ตอนที่แล้วบทที่ 182 สายเลือดสัตว์อสูรบรรพกาล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 184 ความละโมบ

บทที่ 183 การเคลื่อนไหว


“ทลายสวรรค์กระบวนท่าที่สอง สะบั้นเมฆา!”

แสงกระบี่ส่องประกายสว่างไสวคล้ายคลื่นเมฆาตัดผ่านอากาศฟาดเข้าใส่งูยักษ์!

ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!...

เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่ว ร่างงูยักษ์เกล็ดดำยามนี้ปรากฏบาดแผลนึกเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละรอยแผลนั้นมีความลึกเกือบชุ่น

ฟ่อ!

แม้นเป็นเช่นนั้น แต่ทว่าบาดแผลเหล่านี้กลับไม่ทำให้งูยักษ์เกล็ดดำสะท้านแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่ทำได้คือทำให้อารมณ์ของงูยักษ์ฉุนเฉียวมากขึ้น

ดวงตางูยักษ์เกล็ดดำคล้ายตะเกียงขนาดใหญ่ของมันจับจ้องหลัวเฉิง ร่างของมันเริ่มแผ่กลิ่นอายคล้ายควันสีดำจางๆ ออกมา พริบตาหางขนาดมหึมาฟาดเข้าใส่หลัวเฉิงอย่างรวดเร็ว!

“แย่แล้ว!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงอันตรายจากการโจมตีครั้งนี้ หัวใจของหลัวเฉิงเต้นระรัว ดีดร่างตนเองกระโจนหลบอย่างฉับพลัน

บูม!

เมื่อตอนที่หางมันฟาดกระทบพื้น ส่งเสียงดังสนั่นเหมือนฟ้าคํารณ พานให้หุบเขาทั้งลูกสะบั้นสั่นคล้ายถูกเขย่า!

แคร่ก!

พื้นที่ที่หลัวเฉิงยืนอยู่เมื่อครู่ แยกเป็นรอยแตกยาวกว่าสิบจั้ง แต่ละรอยนั้นลึกกว่าสามฉื่อ ทำเอาหลัวเฉิงรู้สึกหนาวกระดูกสันหลังอย่างยิ่ง!

“ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก! กลิ่นอายสีดำนั่น น่าจะเป็นตัวตนพลังที่แท้จริงของสัตว์อสูร! งูยักษ์เกล็ดดำตัวนี้เริ่มหลอมรวมปราณสัตว์อสูรแล้ว แสดงว่าตบะของมันกำลังจะก้าวหน้าเข้าสู่สัตว์อสูรระดับสามดาว!”

หลัวเฉิงมองยังรอยแตกขนาดใหญ่บนพื้นด้วยความตื่นตระหนก

ความแข็งแกร่งของงูยักษ์เกล็ดดำตัวนี้ เกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้มากทีเดียว

หนำซ้ำงูยักษ์เกล็ดดำตัวนี้ยังมีสายเลือดของสัตว์อสูรบรรพกาล หากตอนนี้ตบะมันใกล้บรรลุสามดาว เท่ากับว่ากลายเป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังจนผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหกยากจะต้านทานได้!

ฟ่อ!

เมื่อพบว่าการโจมตีอันรุนแรงของมันไม่เป็นผลสำเร็จ งูยักษ์เกล็ดดำก็เลื้อยร่างของมันเข้าหาหลัวเฉิงอย่างรวดเร็ว

“สะท้านขุนเขา!”

“ทลายสวรรค์กระบวนท่าที่หนึ่ง สวรรค์ถล่มสายลมชะงัก!”

“ย้ายภูผาเคลื่อนมหาสมุทร!”

หลัวเฉิงไม่กล้าเผชิญหน้ากับงูยักษ์เกล็ดดำโดยตรง และโคจรปราณไปรวมยังฝีเท้าเพื่อให้เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว หากครั้งใดไม่สามารถหลบเลี่ยงการปะทะได้ เขาจะใช้วิชายุทธ์เพื่ออาศัยแรงปะทะผลักตัวเองให้ห่างออกไป

ปัง! ปัง! ปัง!...

หนึ่งคนหนึ่งสัตว์อสูรไล่ล่ากันไปทั่วพื้นที่ ทั้งเศษหินฝุ่นดินต่างปลิวกระจายว่อน พานให้ผู้พบเห็นต่างรู้สึกครั่นคร้ามมิใช่น้อย!

ขณะเดียวกันนี้ กู่หลิงเฟิงและหยวนจื่อหลานเองก็ได้เข้าใกล้ต้นหยวนหลิงแล้ว!

เมื่อเห็นภาพนี้ จั่วฉางซานที่จับจ้องรอโอกาสอยู่ ก็แสดงสีหน้าโกรธแค้นไม่พอใจเป็นที่สุด

“เดรัจฉานอย่างไรเสียมันก็คือเดรัจฉาน ไร้ประโยชน์สิ้นดี!”

จั่วฉางซานสบถออกมาด้วยความโกรธและตะโกนว่า “งูยักษ์เกล็ดดำถูกหลัวเฉิงหลอกล่อไปแล้ว พวกเราต้องอาศัยจังหวะนี้เข้าไปเก็บผลหยวนหลิง!”

“ตกลง!”

ผลหยวนหลิงนับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่สามารถช่วยให้ทะลวงเข้าสู่ขั้นเขตแดนลึกลับได้ ผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นๆ หรือแม้แต่ตัวเต็งสิบอันดับแรกก็ต่างจ้องมองตาเป็นมัน พริบตาก็ต่างพุ่งตรงเข้าหาต้นหยวนหลิงทันที

“คิดจะฉวยโอกาสแย่งผลประโยชน์จากข้างั้นรึ ฝันไปเถอะ!”

หลัวเฉิงสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของจั่วฉางซานและคนอื่นๆ มุมปากก็พลันยกขึ้นเป็นยิ้มเยาะ แล้วหลบเลี่ยงการไล่ล่าของงูยักษ์เกล็ดดำ หลอกล่อให้มันเคลื่อนตัวตามเขาไปทางกลุ่มคนเหล่านั้นทันที

ฟ่อ!

งูยักษ์เกล็ดดำแสยะเขี้ยวคำรามอย่างโกรธแค้น ด้วยร่างขนาดใหญ่ยักษ์ ยามที่มันเคลื่อนตัวชนหินไม่ว่าก้อนใดก็แตกกระจายออกเป็นเสี่ยง

ตอนนี้มันเคลื่อนตัวเข้าใกล้กับกลุ่มของจั่วฉางซานแล้ว แต่จู่ๆ มันก็ยกหางขึ้นฟาดใส่ก้อนหินขนาดใหญ่จนแตกกระจาย เศษหินแหลมคมพุ่งเข้าหากลุ่มชาวยุทธราวกับห่าฝน

หลัวเฉิงอาศัยประสาทการรับรู้อันเฉียบคม เลี่ยงหลบการจู่โจมของงูยักษ์เกล็ดดำได้อย่างเฉียดฉิว

ปัง!

ศิษย์คนหนึ่งที่เพิ่งย่างเท้าออกมาจากป่า สัมผัสรับรู้ไม่ได้เฉียบคมนักจึงยากจะหลบเลี่ยง พริบตาก็ถูกเศษหินขนาดใหญ่ฟาดเข้าใส่จนร่างปลิวพร้อมกระอักเลือดคำโต

“บัดซบ! แยกย้ายกันไปคนละทาง!”

จั่วฉางซานเห็นเช่นนั้นก็เกรี้ยวกราดจนดวงตาเป็นสีแดงก่ำ ก่อนตะโกนสั่งให้ผู้อื่นแยกย้ายกันเคลื่อนไหว ส่วนตนนั้นหลบหลีกไปทางด้านซ้ายของพื้นที่เปิดโล่ง

“ย้ายภูผาเคลื่อนมหาสมุทร!”

หลัวเฉิงไหนเลยจะยอมให้พวกเขาหนีไปได้ จึงโคจรพลังชกหมัดเข้าใส่งูยักษ์เกล็ดดำ แล้วอาศัยแรงปะทะส่งร่างตนพุ่งไปทางซ้ายทันที

“พวกเจ้าทั้งหลายอย่าได้คิดฝัน ตราบเท่าที่ข้ายังอยู่ ข้าจะไม่ยอมให้พวกเจ้าผ่านไปได้แม้แต่ก้าวเดียว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด