บทที่ 180 จัดตั้งกลุ่ม
“หลัวเฉิง เจ้าไม่ได้ฟังที่ข้าบอกกระนั้นหรือ?”
ใบหน้าของจั่วฉางซานมืดลง น้ำเสียงที่ใช้ก็ทุ้มต่ำ
เขาเพิ่งเอ่ยปากขอชีวิตหลินจินไท่ แต่หลัวเฉิงกลับลงมืออย่างโหดเหี้ยม ไม่ไว้หน้าเขาแม้แต่น้อย!
หลัวเฉิงมองจั่วฉางซาน แล้วกล่าวน้ำเสียงราบเรียบ
“นี่มันเรื่องส่วนตัวของข้า หาใช่สิ่งที่เจ้าจะยื่นมือเข้าแทรกไม่ หากเจ้าคิดจะออกหน้าแทนเขา ก็เข้ามาได้เลย ข้าจะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเจ้าจนวาระสุดท้าย!”
“โอหังนัก!”
จั่วฉางซานไม่คิดเลยว่าหลัวเฉิงจะหยิ่งผยองเช่นนี้ ใบหน้าเขาเปี่ยมไปด้วยความโกรธจนเขียวคล้ำ
สำหรับความแข็งแกร่งของหลัวเฉิง จั่วฉางซานไม่รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้นรวดเร็วมาก เช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ จั่วฉางซานคิดว่าหลินจินไท่เพียงประมาทชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น จึงทำให้หลัวเฉิงสามารถเอาชนะได้
ท้ายที่สุด ผู้ใดจะคาดคิดว่า คนที่มีวิญญาณยุทธ์ขยะจะสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าได้!
หากเป็นการต่อสู้กันซึ่งหน้า มีหรือหลัวเฉิงจะใช่คู่ต่อสู้ของหลินจินไท่!
อีกทั้งความแข็งแกร่งของจั่วฉางซานยังสูงกว่าหลินจินไท่อีก ดังนั้นจึงเป็นปกติที่เขาไม่เห็นหลัวเฉิงอยู่ในสายตา
ฟ่อ!
ในขณะที่บรรยากาศตึงเครียดจนถึงขีดสุด จู่ๆ ก็มีเสียงคำรามอันน่าพรั่นพรึงดังก้องไปทั่วทั้งหุบเขา พานให้ห้วงอากาศโดยรอบสั่นสะเทือน
“งูยักษ์เกล็ดดำมันรับรู้ถึงการมาเยือนของพวกเราแล้ว!”
หนึ่งในนั้นอุทานด้วยความตื่นตระหนก
ใต้ต้นไม้ใหญ่ งูยักษ์เกล็ดดำที่เดิมเคยนอนหดตัวอยู่เงียบๆ ยามนี้มันกลับยกศีรษะขึ้นสูง ดวงตาแดงฉานประดุจคบเพลิงของมันกำลังสาดส่องต้องยังป่าทึบแห่งนี้ สร้างแรงกดดันอันหน้าครั่นคร้ามพานให้ผู้คนที่สัมผัสได้ต่างตัวสั่นเทา!
หนึ่งในสิบตัวเต็ง หยวนจื่อหลานซึ่งสวมชุดแพรสีฟ้า รูปลักษณ์สง่างามพลันกล่าวเตือนสติ
“เรื่องการต่อสู้ของพวกเจ้าเอาไว้ทีหลังเถิด การได้มาซึ่งผลหยวนหลิงนับเป็นเรื่องสำคัญกว่า”
จั่วฉางซานมองหลัวเฉิงแวบหนึ่ง ก่อนกล่าวน้ำเสียงหนักแน่น
“เช่นนั้นก็ทำตามแผนเดิม พวกเจ้าจัดกลุ่มเพื่อหลอกล่อความสนใจของงูยักษ์เกล็ดดำ!”
จั่วฉางซานสั่งการผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าที่เข้าร่วม
เมื่อคนกลุ่มนี้มองไปยังงูยักษ์เกล็ดดำ แววตาก็ปรากฏความหวาดกลัวออกมาจากก้นบึ้ง
งูยักษ์เกล็ดดำนั้นมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่ง แรงกดดันที่ถูกแผ่ออกมานั้นคล้ายกับก้อนหินขนาดใหญ่กดทับหัวใจของทุกคน
หลัวเฉิงไม่รอช้าอีกต่อไป เขาก้าวออกมาข้างหน้าแล้วกล่าวน้ำเสียงหนักแน่น
“มีใครอยากจะร่วมกลุ่มกับข้าบ้าง ผลหยวนหลิงที่ได้มา พวกเราจะแบ่งให้เท่าๆ กัน”
วาจานี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงทันที
แววตาเขาเหล่านั้นต่างมองหลัวเฉิงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
การเสนอจัดตั้งกลุ่มแยกออกไปในครั้งนี้ ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงการแย่งชิงผลหยวนหลิงกับสิบตัวเต็งได้ มิต่างอันใดกับการท้าทายสิบตัวเต็งซึ่งหน้า!
ช่างเป็นผู้กล้าเสียนี่กระไร!
จั่วฉางซานหัวร่อแล้วกล่าววาจาเย้ยหยัน “เจ้าช่างไม่รู้จักประมาณตน! งูยักษ์เกล็ดดำเป็นสัตว์อสูรขั้นสูงสุดสองดาว มันสามารถกลืนเจ้าเข้าไปได้ในคำเดียว! เจ้าคิดอย่างไรว่าจะสามารถคว้าผลหยวนหลิงได้ หากเจ้าคิดใช้วิธีสกปรกฉวยโอกาส ข้าจะไม่มีทางยอมเป็นอันขาด!”
“ข้าย่อมมีแผนการของข้าเอง”
หลัวเฉิงไม่แยแสต่อวาจานั้น แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “มีผู้ใดอยากร่วมกลุ่มกับข้าหรือไม่? ข้ามั่นใจว่ามีโอกาสมากถึงหกหรือเจ็ดส่วนที่จะสามารถคว้าผลหยวนหลิงได้”
สิ่งที่หลัวเฉิงกล่าวมานั้นล้วนเป็นความจริง
เขามั่นใจว่าตนเองสามารถต้านทานงูยักษ์เกล็ดดำได้ชั่วคราว แต่ยังต้องการใครสักคนที่จะช่วยเขาเก็บผลหยวนหลิงเท่านั้น
“ฮ่าๆ โอกาสหกถึงเจ็ดส่วนเลยงั้นหรือ? วาจาเช่นนั้นผู้ใดก็สามารถกล่าวได้!”
จั่วฉางซานพ่นวาจาเหยียดหยาม เนื่องจากกลุ่มของพวกเขานั้นมีคนจำนวนเยอะมาก แต่ก็ยังไม่กล้ากล่าววาจาเช่นนี้เลย
“ข้าอยากจะเห็นนักว่า จะมีคนโง่เขลาที่ไหนยอมเชื่อเจ้าบ้าง!”
ทันทีที่จั่วฉางซานกล่าวจบ เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้น นั่นคือกู่หลิงเฟิงผู้สง่างามที่ก้าวออกมา
“ข้าจะร่วมมือกับเจ้า”
“เจ้า!”
เมื่อเห็นว่ามีคนกล้าหยามน้ำหน้าเขา จั่วฉางซานก็เดือดดาลและกำลังจะระเบิดอารมณ์ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นกู่หลิงเฟิง วาจาด่าทอที่จั่วฉางซานกำลังจะพ่นออกมาก็ถูกกลืนลงท้องไป
ที่ต้องทำเช่นนั้นเพราะเขาไม่มีทางเลือก เนื่องจากกู่หลิงเฟิงมีฝีมือสูงส่งกว่าเขาไม่น้อย
“ฮ่าฮ่า กู่หลิงเฟิง เจ้าเชื่อคำพูดพล่อยๆ ของเจ้าเด็กนี่จริงหรือ?”
จั่วฉางซานกล่าวเย้ยหยัน
กู่หลิงเฟิงยิ้มน้อยๆ พลางกล่าวว่า “อย่างไรเสียตามแผนเดิมก็ไม่มีผู้ใดมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ ไม่ว่าจะรวมกลุ่มกับใครมันก็คงไม่ต่างกัน อาการเดิมพันของข้าถูกต้อง ข้าก็จะได้ผลหยวนหลิงเพิ่มขึ้นอีกสองสามผล”
“เช่นนั้นข้าขอเดิมพันด้วยคน ช่วยนับข้าเข้าไปในกลุ่มด้วยได้หรือไม่?”
น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานถูกขานขึ้นอย่างสดใส เสียงเมื่อครู่เป็นของสตรีผู้สวมแพรพรรณสีฟ้ารูปลักษณ์หมดจดงดงาม หยวนจื่อหลาน นางกล่าวพร้อมรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้มขณะเดินเข้ามารวมกลุ่ม