(ฟรี) บทที่ 600 การโจมตีจากศัตรู? สายเลือดบรรพบุรุษ!
หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือน หลี่หรานก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
“ภารกิจ...เสร็จสิ้นแล้ว?”
ภารกิจจากระบบนี้ถูกออกในดินแดนรกร้างโลหิต
เนื้อหาภารกิจคือให้เขาเชี่ยวชาญส่วนหนึ่งของพลังจากมงกุฎและสามารถใช้มันได้อย่างชำนาญ
ครั้งหนึ่งเขาเคยพยายามสื่อสารกับมงกุฎ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองและดูเหมือนจะใช้งานไม่ได้
เดิมทีเขาวางแผนที่จะถามเทพมังกร แต่ไม่คาดคิดว่าจะ‘เปิดใช้งาน’มันโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ดังนั้นหากต้องการใช้มงกุฎ ข้าไม่สามารถใช้ปราณมังกรเพียงอย่างเดียวได้ แต่ยังต้องรวมพลังศรัทธาเข้าไปด้วย?”
หลี่หรานคิดอยู่พักหนึ่งและเริ่มเข้าใจความลึกลับนี้
มงกุฎเทพมังกรนี้มีต้นกำเนิดอันยิ่งใหญ่และเป็นสมบัติของเผ่ามังกร
ว่ากันว่ามันถูกถ่ายทอดมาจากบรรพชนมังกร และมีเพียงมังกรสายเลือดบริสุทธิ์ที่สูงส่งที่สุดเท่านั้นที่สามารถควบคุมได้
นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีเพียงเทพมังกรเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ แม้แต่ชางหลานอู่จี๋ซึ่งเป็นผู้นำเผ่ามังกรคนปัจจุบันก็มิอาจ
แม้ว่าหลี่หรานจะไม่ใช่มังกร แต่เขาก็มีจิตวิญญาณมังกรที่บริสุทธิ์ที่สุด ควบคู่ไปกับพลังแห่งศรัทธา ทำให้เขามีคุณลักษณะของ‘ความสูงส่ง’
หลี่หรานกางมือออก และมงกุฎสามแฉกที่เรียบง่ายก็ลอยอยู่บนฝ่ามือของเขา
แตกต่างจากเมื่อก่อน คราวนี้มีความรู้สึกเชื่อมโยงกันผ่านทางสายเลือด และเขาสัมผัสได้ถึงความเชื่อฟังและการยอมรับจากมัน
“งั้น... หน้าที่ของมงกุฏเทพมังกรก็คือการอัญเชิญบรรพชนมังกร?”
หลี่หรานเลิกคิ้วเล็กน้อย
กรงเล็บมังกรขนาดมหึมาที่ทะลวงผ่านความว่างเปล่าก่อนหน้านี้ปลดปล่อยกลิ่นอายอันดุร้ายจากโบราณที่คล้ายกันกับรัศมีพลังของบรรพชนมังกรในพิธีจารึกโลหิตมาก
และนี่คงเป็นหนึ่งในความสามารถของมงกุฎ
ติ๊ง!
【 ภารกิจ “หัวใจแห่งเทพมังกร” เสร็จสิ้น 】
【 ด่านที่สองถูกปลดล็อค 】
【 ภารกิจใหม่ : วีไอพีแห่งดินแดนรกร้าง 】
【 โฮสต์มีหน้าที่เพิ่มเกียรติยศของตนในดินแดนรกร้างโลหิต บารมีต้องถึงระดับ “เคารพ” หรือสูงกว่า 】
【 ภารกิจนี้เป็นภารกิจต่อเนื่องและด่านต่อไปจะถูกปลดล็อคโดยอัตโนมัติหลังจากเสร็จสิ้น 】
ใต้รายละเอียดภารกิจมีแถบความคืบหน้าเพิ่มเข้ามา
มันแสดงให้เห็นถึงค่าบารมีปัจจุบันของหลี่หรานในดินแดนรกร้างโลหิต
ในเวลานี้คือ ‘ไม่คุ้นเคย’
ยังคงห่างไกลจาก ‘เคารพ’ อย่างมาก
“ไม่คุ้นเคยก็ยังดีกว่าถูกเกลียดล่ะนะ”
จากสิ่งที่เขาทำในดินแดนรกร้างโลหิต เหล่ามังกรมีเหตุผลมากมายที่จะเกลียดเขาเข้ากระดูกดำ แต่เนื่องจากการปรากฏตัวของเทพมังกรและความสามารถของเขาในการเปลี่ยนร่างเป็นมังกร เขาจึงแตะระดับพื้นฐานของ ‘ไม่คุ้นเคย’
จากนี้จะเห็นได้ว่าเผ่ามังกรในดินแดนรกร้างโลหิตมีความพิเศษเพียงใด
“ด้วยความเร็วเท่านี้ ไม่รู้ว่าต้องรอถึงปีใดข้าจะได้รับความเคารพ” หลี่หรานถอนหายใจ
ไม่ต้องพูดถึงสิ่งอื่นใด แค่พี่น้องชางหลานก็อยากกินเขาทั้งเป็นแล้ว...
“ลืมมันซะ ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดมากตอนนี้ รอเจอเทพมังกรแล้วค่อยพูดคุยอีกที”
อย่างไรก็ตาม ภารกิจนี้ไม่จำกัดเวลาและไม่มีบทลงโทษหากกระทำไม่สำเร็จ ดังนั้นเขาจึงไม่มีภาระทางจิตใจ
ขณะที่กำลังจะดูรางวัลภารกิจ ทันใดนั้นเสียงลมหวีดหวิวก็ดังก้องในหูของเขา พร้อมด้วยเสียงตะโกนดังลั่น
“ศัตรูบุก!”
“มีศัตรูบุกเข้ามา!”
“ปกป้องบุตรศักดิ์สิทธิ์!”
หลี่หรานลืมตาขึ้นอย่างว่างเปล่า
ผู้อาวุโสและผู้พิทักษ์จากยอดเขาต่างๆของวิหารโหยวหลัวกำลังบินเข้ามาหาเขาอย่างมืดฟ้ามัวดิน และแม้แต่ผู้พิทักษ์เงาบนยอดเขาหลักก็ยังตื่นตระหนก
ผู้อาวุโสซุนซึ่งเป็นผู้นำได้มาถึงก่อน
นางมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง “บุตรศักดิ์สิทธิ์ ศัตรูอยู่ที่ไหน”
หลี่หรานสับสน “ศัตรูอะไร?”
ผู้อาวุโสซุนอธิบายว่า “ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้พิทักษ์ได้ส่งแจ้งเตือนออกมาว่ามีศัตรูที่แข็งแกร่งบุกเข้ามา เหล่าเฉินและคนอื่นๆก็สังเกตเห็นกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวบนยอดเขาหิมะโปรย…”
“แต่มันแปลกมาก อีกฝ่ายฝ่าแนวป้องกันของผู้พิทักษ์มาได้อย่างไร? เป็นไปได้ไหมว่ามังกรดินแอบวางอุบายไว้?”
“......” ในที่สุดหลี่หรานก็ตระหนักได้ว่าเป็นเขาเองที่ส่งเสียงดังเกินไป
เมื่อมองไปยังเหล่าผู้อาวุโสของแต่ละยอดเขาที่พร้อมรบเต็มที่ เขาก็แตะจมูกด้วยความเขินอาย “เอ่อ... ดูเหมือนท่านจะเข้าใจผิด ไม่มีศัตรูใดๆ เมื่อกี้ข้าแค่ทำการฝึกฝน”
“ฝึกฝน?” ผู้อาวุโสซุนได้ยินดังนั้นก็ถึงกับผงะ
ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหลังส่ายหัว
“เป็นไปไม่ได้”
“กลิ่นอายก่อนหน้านี้ดุร้ายและโหดเหี้ยมมาก มันต้องเป็นเผ่าพันธุ์ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแน่นอน”
ทุกคนดูจริงจังมาก เหมือนว่าพวกเขายังมีความกลัวหลงเหลืออยู่
ผู้อาวุโสซุนนึกอะไรบางอย่างได้ และสีหน้าของนางก็แปลกไปเล็กน้อย
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง นางก็กล่าวว่า “ดูเหมือนว่าข้าจะเห็นภาพหลอนไปเอง พวกเรากลับกันเถอะ”
เหล่าผู้อาวุโสตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้
“ผู้อาวุโสซุน?”
“เห็นได้ชัดว่ามันไม่...”
ผู้อาวุโสหลายคนยังคงอยากจะพูด แต่ผู้อาวุโสซุนโบกแขนเสื้อและกล่าวอย่างไม่อดทน “ข้าบอกว่าภาพลวงตาก็ภาพลวงตาสิ! ไปได้แล้ว!”
“......”
ทุกคนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่พวกเขาก็แยกย้ายกันไป
แม้ว่าจะมีข้อสงสัย แต่ใครจะกล้าตั้งคำถามถึงสิ่งที่ผู้อาวุโสสูงสุดพูด?
ก่อนจากไป ผู้อาวุโสซุนมองดูหลี่หรานอย่างจริงจังและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “บุตรศักดิ์สิทธิ์ พยายามควบคุมตัวเองด้วย อย่าส่งเสียงดังเกินไป ไม่เช่นนั้นคราวหน้าข้าคงซ่อนมันไว้ไม่ได้”
“ขอบพระคุณผู้อาวุโสซุน”
“ไม่มีปัญหา”
ผู้อาวุโสซุนดูเหมือนต้องการพูดอะไรบางอย่างอีก แต่ก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง และสุดท้ายนางก็ไม่ได้พูดอะไรเลย
นางพยักหน้าแล้วหันหลังจากไป
ยอดเขาหิมะโปรยฟื้นความสงบอย่างรวดเร็ว
หลี่หรานเกาหัว “แม้ว่าพลังของมงกุฎนี้จะแข็งแกร่งมาก แต่คงไม่สามารถใช้มันลวกๆได้ มิเช่นนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาโดยไม่จำเป็น”
ท้ายที่สุดแล้วมงกุฏเทพมังกรก็ไม่ได้เป็นของโลกนี้
คราวหน้าควรเก็บตัวต่ำๆไว้ดีกว่า
“สามี...”
“หือ?”
หลี่หรานมองย้อนกลับไปและเห็นชางหลานชูเสวี่ยยืนอยู่ข้างหลัง มองดูเขาอย่างประหม่า
ไม่ไกลนัก ฉินหรูเหยียนและหญิงสาวคนอื่นๆกอดกันแน่น ใบหน้าของพวกนางซีดเซียวราวกับกระดาษ เห็นได้ชัดว่าหวาดกลัว
จากนั้นหลี่หรานก็ตอบสนอง
พวกนางน่าจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ชางหลานชูเสวี่ยลังเลก่อนจะกล่าวว่า “สามี สิ่งที่ท่านอัญเชิญมาเมื่อกี้คือ...บรรพชนมังกรจริงๆหรือ?”
สำหรับเผ่ามังกร บรรพชนมังกรนั้นถือเป็นเทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์สูงสุด
ดังนั้นผลกระทบของฉากนี้ต่อนางจึงไม่น้อยไปกว่าเทพเจ้าเสด็จลงมาตรงหน้า
“เอ่อ... คงงั้นมั้ง?” หลี่หรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง “พูดให้ถูกมันควรจะเป็นตัวแทนเจตจำนงของบรรพชนมังกร”
บรรพบุรุษของมวลมังกรหรือที่เรียกว่าบรรพชนมังกรนั้นถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษอย่างยิ่ง
ร่างกายถูกฝังแน่นอยู่ในความว่างเปล่า และเจตจำนงนั้นเชื่อมโยงกับโลกนับไม่ถ้วน มันอยู่ระหว่างภาพลวงตากับความเป็นจริง สามารถดำรงอยู่หลากหลายห้วงเวลาและพื้นที่ได้ในเวลาเดียวกัน
ไม่มีใครบอกได้ว่ามันคืออะไร
สิ่งที่เขาอัญเชิญมาก่อนหน้านี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆจากเจตจำนงของมัน
ดวงตาของชางหลานชูเสวี่ยเป็นประกาย และนางก็กล่าวด้วยความชื่นชม “อย่างที่คาดไว้จากสามี ว่ากันว่าเฉพาะผู้ที่มีสายเลือดบรรพบุรุษเท่านั้นจึงจะมีคุณสมบัติในการสื่อสารกับบรรพชนมังกร! แน่นอนว่าข้ามองได้ถูกต้อง สายเลือดของสามีนั้นสูงส่งอย่างไร้ที่เปรียบ!”
“สายเลือดบรรพบุรุษ?”
หลี่หรานขมวดคิ้ว
เขาไม่เคยได้ยินคำนี้เลย
ขณะที่เขากำลังจะถาม จู่ๆก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง
“หรานเอ๋อร์ เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
ร่างกายของหลี่หรานแข็งค้างไปชั่วขณะ จากนั้นก็หันกลับไปทันที
“ท่านอาจารย์?!”
/////