงระดับมหาเต๋าขั้นที่ 9... แล้วท่านอาจารย์เหยียนเหอ...?"

ผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่อายุถึงแปดร้อยปีเอ่ยขึ้นด้วยความเคารพและความกังวลในใจเกี่ยวกับท่านประมุขและเหล่าบรรพบุรุษรวมถึงอาวุโสผู้เฒ่าที่กำลังบุกเข้าไปในถิ่นของพวกปีศาจเลือด มหาเต๋าขั้นที่ 9 นั้นห่างเพียงก้าวเดียวจากความสมบูรณ์แบบของระดับนักบุญ ในยุคที่พลังปรษณเบาบางและเสื่อมโทรม การจะเอาชนะจักรพรรดิปีศาจโลหิตได้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย

"ไม่ต้องกังวลไป" เซียนเสวียนเฉิงกล่าวด้วยสีหน้าผ่อนคลาย "ศิษย์พี่ของข้าแข็งแกร่งกว่าข้ามากนัก!"

"แข็งแกร่งกว่าท่านเสวียนเฉิงเสียอีก!"

"แล้วพลังของท่านเหยียนเหอ..."

"นี่พวกบรรพบุรุษท่านอื่นๆ ในสำนักเรามีพลังที่น่ากลัวขนาดนี้เชียวรึ!"

เหล่าผู้อาวุโสต่างตะลึงงัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อเปรียบเทียบกับบรรพบุรุุษแล้ว ตนเองยังซ่อนพลังไว้เพียงน้อยนิด เซียนเสวียนเฉิงซ่อนพลังไว้ถึงหกระดับ ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าจะได้รับความประหลาดใจเช่นนี้ หลายคนจดจำคำสอนในใจไว้และตั้งปณิธานว่า หลังจากเรื่องนี้จบลง จะต้องกลับไปทบทวนคำสอนของผู้ก่อตั้งที่ทิ้งไว้ใน "คัมภีร์การเอาตัวรอด"

แต่ละคนซ่อนพลังไว้เพียงสามสี่ระดับ ซึ่งน้อยเกินไป หลังจากนี้จะต้องซ่อนให้มากขึ้น! อย่างน้อยต้องหกระดับ

...

ถิ่นของปีศาจโลหิต ตั้งอยู่ทางเหนือของสำนักกุ้ยหมิงประมาณสามแสนลี้

หลังจากที่เจินเหรินเทียนจีได้ใช้พลังทำนาย ก็สามารถระบุตำแหน่งได้อย่างรวดเร็ว

เจ้าสำนักจางหยุนเทียนเป็นผู้นำกองกำลังของสำนักบุกเข้าไปในถิ่นของปีศาจโลหิต การต่อสู้จึงปะทุขึ้นทันที

ปีศาจโลหิตได้รับข่าวล่วงหน้าและได้เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ จำนวนพวกมันมีไม่มากนัก ราวหนึ่งร้อยห้าสิบตน แต่ถ้านับพวกที่มีพลังต่ำกว่าขั้นเพทียนเหริน ก็มีถึงหกร้อยตน

เกือบทุกผู้อาวุโสในสำนักต้องต่อสู้กับพวกปีศาจเลือดที่มีพลังเท่าเทียมกัน หรือแม้แต่จำนวนที่มากกว่า การต่อสู้เป็นไปอย่างยากลำบาก

เจินเหรินเทียนจีและบรรพบุรุษรวมถึงผู้อาวุโสผู้เฒ่าอีกหลายท่านต้องรับมือกับปีศาจเลือดที่มีพลังเท่ากันถึงหลายสิบตน การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด บาดเจ็บกันแทบทุกคน

ต้องยอมรับว่าถึงแม้พวกปีศาจโลหิตจะร่วงโรยไปมากแล้ว แต่ก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่ พวกมันมีพลังขั้นเทียนเหรินมากกว่าในตอนแรกนับสิบตน เกือบเทียบเท่ากับพวกตระกูลเซียนใหญ่ ๆ

และแม้แต่มหาเต๋าก็มีถึงหกตน

ในสมรภูมิที่กำลังต่อสู้กันอยู่บนท้องฟ้าของถิ่นปีศาจโลหิต เซียนเหยียนเหอและจักรพรรดิปีศาจโลหิตพร้อมกับมหาเต๋าอีกห้าตนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือทั้งเจ็ดนี้ทำให้ท้องฟ้าแทบจะฉีกขาดออกจากกัน ทั้งอาณาเขตของปีศาจโลหิตสั่นสะเทือนอย่างหนักจนเกิดรอยร้าวเล็กๆ ไปทั่ว

"ศิษย์สำนักเกาซานแห่งการหลบซ่อนฟังคำสั่ง!"

เซียนเหยียนเหอที่ยังคงสามารถรับมือกับจักรพรรดิปีศาจโลหิตและปีศาจโลหิตทั้งหกตนได้อย่างไม่ทุกข์ร้อน เอ่ยขึ้นด้วยเสียงดังกังวาน "ปลดผนึกพลังที่แท้จริง แล้วถล่มมันให้เต็มที่!"

ทันใดนั้นพลังที่แท้จริงของเซียนเหยียนเหอที่เดิมมีเพียงขั้นมหาเต๋ษขั้นที่ 8 ก็เริ่มพุ่งทะลุไปยังขั้นมหาเต๋าที่สมบูรณ์แบบ ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงของพวกจักรพรรดิปีศาจโลหิต ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้น พลังของเซียนเหยียนเหอยังพุ่งทะลุไปจนถึงขั้นมหาเต๋าสมบูรณ์แบบ! แผ่พลังออกมาอย่างน่าเกรงขาม

"เป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้!"

จักรพรรดิปีศาจโลหิตแทบคลั่ง ในตอนแรกเซียนเหยียนเหอมีพลังเพียงขั้นหมาเต๋าขัันที่ 4 แต่ในการต่อสู้พลังของเขากลับพุ่งไปถึงขั้นที่ 6 จากนั้นก็พุ่งขึ้นไปอีกถึงขั้นที่ 8 และตอนนี้พลังที่แท้จริงของเขากลับเป็นถึงระดับมหาเต๋าที่สมบูรณ์แบบแล้วขาดอีกเพียงครึ่งก้าวจะทะลวงขั้นนักบุญได้!

"ท่านจักพรรดิ ท่านจะทำเช่นไร?"

มหาเต๋าปีศาจทั้งห้าตนต่างหวาดกลัวจนขาสั่นเทา มองไปที่จักรพรรดิปีศาจโลหิตเพื่อขอคำชี้แนะ

"ไม่มีทางเลือกแล้ว สู้ตาย!"

"พวกเรามีจำนวนมากกว่า ถึงแม้เขาจะเป็นมหาเต๋าที่สมบูรณ์แบบ ก็ไม่อาจเอาชนะพวกเราได้!"

ทั้งเจ็ดพุ่งเข้าหากันอีกครั้ง ทำให้ถิ่นที่อยู่ของปีศาจโลหิตสั่นสะเทือนมากยิ่งขึ้น ฟ้าร้องคำราม สายฟ้าแปลบปลาบ ท้องฟ้าสะเทือนเลื่อนลั่น เสียงกรีดร้องดังไปทั่ว

"ได้ยินท่านบรรพบุรุษกล่าวแล้วใช่ไหม! ปลดผนึกพลังและโจมตีมันให้เต็มที่!"

เจินเหรินเทียนจีตะโกนออกมา พลังที่แท้จริงของเขาเดิมมีเพียงขั้นเทียนเหรินที่ 2 แต่ในชั่วพริบตาพลังพุ่งขึ้นสู่ขั้นที่ 8!

"ข้าไม่เชื่อ!"

ฝ่ายตรงข้ามของเจินเหรินเทียนจีคือพวกปีศาจเลือดสิบตนที่มีพลังในขั้นเทียนเหรินที่ 2 ถึงขั้นที่ 3 ในขณะนั้นเมื่อเจินเหรินเทียนจีปลดปล่อยพลังออกมา ก็เกือบจะทำให้พวกปีศาจเลือดทั้งสิบตัวสติหลุด พลังของผู้เฒ่าคนนี้ที่ซ่อนมาเนิ่นนานพุ่งขึ้นถึงหกระดับ!

"พวกเจ้าจงตายซะ!"

เจินเหรินเทียนจีถือพัดที่ขยายใหญ่ขึ้นถึงสี่สิบเมตร เพียงสะบัดเบา ๆ ก็ปล่อยพลังที่แข็งแกร่งของโลกทำลายร่างของปีศาจโลหิตทั้งสิบตนจนแหลกละเอียด วิญญาณในร่างของพวกมันพยายามหนีไป

แต่เจินเหรินเทียนจีจะยอมปล่อยให้มันมีโอกาสรอดได้อย่างไร!

เพียงสะบัดมือ ลมกรดที่รุนแรงดั่งใบมีดที่คมที่สุดก็ปลิวผ่านทำลายวิญญาณของพวกมันจนไม่เหลือซาก!

ฉากนี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกันในสมรภูมิของเจินเหรินโกหยวนที่ล้อมรอบไปด้วยปีศาจโลหิตแปดตน เมื่อเห็นเจินเหรินเทียนจีระเบิดพลังออกมา เจินเหรินโกวหยวนก็ไม่รอช้า ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

"มีเพียงแปดตน เจ้าดูถูกข้าไปหรือเปล่า? พวกเจ้าจงตายซะ!"

พลังที่เดิมอยู่ในขั้นเทียนเหรินที่ 2 ของเจินเหรินโกหยวนพลันพุ่งขึ้นสู่ขั้นที่ 9 สูงกว่าเจินเหรินเทียนจีไปอีกหนึ่งระดับ

ปีศาจโลหิตทั้งแปดตนยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ก็ถูกสังหารอย่างรวดเร็ว

"เจ้าแก่บัดซบ เจ้าซ่อนพลังเก่งกว่าข้าเสียอีก!"

เจินเหรินเทียนจีที่อยู่ไม่ไกลโกรธจนแทบลุกเป็นไฟ นึกเสียดายที่พลังของตัวเองกลับต่ำกว่าเพื่อน

"ฮ่าๆๆๆ!"

"อย่างน้อยเจ้าก็รู้ว่าใครเก่งกว่าใคร!"

เจินเหรินโกหยวนพูดด้วยความรู้สึกสบายใจ หลังจากที่จัดการศัตรูได้หมดแล้วก็เตรียมที่จะไปช่วยเหลือคนอื่น

"เจ้าคิดจะหนีไปไหน!"

เจินเหรินอู๋จีถือดาบใหญ่สี่สิบเมตร วิ่งตามปีศาจเลือดเกือบยี่สิบตนและฟันพวกมันอย่างต่อเนื่อง เป็นฉากที่น่าตื่นเต้น

พลังของเจินเหรินอู๋จีอยู่ในขั้นเทียนเหรินที่ 9 ใต้ดาบใหญ่สี่สิบเมตรของเขา ปีศาจเโลหิตทั้งยี่สิบตนถูกกำจัดอย่างรวดเร็ว

"หมอนี่ ก่อนหน้านี้เหมือนจะเป็นแค่ขั้นเทียนเหรินที่ 1 ใช่ไหม?"

"ไอ้แก่คนนี้ ปากบอกว่าตรงไปตรงมา แต่ไม่ยอมเปิดเผยพลังแท้จริง"

"เป็นการโกหกที่แนบเนียนจริง ๆ!"

เจินเหรินเทียนจีอิจฉาจนตาแทบลุกเป็นไฟ ในที่สุดก็รู้ว่าพลังของตนเองต่ำสุดหรือเปล่า? ไม่ใช่สิ!

ยังมีอีกคนหนึ่ง!

เขาหันไปดูเจินเหรินตี้เสินทันที แทบตกตะลึงจนคางเกือบหลุดลงกับพื้น

เจินเหรินตี้เสินพุ่งขึ้นสู่สมรภูมิของมหาเต๋าที่กำลังต่อสู้กันอยู่บนท้องฟ้า พลังของเขากลับกลายเป็นขั้นมหาเต๋าขั้นที่ 1!

"เวรเอ้ย!"

"ไอ้หมอนี่ ปกติไม่พูดอะไร ที่แท้เป็นคนเงียบๆ แต่พลังสูงส่ง!"

เจินเหรินเทียนจีถึงกับทนไม่ไหว ตั้งใจว่ากลับไปจะต้องฝึกหนักกว่าทุกคน

เจินเหรินโกหยวนมองไปที่เจินเหรินตี้เสิน "หมอนี่ น่าจะอีกไม่นานก็จะบรรลุพลังสูงสุดได้แล้ว คงจะถึงเวลาที่จะ 'นั่งสมาธิ' ได้"

"แล้วท่านประมุขล่ะ?"

เจินเหรินโกหยวนมองไปรอบๆ ก่อนจะพบว่าจางหยุนเทียนได้จบการต่อสู้ไปนานแล้ว

ศัตรูของเขาคือปีศาจเลือดสามตนที่อยู่ในขั้นเทียนเหรินที่ 9 ซึ่งตอนนี้ก็ตายหมดแล้ว

พลังที่แท้จริงของจางหยุนเทียนเป็นถึงขั้นมหาเต๋าขั้นที่ 2

"เจ้าแก่คนนี้ คงไม่ใช้พลังที่แท้จริงหรอก"

เจินเหรินโกหยวนบ่นกับตัวเอง

จากนั้นจึงหันไปมองทั่วสมรภูมิ

ไม่ผิดคาด ปีศาจโลหิตถึงแม้จะมีจำนวนมากแต่การต่อสู้เป็นไปในทางเดียว

สำนักขุนเกาแห่งการหลบซ่อนยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

พวกอาวุโสในขั้นเทพทารกต่างมีฝีมือร้ายกาจมาก ทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือ เมื่อเซียนเหยียนเหอออกคำสั่ง พวกเขาก็ปลดปล่อยพลังแท้จริงออกมาและจบการต่อสู้อย่างรวดเร็ว!

"พวกมนุษย์น่ารังเกียจ!"

"น่าขยะแขยงยิ่งนัก!"

"ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกเจ้าอีกเลยชั่วชีวิตนี้!"

ปีศาจโลหิตในขั้นเทียนเหรินตนหนึ่งตะโกนขึ้น พวกมนุษย์นี่มันอะไรกัน! ต่อสู้ไปทำไมพลังกลับยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!