ตอนที่แล้วบทที่ 179 ปีศาจหลัวเฉิง 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 181 ไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน 

บทที่ 180 จัดตั้งกลุ่ม


“หลัวเฉิง เจ้าไม่ได้ฟังที่ข้าบอกกระนั้นหรือ?”

ใบหน้าของจั่วฉางซานมืดลง น้ำเสียงที่ใช้ก็ทุ้มต่ำ

เขาเพิ่งเอ่ยปากขอชีวิตหลินจินไท่ แต่หลัวเฉิงกลับลงมืออย่างโหดเหี้ยม ไม่ไว้หน้าเขาแม้แต่น้อย!

หลัวเฉิงมองจั่วฉางซาน แล้วกล่าวน้ำเสียงราบเรียบ

“นี่มันเรื่องส่วนตัวของข้า หาใช่สิ่งที่เจ้าจะยื่นมือเข้าแทรกไม่ หากเจ้าคิดจะออกหน้าแทนเขา ก็เข้ามาได้เลย ข้าจะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเจ้าจนวาระสุดท้าย!”

“โอหังนัก!”

จั่วฉางซานไม่คิดเลยว่าหลัวเฉิงจะหยิ่งผยองเช่นนี้ ใบหน้าเขาเปี่ยมไปด้วยความโกรธจนเขียวคล้ำ

สำหรับความแข็งแกร่งของหลัวเฉิง จั่วฉางซานไม่รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้นรวดเร็วมาก เช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ จั่วฉางซานคิดว่าหลินจินไท่เพียงประมาทชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น จึงทำให้หลัวเฉิงสามารถเอาชนะได้

ท้ายที่สุด ผู้ใดจะคาดคิดว่า คนที่มีวิญญาณยุทธ์ขยะจะสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าได้!

หากเป็นการต่อสู้กันซึ่งหน้า มีหรือหลัวเฉิงจะใช่คู่ต่อสู้ของหลินจินไท่!

อีกทั้งความแข็งแกร่งของจั่วฉางซานยังสูงกว่าหลินจินไท่อีก ดังนั้นจึงเป็นปกติที่เขาไม่เห็นหลัวเฉิงอยู่ในสายตา

ฟ่อ!

ในขณะที่บรรยากาศตึงเครียดจนถึงขีดสุด จู่ๆ ก็มีเสียงคำรามอันน่าพรั่นพรึงดังก้องไปทั่วทั้งหุบเขา พานให้ห้วงอากาศโดยรอบสั่นสะเทือน

“งูยักษ์เกล็ดดำมันรับรู้ถึงการมาเยือนของพวกเราแล้ว!”

หนึ่งในนั้นอุทานด้วยความตื่นตระหนก

ใต้ต้นไม้ใหญ่ งูยักษ์เกล็ดดำที่เดิมเคยนอนหดตัวอยู่เงียบๆ ยามนี้มันกลับยกศีรษะขึ้นสูง ดวงตาแดงฉานประดุจคบเพลิงของมันกำลังสาดส่องต้องยังป่าทึบแห่งนี้ สร้างแรงกดดันอันหน้าครั่นคร้ามพานให้ผู้คนที่สัมผัสได้ต่างตัวสั่นเทา!

หนึ่งในสิบตัวเต็ง หยวนจื่อหลานซึ่งสวมชุดแพรสีฟ้า รูปลักษณ์สง่างามพลันกล่าวเตือนสติ

“เรื่องการต่อสู้ของพวกเจ้าเอาไว้ทีหลังเถิด การได้มาซึ่งผลหยวนหลิงนับเป็นเรื่องสำคัญกว่า”

จั่วฉางซานมองหลัวเฉิงแวบหนึ่ง ก่อนกล่าวน้ำเสียงหนักแน่น

“เช่นนั้นก็ทำตามแผนเดิม พวกเจ้าจัดกลุ่มเพื่อหลอกล่อความสนใจของงูยักษ์เกล็ดดำ!”

จั่วฉางซานสั่งการผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าที่เข้าร่วม

เมื่อคนกลุ่มนี้มองไปยังงูยักษ์เกล็ดดำ แววตาก็ปรากฏความหวาดกลัวออกมาจากก้นบึ้ง

งูยักษ์เกล็ดดำนั้นมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่ง แรงกดดันที่ถูกแผ่ออกมานั้นคล้ายกับก้อนหินขนาดใหญ่กดทับหัวใจของทุกคน

หลัวเฉิงไม่รอช้าอีกต่อไป เขาก้าวออกมาข้างหน้าแล้วกล่าวน้ำเสียงหนักแน่น

“มีใครอยากจะร่วมกลุ่มกับข้าบ้าง ผลหยวนหลิงที่ได้มา พวกเราจะแบ่งให้เท่าๆ กัน”

วาจานี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงทันที

แววตาเขาเหล่านั้นต่างมองหลัวเฉิงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

การเสนอจัดตั้งกลุ่มแยกออกไปในครั้งนี้ ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงการแย่งชิงผลหยวนหลิงกับสิบตัวเต็งได้ มิต่างอันใดกับการท้าทายสิบตัวเต็งซึ่งหน้า!

ช่างเป็นผู้กล้าเสียนี่กระไร!

จั่วฉางซานหัวร่อแล้วกล่าววาจาเย้ยหยัน “เจ้าช่างไม่รู้จักประมาณตน! งูยักษ์เกล็ดดำเป็นสัตว์อสูรขั้นสูงสุดสองดาว มันสามารถกลืนเจ้าเข้าไปได้ในคำเดียว! เจ้าคิดอย่างไรว่าจะสามารถคว้าผลหยวนหลิงได้ หากเจ้าคิดใช้วิธีสกปรกฉวยโอกาส ข้าจะไม่มีทางยอมเป็นอันขาด!”

“ข้าย่อมมีแผนการของข้าเอง”

หลัวเฉิงไม่แยแสต่อวาจานั้น แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “มีผู้ใดอยากร่วมกลุ่มกับข้าหรือไม่? ข้ามั่นใจว่ามีโอกาสมากถึงหกหรือเจ็ดส่วนที่จะสามารถคว้าผลหยวนหลิงได้”

สิ่งที่หลัวเฉิงกล่าวมานั้นล้วนเป็นความจริง

เขามั่นใจว่าตนเองสามารถต้านทานงูยักษ์เกล็ดดำได้ชั่วคราว แต่ยังต้องการใครสักคนที่จะช่วยเขาเก็บผลหยวนหลิงเท่านั้น

“ฮ่าๆ โอกาสหกถึงเจ็ดส่วนเลยงั้นหรือ? วาจาเช่นนั้นผู้ใดก็สามารถกล่าวได้!”

จั่วฉางซานพ่นวาจาเหยียดหยาม เนื่องจากกลุ่มของพวกเขานั้นมีคนจำนวนเยอะมาก แต่ก็ยังไม่กล้ากล่าววาจาเช่นนี้เลย

“ข้าอยากจะเห็นนักว่า จะมีคนโง่เขลาที่ไหนยอมเชื่อเจ้าบ้าง!”

ทันทีที่จั่วฉางซานกล่าวจบ เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้น นั่นคือกู่หลิงเฟิงผู้สง่างามที่ก้าวออกมา

“ข้าจะร่วมมือกับเจ้า”

“เจ้า!”

เมื่อเห็นว่ามีคนกล้าหยามน้ำหน้าเขา จั่วฉางซานก็เดือดดาลและกำลังจะระเบิดอารมณ์ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นกู่หลิงเฟิง วาจาด่าทอที่จั่วฉางซานกำลังจะพ่นออกมาก็ถูกกลืนลงท้องไป

ที่ต้องทำเช่นนั้นเพราะเขาไม่มีทางเลือก เนื่องจากกู่หลิงเฟิงมีฝีมือสูงส่งกว่าเขาไม่น้อย

“ฮ่าฮ่า กู่หลิงเฟิง เจ้าเชื่อคำพูดพล่อยๆ ของเจ้าเด็กนี่จริงหรือ?”

จั่วฉางซานกล่าวเย้ยหยัน

กู่หลิงเฟิงยิ้มน้อยๆ พลางกล่าวว่า “อย่างไรเสียตามแผนเดิมก็ไม่มีผู้ใดมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ ไม่ว่าจะรวมกลุ่มกับใครมันก็คงไม่ต่างกัน อาการเดิมพันของข้าถูกต้อง ข้าก็จะได้ผลหยวนหลิงเพิ่มขึ้นอีกสองสามผล”

“เช่นนั้นข้าขอเดิมพันด้วยคน ช่วยนับข้าเข้าไปในกลุ่มด้วยได้หรือไม่?”

น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานถูกขานขึ้นอย่างสดใส เสียงเมื่อครู่เป็นของสตรีผู้สวมแพรพรรณสีฟ้ารูปลักษณ์หมดจดงดงาม หยวนจื่อหลาน นางกล่าวพร้อมรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้มขณะเดินเข้ามารวมกลุ่ม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด