ตอนที่แล้วตอนที่ 419
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 421

ตอนที่ 420


ตอนที่ 420

เมื่อมองไปที่ต้นลืมเลือนที่ถูกผนึกไว้ ดวงตาของเต๋าซุนก็จ้องลึกลงไป และร่างของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวลง

“ยอมจำนนหรือตาย?” เต๋าซุนถามอย่างใจเย็น

ต้นไม้ลืมเลือนส่งเสียงคำราม พยายามอย่างยิ่งที่จะหนีไปจากที่นี่

กิ่งก้านนับไม่ถ้วนของมันโจมตีบริเวณโดยรอบอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่ามันสูญเสียสติไป

แผ่นดินในโลกแก่นชีวิตทั้งหมดเริ่มสั่นสะเทือน

พลังจิตวิญญาณอันไร้ขอบเขตรอบตัวปั่นป่วน

“ข้าจะถามอีกครั้ง ยอมแพ้หรือตาย?” เต๋าซุน กล่าวอย่างใจเย็น

อย่างไรก็ตาม ต้นลืมเลือนยังไม่ตอบคำถามใดๆ มันแค่โจมตีทุกสิ่งรอบตัวอย่างบ้าคลั่ง

“เช่นนั้นก็จงถูกทำลายเสีย” เต๋าซุนหันหลังกลับแล้วพูดเบา ๆ

เมื่อคำพูดของเขาลดลง มังกรศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รอบๆ และต้นไม้แห่งชีวิตที่ผนึกมันไว้อยู่ก็ถอยห่างและหายไป

โดยไร้ซึ่งการผนึก ต้นลืมเลือนก็พุ่งผ่านอากาศและมองไปรอบๆด้วยความโกรธ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มันจะได้ทำอะไร ท้องฟ้าเบื้องบนทั้งหมดก็เปลี่ยนไป

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยลมและเมฆ และสถานการณ์ก็ปั่นป่วน

เสียงฟ้าร้องประสานกับสายฟ้าดังก้องท่ามกลางเสียงระเบิด "เปี้ยง" บนท้องฟ้า

ท้องฟ้ามืดลงและดวงอาทิตย์ก็หายไป

เมฆมืดมิดปกคลุมท้องฟ้า และลมแรงก็พัดเอาทรายและก้อนหินปลิวว่อน มันพัดพาอย่างไม่ไยดีไปมาระหว่างท้องฟ้ากับโลก

ภายใต้ท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยเมฆดำ บรรยากาศดูหดหู่เป็นพิเศษ

ฝนตกหนักค่อยๆเทลงมาบนท้องฟ้า ท่ามกลางเมฆดำและฝนตกหนัก สายฟ้าสีขาวเงินก็แตกกระจายในเมฆราวกับมังกรตัวยาว

มันดูเหมือนไม่ใช่แค่สายฟ้าเท่านั้น แต่ราวกับเป็นมังกรจริงๆ บินอยู่ในเมฆและหมอก กลิ้งไปตามแม่น้ำและทะเล และขดไปมาบนท้องฟ้า

ในขณะนี้ บนท้องฟ้า  พลังอันยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครเทียบได้อันเป็นพลังของพระเจ้าผู้กำเนิดทุกสิ่งก็กดทับลงมา

ต้นลืมเลือนรู้สึกเพียงว่าเมื่อพลังศักดิ์สิทธิ์นี้มาถึง ทั้งลำต้นไม้ทนไม่ไหวและกำลังจะพังทลายลง

ทันทีที่พลังแห่งสวรรค์กดทับลงมา ดวงตาคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

ดวงตาคู่นี้ยากจะบรรยายเป็นคำพูด

ยิ่งใหญ่ ครอบงำ อยู่ยงคงกระพัน หยิ่งผยอง...

ราวกับว่ามันเต็มไปด้วยอำนาจแห่งกฏที่ไม่มีสิ้นสุด    อำนาจแห่งกฏทั้งหมดนี้ทำให้สัมผัสถึงความเป็นจริงเดียวกัน

ไม่อาจขัดขืนไม่ได้!

เมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาเหล่านี้ เจ้าจักไร้ซึ่งความกล้าที่จะสบตา  เจ้าจักไร้หนทางที่ต่อสู้กับมัน

“วิถีแห่งสวรรค์?” เมื่อมองดูดวงตาที่ปรากฏ มันก็รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ที่แทรกซึมอยู่ในร่างกายของมัน

นี่เป็นความคิดแรกของต้นลืมเลือน

วิถีแห่งสวรรค์ในทวีป A!

แต่นั่นไม่ควรเป็นเช่นนี้ ข้าหาได้ทำอะไรที่ละเมิดกฎแห่งสวรรค์มิใช่รึ

และถึงแม้ว่าดวงตาที่อยู่ตรงหน้าจะดูยิ่งใหญ่และไม่อาจขัดขืนได้ แต่พวกมันก็ดูเหมือนจะอ่อนแอกว่าวิถีแห่งสวรรค์ที่แท้จริงมาก

แม้ว่ามันจะไม่เคยเห็นวิถีสวรรค์ที่แท้จริงก็ตาม แต่รัศมีและความกดดันยังคงแตกต่างจากที่จินตนาการไว้เล็กน้อย

ในความเป็นจริง ต้นไม้ลืมเลือนนั้นไม่มีทางรู้เลยว่าดวงตาที่อยู่ตรงหน้ามันนั้นคือวิถีแห่งสวรรค์จริงๆ

เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่วิถีแห่งสวรรค์ของทวีป A แต่เป็นวิถีแห่งสวรรค์ของทวีปราชันย์

เนื่องจากกฎแห่งโลกของเต๋าซุนนั้นไม่สมบูรณ์และวิถีแห่งสวรรค์เพิ่งถูกสร้างขึ้น มันจึงยังไม่ทรงพลังมากนัก

โดยธรรมชาติแล้ว ไม่สามารถเปรียบเทียบกับวิถีแห่งสวรรค์ของทวีป A ซึ่งได้ผ่านยุคสมัยมามากมายแล้ว

แต่อย่างน้อยที่นี่ บนทวีปราชันย์แห่งนี้

นอกจากเต๋าซุนที่เป็นผู้สร้างหรือพระเจ้าแล้ว คือสิ่งที่สามารถตัดสินได้ทุกสิ่ง

ทันทีที่เจตจำนงแห่งสวรรค์ปรากฏขึ้น ต้นไม้ลืมเลือนก็สายเกินกว่าจะต้านทานได้

สายฟ้าขดตัวเข้มบนท้องฟ้าอย่างไร้ขอบเขต  เส้นส่วนโค้งสีม่วงเข้มผ่า "เปรี้ยง" ลงมาจากบนท้องฟ้า

ในทันใดความมืดมิดก็มาเยือน และโลกก็ราวกับว่าได้เข้าสู่จุดสิ้นสุดของโลก

ดวงตาเหล่านั้นจ้องมองไปที่ต้นลืมเลือนอย่างเฉยเมย ราวกับว่าพวกมันมองเห็นทุกสิ่งที่เกี่ยวกับมันได้อย่างชัดเจน และไม่หลงเหลือความลับใดที่ซ่อนเร้นอีก

ในที่สุด สายฟ้าบนฟ้าก็มาถึงจุดวิกฤติ

ความรู้สึกที่ว่าพายุกำลังมาเยือนปรากฏ ลมแรงพัดปกคลุมทุกสิ่ง และเมฆดำทะมึนปกคลุมทั่วเมืองโลกภายนอก

ต้นไม้ลืมเลือนไม่สามารถทนต่อแรงกดดันได้อีกต่อไป และต้นไม้ทั้งต้นก็งอและล้มลงกับพื้นเพื่อแสดงถึงการยอมจำนน

“ยอมแพ้ ข้ายอมแพ้แล้ว”

มันถ่ายทอดความคิดของมันไปยัง เต๋าซุน ผ่านจิตสำนึก

อย่างไรก็ตาม เต๋าซุน เพียงแค่มองไปยังฉากนี้อย่างสงบและไม่สนใจต้นลืมเลือนแม้แต่น้อย

"เปรี้ยง"

เพียงเมื่อเสียงสายฟ้าฟาดกัมปนาทดังสนั่น

ท้องฟ้าทั้งหมดดูเหมือนจะพังทลายลง และท้องฟ้าก็แตกสลายไปครึ่งหนึ่ง

สายฟ้าสีม่วงเข้มตกลงมาจากท้องฟ้า

สายฟ้านี้อัดแน่นไปด้วยพลังจุดสูงสุด ทำลายทุกสิ่งตามเส้นทางที่มันฟาดผ่าน แม้กระทั่งเวลาและมิติก็ไม่เว้น

ท่ามกลางพายุที่กลืนกิน ต้นไม้ลืมเลือนก็ถูกฟ้าผ่าจนแซกทรึมไปทั่วทุกอนูก่อนที่จะมีเวลาหลบเลี่ยง

เต๋าซุนดูเหมือนจะได้ยินเสียงคำรามท่ามกลางสายฟ้าฟาด

เมื่อสายฟ้าฟาด "เปรี้ยง"ลงมา พื้นดินที่ทอดยาวหลายสิบไมล์รอบๆ ก็แตกร้าว และไม่มีหญ้างอกขึ้นมาเลย

สำหรับจุดศูนย์กลางของสายฟ้า ต้นลืมเลือนถูกฟาดเข้าใส่อย่างจัง

สายฟ้านี้กินเวลานานกว่าสิบวินาทีก่อนที่จะค่อยๆ หายไปในที่สุด

ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นอีกครั้ง พลังแห่งท้องฟ้าก็สลายไป และดวงตาก็ค่อยๆ หายไปในความว่างเปล่า

เมื่อทุกอย่างสงบลง เต๋าซุน ก็มองไปยังตำแหน่งของต้นลืมเลือน

สภาพแวดล้อมโดยรอบกลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าต้นลืมเลือนจะไม่ถูกทำลายจากการถูกสายฟ้าฟาด แต่ก็มีรอยแตกจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏบนตัวลำต้น และดูเหมือนมันพร้อมจะตายได้ตลอดวเลา

ใบไม้เขียวแต่เดิมเริ่มเหี่ยวเฉา

กิ่งก้านร่วงหล่นอย่างไม่สงบ

“นี่คือบทเรียน ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว แต่น่าเสียดายที่เจ้าไม่ได้ทะนุถนอมมัน”

เต๋าซุน จ้องมองอย่างจริงจังและพูดอย่างเยือกเย็น"ครั้งหน้าหากมีอีก นั่นจะคือจุดจบแท้จริงของเจ้า"

หลังจากได้ยินคำพูดของ เต๋าซุน ต้นลืมเลือนก็ยินยอมอย่างรวดเร็ว

เต๋าซุน ปล่อยให้มันฝึกฝนอยู่ในโลกแก่นชีวิตต่อในขณะที่เขาออกจากโลกนี้ไป

เมื่อเขากลับมาที่เมืองหวู่โหยว ก็ไม่มีใครอยู่ที่นี่อีกแล้ว

เกือบทั้งเมืองพังทลายลง

สภาพแวดล้อมเผชิญหน้ากับหายนะและผู้อยู่อาศัยที่รอดชีวิตทั้งหมดก็ย้ายออกไป

เต๋าซุน มองไปรอบ ๆ และเห็นว่าเยว่ชิงหลี่ที่เคยอยู่ในเมืองก่อนหน้านี้ ตอนนี้ไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว

แน่นอนว่า เต๋าซุน ยังเชื่อว่าแม้ว่าเด็กคนนี้จะไม่ได้ติดตามเขา แต่เยว่ชิงหลี่ก็จะค่อยๆเติบโตเป็นเทพสามตาเฉกเช่นเดียวกับชีวิตที่แล้วของเขาได้ในที่สุด

เมื่อสายน้ำได้ไหลผ่านไป  เราก็ไม่จำเป็นต้องไปบังคับมัน

คงต้องมีสักวันที่เราจะได้พบกันใหม่แน่นอน

เรื่องที่ต้องทำในอาณาจักเทียนหูก็เกือบจะเสร็จสิ้นแล้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้ไหมว่ามีผู้อาวุโสสองคนหายตัวไป

พวกเขาจะมีปฏิกิริยาเช่นไรกันนะ?

เต๋าซุนยิ้มออกมาจางๆ เขาไม่สนใจเรื่องเหล่านี้อีกต่อไป และเริ่มมุ่งเป้าไปที่งานวันเกิดของท่านปู่ที่กำลังจะมาถึง

นอกจากนี้เขายังต้องการรีบไปที่อาณาจักรเฟิงฉีโดยเร็วที่สุด และจากนั้นก็ตามที่เขาให้สัญญาไว้กับนักดาบอมตะเจียงหยุน

ค้นหาตระกูลที่หลงเหลืออยู่และนำมรดกคืนสู่พวกเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด