บทที่ 44 ความกังวลของหัวหน้าพรรคซา
บทที่ 44 ความกังวลของหัวหน้าพรรคซา
คำพูดของซูซินนั้นคลุมเครือ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ต่างก็งุนงง
เจ้าหนุ่ม เจ้าอายุยังน้อยแล้วอย่างไร? เจ้ามีความแข็งแกร่งแล้วอย่างไร? มันเกี่ยวอะไรกับการที่เจ้าฆ่าโหวทง?
ส่วนเรื่องที่เจ้าเคยสร้างผลงานให้กับพรรค เจ้ามีผลงานมากก็จริง แต่ยิ่งเป็นเช่นนั้น ยิ่งไม่สามารถปล่อยเจ้าไปได้ง่ายๆ
หากในอนาคตมีคนทำแบบเจ้า เพิ่งสร้างผลงานเสร็จก็เริ่มทำตัวเหลวไหล พรรคจะไม่วุ่นวายหรอกหรือ?
ซูซินมองซาเฟยอิง คำพูดเหล่านี้ของเขาไม่ได้พูดให้คนอื่นฟัง เพียงแค่ต้องการให้ซาเฟยอิงเข้าใจก็พอ
ทุกคนต่างก็เป็นคนฉลาด สายตาที่ซาเฟยอิงมองซูซินนั้นเริ่มจริงจังขึ้น เขาเข้าใจความหมายในคำพูดของซูซิน
คำพูดสามประโยคของซูซินนั้น ล้วนแสดงถึงความหมายเดียว นั่นคือ ข้าอยู่ที่นี่ ข้าสามารถช่วยท่านควบคุมหัวหน้าห้องโถงทั้งสามได้!
สถานการณ์ของพรรคเหยี่ยวเหินนั้นคล้ายคลึงกับพรรคไผ่เขียว ซาเฟยอิงก็มีบุตรชายคนหนึ่ง แต่ตัวเขากลับแก่ชรามากแล้ว ในทางกลับกัน หัวหน้าห้องโถงทั้งสามกลับอยู่ในช่วงวัยหลางคนอยู่
หากวันหนึ่งซาเฟยอิงตายไป ด้วยบุตรชายของเขา ซาหยวนตง ที่มีความแข็งแกร่งไม่ต่างจากเว่ยเฟิงของพรรคไผ่เขียว จะสามารถควบคุมพรรคเหยี่ยวเหินได้อย่างไร ใช่ไหม?
บทเรียนของพรรคไผ่เขียวยังคงอยู่ตรงหน้า เขาจึงต้องระวัง!
ในบรรดาหัวหน้าห้องโถงทั้งสามของพรรคเหยี่ยวเหิน แม้ว่าหลินฝูหู่จะภักดีและจะสนับสนุนบุตรชายของเขา แต่ตงเฉิงหวู่และจวงหลีจะทำเช่นนั้นหรือไม่?
ไม่ต้องพูดถึงตงเฉิงหวู่ ส่วนจวงหลี แม้ว่าเขาจะดูยิ้มแย้มแจ่มใส ดูเป็นคนใจดี แต่ก่อนที่เขาจะเข้าร่วมพรรคเหยี่ยวเหิน เขาเคยเป็นโจรชื่อดังในแคว้นเซียงหนาน มีวิธีการที่โหดเหี้ยม ฆ่าคนราวกับผักปลา
คนอื่นอาจไม่รู้ แต่ซาเฟยอิงรู้ดี แม้ว่าจวงหลีจะไม่ได้ลงมือด้วยตัวเองมานานกว่าสิบปีแล้ว แต่เขาก็ยังคงฝึกฝนดาบเมี้ยวสองคม(ดาบของชนเผ่าเมี้ยวหรือแม้วในจีน) ที่ทำให้เขามีชื่อเสียงอย่างลับๆ!
หากคนทั้งสองร่วมมือกัน เพียงแค่หลินฝูหู่ที่หัวทึบ จะสามารถรับมือกับพวกเขาได้งั้นเหรอ? เห็นได้ชัดว่าไม่ได้!
และในเวลานี้ สิ่งที่ซาเฟยอิงต้องการ ย่อมเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ต่างจากพวกเขา แต่สามารถควบคุมพวกเขาได้ และคนๆ นั้นก็คือซูซิน!
ซูซินยังเด็กนัก แม้ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งและความทะเยอทะยาน แต่เขาก็ไม่สามารถปราบปรามหัวหน้ากลุ่มเล็กคนอื่นๆ ได้ คนเก่าแก่ของพรรคเหยี่ยวเหินจะไม่มีทางยอมรับซูซิน
ซูซินมีความแข็งแกร่ง ตราบใดที่ให้โอกาสเขาเติบโต เขาก็สามารถต่อกรกับตงเฉิงหวู่และจวงหลีได้อย่างสมบูรณ์
ซูซินเคยสร้างผลงานให้กับพรรค เขาภักดีต่อพรรคเหยี่ยวเหิน ตัวเขาเองไม่มีเงื่อนไขที่จะแย่งชิงตำแหน่ง ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงสนับสนุนหัวหน้าพรรครุ่นเยาว์ ต่อกรกับตงเฉิงหวู่และคนอื่นๆ
สามประโยค สามความหมาย ซาเฟยอิงย่อมเข้าใจทั้งหมด
หากเก็บซูซินไว้ เขาสามารถช่วยเขาควบคุมหัวหน้าห้องโถงอีกสองคนได้ แต่การลงโทษซูซินอย่างหนัก จะทำให้ลูกน้องของซูซินไม่พอใจ และทำให้คนในพรรคหวาดกลัว
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยสถานการณ์ที่ซูซินและตงเฉิงหวู่เป็นศัตรูกัน แม้ว่าพวกเขาจะต้องการร่วมมือกันในอนาคต มันก็เป็นไปไม่ได้
ในฐานะหัวหน้าพรรค ซาเฟยอิงมองการณ์ไกลกว่าคนอื่น ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจ เก็บซูซินไว้!
“การต่อสู้กันเอง ละเมิดกฎของพรรค เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่สามารถปล่อยไปได้ง่ายๆ” ซาเฟยอิงพูดอย่างช้าๆ
ใบหน้าของตงเฉิงหวู่ไม่ได้แสดงความประหลาดใจ ซูซินทำเรื่องเกินเลยขนาดนี้ แม้ว่าหลินฝูหู่จะต้องการช่วยพูดแทนเขา หัวหน้าพรรคก็จะไม่มีทางปล่อยเขาไป
“ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจ ยึดพื้นที่ทั้งหมดของหู่ซานเย่กลับคืนสู่พรรค ลูกน้องของเขาเหลือเพียงสิบคน ส่วนที่เหลือก็แบ่งให้หัวหน้ากลุ่มเล็กคนอื่นๆ”
ทุกคนต่างก็เบิกตากว้าง
คนที่ถูกลงโทษไม่ใช่ซูซิน? ทำไมถึงกลายเป็นหู่ซานเย่? หัวหน้าพรรคยอมให้เขาแบกรับความผิดของซูซินจริงๆ งั้นเหรอ?
ตงเฉิงหวู่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “หัวหน้าพรรค! คนที่ฆ่าโหวทงคือซูซิน!”
ซาเฟยอิงเหลือบมองเขา พูดว่า “หู่ซานเย่เป็นบิดาบุญธรรมของซูซิน เป็นหัวหน้าของเขา เขาสั่งให้ซูซินฆ่าโหวทง หากซูซินปฏิเสธ จะไม่เป็นการอกตัญญูหรือ? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จะลงโทษเขาทำไม? นี่จะทำให้พี่น้องในพรรคเสียใจ
ในการต่อสู้กับพรรคไผ่เขียวครั้งนี้ ซูซินเพียงคนเดียวก็ยึดเขตหย่งเล่อได้ ผลงานใหญ่ขนาดนี้ เขาสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้ากลุ่มเล็ก ตอนนี้โหวทงตายไปแล้ว ซูซินก็ขึ้นแทนตำแหน่งของเขาก็แล้วกัน”
เมื่อเห็นว่าซาเฟยอิงตัดสินใจเช่นนี้ แม้ว่าตงเฉิงหวู่จะโกรธ แต่เขาก็ทำได้เพียงยอมรับ
แม้ว่าพรรคเหยี่ยวเหินจะกำหนดไว้ว่า หากมีเรื่องใหญ่ หัวหน้าพรรคไม่สามารถตัดสินใจคนเดียวได้ ต้องหารือกับหัวหน้าห้องโถงและหัวหน้ากลุ่มเล็กคนอื่นๆ
แต่ตราบใดที่ซาเฟยอิงยังอยู่ พรรคเหยี่ยวเหินก็ยังเป็นของเขา
นี่คือพรรคที่เขาสร้างขึ้นด้วยมือของเขาเอง บารมีของซาเฟยอิง แม้แต่หัวหน้าห้องโถงทั้งสามคนรวมกันก็ไม่สามารถต่อกรได้
หัวหน้ากลุ่มเล็กคนอื่นๆ ต่างก็รู้สึกไม่สบายใจ
เมื่อพวกเขาอายุเท่าซูซิน พวกเขายังคงหลงใหลในหญิงสาวในหอนางโลม แต่ซูซินกลับกลายเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจของพรรคเหยี่ยวเหินแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยอำนาจของลูกน้องของซูซิน หากเขากลายเป็นหัวหน้ากลุ่มเล็ก เขาก็จะเป็นหัวหน้ากลุ่มเล็กที่แข็งแกร่งที่สุด
ตงเฉิงหวู่สะบัดแขนเสื้อเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร คนอื่นๆ เห็นเช่นนั้นก็เดินตามออกไป
“บิดาบุญธรรม พวกเราไปกันเถอะ” ซูซินเดินไปข้างๆ หู่ซานเย่ พูดเบาๆ
เงยหน้ามองซูซินที่ไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย หู่ซานเย่ก็ถอนหายใจ ในใจไม่มีความคิดที่จะแข่งขันกับซูซินอีกต่อไป
ตอนนี้เขาเข้าใจความคิดของอาจารย์หลี่แล้ว การติดตามหัวหน้าแบบซูซิน อนาคตย่อมสดใส
ส่วนการติดตามเขาที่แก่ชราแล้ว ในอนาคตก็ทำได้เพียงเตรียมตัวเกษียณเท่านั้น
เมื่อทุกคนออกไปหมดแล้ว ซาเฟยอิงก็ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม เขาไม่ได้ขยับไปไหน
เขาขมวดคิ้วที่เต็มไปด้วยริ้วรอย ซาเฟยอิงก็ไม่รู้ว่าการตัดสินใจในครั้งนี้ของเขา ถูกต้องหรือไม่?
ซูซินมีความทะเยอทะยาน มีความแข็งแกร่ง มีวิธีการ สิ่งเหล่านี้เขาสามารถมองเห็นได้ทั้งหมด คนหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่าย แม้แต่หู่ซานเย่ที่เจ้าเล่ห์ก็ยังถูกเขาควบคุมไว้ในมือ
แต่คำพูดสามประโยคของซูซินนั้น กลับชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของเขา ทำให้ซาเฟยอิงต้องเก็บเขาไว้เพื่อควบคุมตงเฉิงหวู่และจวงหลี
จริงๆ แล้ว หากมีตัวเลือกอื่น ซาเฟยอิงจะไม่มีทางเลือกซูซินที่มีความทะเยอทะยานเช่นนี้แน่นอน!
“เฮ้อ— ตอนนั้นดันฆ่าคนเยอะเกินไปสินะ?” ซาเฟยอิงนวดขมับ พูดด้วยน้ำเสียงเสียใจ
ในตอนที่พรรคเหยี่ยวเหินเพิ่งก่อตั้งขึ้น มีหัวหน้ากลุ่มเล็กมากกว่าสามสิบคน มีคนที่มีความแข็งแกร่งและพรสวรรค์มากกว่าตงเฉิงหวู่และคนอื่นๆ มากมาย
แต่ในคืนนั้น คนเหล่านี้ที่เขาไม่สามารถควบคุมได้ ล้วนตายด้วยดาบของเขา
“ท่านพ่อ ท่านยังประชุมไม่เสร็จอีกหรือ?” ชายหนุ่มคนหนึ่งผลักประตูเข้ามา พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
ชายหนุ่มคนนี้อายุประมาณยี่สิบต้นๆ ใบหน้าคล้ายคลึงกับซาเฟยอิงในวัยหนุ่ม เขาคือบุตรชายคนเดียวของซาเฟยอิง ซาหยวนตง…
ซาเฟยอิงมีบุตรชายตอนอายุมาก เขาคาดหวังในตัวบุตรผู้นี้มาก แต่น่าเสียดายที่เขาตามใจมากเกินไป ทำให้ซาหยวนตงกลายเป็นคนเอาแต่ใจ
การต่อสู้ระหว่างพรรคไผ่เขียวกับพรรคเหยี่ยวเหินครั้งที่แล้ว มันก็เกิดจากการที่เขาแย่งชิงหญิงสาวกับเว่ยเฟิงของพรรคไผ่เขียว เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องตลกในเมืองฉางหนิง
การทำสงครามระหว่างพรรคเพื่อหญิงสาวในหอนางโลม ในสายตาของหัวหน้าพรรคคนอื่นๆ นั้น เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ
“หยวนตง เจ้ามีธุระอะไรกับบิดาหรือเปล่า?”
ซาหยวนตงพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ข้าเห็นม้าตัวหนึ่งที่มาจากตงจิ้นที่เขตชางเต๋อ ขนแผงคอเป็นลอนสวยงาม แต่ราคาหนึ่งแสนตำลึงเงิน ข้าไม่ต่อราคาสักคำ ข้าแย่งชิงมาจากคนของสมาคมสามวีรบุรุษอย่างยากลำบาก
แต่ข้าพกเงินมาไม่พอ ให้คนเฝ้าไว้ ท่านพ่อรีบให้เงินข้าหนึ่งแสนเถอะ ข้าจะไปซื้อม้าขนแผงคอเป็นลอนตัวนั้นมา”
“เจ้าเอาแต่เล่นสนุก! เจ้าก็โตแล้ว รอบิดาตายไป พรรคเหยี่ยวเหินนี้ก็ต้องตกเป็นของเจ้า เจ้าเป็นแบบนี้ จะใช้อะไรในการบริหารพรรคเหยี่ยวเหิน? ใช้ม้าขนแผงคอเป็นลอนของเจ้างั้นหรือ?”
คำตำหนิอย่างรุนแรงของซาเฟยอิง ทำให้ซาหยวนตงหน้าซีดทันที
แม้ว่าเขาจะผิดหวังในตัวซาหยวนตง แต่ซาเฟยอิงก็ไม่สามารถลงโทษบุตรชายผู้นี้ได้จริงๆ
เมื่อเห็นซาหยวนตงตกใจเช่นนี้ น้ำเสียงของซาเฟยอิงก็อ่อนลงทันที
“หยวนตง บิดาชราแล้ว ไม่สามารถปกป้องเจ้าได้ตลอดไป เจ้าดูเว่ยเฟิงสิ เจ้าอยากจะเป็นเหมือนเขา กลายเป็นหุ่นเชิดของลูกน้องงั้นหรือ?”
ซาหยวนตงพูดอย่างดูถูก “ข้าจะไม่เป็นเหมือนไอ้ขยะนั่นแน่นอน”
ซาเฟยอิงแค่นเสียงเย็นชา “แค่พูดย่อมไม่มีประโยชน์ รอหาโอกาสก่อน บิดาจะให้เจ้าเข้าร่วมกิจการของพรรค ให้เจ้าคุ้นเคยกับขั้นตอน หากเจ้าสามารถสร้างผลงานได้ ก็จะเป็นการดีที่สุด มิฉะนั้น เจ้าจะใช้อะไรในการควบคุมลูกน้อง?”
ซาหยวนตงพูดอย่างมั่นใจ “พรรคเหยี่ยวเหินนี้เป็นของตระกูลซาของพวกเรา ด้วยบารมีของตระกูลซา ใครจะกล้าพูดอะไร?”
ใบหน้าของซาเฟยอิงเผยให้เห็นความผิดหวัง บุตรชายของเขายังคงไร้เดียงสาเกินไป หากเป็นซูซิน เขาจะไม่มีทางพูดแบบนี้
แม้แต่ราชวงศ์ หากจักรพรรดิโง่เขลา ก็จะถูกดึงลงจากบัลลังก์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพรรคเหยี่ยวเหินเล็กๆ แห่งนี้หรอก
เมื่อนึกถึงซูซิน แล้วมองดูบุตรชายของตัวเอง ซาเฟยอิงก็คิดว่า หากซาหยวนตงมีความฉลาดหลักแหลมเท่าซูซินสักหนึ่งในสิบ เขาก็ไม่ต้องกังวลเช่นนี้
“เอาล่ะ เจ้าออกไปก่อนเถอะ”
ซาหยวนตงถามอย่างระมัดระวัง “แล้วเงินหนึ่งแสนตำลึงล่ะ?”
ซาเฟยอิงโบกมืออย่างเหนื่อยล้า “ไปขอจากจวงหลี”
ซาหยวนตงดีใจ รีบหันหลังวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนซูซิน เมื่อกลับไปที่ถนนไคว่ฮั่วหลิน เขาก็ไล่คนอื่นๆ ออกไปทันที
ในวินาทีที่ซาเฟยอิงประกาศให้เขากลายเป็นหัวหน้ากลุ่มเล็ก เสียงของระบบก็ดังขึ้นในหัวของเขา
“ยินดีด้วยกับโฮสต์ที่ทำภารกิจหลัก ‘บารมีแห่งจอมยุทธ์ (2)’ สำเร็จ ความสำเร็จ 50% รางวัลสิทธิ์สุ่มเลือกประเภทหนึ่งครั้ง (สองดาวขึ้นไป สามดาวลงมา) โฮสต์ต้องการสุ่มเลือกตอนนี้หรือไม่?”
ในสถานการณ์เช่นนั้น ซูซินเลือกปฏิเสธอย่างเด็ดขาด แม้ว่าการเข้าสู่พื้นที่ระบบจะทำให้เขาเหม่อลอยเพียงชั่วครู่ แต่เขาก็ไม่ต้องการให้คนอื่นสังเกตเห็น
เมื่อกลับไปที่ถนนไคว่ฮั่วหลิน ซูซินก็ประกาศปิดด่านฝึกฝนทันที เข้าสู่ระบบเพื่อเตรียมสุ่มเลือก
การสุ่มเลือกขั้นกลางสามครั้งก่อนหน้านี้ ทำให้ซูซินรู้สึกแย่มาก หากครั้งนี้เขายังโชคร้ายเช่นนี้ ก็ไม่ใช่ปัญหาเรื่องโชคของเขาแล้ว แต่เป็นระบบที่จงใจหลอกเขา!