ตอนที่ 234 นายถูกสาวรวยๆ เลี้ยงดูอยู่หรือเปล่า?
“พวกนายต้องทำแบบนี้...แล้วก็แบบนี้...”
ชายหนุ่มร่างผอมที่เป็นหัวหน้ากลุ่มบอกสิ่งที่ต้องทำให้กับลูกน้องของเขา
“เข้าใจไหม?”
หลังจากอธิบายเสร็จ เขาก็ถามย้ำอีกครั้ง
“เข้าใจครับ”
“พี่จ้าว ฉลาดมากเลยครับ”
บรรดาลูกน้องต่างพากันชื่นชม แผนการของชายหนุ่มร่างผอมนี้ดีจริงๆ
“ใช่ พี่จ้าว นี่ฉลาดมากๆ... เอ่อ ไม่ๆ ไม่สิ ไม่ใช่ ‘มากๆ’ หรอก..”
ลูกน้องคนหนึ่งที่ปฏิกิริยาช้ากว่าเพื่อนเพิ่งพูดออกมา แต่ทันทีที่พูดคำว่า ‘มากๆ’ ออกไป เขาก็รู้สึกว่ามันอาจไม่ใช่คำชมที่ดีเท่าไรนัก จึงรีบแก้ไขคำพูดของตนเอง : (大聪明 - ฉลาดมากๆ แต่ในอีกบริบทหมายถึงคำพูดประชด - คิด หรือทำอะไรโง่ๆ)
“พี่จ้าว ไม่ ‘มากๆ’ หรอก พี่จ้าว เล็กมาก ใช่ เล็กมากๆ...”
พี่จ้าว เล็กมาก ใช่ เล็กมากๆ!
ทันทีที่พูดออกไป สีหน้าของชายหนุ่มร่างผอมก็เปลี่ยนเป็นดำมืดอย่างเห็นได้ชัด
“ไอ้เชี่ยเฮ้ย แกเองนั่นแหละที่เล็ก แกกับทั้งครอบครัวแกทั้งหมดนั่นแหละที่เล็ก...”
เขาอดรนทนไม่ไหวจึงตบสั่งสอนลูกน้องของเขาไปหลายที
“ในเมื่อทุกคนเข้าใจแล้ว งั้นไปจองตั๋วเครื่องบินกันเถอะ พรุ่งนี้เราจะกลับหางโจวไปเตรียมตัว”
“ฉันก็ต้องไปเตรียมตัวให้ดีเช่นกัน”
ชายหนุ่มร่างผอมไม่อยากจะเสียเวลากับลูกน้องโง่ๆ นี่อีกแล้ว
“เมื่อพวกนายเตรียมพร้อมแล้วก็ติดต่อฉันมา แล้วเราจะไปด้วยกัน และอย่าลืมเตรียมเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้กับพี่ใหญ่ ‘เย่’”
หลังจากสั่งการเสร็จ บรรดาลูกน้องก็เริ่มทำตามคำสั่งทันที
........
วันรุ่งขึ้น เย่เฉิน กับซู หนิงซวง ออกไปเที่ยวเล่นด้วยกัน
เย่เฉิน จอดรถเรียบร้อยแล้วลงจากรถมาก่อน ส่วน ซู หนิงซวง ต้องจัดการเรื่องส่วนตัวในรถจึงยังไม่ลงมา
“อย่าขยับ นี่คือการปล้น!”
ในขณะที่ เย่เฉิน หันหลังกลับมานั้น เสียงข่มขู่ก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขา
การปล้นเหรอ?
เมื่อได้ยินคำนี้ เย่เฉิน ก็ถึงกับชะงักไป แต่ไม่ใช่เพราะตกใจ แต่เพราะเสียงนั้นมันค่อนข้างคุ้นเคยเลยต่างหาก
“เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ นายยังเล่นแบบนี้อยู่อีกเหรอ? มันล้าสมัยไปแล้วนะ!”
เย่เฉิน ที่เพิ่งนึกออกพูดเย้าหยอกขึ้นมา
“โธ่ นานหลายเดือนแล้ว แต่นี่นายยังจำได้อีกเหรอ”
เมื่อได้ยิน เย่เฉิน เรียกชื่อของเขา ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังก็หยุดการแกล้งทำเป็น ‘โจร’ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และตอบกลับด้วยความท้อใจ
เย่เฉิน หันกลับไปดูชายหนุ่มตรงหน้า ซึ่งก็คือ เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ เพื่อนสมัยมัธยมของเขา
ทั้งสองคนสนิทกันดี และเอี๋ยน จวิ้นเต๋อ ก็ชอบเล่นแกล้งคนอื่นอยู่บ่อยๆ เขามักจะมาข้างหลังคนอื่น และแกล้งพูดว่า ‘นี่คือการปล้น’ อยู่เป็นประจำ
แต่โชคร้ายที่ทุกๆ ครั้งที่เขาพยายามปล้น เย่เฉิน เขามักจะถูกจับได้เสมอ
เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ เองก็เรียนมหาวิทยาลัยในเมืองเจียงโจว แต่เรียนที่มหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยของ เย่เฉิน ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันมานานมากแล้ว
“ว้าว รถซุปเปอร์คาร์สุดหล่อเท่คันนี้ มันเจ๋งมาก!!!”
ทันใดนั้น เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ ก็ร้องอุทานออกมาเมื่อสังเกตเห็น Lykan HyperSport ของ เย่เฉิน
เมื่อเห็น เย่เฉิน ยืนอยู่ตรงนั้น เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ ไม่ทันได้สังเกตเห็นรถซุปเปอร์คาร์ที่อยู่ข้างๆ เย่เฉิน
เมื่อครู่เขาสนใจแต่ เย่เฉิน จนไม่ทันได้สังเกตเห็นรถคันนี้
เมื่อเห็นรถ Lykan HyperSport เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ ก็อ้าปากค้างดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้นทันที
“ก็พอได้อยู่นะ..”
เย่เฉิน ตอบด้วยความถ่อมตัว เพราะเขาเห็นรถ Lykan HyperSport จนชินแล้ว
“เฮ้ย เหล่าเย่ นี่นายคงไม่ได้จะบอกฉันหรอกนะว่ารถซุปเปอร์คาร์สีดำสุดเท่คันนี้ ..เป็นของนาย?”
เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ ถามด้วยความตื่นตะลึง เมื่อเขาคิดไปถึงคำพูดของ เย่เฉิน
“ใช่แล้ว ทำไมเหรอ?”
เย่เฉิน พยักหน้า
“ทำไมเหรอ?”
เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ เดินวนรอบตัว เย่เฉิน และเริ่มคาดเดา :
“เหล่าเย่ นาย.. ถูกสาวรวยๆ เลี้ยงดูอยู่หรือเปล่า?”
ในฐานะเพื่อนสมัยมัธยม เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ รู้ดีถึงฐานะทางครอบครัวของ เย่เฉิน อยู่บ้าง
อีกอย่างรถซุปเปอร์คาร์แบบนี้ อย่างน้อยๆ ก็น่าจะหลายล้าน เหล่าเย่ จะไปมีเงินซื้อได้อย่างไร?
ส่วนเรื่องถูกลอตเตอรี่ อันนี้ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ไม่เห็นข่าวที่เป็นกระแสฮอตฮิตเมื่อไม่นานนี้เหรอไง?
ผู้ถูกรางวัลบังเอิญทำเรื่องโป๊ะแตกขณะไปขึ้นรับรางวัล เพราะเขาใส่ชุดพนักงานของบริษัทลอตเตอรี่(彩票公司)
เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ คิดอยู่นานก็คิดไม่ออกเลย นอกจากการคาดเดาว่าเพื่อนเก่าของเขาอาจถูกสาวรวยๆ เลี้ยงดู ทั้งนี้..นี่เป็นเหตุผลที่ฟังดูเข้าท่าที่สุดแล้ว
เย่เฉิน ยังไม่ทันจะตอบ เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ ก็พูดต่อ :
“แต่ก็ไม่น่าใช่นะ ผู้หญิงรวยๆ น่าจะมองหาหนุ่มล่ำๆ กล้ามโตๆ แบบดูแข็งแรงๆ มากกว่าหรือเปล่า?”
“แต่ เหล่าเย่ นายตัวผอมบางแบบนี้ จะไหวเหรอ...”
ขณะที่เขามองไปที่ เย่เฉิน เขาก็ลูบคางพูดออกมาอย่างงงๆ
ยังไม่ทันที่ เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ จะพูดจบ ประตูรถ Lykan HyperSport ก็เปิดออก ซู หนิงซวง ก้าวลงมาจากรถ
เมื่อเห็น ซู หนิงซวง เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ ก็ถึงกับอึ้งไปทันที
ผู้หญิงอะไรถึงสวย..ได้ขนาดนี้
“หนิงซวง นี่เพื่อนสมัยมัธยมของผม เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ”
เย่เฉิน แนะนำ ซู หนิงซวง ให้ เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ รู้จัก
“สวัสดีค่ะ”
ซู หนิงซวง ทักทาย เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ ด้วยท่าทีสุภาพ
“สวัสดีครับ...”
เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ มอง ซู หนิงซวง แล้วหันไปมอง เย่เฉิน ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ
หลังจากพูดคุยกันสักพัก ซู หนิงซวง รู้สึกกระหายน้ำจึงขอตัวไปซื้อเครื่องดื่ม
เมื่อ ซู หนิงซวง เดินออกไป เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ ก็มอง เย่เฉิน ด้วยความชื่นชม :
“เหล่าเย่ ฉันเข้าใจนายผิดไป นายไม่ได้ถูกสาวรวยๆ เลี้ยงดู แต่เห็นชัดว่านี่นายถูก ‘ไป๋ ฟู่เหม่ย’ เลี้ยงดูต่างหากล่ะ!!!”
สาวรวยๆ ที่ไหนมันจะไปสู้ ไป๋(ขาว) ฟู่(รวย) เหม่ย(สวย) ได้กันละวะเห้ย!?
ขับรถซุปเปอร์คาร์หรูสุดๆ แถมยังมีสาวสวยรวยเสน่ห์ขนาดนี้อยู่เคียงข้างอีก ชีวิต เหล่าเย่ เนี่ยมันสุดยอดจริงๆ!
เหล่าเย่ ยังหนุ่มยังแน่นแต่ก็ประสบความสำเร็จได้ถึงขนาดนี้แล้ว มันสุดยอดจริงๆ
“เฮ้อ.. หมอเองบอกว่ากระเพาะของฉันไม่ดี เลยได้แต่ต้องกินอาหารอ่อนๆ(ข้าวนิ่ม) เท่านั้นนะ”
เย่เฉิน ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เรื่องเกม [ด้วยเงินเดือนแค่สามพัน ฉันก็กลายเป็นมหาเศรษฐีของโลกได้] ก็เลยตอบอย่างถ่อมตัวไปตามที่ เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ คิด
“คนเรานี่มันเทียบกันไม่ได้จริงๆ..”
พอได้ยิน เย่เฉิน พูดอย่างนั้น เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ ก็ยิ่งอิจฉาเข้าไปใหญ่
เขาไม่ต้องการอะไรมาก ขอแค่ได้สาวรวยๆ สักคนก็พอ ไม่ต้องการรถซุปเปอร์คาร์สุดหรู ขอแค่มี Porsche 911 หรือ Panamera ก็พอแล้ว
แต่เสียดายที่ตัวเขาเองทำได้เพียงแค่คิดฝัน..เท่านั้น
ส่วน เหล่าเย่ เขากลับทำทุกอย่างสำเร็จหมดแล้ว
“เอ่อ.. เหล่าเย่ อย่าว่าอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะ นายมีเคล็ดลับอะไรในการถูกผู้หญิงรวยๆ หรือไป๋ ฟู่เหม่ย เลี้ยงดูบ้างไหม?”
เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ มอง เย่เฉิน ด้วยสายตาเป็นประกาย และเขาอยากจะเรียนรู้กลเม็ดเคล็ดลับที่ว่านั้นบ้าง
“เอาจริงๆ ไม่มีอะไรที่ยากเลย ก็แค่..ขึ้นอยู่กับเบ้าหน้าล้วนๆ”
เย่เฉิน ตอบอย่างจริงจัง
“ทวดมึงสิฟะ!”
เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ หมดคำจะพูด เย่เฉิน นี่มันชัดๆ ว่าบอกตัวเองหน้าตาดี
ในขณะที่ เย่เฉิน กับเอี๋ยน จวิ้นเต๋อ กำลังพูดคุยกัน ..ที่สนามบินเจียงโจว
มีพ่อกับลูกชายคู่หนึ่งกำลังเดินออกมาจากสนามบิน คนพ่อนั้นอายุประมาณห้าสิบปี และดูเหมือนผู้ที่มีอำนาจ
ส่วนลูกชายนั้นอายุประมาณยี่สิบปี และสวมชุดสูทที่สั่งทำพิเศษดูมีราคาแพงมาก
“แกตรวจสอบข้อมูลดีแล้วหรือยัง?”
ขณะที่พวกเขาเดินออกมา คนพ่อก็ถามกับลูกชาย
“แน่นอนครับพ่อ ผมตรวจสอบประวัติของ เย่เฉิน ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน”
ลูกชายตอบกลับอย่างมั่นใจ
“เป็นยังไงบ้าง?”
คนพ่อถามต่อ..
“เย่เฉิน มีทรัพย์สินไม่น้อยเลย แต่รวมแล้วก็แค่ประมาณสองหมื่นล้านหยวน ไม่ถึงสามหมื่นล้านหยวนด้วยซ้ำ”
ลูกชายตอบอย่างดูถูก
“มูลค่าทรัพย์สินรวมสองหมื่นกว่าล้าน?”
คนพ่อพูดพึมพำเบาๆ
“สองหมื่นกว่าล้าน.. ในเจียงโจวนับว่าสูงทีเดียว ถือว่าเป็นเศรษฐีอันดับต้นๆ ได้.. แต่พอออกจากเจียงโจว เขาก็ไม่นับว่าเป็นอะไรเลย”
หลังจากยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับ เย่เฉิน แล้ว คนพ่อก็ไม่คิดใส่ใจอะไรอีกต่อไป
“วันนี้ฉันจะทำให้เขารู้ว่า เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า!!!”
[เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า(人外有人,天外有天) - ไม่ว่าจะเก่ง หรือยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ยังมีคน หรือสิ่งที่เก่งกว่า หรือยิ่งใหญ่กว่าอยู่เสมอ]