ตอนที่แล้วบทที่ 35 ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัดของการฝึกผิว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 37 ดาบสั้นปรากฏอีกครั้ง!

บทที่ 36 อันตรายของซื่อเหลียน!


บทที่ 36 อันตรายของซื่อเหลียน!

วันแรก ซื่อหวินยังคงฝึกผิวหนังที่โรงฝึกตามปกติ

ดังที่เซี่ยเหอบอก ซื่อหวินไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ราวกับว่ามือของเขา "แข็งตัว" ไปแล้ว

มันหยุดอยู่ที่สภาพขีดจำกัด

ไม่ว่าเขาจะฝึกผิวหนังยังไงมันก็ไม่มีประโยชน์

แต่ซื่อหวินก็ยังคงสงบนิ่ง

เพราะนี่แค่เพิ่งเป็นวันแรก

เมื่อกลับถึงบ้าน ซื่อหวินก็ฝึกขว้างดาบสั้นตามปกติ

"ปั้ก!"

ดาบสั้นของซื่อหวินในตอนนี้แทบจะไม่พลาดเป้าเลย

แม้ว่าจะหลับตา เขาก็ยังปาดาบสั้นให้เข้าเป้าได้

นี่คือผลลัพธ์หลังจากใช้ "วงแหวนเร่งความเร็วสีเขียว" มาหลายครั้ง

มันเหมือนกับว่าซื่อหวินได้ฝึกฝนอย่างต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลาหลายปี ดังนั้นวิชาดาบบินของเขาจึงไม่ธรรมดา

และเมื่อใช้ร่วมกับวิธีหายใจ พลังของวิชาดาบบินก็ยิ่งน่าเกรงขามมากขึ้น

ถ้าหากเขาได้สู้กับซู่เอ๋อโก่วอีกครั้ง

ซื่อหวินคงฆ่าซู่เอ๋อโก่วได้ด้วยดาบสั้นเพียงเล่มเดียว

"น้องหวิน มากินข้าวก่อนเร็ว วันนี้พี่เหลียนให้โจวหยวนเอาของมาให้อีกแล้วล่ะ"

ซื่อฮุ่ยยกอาหารมาวางบนโต๊ะซึ่งมีเนื้อมากมาย

"พี่เหลียนยังไม่กลับมาอีกหรือ?"

ซื่อหวินขมวดคิ้วถาม

ช่วงนี้ ถึงแม้ซื่อเหลียนจะให้โจวหยวนเอาของมาให้เกือบทุกวัน

แต่ตัวซื่อเหลียนนั้นกลับไม่เคยกลับมาที่บ้านเลย

"ข้าถามโจวหยวนเรื่องนั้นแล้วล่ะ"

"ตอนแรกเขาก็พูดอ้อมๆ แต่ไปๆมาๆเขาก็บอกความจริง"

"พี่เหลียนใช้ชีวิตที่ตระกูลหวังไม่ค่อยดีนัก ช่วงนี้แม่เฒ่าหลี่ยิ่งคอยจับผิดหนักขึ้น"

"ดังนั้น ถ้าหากพี่เหลียนไม่มีธุระสำคัญอะไรก็คงจะไม่กลับมา เพราะไม่อยากให้แม่เฒ่าหลี่หาเรื่องได้"

ซื่อหวินเข้าใจทันที

คนใจร้ายแบบนี้ช่างน่ารำคาญจริงๆ!

เรื่องของแม่เฒ่าหลี่คนนี้ ซื่อหวินก็เคยได้ยินโจวหยวนเล่าให้ฟัง

นางดูแลห้องครัวของตระกูลหวังซึ่งถือเป็นเจ้านายของซื่อเหลียน

ถ้าแม่เฒ่าหลี่คอยจับผิดซื่อเหลียน

ชีวิตของซื่อเหลียนก็คงลำบากน่าดู

"ไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนี้ข้าฝึกจนไปถึงขีดจำกัดของการฝึกผิวและกำลังจะทะลวงขีดจำกัดแล้ว"

"ถ้าหากทะลวงขีดจำกัดได้ ข้าก็จะเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริงและยังได้เป็นศิษย์ของท่านอาจารย์ด้วย"

"เมื่อมีสถานะแบบนี้แล้ว ข้าจะไปที่ตระกูลหวังเพื่อไถ่ตัวพี่เหลียนกลับมา"

ซื่อฮุ่ยดีใจมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น "น้องหวิน นี่เจ้ากำลังจะได้เป็นนักศิลปะการต่อสู้จริงๆแล้วหรือ?!"

"นี่...นี่เป็นเรื่องจริงใช่ไหม?"

มือของซื่อฮุ่ยถึงกับสั่น

ซื่อหวินยิ้มเล็กน้อย "พี่ฮุ่ย ข้าพูดจริง"

"แต่ข้าก็ต้องใช้เวลาอีกสักพัก"

"ถ้าหากว่าเร็วสักหน่อยก็อาจจะสามถึงห้าวัน แต่ถ้าช้าหน่อยก็น่าจะสิบกว่าวัน"

"เมื่อถึงตอนนั้นก็น่าจะรู้ผลแล้วล่ะ!"

ซื่อฮุ่ยรีบพยักหน้า "ถ้าอย่างงั้นเจ้าก็ต้องบำรุงร่างกายให้ดีๆ เอ้า กินให้เยอะๆเลยนะ"

ในความคิดของซื่อฮุ่ย ตอนนี้ซื่อหวินคือคนที่สำคัญที่สุดของบ้าน!

เขากำลังจะได้เป็นนักศิลปะการต่อสู้!

ในเมืองหลิวเฉิง นักศิลปะการต่อสู้ล้วนมีสถานะและชื่อเสียง

ถ้าหากได้เป็นนักศิลปะการต่อสู้

ตระกูลซื่อก็จะสามารถพลิกชีวิตได้!

เมื่อเห็นท่าทีเป็นห่วงของซื่อฮุ่ย ซื่อหวินจึงรู้สึกสงบในใจมากขึ้น

วันที่สอง วันที่สาม วันที่สี่ วันที่ห้า...

ซื่อหวินไปโรงฝึกทุกวัน

เขายังคงฝึกผิวหนังต่อไป

แต่เขาไม่ได้ใช้ยาพิเศษราคาสองตำลึงต่อขวดแล้ว

เพราะมันแพงเกินไปและก็ไม่ได้ช่วยอะไรในการทะลวงขีดจำกัด

"ซื่อหวิน นี่ก็เก้าวันแล้วนะ"

"จริงๆแล้วจะเก้าวันหรือสิบวันมันก็ไม่ต่างกันหรอก"

"ถ้าตอนนี้เจ้ายังทะลวงขีดจำกัดไม่ได้ ก็คงทำไม่ได้แล้วล่ะ"

"เจ้ายังจะดื้อดึงต่อไปอีกหรือ?"

ช่วงนี้เซี่ยเหอไม่ค่อยมีอะไรทำ จึงมาคอยเฝ้าสังเกตซื่อหวินอยู่เป็นบางครั้ง

เขารู้สึกว่าซื่อหวินมีออร่าบางอย่างที่แปลกประหลาด

ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะสนใจ

บางที อาจจะเป็นความมุ่งมั่นและความดื้อรั้นของเขา!

เซี่ยเหอรู้สึกเหมือนได้เห็นตัวเองในอดีต

ตอนนั้นเขาก็เป็นแบบนี้ เขามุ่งมั่น ดื้อรั้น

เพียงแต่…เขาทำได้สำเร็จ

แล้วซื่อหวินล่ะ?

เขาคงไม่มีพรสวรรค์ในการได้เป็นนักศิลปะการต่อสู้จริงๆ

ตลอดหนึ่งปีมานี้ นอกจากเหอเหลิ่งเยว่แล้ว โรงฝึกดัชนีทองก็ไม่มีใครที่ก้าวสู่การเป็นนักศิลปะการต่อสู้ได้อีก

ถึงแม้ซื่อหวินจะดื้อรั้น มุ่งมั่น และพยายามมากแค่ไหน

แต่เซี่ยเหอเองก็รู้ดี

ถ้าหากไม่มีพรสวรรค์ในการฝึกยุทธ ต่อให้มุ่งมั่น ดื้อรั้นและพยายามแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์

ซื่อหวินเป็นคนพิการ การที่ยังยืนหยัดมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งแล้ว

แต่ซื่อหวินยังคงไม่หวั่นไหว

เขาเงยหน้ามองเซี่ยเหอ "ศิษย์พี่เซี่ย ข้ายังเหลืออีกหนึ่งวันไม่ใช่หรือ?"

เมื่อเห็นแววตาที่สงบนิ่งของซื่อหวิน เซี่ยเหอจึงไม่พูดอะไรอีก

ซื่อหวินกลับไปที่ลานด้านหลังและเริ่มฝึกผิวหนังตามปกติ

แม้จะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว แต่ซื่อหวินก็ยังคงพยายามอย่างไม่ลดละ!

...

ที่บ้านตระกูลหวัง กำลังมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นภายในห้องครัว

แม่เฒ่าหลี่เรียกคนรับใช้ภายในบ้านมาหลายคน

พวกเขาจับซื่อเหลียนเอาไว้แน่นแล้วมัดนางติดกับต้นไม้ใหญ่

ซื่อเหลียนจ้องมองแม่เฒ่าหลี่ด้วยสายตาแข็งกร้าว แต่แม่เฒ่าหลี่กลับไม่สะทกสะท้านและยังโกรธจัดอีก

"เพี๊ยะ!"

แม่เฒ่าหลี่ฟาดแส้ลงบนใบหน้าของซื่อเหลียน

ทันใดนั้น บนใบหน้าของซื่อเหลียนก็ปรากฏรอยแดงเป็นทางยาว

ซื่อเหลียนก็ใจแข็ง เธอไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

แต่แววตาเย็นชาของเธอกลับทำให้แม่เฒ่าหลี่รู้สึกหนาวสั่น

แม่เฒ่าหลี่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกสัตว์ร้ายจ้องมอง

ถ้าหากพลาดเพียงนิดเดียว ก็อาจจะถูกฉีกร่างเป็นชิ้นๆ

มันทำให้แม่เฒ่าหลี่รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

"ครั้งนี้ข้าจะต้องไม่ปล่อยซื่อเหลียนไปอีก"

"ข้าต้องฆ่านางให้ตายเท่านั้น"

"ไม่อย่างงั้น ก็จะมีปัญหาตามมาไม่จบไม่สิ้น!"

แม่เฒ่าหลี่ตัดสินใจแล้ว

"เจ้ายังกล้าจ้องข้าแบบนั้นอีกรึ?"

"ซื่อเหลียน อีนังแพศยาเนรคุณ"

"เป็นแค่คนรับใช้ของตระกูลหวัง แต่กลับขโมยของ โชคดีที่ข้าจับได้"

"ตามกฎของตระกูลหวัง จะไม่มีการให้อภัยใดๆให้กับเจ้าเป็นอันขาด!"

แม่เฒ่าหลี่กำลังจะฟาดแส้อีกครั้ง

แต่โจวหยวนก็วิ่งเข้ามา รีบขวางหน้าซื่อเหลียนแล้วถามเสียงดัง "พวกเจ้าจะใส่ร้ายคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง?!"

"ซื่อเหลียนขโมยอะไรไปงั้นรึ?!"

พอเห็นโจวหยวน แม่เฒ่าหลี่ก็ยิ้มเยาะออกมา

นางพูดเยาะเย้ย "ดูในห่อผ้าบนพื้นนั่นสิ!"

"นี่คือสิ่งที่ข้าเจอในห้องของซื่อเหลียน"

โจวหยวนมองดู

ในห่อผ้ามีขนม ขาไก่ และอื่นๆ

เมื่อเห็นแบบนี้ โจวหยวนจึงตกใจและรีบพูดว่า "แม่เฒ่าหลี่ ของพวกนี้เป็นของที่ท่านเจ้าบ้านกินเหลือ ซื่อเหลียนแค่เก็บมาจะถือว่าเป็นการขโมยได้ยังไงกัน?!"

"หึ ของที่เก็บมาได้จะยังอยู่ครบขนาดนี้เชียวรึ?"

"ดูให้ดีๆก่อนสิ!"

โจวหยวนเพ่งมองอีกครั้ง

จริงอย่างที่แม่เฒ่าหลี่ว่า ขนมและขาไก่ข้างในนั้นแทบจะไม่เหมือนกับของเหลือเลย

มันต่างจากอาหารเหลือที่ซื่อเหลียนเคยเก็บมาอย่างเห็นได้ชัด

ตอนนี้ ซื่อเหลียนได้พูดขึ้น

เธอพูดด้วยเสียงเย็นชา "โจวหยวน ไม่ต้องเสียเวลาพูดกับยายแก่คนนี้แล้ว"

"ถ้าอยากจะใส่ร้าย ก็หาเรื่องมาพูดได้ไม่ยาก"

"ถ้านางอยากจะฆ่าข้า ก็ให้นางฆ่าไป"

"ถ้าครั้งนี้นางฆ่าข้าไม่ได้ ข้าจะฆ่านางด้วยมือของข้าในภายหลังเอง!"

ซื่อเหลียนไม่อยากจะอธิบายอะไรมาก

หรือบางทีเธออาจจะเข้าใจแล้ว

เพราะของพวกนี้ จริงๆแล้วเธอเป็นคนเก็บมา

แต่ครั้งนี้เธอเก็บมาได้ง่ายเกินไปและยังไม่เหมือนกับของกินเหลือด้วย

มันแตกต่างจากครั้งก่อนๆมาก

และเมื่อรวมกับที่แม่เฒ่าหลี่สามารถหาห่อผ้าของเธอเจอได้อย่างรวดเร็ว

จึงเห็นได้ชัดว่านี่เป็นแผนของแม่เฒ่าหลี่

ของพวกนี้ แม่เฒ่าหลี่ตั้งใจเอามาใส่ไว้

เพื่อที่จะใส่ร้ายว่าเธอขโมยของ

ซื่อเหลียนถึงกับยอมรับเลยว่าครั้งนี้เธอประมาทแม่เฒ่าหลี่เกินไป

ไม่คิดว่ายายแก่คนนี้จะใจร้ายได้ขนาดนี้

การขโมยของนั้นเป็นความผิดร้ายแรง โดยเฉพาะคนรับใช้ที่ขโมยของสามารถถูกเจ้านายฆ่าให้ตายได้เลย!

"เข้าใจผิดแล้ว! นี่ต้องเป็นการเข้าใจผิดกันแน่ๆ!"

"เหลียนน้อยไม่มีทางขโมยของหรอก!"

โจวหยวนยังคงพยายามขอร้องแม่เฒ่าหลี่

แต่แม่เฒ่าหลี่กลับสั่งให้คนลากโจวหยวนออกไป

"โจวหยวน ในเมื่อเจ้าไม่ใช่คนของตระกูลหวัง ตอนนี้ข้าก็จะไม่ถือสาอะไรเจ้า"

"ข้าแค่ทำตามกฎของตระกูลหวังเท่านั้น แต่ถ้าเจ้ายังเข้ามาขัดขวางอีก ข้าก็จะโบยเจ้าด้วยเช่นกัน!"

"ฟาดมันสิ ฟาดให้หนักๆ! ฟาดจนกว่านางจะไม่กล้าจ้องข้าอีก!"

แม่เฒ่าหลี่ยื่นแส้ให้คนรับใช้คนหนึ่งและสั่งให้ฟาดแรงๆ

โจวหยวนร้อนใจมาก

เขาดูออกว่าแม่เฒ่าหลี่ตั้งใจจะฆ่าซื่อเหลียน!

โจวหยวนเห็นซื่อเหลียนถูกทรมานอย่างเจ็บปวด แต่ก็ไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

โจวหยวนกัดฟันแน่นแล้วจึงหันหลังวิ่งไป

เขาจำได้แม่นว่าซื่อหวินเป็นคนที่ฝึกยุทธ

ถ้าหากจะมีใครที่ช่วยซื่อเหลียนได้ ก็มีแค่ซื่อหวินเท่านั้น

เขาจะต้องรีบไปบอกเรื่องนี้ให้ซื่อหวินรู้

ถ้าหากว่าช้าไป ซื่อเหลียนจะต้องถูกแม่เฒ่าหลี่ฆ่าตายจริงๆแน่!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด