บทที่ 178 จุดอ่อนมังกร!
คนที่พูดเมื่อครู่พลันก้มหน้า ความหวาดกลัวทำให้เขาไม่อาจกล่าวสิ่งใดออกมาได้อีก
หลินจินไท่กล่าวเสียงดัง “หากไม่มีปัญหาใดอีก เราจะทำตามนี้! ถ้าผู้ใดไม่ทำตามแผน เราจะฆ่ามันทันที!”
“คงไม่มีผู้ใดกล้ากระมัง!”
จั่วฉางซานกล่าวเคล้าขบขัน
แม้แต่ตัวเต็งสิบคนก็ไม่อาจรับมือกับคนจำนวนมากได้ในคราเดียว!
เพียงไม่นาน ก็เตรียมตัวพร้อมเป็นที่เรียบร้อย
นอกจากตัวเต็งแปดคนที่อยู่ในที่นี้โดยไม่ลงมือเองแล้ว ยังมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าอีกหลายสิบคน ที่ถูกบังคับให้ต้องร่วมมือเพื่อดึงดูดความสนใจของงูยักษ์ตัวนั้น
“ผลประโยชน์ทั้งหมดเป็นของพวกเขา แต่ความเสี่ยงทั้งหมดเป็นของเรา”
“เราไม่มีทางเลือกอีก อยู่ใต้ชายคาเขาเราต้องก้มหน้า โชคดีที่นี่เป็นเพียงแค่การดึงดูดความสนใจของงูยักษ์เท่านั้น อาจไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต”
“อดทนไว้ก่อน เมื่อใดที่พวกเขากลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอก พวกเราก็จะกลายเป็นยอดฝีมือในบรรดาศิษย์บำรุงสำนัก!”
แม้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าเหล่านี้ไม่พอใจ แต่พวกเขาก็มีแค่ทางเลือกเดียวคือต้องยอมรับเท่านั้น
หลัวเฉิงฟังการสนทนาของคนอื่นๆ แล้ว ตนก็เกิดความรู้สึกเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ไม่ว่าที่แห่งใดก็ล้วนแล้วแต่เป็นเช่นนี้ ความแข็งแกร่งมาเป็นอันดับแรก หากไร้ซึ่งพลัง ก็ย่อมต้องเป็นผู้ต่ำต้อยเสมอ!
หลัวเฉิงมองยังต้นไม้ใหญ่ แล้วคิดในใจว่า “หากพวกเขาดึงดูดความสนใจของงูยักษ์สำเร็จ ข้าก็อาจจะได้เก็บผลหยวนหลิงในขณะที่คนอื่นไม่ทันระวัง…”
ขณะที่หลัวเฉิงกำลังไตร่ตรองเรื่องนี้อยู่ หลินจินไท่ก็หันมาชี้นิ้วใส่เขาพร้อมสั่งกำชับว่า
“เจ้าก็ต้องไปด้วย! เพราะเจ้าต้องไปเป็นหัวหอก!”
คนอื่นๆ ในที่นี้ต่างรู้สึกไม่สบายใจ ทั้งยังมีบางคนแสดงสีหน้าเบิกบานเมื่อเห็นผู้อื่นได้ประสบเคราะห์กรรม
คนที่เป็นหัวหอกจะถูกงูยักษ์ให้ความสนใจมากที่สุด ซึ่งหมายความว่าผู้นั้นมีโอกาสตายสูงกว่าใคร นี่เท่ากับการส่งหลัวเฉิงไปตายเท่านั้น!
หลัวเฉิงเพียงเหลือบมอง แต่มิได้ตอบคล้ายดั่งว่าเขาไม่ได้ยินคำสั่งนั้น
“หืม?”
หลินจินไท่หรี่ตามอง หลัวเฉิงผู้นี้ทำให้เขาเดือดดาลหลายครั้ง จนแทบจะหมดความอดทน จึงกล่าวน้ำเสียงเย็นชา
“เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าสั่งหรือ? ออกไปยืนข้างหน้าไอ้ลูกนอกคอก! ไม่เช่นนั้น ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่าการอยู่ไม่สู้ตายนั้นเป็นอย่างไร!”
“เจ้าว่าอะไรนะ?”
เสียงหลัวเฉิงเยือกเย็นลงขณะจ้องหลินจินไท่ แรงกดดันจากสายตาเขาคล้ายกับมังกรกำลังเกรี้ยวกราดระบายโทสะใส่ขุนเขาจนย่อยยับ ทำให้คนที่อยู่ใกล้ต่างสะดุ้งเฮือก
ในตอนที่เขายังเป็นเด็กและอาศัยอยู่ในเมืองฉีซาน เคยมีคนหนึ่งเรียกหลัวเฉิงว่า “ลูกนอกคอก” และเขาชกหมัดใส่คนผู้นั้นจนปางตาย!
หลังจากนั้น ก็ไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวคำนี้ต่อหน้าเขาอีกเลย!
มังกรมีจุดอ่อนเหนือเศียร หากถูกทำร้ายตรงนั้นมันจะต้องตาย
หากเทียบกัน สองคำเมื่อครู่ก็คือจุดอ่อนที่เหนือเศียรของหลัวเฉิง!!
หลินจินไท่สะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นสายตาของหลัวเฉิง จากนั้นเหยียดยิ้มเยาะ
“ฮ่าๆ ตอนนี้ทุกคนในสำนักซวนหยวนรู้กันทั่วแล้ว ว่าเจ้าเป็นลูกนอกคอกที่ถูกตระกูลจีทอดทิ้ง! เจ้ามันก็แค่…”
ก่อนที่หลินจินไท่จะกล่าวจบคำ แววตาก็ปรากฏเห็นเงาร่างหนึ่งชักกระบี่แล้ววิ่งเข้าใส่เขา โดยไม่สะทกสะท้าน หลินจินไท่เหยียดยิ้มเยือกเย็นแล้วตวาดเสียงแข็งกร้าว
“ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตาย ข้าจะสงเคราะห์เจ้าเอง! กระบี่สุวรรณ!”
หลังกระบี่ยาวถูกชักออก หลินจินไท่ก็ร่ายรำกระบี่แสงเยือกเย็นฟาดเข้าใส่หลัวเฉิงทันที
เคร้ง!
กระบี่สองเล่มเข้าปะทะกัน แต่ทันใดหลินจินไท่ก็หน้าซีดถอดสี เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังอันมหาศาลที่ไม่อาจต้านทานได้ พานให้กระบี่ในมือเขาถูกกระแทกปลิวออกไป!
“นี่เป็นไปได้อย่างไร!”
หลินจินไท่พลันผงะตกใจแต่ยังไม่ทันได้ตอบสนอง แขนขวาก็สัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นที่แผ่ซ่านอย่างกะทันหัน เมื่อหันไปมองก็พบว่าแขนขวาตนนั้นถูกสะบั้นขาดไปแล้ว ยังไม่ทันกระพริบตาความเจ็บปวดแสนสาหัสก็ถาโถมเข้าปะทะทันที
“อ๊า! แขนของข้า! แขนของข้า…”
เสียงร้องโหยหวนของหลินจินไท่ดังก้องกังวานไปทั่วป่าทึบ