(พิเศษ) บทที่ 144 แฮตทริก
(TL: หากบทไหนเป็นการแข่งฟุตบอลเกือบทั้งตอนจะเปิดเป็นตอนฟรีแบบนี้ หากไม่อินเหมือนผมก็อ่านข้ามๆได้ แต่ไม่นานช่วงนี้ก็จบแล้ว และหลังจากนี้ไปจะเริ่มเข้าสู่ความวุ่นวาย)
24 พฤศจิกายน การแข่งขันฟุตบอลของมหาวิทยาลัยเจียวทงประจำปี 2005 เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
มีทีมจากสถาบันเจียงหลิงทั้งหมด 17 ทีมที่ลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขัน
โดยในรอบแรก แชมป์เก่าสาขาวิศวกรรมโยธาได้บายหนึ่งนัด ขณะที่อีก 16 ทีมที่เหลือถูกจับสลากมาแข่งขันกัน
ในรอบที่สอง มีหนึ่งทีมได้บายอีกครั้งโดยเหลือแปดทีมแข่งขันกันเอง
และในรอบที่สาม เหลือเพียงห้าทีม โดยมีหนึ่งทีมได้บายและผ่านเข้ารอบโดยตรง
สี่ทีมที่เหลือจับคู่แข่งกัน โดยผู้ชนะจะได้ผ่านเข้ารอบ และผู้แพ้จะต้องแข่งกันเองอีกนัดเพื่อกลายเป็นทีมสุดท้ายของสถาบันเจียงหลิง
การแข่งขันถูกกำหนดไว้ครั้งละสองชั่วโมง โดยมีสองนัดในตอนเช้าและสองนัดในช่วงบ่าย
ในช่วงบ่ายของวันที่ 23 พฤศจิกายน สวี่ชิวเหวินและคนอื่นๆได้รับรู้ถึงคู่ต่อสู้รอบแรก นั่นคือเอกภาษาจีน
เมื่อรู้ว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขาคือใคร สวี่ชิวเหวินและคนอื่นๆก็หัวเราะ
เอกภาษาจีนอยู่ในคณะศิลปศาสตร์ที่มีนักศึกษาหญิงมากกว่านักศึกษาชาย จึงไม่แข็งแกร่งมากนักโดยธรรมชาติ
สิ่งที่สวี่ชิวเหวินและคนอื่นๆกังวลมากที่สุดคือการเผชิญหน้ากับสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในรอบแรก ไม่ใช่ว่าพวกเขากลัว แต่การพบกันในรอบแรกนั้นน่าเบื่อเกินไป จะดีกว่าหากรอให้เป็นเกมสำคัญและถล่มพวกมันที่กำลังภาคภูมิใจ
นัดแรกของสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเกมในช่วงบ่ายวันที่ 24 พฤศจิกายน เริ่มเวลาบ่ายสามโมงตรง
สวี่ชิวเหวินและคนอื่นๆไม่ได้ดูสองเกมในตอนเช้าและเกมแรกในตอนบ่าย และพวกเขาก็ไม่สนใจ
พวกเขาใช้เวลาฝึกฝนกล้ามเนื้อและซ้อมฟุตบอลอยู่ตลอด หยางไป่ซานและคนจากบ้านเกิดที่เคยเล่นในโรงเรียนมัธยมก็เช่นกัน คราวนี้พวกเขาเล่นเป็นกองหน้า และยังต้องฝึกซ้อมการประสานงาน
สำหรับคนอื่นๆ พวกเขาเคยเล่นฟุตบอลมาก่อน แต่ผ่านมาหลายปีแล้วนับตั้งแต่ครั้งล่าสุด ดังนั้นพวกเขาจึงทำงานอย่างหนัก โดยเน้นไปที่การส่งและรับบอลเป็นหลัก
สวี่ชิวเหวินเองก็ฝึกส่งและเลี้ยงบอลร่วมกับจินฮ่าวหนานและคนอื่นๆ
สวี่ชิวเหวินไม่ได้เล่นฟุตบอลมานานแล้ว ในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้สัมผัสลูกฟุตบอลมานานกว่าสิบปี และนับตั้งแต่เกิดใหม่ เขาก็ยังไม่เคยเล่นฟุตบอลเลย
อย่างไรก็ตาม หลังการเกิดใหม่ ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยพลังลึกลับ ปฏิกิริยา การตอบสนอง ความคล่องตัว ความแข็งแกร่ง และความอดทนของเขานั้นเหนือกว่าคนทั่วไปมาก
ดังนั้น หลังจากที่สวี่ชิวเหวินสัมผัสบอล เขาก็เป็นเหมือนทหารผ่านศึก เลี้ยงบอลอย่างเชี่ยวชาญ ส่งบอลอย่างแม่นยำ และยิงได้อย่างทรงพลัง แสดงให้เห็นถึงผลงานที่โดดเด่น
หยางไป่ซานอดไม่ได้ที่จะชื่นชม “เราสามารถปล่อยกองกลางไว้กับเขาได้เลย!”
ก่อนเริ่มการแข่งขัน สวี่ชิวเหวินและคนอื่นๆสวมชุดทีมที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ซึ่งไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นชุดทีมจริงๆ มันเป็นเพียงชุดที่ซื้อมาในสไตล์และสีเดียวกัน ต่างกันแค่ตัวเลขด้านหลังเท่านั้น
หยางไป่ซานเลือกหมายเลข 1 และเพื่อนจากบ้านเกิดของเขาเลือก 2, 3, 4 และ 5 ส่วนคนอื่นๆใส่หมายเลขปะปนกันไป ตั้งแต่ 24 ถึง 58
หมายเลขเสื้อของสวี่ชิวเหวินคือ ‘0’
เขาชอบเลขนี้ มันแสดงถึงความว่างเปล่า แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นเช่นกัน
มันสอดคล้องกับสวี่ชิวเหวินที่เกิดใหม่ได้เป็นอย่างดี นับเป็นการเริ่มต้นสิ่งต่างๆอีกครั้ง
ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น เหล่าชายหนุ่มจากเทคโนโลยีสารสนเทศและอื่นๆอีกสามสาขามารวมตัวกัน
ตงจุนพูดกับทุกคนว่า “พวกนายล้วนเป็นตัวแทนของคณะเรา หลังจากชนะเกมนี้ ฉันจะเลี้ยงมื้อเย็นเอง แน่นอนว่ามีเครื่องดื่มมากมาย และอาหารย่อมเพียงพอ”
หยางไป่ซานหัวเราะเสียงดัง “ตัวแทนชั้นเรียน คุณวางใจได้เลย เราจะชนะเกมนี้แน่นอน!”
อีกไม่นานเกมกำลังจะเริ่มต้น และผู้เล่นก็ปรากฏบนสนามทีละคน
สวี่ชิวเหวินยืนอยู่ในตำแหน่งกองกลาง เพราะความเร็วที่เขามี การควบคุมบอลที่ดี และการจ่ายบอลที่แม่นยำ
ทุกคนยืนตามแผน 4-1-2-3 หลังจากเริ่มเขี่ยบอล หยางไป่ซานและเพื่อนจากบ้านเกิดก็เริ่มบุกใส่ฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
นักศึกษาเอกภาษาจีนไม่เก่งฟุตบอลตั้งแต่แรก เมื่อหยางไป่ซานและกลุ่มของเขากดดันอย่างหนัก พวกเขาก็เสียประตูอย่างรวดเร็ว
ในฐานะศูนย์หน้า หยางไป่ซานรับบอลจากเพื่อนร่วมทีมหมายเลข 3 และยิงประตูได้อย่างสวยงาม ทำให้นำไปก่อนหนึ่งแต้ม
หยางไป่ซานผู้ทำประตูทุบหน้าอกของเขาอย่างตื่นเต้นและตะโกนเสียงดัง
ทันทีที่คู่ต่อสู้เขี่ยลูก บอลสีขาวก็ถูกส่งไปรอบๆ ผ่านเท้าของนักศึกษาเอกภาษาจีนหลายคน แต่หลังจากผ่านไปนาน พวกเขาก็ยังไม่สามารถผ่านแดนกลางได้ และกลับเสียการครองบอลเพราะการกดดันจากหยางไป่ซาน
หลังจากได้ครองบอลแล้ว หยางไป่ซานก็ส่งให้เพื่อนร่วมทีมอย่างรวดเร็ว จากนั้นพุ่งเข้าหาประตูของคู่ต่อสู้พร้อมกับกองหน้าอีกคนหนึ่ง ทั้งสามประสานงานกันอย่างยอดเยี่ยมจนไปถึงหน้าประตู
สวบ!
บอลตุงตาข่ายอีกครั้ง!
หยางไป่ซานเป็นคนยิงและทำประตูได้อีกครั้ง
เกมเพิ่งเริ่มต้นได้ไม่ถึงห้านาที แต่ขณะนี้สกอร์ 2:0 แล้ว
ผู้รักษาประตูจากเอกภาษาจีนนั้นสูงมาก ประมาณ 1.8 เมตร ตอนนี้ใบหน้าของเขาดูน่าเกลียดราวกับกินมะระขม
สีหน้าของนักศึกษาคนอื่นๆจากเอกภาษาจีนก็ดูไม่ดีเช่นกัน
ทุกคนสับสนและสูญเสียความมั่นใจไปจนหมด
ในทางกลับกัน นักศึกษาจากสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศไม่ว่าจะในหรือนอกสนามอย่างตงจุนและคนอื่นๆต่างก็ตื่นเต้นกันมาก
ตงจุนยังตะโกนและกอดเพื่อนร่วมห้องของเขาไปพร้อมๆกันอีกด้วย
เขาตื่นเต้นมากกว่าผู้เล่นในสนามเสียอีก
นักศึกษาเอกภาษาจีนกลับมาเขี่ยลูกอีกครั้ง แต่ตอนนี้ทุกคนสูญเสียความมั่นใจหมดแล้ว และเชื่อว่านี่เป็นเกมที่ไม่มีหนทางชนะ
เหลือเพียงไม่กี่คนที่วิ่งไล่บอลในสนาม และความเร็วก็ลดลง โดยทุกคนมีอารมณ์เชิงลบเขียนอยู่บนใบหน้า
บอลถูกส่งผ่านเท้าของนักศึกษาเอกภาษาจีนหลายคนแต่ก็ยังผ่านแดนกลางไม่ได้
หยางไป่ซานมองเห็นโอกาส เขาขโมยบอลจากด้านหลังนักศึกษาคนหนึ่ง จากนั้นวิ่งขึ้นหน้าและพุ่งเข้าหาประตู
เขาเร็วมากและแซงนักศึกษาสามคนจากเอกภาษาจีนติดต่อกัน
มาถึงตำแหน่งเฉียง 45 องศาจากด้านขวาของประตูอีกครั้ง
สวบ!
บอลตุงตาข่ายอีกครั้ง
ในเวลาเพียงไม่ถึงสิบนาทีนับตั้งแต่เริ่มเกม หยางไป่ซานทำแฮตทริกสำเร็จ!
“ว้าว! สุดยอด!”
“หยางไป่ซานสุดยอด!”
“เทคโนโลยีสารสนเทศโคตรเก่ง!”
ตงจุนและผู้ชายคนอื่นๆบนอัฒจันทร์ต่างตะโกนและส่งเสียงเชียร์ แม้ว่าจะมีปริมาณไม่มาก แต่เสียงของพวกเขาก็ไม่เบาเลย
ภายในสนาม หยางไป่ซานก็ดีใจและคำรามเสียงดังเช่นกัน เขายังทำหน้าล้อเลียนใส่ผู้รักษาประตูฝั่งตรงข้ามอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องเผชิญกับการเยาะเย้ยเช่นนี้ ผู้รักษาประตูกลับยังคงไม่ไหวติง
เขานอนอยู่บนพื้นหญ้าอย่างโง่เขลา ดวงตาว่างเปล่า ราวกับสูญเสียสติไปแล้ว
หยางไป่ซานวิ่งกลับไปและไฮไฟว์เพื่อนร่วมทีมแต่ละคน
เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ด้านหลังแม้จะยังไม่ได้สัมผัสบอลแต่ก็รู้สึกถึงชัยชนะและเกียรติยศร่วมกัน ทุกคนต่างตื่นเต้น
มีเพียงสวี่ชิวเหวินเท่านั้นที่ยังคงสงบ เขารีบพูดกับหยางไป่ซานว่า “เหล่าหยาง ใจเย็นๆหน่อย เราตกลงกันก่อนแข่งแล้วว่าจะไม่ดึงดูดความสนใจมากเกินไป”
หยางไป่ซานไม่ได้รู้สึกหดหู่กับคำพูดของสวี่ชิวเหวิน เขาไม่ลืมว่าศัตรูที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์
“ไม่ต้องกังวล ชิวเหวิน หลังจากนี้ฉันจะไม่ยิงเพิ่มแล้ว แค่ลากออกไปจนหมดเวลา”
ส่วนที่เหลือของเกมก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
หยางไป่ซานทำตามที่พูด บางครั้งก็ต่อสู้เพื่อครองบอล บางครั้งก็จงใจทำผิดพลาด
หลังจากสูญเสียความมั่นใจเพราะการเสียสามประตูติดต่อกัน ผู้เล่นของฝ่ายตรงข้ามก็แทบจะเลิกวิ่ง และการจ่ายบอลก็เป็นไปอย่างเอื่อยเฉื่อย
จนจบเกม เอกภาษาจีนไม่มีเลยแม้แต่ประตูเดียว
ทีมของสวี่ชิวเหวินถล่มเอกภาษาจีนไป 3-0 ทะลุผ่านเข้ารอบสองได้อย่างง่ายดาย
/////