ตอนที่แล้วบทที่ 46 หมาป่าเฒ่า?  เฮอะ! เป็นแค่สุนัขป่วยเท่านั้น !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 48 แผนการของสมาคมสามวีรบุรุษ

บทที่ 47 เจ้าก็คู่ควรที่จะมาพูดเรื่องกฎเกณฑ์กับข้างั้นหรือ?


บทที่ 47 เจ้าก็คู่ควรที่จะมาพูดเรื่องกฎเกณฑ์กับข้างั้นหรือ?

“เคร้ง!”

เสียงโลหะกระทบกันดังก้อง  มีดบินเล่มหนึ่งปัดกระบี่ของซูซินออกไป  ทำให้ชายฉกรรจ์คนนั้นรอดพ้นจากความตาย

บนใบหน้าของชายฉกรรจ์คนนั้นไม่มีสีหน้าดูถูกเหยียดหยามอีกต่อไป  มีแต่ความหวาดกลัวเท่านั้น!

ทั้งชีวิตนี้ เขาไม่เคยเห็นกระบี่ที่เร็วขนาดนี้มาก่อน!

“แค่กแค่ก”

ไม่รู้ว่าประตูบ้านสีดำถูกเปิดออกตั้งแต่เมื่อไหร่  มีร่างที่ดูหลังค่อมเดินออกมา

ดูจากภายนอกแล้ว  คนผู้นี้อายุเพียงแค่สี่สิบกว่าปี  แต่ผมหงอกขึ้นเต็มศีรษะ  ดูแก่ชราอย่างมาก

แต่ถึงแม้ว่าเขาจะดูแก่ชรา  แต่ใบหน้าของเขากลับดูดุร้าย  โดยเฉพาะดวงตาข้างซ้ายของเขา  ราวกับว่าถูกคนควักออกไปอย่างโหดเหี้ยม  เหลือเพียงแค่รูโบ๋  ดูน่ากลัวอย่างมาก

“หัวหน้าซูของพรรคเหยี่ยวเหินงั้นเหรอ? ลูกน้องข้าไม่รู้กฎเกณฑ์  เจ้าเป็นถึงหัวหน้ากลุ่มเล็ก  คงไม่ถือสาหาความกับหัวขโมยตัวเล็กๆ อย่างข้าหรอกนะ?” หมาป่าเฒ่าพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

ซูซินหัวเราะเยาะแล้วกล่าวว่า “แกล้งโง่หรือไง? หมาป่าเฒ่า  อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่รู้ว่าข้ามา  ลูกน้องของเจ้าไม่รู้กฎเกณฑ์  เจ้าก็ไม่รู้งั้นเหรอ?”

สีหน้าของหมาป่าเฒ่าเปลี่ยนไป  เขาไม่คิดว่าหัวหน้ากลุ่มเล็กหนุ่มคนนี้จะไม่ไว้หน้าเขาขนาดนี้  เพียงแค่คำพูดเดียวก็ทำให้เขาจนมุม

“หัวหน้าซู  พวกเรามาพูดกันตรงๆ เลยดีกว่า  เจ้าเป็นหัวหน้ากลุ่มเล็กของเขตหย่งเล่อ  ข้าก็ดูแลตรอกสุ่ยเฮยของข้า  ยังไงซะ  ที่แบบนี้เจ้าย่อมไม่สนใจ  พวกเราน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลอง เจ้าว่าไง?”

“น้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลอง? ก็ได้  เมื่อสองวันก่อน ถุงเงินของคุณชายของท่านผู้ว่าการเมืองหาย  เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่?  ส่งถุงเงินและหยกอุ่นที่อยู่ข้างในออกมา  พวกเราก็เป็นน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลองจริงๆ”

สีหน้าของหมาป่าเฒ่าเปลี่ยนไป  เขาคิดว่าซูซินเหมือนกับไต้ชงและเฉินเหล่าต้าในอดีต  ต้องการมาหาเรื่องเขา  แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาเพื่อเรื่องนี้

ถ้าเป็นเรื่องอื่น  หมาป่าเฒ่าไม่รังเกียจที่จะยอมซูซินสักครั้ง  ถือว่าซื้อความสงบสุขให้กับตัวเอง  แต่เรื่องนี้ทำไม่ได้เด็ดขาด

หมาป่าเฒ่าจ้องมองซูซินอย่างลึกซึ้ง  แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “หัวหน้าซู  ไม่ใช่ข้าไม่ให้เกียรติเจ้า  แต่เรื่องนี้ข้าทำไม่ได้จริงๆ

แต่ละวงการต่างก็มีกฎเกณฑ์  ของสิ่งนี้พวกเราเอาไปจริง  แต่พวกเราไม่สามารถส่งคืนได้

วันนี้เขาทำของหายมาขอข้า  พรุ่งนี้เจ้าทำของหายก็มาขอข้า  แบบนี้ลูกน้องของข้าจะเอาอะไรกิน?

ช่องโหว่นี้เปิดไม่ได้เด็ดขาด  ต่อให้ท่านผู้ว่าการเมืองมาขอข้าด้วยตัวเอง  ข้าก็ไม่ให้”

ซูซินส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “หมาป่าเฒ่าเอ๋ยหมาป่าเฒ่า  เจ้าเคยได้ยินคำพูดที่ว่า  ไร้ยางอายบ้างไหม?”

“ซูซิน! เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

ดวงตาข้างเดียวของหมาป่าเฒ่าเผยความโกรธออกมา  ตอนนี้แม้ว่าเขาจะเป็นคนพิการ  แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครจะดูถูกได้!

“หมายความว่าอย่างไร? ไว้หน้าเจ้าถึงเรียกเจ้าว่าหมาป่าเฒ่า  ถ้าไม่ไว้หน้า  เจ้าก็เป็นแค่สุนัขป่วยตัวหนึ่ง!

พาพวกหัวขโมยมาทำเรื่องขโมยไก่ขโมยสุนัข  ยังกล้ามาพูดเรื่องกฎเกณฑ์กับข้า?  น่าขำสิ้นดี!”

“ซูซิน! เจ้ารังแกคนเกินไปแล้ว!”

แววตาของหมาป่าเฒ่าเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม  เขาหยิบมีดบินสี่เล่มออกมาจากอกเสื้อ  พร้อมใช้โจมตีซูซิน!

เดิมทีเขาไม่อยากลงมือกับซูซิน  เขาไม่ได้คิดที่จะยุ่งเกี่ยวกับคนในพรรคเหล่านี้  เพราะเบื้องหลังอีกฝ่ายคือพรรคทั้งพรรค

ตอนที่ไต้ชงและเฉินเหล่าต้ามาหาเรื่องเขา  จริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้ลงมือ  เขาแค่แสดงความแข็งแกร่งของตัวเองออกมา  อีกฝ่ายก็ล่าถอยไปเอง

การต่อสู้ที่ไม่ได้ประโยชน์  ไม่ว่าจะเป็นไต้ชงหรือเฉินเหล่าต้าก็ไม่ทำ

ส่วนหมาป่าเฒ่าก็ถือโอกาสนี้  พูดเรื่องนี้ให้เกินจริง  ทำให้คนอื่นคิดว่าไต้ชงและเฉินเหล่าต้าต่างก็เสียเปรียบเขา  แบบนี้ถึงจะทำให้เขามีชื่อเสียง

หลังจากนั้น  แม้ว่าไต้ชงและเฉินเหล่าต้าจะรู้เรื่องนี้  แต่ก็แค่รู้สึกว่าหมาป่าเฒ่าคนนี้ทำเกินไป  ประกอบกับพวกเขาไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะหมาป่าเฒ่าได้  ยิ่งไม่กล้าไปขอความช่วยเหลือจากพรรค  จึงไม่ได้มาหาเรื่องเขาอีก

แต่ตอนนี้ต้องเผชิญหน้ากับซูซินที่กดดันเขา  เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป  อย่างมากก็ฆ่าซูซิน  แล้วไปหาเลี้ยงชีพที่เขตอื่น

ซูซินหลบมีดบินสี่เล่มได้อย่างง่ายดาย  ร่างกายที่หลังค่อมของหมาป่าเฒ่าก็พุ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว  ท่วงท่าราวกับเสือ  มีพลังน่าตกใจ

มือทั้งสองข้างของหมาป่าเฒ่าเหมือนกรงเล็บ  เล็บที่แหลมคมราวกับใบมีด  เปล่งประกายเย็นยะเยือกออกมา  หลิ่นอายสังหารอันเย็นเยียบแผ่ออกมาจากกรงเล็บทั้งสองข้าง

วิทยายุทธ์ของเขาพัฒนามาจากวิชาหนึ่งในเจ็ดสิบสองวิชาต้องห้ามของวัดเส้าหลิน  วิชาฝ่ามือกรงเล็บมังกร  มีพื้นฐานที่ไม่ธรรมดา

มีข่าวลือว่าวิชานี้  เป็นวิชาที่จอมยุทธ์พรรคมารคนหนึ่งได้มาหลังจากที่ลอบฆ่าพระเส้าหลิน  มันเป็นวิชาที่ไม่สมบูรณ์  จากนั้นจึงผสานกับวิทยายุทธ์ของตัวเอง  และสร้างวิชานี้ขึ้นมา

แม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งเท่าวิชาฝ่ามือกรงเล็บมังกรของจริง แต่กลับเหนือกว่าตรงที่โหดเหี้ยม เมื่อก่อนตอนที่เขายังอยู่จุดสูงสุด เขาเคยใช้กรงเล็บนี้ฉีกคนเป็นสองส่วน

ซูซินยืนนิ่ง  ใบหน้าเรียบเฉย

ถ้าเป็นหมาป่าเฒ่าในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด  ตอนนี้ซูซินคงต้องหลบเลี่ยง

แต่ตอนนี้  หมาป่าเฒ่าเป็นแค่สุนัขป่วยที่ไม่มีเขี้ยวเล็บ  วิทยายุทธ์หายไปครึ่งหนึ่ง  ยิ่งไปกว่านั้น  ยังขาดความกล้าหาญ

ตอนที่ลงมือ  ยังต้องใช้คำพูดสร้างขวัญกำลังใจก่อน  ท่าทางแบบนี้  จะเหมือนกับคนที่เคยตั้งค่ายบนภูเขา  ฆ่าคนมานับไม่ถ้วนได้อย่างไร?  เหมือนกับพวกหัวขโมยไม่มีผิด

อยู่กับพวกหัวขโมยนานเกินไป  หมาป่าเฒ่าคงคิดว่าตัวเองเป็นหัวขโมยไปแล้วสินะ!

จนกระทั่งกรงเล็บนั้นใกล้จะถึงตัว  ซูซินถึงได้ขยับ…

ซูซินชกออกไปหนึ่งหมัด  ความแค้นท่วมท้น!

แค้นที่ฟ้าดินไม่ยุติธรรม  แค้นที่สวรรค์ไม่มีตา!

โหด! เหี้ยม! แค้น! โกรธ! หมัดสุดชัง!

ความแค้นมีพลังหรือไม่? ทุกวันมีแต่คนเกลียดชัง  เกลียดชังเพราะความรัก  เกลียดชังเพราะอำนาจ  โลภ โกรธ หลง  ทุกอย่างล้วนเกลียดชัง!

นี่คือพลังของความแค้น  หมาป่าเฒ่าย่อมต้านทานไม่ไหว

หมัดแรก  กระดูกมือของหมาป่าเฒ่าแตกละเอียด  กรงเล็บที่แหลมคมแตกเป็นชิ้นๆ  มือขวาเต็มไปด้วยเลือด

หมัดที่สอง  แขนขวาของหมาป่าเฒ่าถูกซูซินทุบจนแหลก  ห้อยอยู่ข้างลำตัวอย่างอ่อนปวกเปียก

หมัดที่สาม  หมาป่าเฒ่ากระอักเลือดออกมา  ร่างกายลอยละลิ่วไปข้างหลัง  ร่างกายกระตุกอย่างอ่อนแรง

สิ้นหวัง  สิ้นหวังอย่างสุดซึ้ง  ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงแบบนี้  หมาป่าเฒ่าเคยประสบมาแล้วครั้งหนึ่ง

เมื่อสิบปีก่อน  เขาเคยทะเยอทะยาน  นำพี่น้องออกปล้นสะดม  ต่อให้เป็นคนของราชสำนักผ่านมาทางป่าทึบทางใต้  เขาก็กล้าพาคนไปฉีกเนื้ออีกฝ่ายมากิน

จนกระทั่งวันหนึ่ง  เขาไปหาเรื่องคนที่ไม่สมควรหาเรื่อง

คนผู้นั้นเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มอายุสิบสี่สิบห้าปี  ถือกระบี่โหย่วฉวน  บุกค่ายของเขา  ฆ่าพี่น้องของเขา  ส่วนเขาก็ได้แต่นอนแกล้งตายอยู่บนพื้น

ต่อมาเขาก็ได้รู้ชื่อของเด็กหนุ่มคนนั้น  เขามีนามว่า  เหอซิว  ต่อมาถูกผู้คนขนานนามว่า ‘คุณชายกระบี่’! ทายาทของหนึ่งในห้าฝ่ายกระบี่  คฤหาสน์ขุนเขาเมิ่งเจี้ยน เหอซิว!

เผชิญหน้ากับเหอซิว  หมาป่าเฒ่ารู้สึกสิ้นหวังและไร้เรี่ยวแรง  ทั้งชีวิตนี้เขาไม่มีทางแก้แค้นได้  ดังนั้นเขาจึงมาซ่อนตัวอยู่ที่เขตฉางหนิง  รวบรวมพวกนักล้วงกระเป๋าหลายร้อยคน  หลบอยู่ในบ้านที่ไม่มีแสงส่องถึง  รำลึกถึงอดีตอันรุ่งโรจน์ของตัวเอง

แต่ตอนนี้  สามหมัดของซูซินทำให้เขาพ่ายแพ้อย่างราบคาบ

อายุยังน้อยเหมือนกัน  และถูกตัวเองบดขยี้โดยที่ไม่สามารถต้านทานได้เช่นกัน

มันก็เหมือนกับที่ซูซินพูด  เขาไม่ใช่หมาป่าเฒ่า  เป็นแค่สุนัขป่วยตัวหนึ่ง!

ซูซินเดินไปที่ข้างกายหมาป่าเฒ่า  หมาป่าเฒ่าที่นอนอยู่บนพื้นมองเห็นเพียงแค่รองเท้าบูทสีดำของซูซิน  แต่ตอนนี้เขาไม่อยากเงยหน้าขึ้นมอง

“ส่งถุงเงินและหยกอุ่นมาให้ข้า”

หมาป่าเฒ่ากระอักเลือดออกมา  พยายามลุกขึ้น  พูดกับลูกน้องที่ยืนตกตะลึงอยู่ข้างๆ ว่า “ไป  ไปเอาหีบของข้ามา”

ลูกน้องผู้นั้นชะงักไป  หลังจากเห็นดวงตาข้างเดียวที่น่ากลัวของหมาป่าเฒ่า  เขาจึงได้สติ  รีบวิ่งเข้าไปในบ้าน  หยิบหีบใบเล็กออกมาให้หมาป่าเฒ่า

หลังจากเปิดหีบออก  ข้างในเต็มไปด้วยอัญมณีที่ส่องประกายระยิบระยับ

ทุกครั้งที่ลูกน้องของหมาป่าเฒ่าขโมยของมาได้  จะต้องให้หมาป่าเฒ่าดู  ถ้ามีของมีค่า  เขาจะเก็บสะสมไว้ก่อน

แม้ว่าปากของเขาจะพร่ำบอกว่า  ต้องรักษากฎเกณฑ์ของตัวเอง  ต่อให้ท่านผู้ว่าการเมืองมา  เขาก็จะไม่ส่งของที่ขโมยมาคืน

แต่จริงๆ แล้ว  เขาเก็บของพวกนี้ไว้ทั้งหมด  ไม่กล้าใช้  ไม่กล้านำไปจำนำ  กลัวว่าคนอื่นจะมาหาเรื่อง  แล้วตัวเองไม่มีของคืน  และจะถูกแก้แค้น

หมาป่าเฒ่าหยิบถุงเงินออกมาจากข้างในหีบ  จากนั้นส่งให้ซูซิน  หลังจากเปิดออกดู  ข้างในมีหยกที่แกะสลักเป็นสัตว์ประหลาด  สัมผัสแล้วอุ่น  เป็นหยกอุ่นที่มีมูลค่ามหาศาลจริงๆ

หลังจากรับถุงเงินมา  ซูซินก็หันหลังกลับ  ทันใดนั้นหมาป่าเฒ่าก็พูดขึ้นว่า “ช้าก่อน”

ซูซินหันกลับมา  เลิกคิ้วขึ้น

หมาป่าเฒ่าหยิบขวดกระเบื้องสีเงินออกมา  ส่งให้ซูซิน  มุมปากเผยรอยยิ้มขมขื่น “ของสิ่งนี้  ข้าใช้ไม่ได้แล้ว และไม่มีคุณสมบัติที่จะใช้  เจ้าเอาไปเถอะ  หวังว่าเจ้าจะไว้ชีวิตพี่น้องของข้า”

หมาป่าเฒ่าเคยได้ยินเรื่องราวของซูซิน  เขาไม่ใช่คนใจดี  ตอนนี้ตัวเองไม่ใช่คู่มือของเขา  ตรอกสุ่ยเฮยแห่งนี้  ยังจำเป็นต้องมีอยู่หรือไม่?

แต่หมาป่าเฒ่าก็ยังอยากลองดู  เขาไม่อยากเป็นเหมือนเมื่อสิบปีก่อน  มองดูพี่น้องของตัวเองตายอยู่ใต้คมกระบี่ของคนผู้นั้น  ส่วนตัวเอง  ได้แต่ซ่อนตัวอยู่ใต้ซากศพ  ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

เขาบอกคนอื่นว่า  เขาถูกพี่น้องทรยศถึงเป็นแบบนี้  แต่มีเพียงตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้  ไม่ใช่พี่น้องทรยศเขา  แต่เป็นเขา  ที่ทรยศพี่น้องที่เคยสาบานว่าจะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่  ตายก็ตายด้วยกัน

“นี่คืออะไร?”

หมาป่าเฒ่ากล่าวว่า “ข้าก็ไม่รู้  นี่เป็นของที่ลูกน้องของข้าขโมยมาจากจอมยุทธ์ผู้หนึ่ง  มีกลิ่นยาเข้มข้น  น่าจะเป็นยารักษาอาการบาดเจ็บชั้นยอด  หรือไม่ก็เป็นโอสถเสริมพลัง  ยังไงซะ  ข้าก็ใช้ไม่ได้อยู่แล้ว”

สิ่งที่หมาป่าเฒ่าบาดเจ็บจริงๆ ไม่ใช่ร่างกาย  แต่เป็นจิตใจมากกว่า

จิตใจถูกทำลาย  ต่อให้มียาดีแค่ไหน มันก็รักษาไม่หาย

หลังจากรับขวดยามา  ซูซินก็พูดอย่างเย็นชาว่า “จากนี้ไป  ตรอกสุ่ยเฮยจะเป็นของข้า  ซูซิน  แต่ข้าจะไม่ส่งคนมาแทรกแซงเจ้า  ตรอกสุ่ยเฮย  ก็ยังคงเป็นตรอกสุ่ยเฮยเช่นเดิม”

หลังจากเดินออกจากตรอกสุ่ยเฮย  ลูกน้องที่นำทางมา  รู้สึกชื่นชมซูซินอย่างสุดซึ้ง

หัวหน้าของเขา  สมกับเป็นบุคคลในตำนานของพรรคเหยี่ยวเหินจริงๆ  หมาป่าเฒ่าที่เคยทำให้ไต้ชงและเฉินเหล่าต้าเสียหน้า  ทว่าในเงื้อมมือของเขา  กลับไร้ค่า!

จริงๆ แล้ว  การที่ซูซินเอาชนะหมาป่าเฒ่าได้  มันไม่มีอะไรน่าภูมิใจ

ตอนนี้จุดชีพจรของเขาเปิดไปแล้วหกสิบจุด  ใกล้จะถึงขอบเขตโฮ่วเทียนขั้นกลางแล้ว

ส่วนหมาป่าเฒ่าผู้นี้  เมื่อก่อนอาจเคยแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้เหลือพลังไม่ถึงสิบจุดชีพจร  อย่างมากก็แค่มีวิทยายุทธ์ที่แข็งแกร่งกว่า  ประสบการณ์การต่อสู้มากกว่าเท่านั้น

ซูซินใช้วิธีปราบปรามด้วยพลังอันเด็ดขาด  เอาชนะอีกฝ่ายได้ในพริบตา  ย่อมไม่ใช่เรื่องยากอะไร

แน่นอนว่า  ซูซินก็พอใจกับพลังของหมัดสุดชังเช่นกัน  สมกับที่เป็นวิชาชั้นยอดที่สืบทอดมาจากหยวนสือซาน ตัวร้ายชื่อดังในนิยายของอันสุยอัน

หมัดสุดชังยังแข็งแกร่งขนาดนี้  ซูซินอยากจะเห็นว่า  วิชาลูกศรใจสลายที่สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน  จะสุดยอดขนาดไหน!?

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด