ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1255 เปิดถ้ำปีศาจ (อ่านฟรี)
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1255 เปิดถ้ำปีศาจ (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
สถานะของวัดภูเขาทองในมณฑลยงโจวเทียบเท่ากับสถานะของวัดเทวนาคาในมณฑลชิงโจว แท้จริงแล้ววัดแห่งนี้เก่าแก่ยิ่งกว่าวัดเทวนาคา มันดำรงอยู่มามากกว่าหมื่นปี
คืนนี้เพื่อจัดการศัตรูของพระพุทธเจ้า ราชานักบวชของวัดต้องระดมกำลังและเปิดใช้ค่ายกลทั้งหมด
เสี่ยวอันยืนอยู่บนยอดเขาลูกหนึ่ง นางมองไปที่วัดภูเขาทองซึ่งเรืองแสงสีทองก่อนจะกระโดดลงไปพร้อมกระบี่บาปอมตะ
กลางอากาศ นางรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่และพุ่งตรงไปที่วัดภูเขาทอง
มีค่ายกลไม่มากบนโลกใบนี้ที่สามารถปิดกั้นกระบี่บาปอมตะ แน่นอนว่ามันเจาะทะลวงทุกสิ่งกีดขวางตรงหน้าได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามการเข้าไปภายในค่ายกลมักทำให้ผู้บุกรุกพบกับอันตราย การทำลายค่ายกลจากภายในก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ย้อนกลับไปแม้ราชาตั๊กแตนทะยานจะเกลียดชังวัดเทวนาคามากเพียงใด มันก็ไม่เคยโจมตีภูเขาพระใหญ่
แสงสีทองพุ่งมาจากขอบฟ้า เจ้าอาวาสวัดภูเขาทองรีบกลับมาและกระตุ้นใช้งานค่ายกลจากระยะไกล ในเวลาเดียวกันเขาก็ติดต่อแขกผู้ทรงเกียรติ “ศัตรูของพระพุทธเจ้าอยู่ที่นี่ โปรดมาสนับสนุนด่วน!”
ระฆังเตือนภัยของวัดดังขึ้น ร่างของเทพผู้พิทักษ์ปรากฏขึ้นพร้อมผีผาในมือ เขาดีดผีผาเพื่อหยุดผู้บุกรุก แต่กระบี่บาปอมตะดิ้นเหมือนปลาและพุ่งเข้าหาเทพผู้พิทักษ์โดยตรง นั่นคือแกนกลางของค่ายกลซึ่งตั้งอยู่ในหอพระใหญ่
‘ศัตรูของพระพุทธเจ้าเดินเข้าสู่ตาข่ายด้วยตัวเองงั้นหรือ?’
เจ้าอาวาสวัดภูเขาทอทั้งประหลาดใจและดีใจ ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดเมื่อเห็นแสงที่บิดเบี้ยวหายไปในภูเขา ‘โอ้ ไม่ ศัตรูของพระพุทธเจ้ากำลังพยายามเปิดถ้ำปีศาจเพื่อให้เผ่าปีศาจบุกเข้ามา!’
วัดภูเขาทองและวัดเทวนาคามีความคล้ายคลึงกันประการหนึ่ง นั่นคือทั้งสองวัดมีถ้ำปีศาจตั้งอยู่
ภูเขาเริ่มสั่นสะเทือน ราวกับสัตว์ร้ายร่างยักษ์พยายามพลิกตัว
บ่อน้ำทุกแห่งบนภูเขาเดือดพล่านด้วยปราณปีศาจ
จิตวิญญาณกระบี่บาปอมตะกล่าว “น่าขันนัก เมื่อก่อนเจ้าพยายามทุกวิถีทางเพื่อหยุดข้าจากการเปิดถ้ำปีศาจ! แต่เจ้าก็เป็นเจ้านายที่ข้าพอใจที่สุด นอกจากทักษะกระบี่ที่ยังขาดๆเกินๆของเจ้า สิ่งต่างๆของเจ้าก็น่าสนใจกว่าตาแก่นั่นมาก!”
ย้อนกลับไป กระบี่บาปอมตะเป็นผู้ทำลายผนึกและเปิดถ้ำปีศาจในมณฑลชิงโจว
เสี่ยวอันไม่กล่าวสิ่งใด นางฟาดกระบี่อีกครั้ง และโซ่ที่พันอยู่รอบๆถ้ำปีศาจก็ถูกตัดขาดไปอีกหนึ่งในสามส่วน ปราณปีศาจแผ่พุ่งออกมา
“หยุด! ศัตรูของพระพุทธเจ้า!”
เจ้าอาวาสวัดภูเขาทองคำรีบวิ่งเข้าไปพร้อมเสียงคำรามของราชสีห์พันตัว เผ่าปีศาจที่เริ่มเคลื่อนไหวอยู่ในถ้ำปีศาจต่างตกตะลึง
ระฆังปลุกวิญญาณที่เอวของเสี่ยวอันส่งเสียงดังทำให้เสียงคำรามของราชสีห์หยุดลง
ด้วยการฟาดกระบี่อีกครั้ง โซ่ทั้งหมดก็พังทลาย ถ้ำปีศาจเปิดออก
ปราณปีศาจพวยพุ่งออกมาจากรอยแยกและลอยขึ้นสู่อากาศ มันกลืนกินหอพระใหญ่และห่อหุ้มวัดภูเขาทองเอาไว้ทั้งหมด
ร่างของเทพผู้พิทักษ์เริ่มสั่นไหว ท้ายที่สุดมันก็เป็นเพียงค่ายกล
นับตั้งแต่เข้าไปในวัดภูเขาทองจนถึงการเปิดถ้ำปีศาจ นางใช้เวลาเพียงสามวินาที นางฟันกระบี่เพียงสามครั้ง
และนั่นอยู่ภายใต้ค่ายกลราชาสวรรค์ของวัดภูเขาทอง มิฉะนั้นการสะบัดกระบี่ครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว
ระหว่างการต่อสู้บนภูเขาพระใหญ่ กระบี่บาปอมตะยังไม่มีเจ้าของ มันอาศัยเพียงการกลืนกินผู้อาวุโสสวรรค์เพื่อให้ได้รับพลังมาเท่านั้น ตอนนี้มันมีเจ้าของที่มีความสามารถและยังครอบครองเคล็ดวิชาหลอมรวมสวรรค์พิภพ ดังนั้นมันจึงทรงพลังมาก
วัดภูเขาทองตกสู่ความโกลาหล ภูเขาสั่นสะเทือน ปราณปีศาจแผ่กระจาย แม้แต่ร่างของเทพผู้พิทักษ์ก็ยังไม่มั่นคง
ทันใดนั้นเหล่านักบวชรู้สึกเหมือนเห็นพระผู้ช่วยชีวิต พวกเขาตะโกน “ท่านเจ้าอาวาส!”
อย่างไรก็ตามเจ้าอาวาสวัดภูเขาทองรู้สึกเหมือนยืนอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิด
เจ้าอาวาสวัดภูเขาทองกล่าว “พระพุทธองค์ทรงเมตตา ขับไล่ปีศาจ!”
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประทับนั่งอยู่ในหอพระใหญ่ยืนขึ้นอย่างช้าๆ กระเบื้องหินขัดเงาใต้เท้าของพระพุทธรูปทรุดตัวลงทันทีขณะที่แสงสีทองแผ่กระจายไปทั่ว รูปปั้นพระโพธิสัตว์และพระอรหันต์ที่อยู่รอบๆก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน ราวกับสถานที่แห่งนี้กลายเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งพุทธศาสนาไปแล้ว
เห็นได้ชัดว่าวัดภูเขาทองมีความสามารถเทียบเท่ากับวัดเทวนาคาหรืออาจแข็งแกร่งกว่า
พระพุทธรูปองค์ใหญ่รวบรวมพลังแห่งศรัทธามานานกว่าหมื่นปี มันทรงพลังมาก ในอดีต พระใหญ่เคยทำให้เสี่ยวอันตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมาแล้ว หากหลี่ฉิงซานไม่เข้าแทรกแซง นางอาจเผชิญหน้ากับอันตรายถึงชีวิต มรดกที่อยู่เบื้องหลังนิกายพุทธไม่สามารถประเมินต่ำ
‘ได้จังหวะพอดี ข้าจะใช้ค่ายกลเพื่อกักขังเจ้าไว้ที่นี่ จากนั้นข้าจะทำลายเจ้าด้วยพระพุทธรูป มาดูกันว่าตอนนี้เจ้าจะวิ่งไปที่ใดได้ ศัตรูของพระพุทธเจ้า!’
เจ้าอาวาสวัดภูเขาทองคิดเช่นนั้นขณะที่พระพุทธรูปองค์ใหญ่หยุดเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน เขาได้ยินเสียงแตกร้าวซึ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง
ด้านหลังพระพุทธรูปองค์ใหญ่ กระบี่สังหารพระพุทธเจ้าแทงลึกเข้าไปแล้ว มือสีขาวบริสุทธิ์จับด้ามกระบี่และบิดอย่างช้าๆ รอยแตกร้ายแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
ในชั่วพริบตา รอยแตกก็วิ่งผ่านแก้มของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ปกคลุมร่างกายทั้งหมด และแสงสีทองก็ลดความสว่างไสวลง มันกลับเป็นรูปปั้นตามปกติก่อนจะพังทลายลงทันที
เจ้าอาวาสวัดภูเขาทองจ้องมองด้วยความตื่นตระหนกและโกรธจัด
“ฆ่าศัตรูของพระพุทธเจ้า!”
เจ้าอาวาสวัดภูเขาทองคำราม แต่เสียงระฆังกลับดังขึ้นอีกครั้งและขัดขวางเสียงคำรามของราชสีห์
รูปปั้นพระโพธิสัตว์และพระอรหันต์พุ่งเข้าหานางพร้อมกัน รูปปั้นแต่ละชิ้นมีพลังเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนแก่นวิญญาณ ขณะที่ปีศาจโครงกระดูกถูกส่งกระจัดกระจายออกไปทั่วมณฑลยงโจว และธงทะเลเลือดก็ไม่อยู่ในสภาพที่จะใช้งานได้อีกต่อไป แม้จะมีกระบี่สองเล่มอยู่ในมือ นางก็ยังต้องดิ้นรนป้องกันการโจมตีร่วมกันครั้งนี้
“บึม!”
หอพระใหญ่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เศษชิ้นส่วนรูปปั้นระเบิดขึ้นสู่อากาศ
ลำแสงพุ่งออกจากหอพระใหญ่และข้ามผ่านศีรษะเจ้าอาวาสวัดภูเขาใหญ่ไปยังภูเขาอีกลูก
เจ้าอาวาสวัดภูเขาทองตระหนักได้ด้วยการชำเลืองมองเพียงครั้งเดียวว่าเป้าหมายของมันคือป่าสถูปเจดีย์ เขาโกรธจัด “กล้าดีอย่างไร ศัตรูของพระพุทธเจ้า!”
รูปปั้นพระโพธิสัตว์และพระอรหันต์วิ่งทะลุกำแพงออกมา ขณะที่หอพระใหญ่ส่งสัญญาณของการพังทลายลง