ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1258 ค่ายกลกระบี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1260 เทพสวรรค์กลับชาติมาเกิด

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1259 ราชสำนักของจักรวรรดิต้าเซี่ย (อ่านฟรี)


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1259 ราชสำนักของจักรวรรดิต้าเซี่ย (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT  

เมฆล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า หลี่เฟิงหยวนยืนอยู่บนก้อนเมฆและมองลงไปด้วยท่าทางเคร่งเครียด

หลังจากได้ยินข่าวของนาง เขารีบมาที่มณฑลยงโจวทันที แต่นี่คือภาพที่เขาเห็น

ดวงอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้า เดิมทีมันเป็นฤดูที่พืชพรรณเจริญเติบโต แต่ตอนนี้มันมีเพียงพื้นดินที่รกร้างว่างเปล่า

ไม่มีนกบนท้องฟ้าหรือปลาในน้ำ แม้แต่ทะเลทรายของมณฑลซื่อโจวและดินแดนหิมะของมณฑลฉวงโจวก็ยังไม่เงียบเชียบเช่นนี้

ราชามนุษย์วิหคผู้หนึ่งกล่าว “ราชาของข้า ข้าได้ยินมาว่านางเปิดถ้ำปีศาจที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยงโจว ตอนนี้ภาคเหนือของมณฑลยงโจวเต็มไปด้วยปราณปีศาจ พื้นที่รัศมีหลายร้อยกิโลเมตรถูกปนเปื้อน แม้แต่เผ่าปีศาจก็ยังต้องดิ้นรนต่อสู้กับนาง แล้วท่านยังจะช่วยนางอีกงั้นหรือ?”

หลี่เฟิงหยวนมองท้องฟ้า “นางไม่ต้องการความช่วยเหลือจากข้าอีกต่อไป นางไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใดอีกแล้ว เราจะกลับมณฑลอวิ๋นโจว! ไม่ เราจะไปที่ทะเลตะวันออกโดยตรงเพื่อหนีจากดินแดนแห่งปัญหานี้!”

ราชามนุษย์วิหคทั้งหมดกล่าวพร้อมกันว่า “ราชาฉลาดที่สุด!”

ทันใดนั้นหลี่เฟิงหยวนก็หันกลับไป เขาได้ยินเสียงระฆังลอยมา

ราชามนุษย์วิหคไม่รับรู้ถึงสิ่งใดเลย พวกเขาถามด้วยความสงสัย “ราชา เกิดสิ่งใดขึ้น?”

“ไม่มี ไปกันเถอะ!”

เมฆลอยขึ้นและพุ่งไปทางทิศตะวันออกก่อนจะหายลับไปที่ขอบฟ้า

“เคร้ง...”

เสียงระฆังดังขึ้นขณะที่เสี่ยวอันลอยออกมาจากป่าและลงจอดอย่างนุ่มนวลในเมืองแห่งหนึ่ง นางเหยียบลงบนอาคารสูงที่สุดอย่างแผ่วเบาด้วยเท้าเปล่าก่อนจะทะยานขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง ระฆังปลุกวิญญาณที่เอวของนางสั่วไหวและส่งเสียงดังในกระบวนการนี้

บนถนนที่พลุกพล่าน ภายในโรงเตี้ยม เสียงระฆังดังก้องไปทั่ว มันปลุกเร้าจิตวิญญาณและทำให้พวกเขากลายเป็นคบเพลิงมนุษย์ทันที ประกายไฟพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทีละดวงตามหลังนางไป

นางดูเหมือนกำลังท่องเที่ยวไปในโลกกว้างอย่างไร้จุดหมายโดยมีเส้นแสงสีขาวนับไม่ถ้วนติดตามไปข้างหลัง นางเดินผ่านภูเขาสูงและเหวลึกทั้งกลางวันและกลางคืน

.....

มณฑลหลงโจว

ภูเขานับไม่ถ้วนเรียงรายเหมือนคลื่นยักษ์ที่โหมกระหน่ำ พวกมันรวมตัวอยู่รอบๆภูเขาสูงลูกหนึ่งที่เหมือนมังกรยักษ์กำลังเงยหน้าขึ้นจากมหาสมุทรและโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

นี่คือภูเขาที่สูงที่สุดในโลก ภูเขาศีรษะมังกร!

มีข่าวลือว่าภูเขาลูกนี้เกิดจากซากศพของมังกรที่แท้จริง แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อล้านปีก่อน ขณะที่เผ่ามังกรทิ้งโลกนี้ไปนานแล้ว ดังนั้นข่าวลือมากมายไม่สามารถพิสูจน์ได้อีกต่อไป

อาคารที่มีความสูงสามร้อยเมตรตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา พุ่งทะยานขึ้นเหนือทะเลเมฆ เหมือนเสาที่ค้ำยันท้องฟ้า ราวกับมันตั้งอยู่เหนือมณฑลทั้งเก้า

ภายใต้แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง มันเรืองแสงหลากหลายสีสัน มันดูงดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

โดยพื้นฐานแล้วสิ่งนี้ดูไม่เหมือนกับการสร้างสรรค์ของมนุษย์หรือเป็นสิ่งที่มีไว้เพื่อมนุษย์

นั่นคือความจริงบางส่วนเพราะมันคือสภาสูงที่เหล่าทวยเทพในยุคอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์สร้างขึ้น

เทพเจ้าของแต่ละเผ่าพันธุ์จะส่งตัวแทนมาที่นี่เพื่อร่วมประชุม สมาชิกสภาสูงจากทั้งเจ็ดเผ่าพันธุ์จะทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยนความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์ หารือกลยุทธ์ต่อต้านเผ่าปีศาจ ตลอดจนปราบปรามการก่อกบฏของทาส

นอกจากมนุษย์พฤกษา รูปร่างและรูปปั้นของเหล่าทวยเทพลล้วนอยู่ในร่างมนุษย์ กล่าวกันว่าพวกเขาสร้างอาคารใหญ่โตขนาดนี้ภายใต้อิทธิพลของเผ่ามังกร

เพื่อเฉลิมฉลองให้กับการมาถึงของยุคใหม่และเสริมสร้างเกียรติยศให้กับเผ่าพันธุ์ของพวกเขา ด้วยเหตุนี้ทุกเผ่าพันธุ์จึงอุทิศตนเพื่อสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา

เดิมทีมันไม่ควรมีภูเขาที่สูงขนาดนี้อยู่บนโลกใบนี้ แต่เผ่ามนุษย์หินทำให้ภูเขาศีรษะมังกรมีความสูงอย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่เผ่ามนุษย์เงือกเปลี่ยนเส้นทางแม่น้ำหลายร้อยสายทำให้เกิดเป็นสภาพแวดล้อมที่งดงามตามธรรมชาติ

สถาปนิกที่ยิ่งใหญ่ของชนเผ่ารัตติกาลผสมผสานสถาปัตยกรรมของเผ่าต่างๆเข้าด้วยกันและออกแบบรูปลักษณ์ดั้งเดิมของอาคารหลังนี้

มนุษย์วิหคมีชื่อเสียงในเรื่องของความสว่างาม แต่พวกเขาคุ้นเคยกับการใช้เวลาอยู่บนก้อนเมฆ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกบังคับให้ลดตัวลงมาทำงานต่ำต้อยบางอย่างเช่นการขนส่งวัสดุจากดินแดนห่างไกลหรือแม้แต่มหาสมุทรเพื่อก่อสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา

ในความเป็นจริงครั้งหนึ่งเผ่ามนุษย์วิหคเคยออกแบบบันไดเมฆที่พันรอบภูเขาศีรษะมังกรจนถึงยอดเขา แต่บันไดนั้นถูกทำลายโดยไฟสงครามในเวลาต่อมา เช่นเดียวกับสวนลอยฟ้าที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันโดยเผ่ามนุษย์พฤกษา

อย่างไรก็ตามก้อนหินที่หลอมขึ้นมาโดยเผ่ามนุษย์เพลิงและชิ้นส่วนโลหะที่สร้างขึ้นโดยเผ่ามนุษย์โลหะไม่สามารถทำลายได้โดยง่าย

นี่อาจเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เหล่าเทพเจ้าทุ่มเทความพยายามร่วมกันเพื่อสร้างบางสิ่งบางอย่าง หลังจากนั้นแม้เผ่าปีศาจจากพิภพปีศาจจะบุกเข้ามา มันก็ยังเต็มไปด้วยแผนการและความขัดแย้ง พวกเขากระทั่งหวังให้เผ่าพันธุ์อื่นถูกเผ่าปีศาจทำลายล้าง

ทาสคือแรงงานชั้นดีที่สุด โดยเฉพาะมนุษย์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเผ่าปีศาจได้ทุกเมื่อ ในทางกลับกัน สัตว์ปีศาจสามารถใช้เป็นพาหนะ

แต่ในยุคนั้น มนุษย์มีนิกาย สำนัก และความเชื่อเป็นของตนเอง ผู้ฝึกตนจากรุ่นสู่รุ่นบุกเบิกเส้นทางโดยการพัฒนาวิธีการบ่มเพาะมาตลอดเพื่อลดช่องว่างระหว่างพวกเขากับเผ่าพันธุ์เทพเจ้าเหล่านั้น ผ่านช่วงเวลาอันยาวนาน ฝ่ายสัตว์ปีศาจสามารถผลิตราชาปีศาจจำนวนมากเช่นกัน ปีศาจแต่ละตนมีความสามารถโดยกำเนิดและนิสัยที่ดื้อรั้น

ในที่สุดวันหนึ่งทั้งเทพเจ้าและเผ่าปีศาจต่างประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ ทาสได้รับอิสรภาพ และสัตว์พาหนะก็หลุดจากบังเหียน

เมื่อชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินทางไปทั่วเก้ามณฑลพร้อมกับอินทรีย์และหมาป่า และปีนขึ้นภูเขาศีรษะมังกร เทพเจ้าเหล่านั้นก็กลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ไปแล้ว ขณะที่หอประชุมของเหล่าทวยเทพกลายเป็นราชสำนักปกครองเก้ามณฑลต่อไป

ขณะนี้จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิต้าเซี่ยประทับนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรทอง รูปลักษณ์ภายใต้มงกุฎของเขาเต็มไปด้วยความสง่างามและทรงอำนาจ

ราชสำนักเต็มไปด้วยขุนนาง พวกเขายืนอยู่สองข้าง

ในห้องโถงที่กว้างใหญ่ มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่รูปร่างของมนุษย์จะดูไร้นัยสำคัญ แต่กลิ่นอายที่พวกเขาปลดปล่อยออกมากลับทำให้พวกเขาดูเหมือนยักษ์ และนั่นยังเป็นผลจากความตั้งใจที่จะยับยั้งกลิ่นอายของตนเอาไว้ มิเช่นนั้นกลิ่นอายของคนเพียงคนเดียวก็สามารถเติมเต็มห้องโถงทั้งหมดได้แล้ว

เสียงที่ดุดันดังขึ้นในห้องโถง “ดังที่ใต้เท้ามณฑลยงโจวรายงาน ศัตรูของพระพุทธเจ้าอาละวาดไปทั่วมณฑลยงโจว นอกจากเมืองหลวง เมืองต้าเหลียง และที่ซึ่งราชาต้นไทรบรรพกาลตั้งอยู่ นิกายอื่นๆถูกทำลายหมดแล้ว ผู้ฝึกตนจำนวนมากล่าถอยไปที่เมืองต้าเหลียง ปีศาจของมณฑลยงโจวได้รับการแจ้งเตือนจากราชาต้นไทรบรรพกาลและซ่อนตัวอยู่ใต้ดินรอบๆต้นไทรหรือหลบหนีออกจากมณฑลยงโจว”

เทพอินทรีย์หยุดก่อนจะสรุป “มณฑลยงโจวจบสิ้นแล้ว”

ห้องโถงเงียบสงัด อันตรายจากศัตรูของพระพุทธเจ้ารุนแรงมากจนทำให้ทุกคนประหลาดใจ

พวกเขาทั้งหมดมองไปยังตำแหน่งของสามมหาเสนาบดี ปรมาจารย์ตงไม่อยู่ที่นั่นอีกต่อไป ขณะที่ใบหน้าของอีกสองคนมืดมนลง

เดิมที เมื่อยืนอยู่ในตำแหน่งของพวกเขา สิ่งเดียวที่พวกเขาต้องพิจารณาคือการก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์และขึ้นสู่สวรรค์ชั้นสูง ภัยคุกคามแห่งความตายไม่มีอยู่มานานแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับมันอีกครั้ง

แม้แต่ปรมาจารย์ตงก็ยังตายอย่างไร้ความหมาย มันเป็นการตายแบบสังหารหมู่อย่างไม่เลือกหน้า ตายอย่างไร้คุณค่าเหมือนมนุษย์ธรรมดา เดิมทีสิ่งนี้คือการท้าทายจักรวรรดิต้าเซี่ยโดยตรง แต่ตอนนี้ดูเหมือนนางจะไม่แยแสจักรวรรดิต้าเซี่ยแม้แต่น้อย

จักรพรรดิถาม “ตอนนี้นางอยู่ที่ใด?”

“เราไม่สามารถระบุตำแหน่งของนางได้ นางอาจมาถึงมณฑลหลงโจวแล้ว”

เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นในห้องโถง พวกเขาจะทำอย่างไรหากศัตรูของพระพุทธเจ้ามาเยือนมณฑลหลงโจว พวกเขาควรซ่อนตัวอยู่บนภูเขาศีรษะมังกรหรือไม่ แต่ทั้งนิกายและบ้านของพวกเขากระจัดกระจายอยู่ทั่วมณฑลหลงโจว สิ่งสำคัญคือหากพวกเขาล่าถอยหรือหลีกเลี่ยงนาง นั่นคงเป็นเรื่องน่าอับอายอย่างยิ่ง