บทที่ 10 ทักษะระดับ S หัวใจเวทย์
บทที่ 10 ทักษะระดับ S หัวใจเวทย์
หลังจากถึงเลเวล 4 แล้ว หลินหยวนได้ใช้เวลาในการอัพเกรดทักษะระดับ A ของร่างกายเวทย์เป็นระดับ S
ก่อนการอัพเกรด ปริมาณมานาที่ได้รับจากร่างกายเวทย์ก็ได้รับมากอยู่แล้ว
[ร่างกายเวทย์] (ระดับ A) เลเวลสูงสุด
เอฟเฟกต์ 1: เพิ่มมานา 30,000 แต้ม
เอฟเฟกต์ 2: เพิ่มความเร็วในการฟื้นฟูมานา 500%
เอฟเฟกต์ 3: ลดความเสียหายจากคาถาที่ได้รับลง 25%
หลังจากการอัพเกรด ทักษะนี้จะให้มานาจำนวนมากขึ้นแก่หลินหยวนและยังมอบทักษะในการช่วยชีวิตอีกด้วย
[หัวใจเวทย์] (ระดับ S) เลเวลสูงสุด
เอฟเฟกต์ 1: เพิ่มมานา 50,000 แต้ม
เอฟเฟกต์ 2: ฟื้นฟูมานา 1% ต่อวินาที
เอฟเฟกต์ 3: ลดความเสียหายจากคาถาที่ได้รับลง 30%
เอฟเฟกต์ 4: สร้างโล่มานาขึ้นมารอบตัว พลังป้องกัน 1% ของพลังมานาทั้งหมด โล่ไม่มีระยะเวลาใช้งานและมีคูลดาวน์ 30 วินาทีหลังจากถูกทำลาย
หลังจากทักษะได้รับการอัพเกรดเป็นระดับ S ความเร็วในการฟื้นฟูมานาได้รับการปรับปรุงอย่างมากและมีทักษะติดตัวที่เพิ่มมาให้นั่นคือโล่มานา ซึ่งทำให้ความมั่นใจของหลินหยวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก
หลังจากใช้แต้มทักษะ 100 แต้มเพื่ออัพเกรดทักษะระดับ S ให้อยู่ในเลเวลเต็ม มานาของหลินหยวนก็เพิ่มขึ้นถึง 100,000 แต้มซึ่งน่าหวาดกลัวอย่างงมากมาก
[หัวใจเวทย์] (ระดับ S) เลเวลสูงสุด
เอฟเฟกต์ 1: เพิ่มมานา 100,000 แต้ม
เอฟเฟกต์ 2: ฟื้นฟูมานา 10% ต่อวินาที
เอฟเฟกต์ 3: ลดความเสียหายจากคาถาที่ได้รับลง 50%
เอฟเฟกต์ 4: สร้างโล่มานาขึ้นมารอบตัว พลังป้องกัน 10% ของพลังมานาทั้งหมด โล่ไม่มีระยะเวลาใช้งาน หลังจากโล่ถูกทำลาย โล่จะคูลดาวน์ 20 วินาที
หลังจากปิดแถบทักษะ หลินหยวนก็สามารถรู้สึกถึงโล่มานารอบตัวของเขา และค่าพลังป้องกันของโล่ก็คือ 10,000 แต้ม
หลินหยวนตะโกนใส่สัตว์อสูรที่เดินเตร่ในที่เดียวกัน
"หลานๆ ปู่มาแล้ว!"
เสียงคำรามนี้ทำให้เหล่าสัตว์อสูรที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมดตื่นตัว
ทันใดนั้น ดวงตาของก๊อบลินสายเลือดปีศาจทุกตัวก็หันมามองหลินหยวน
“กุลิคาลา!” เหล่าก๊อบลินสายเลือดปีศาจพูดด้วยสำเนียงนรกและพุ่งเข้าหาหลินหยวนด้วยอาวุธเปื้อนเลือด
พวกมันไม่ได้เห็นเลือดมนุษย์มานานเกินไปแล้ว และพวกมันปรารถนาที่จะฆ่ามนุษย์ที่อ่อนแอต่อหน้าพวกมัน และนำหัวของเขาไปถวายแด่เทพปีศาจ โดยหวังว่าเทพปีศาจจะให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ แก่พวกมัน
เหล่าก๊อบลินสายเลือดปีศาจพุ่งเข้ามาเป็นฝูงพอดีกับที่หลินหยวนร่ายคาถาเสร็จ
พรึบ!
เปลวเพลิงจากโล่เพลิงที่ลุกโชนพุ่งออกไปเผาสัตว์อสูรในรัศมี 30 เมตรจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
หลังจากที่สัตว์อสูรทั้งหมดถูกฆ่าไป หลินหยวนก็ขมวดคิ้วและคิด "ทำไมร่างของสัตว์อสูรถึงถูกเผาไปและไม่มีอะไรดร็อปออกมาเลยเหรอ?"
หลินหยวนไม่เข้าใจ หลังจากฆ่าสัตว์อสูรในความยากระดับปกติแล้ว ร่างกายจะนอนอยู่ที่นั่นและได้รับการรีเฟรชหลังจากนั้นไม่นาน แต่สัตว์อสูรในความยากระดับนรกกลับถูกเผาเป็นเถ้าถ่านหลังจากโดนโจมตีด้วยทักษะได้อย่างไร?
หรือเป็นเพราะความยากระดับนรกงั้นเหรอ?
หลินหยวนเชื่อว่าสถานการณ์นี้เป็นผลมาจากความยากระดับนรก
ซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น มันเหมือนเป็นนรกจริงๆ
ดันเจี้ยนนี้เคยเป็นป่าก็อบลินมาก่อน แต่อวตารเทพปีศาจได้รุกรานเข้ามาที่นี่ และเปลี่ยนที่นี่ให้กลายเป็นดินแดนแห่งวิญญาณชั่วร้ายที่แท้จริง และทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการรุกรานดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
หลังจากที่อวตารเทพปีศาจไดสะสมพลังเพียงพอแล้ว มันก็สามารถเปิดประตูนรกและรุกรานดาวเคราะห์สีน้ำเงินได้
โชคดีที่การมีอยู่ของหอคอยศักดิ์สิทธิ์สามารถป้องกันไม่ให้แผนการร้ายของเทพปีศาจด้วยนี้ประสบความสำเร็จได้
เพื่อป้องกันการบุกรุกจากอเวจี หอคอยศักดิ์สิทธิ์ก็ทำการต่อต้านอย่างแข็งขันเช่นกัน
ต้องใช้ความแข็งแกร่งอย่างมากเพื่อฝ่าฟันความยากระดับนรก
ตราบใดที่มืออาชีพสามารถเอาชนะบอสความยากระดับนรกได้
หอคอยศักดิ์สิทธิ์สามารถเปลี่ยนหุบเหวอเวจีที่แท้จริงให้เป็นหุบเหวอเวจีธรรมดาได้อย่างถาวรโดยไม่เป็นอันตราย
แน่นอนว่าหลินหยวนไม่รู้เรื่องพวกนี้ เขาเพียงต้องการท้าทายหุบเหวที่ยากที่สุดเท่านั้น
เพราะหลินหยวนรู้สึกว่าภารกิจที่ยากที่สุดย่อมให้ผลตอบแทนที่มากที่สุดเช่นกัน
การเลือกแบบสุ่มๆของหลินหยวนทำให้บรรดาครูและนักเรียนของโรงเรียนมัธยมต้นหมายเลข 3 ตื่นตระหนกอย่างมาก
[สังหารก็อบลินสายเลือดปีศาจ ได้รับคะแนนาประสบการณ์ 80 แต้ม] X10
[สังหารก็อบลินสายเลือดปีศาจ ได้รับคะแนนประสบการณ์ 80 แต้ม] X10
หลังจากฆ่าก๊อบลินไปกว่า 20 ตัว หลินหยวนก็ได้รับคะแนนประสบการณ์มากกว่า 1,600 แต้มและใกล้จะเพิ่มเลเวลขึ้นไปอีกหนึ่งเลเวลแล้ว
จางฟานอ้าปากด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าหลินหยวนยังสามารถฆ่าสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งได้ทันที เขาอยากจะถามหลินหยวนจริงๆ แต่เมื่อเขาคิดเรื่องนี้แล้วจึงปิดปากลงอีกครั้ง
อย่าถามสิ่งที่ไม่ควรถาม เพียงยืนรับเลเวลอย่างสบายใจก็พอ
ความคิดของจางฟานถูกต้องมาก
ตอนนี้จางฟานและหลินหยวนเป็นตั๊กแตนบนเชือกเส้นเดียวกัน เป็นเรื่องดีที่หลินหยวนแข็งแกร่งอย่างมาก
จางฟานไม่ลืมสิ่งที่นักเรียนในสนามพูดก่อนหน้านี้และเฉินปินผู้น่ารำคาญที่คิดว่าพวกเขาต้องกอดขาอีกฝ่าย เมื่อพวกฉันผ่านความยากลำบากในนรกนี้ไปแล้ว ฉันอยากเห็นการแสดงออกบนใบหน้าของแกจริงๆ
หลินหยวนที่เดินอยู่ข้างหน้าไม่รู้ว่าจางฟานกำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อเขาเห็นว่าศพของสัตว์อสูรถูกเผา เขาก็เรียกจางฟานแล้วเดินไปข้างหน้า
“ตรงนั้นมีอาคารอยู่ น่าจะเป็นที่ที่บอสอาศัยอยู่ ไปที่นั่นกันเถอะ”
หลังจากได้ยินคำพูดของหลินหยวน จางฟานมองไปในระยะไกลและเห็นอาคารที่มีปราสาทอยู่ตรงกลาง
ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่เรียบง่ายมาก มีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกเล็กน้อย บนยอดปราสาทมีรูปปั้นงูยักษ์อยู่
จางฟานเกาหัวเมื่อเขาเห็นอาคารนี้
“เหตุใดอาคารเหล่านี้จึงดูคุ้นตานัก?”
อย่างไรก็ตาม จางฟานไม่ได้คิดถึงเกี่ยวกับอาคารนี้เป็นเวลานาน
ทั้งสองเดินต่อไปอีกสองนาทีก็มาถึงหน้าอาคาร
ในช่วงเวลานี้ หลินหยวนยังเผชิญกับก๊อบลินสายเลือดปีศาจที่กระจัดกระจายอยู่ แต่พวกมันทั้งหมดก็ถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านโดยโล่เพลิงของหลินหยวน
เมื่อมาถึงหน้าอาคาร หลินหยวนก็หยุด
"คงต้องพัฒนาวิธีโจมตีแบบปกติแล้ว!"
ระยะเวลาของโล่เพลิงคือ 30 วินาที แต่หลังจาก 30 วินาที จะมีเวลาคูลดาวน์ 5 นาที
ระหว่างเวลาห้านาทีนี้ หลินหยวนไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรอ
“เมื่อฉันเรียนรู้ทักษะถัดไป ฉันยังไม่ต้องอัพเกรดมันเป็นระดับ S โดยตรง เพราะเวลาในการคูลดาวน์นานเกินไป”
หลินหยวนรออยู่ ณ จุดนั้นขณะสังเกตข้อมูลสัตว์อสูรที่อยู่ข้างหน้า
[ก็อบลินเวทย์ไฟ] เลเวล 9
พลังชีวิต: 10000
มานา: 500
พลังโจมตี : 130
ลูกไฟนรก: ใช้มานา 30 แต้มในการควบแน่นลูกไฟนรก สร้างความเสียหายเวทย์ 200 แต้ม ระยะการโจมตีคือ 35 เมตร เวลาในการร่ายคือ 3 วินาที และไม่มีเวลาคูลดาวน์
เมื่อเห็นคุณสมบัติของสัตว์อสูรตัวนั้น หลินหยวนก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย
โล่เพลิงนั้นทรงพลังมาก แต่ก็มีข้อบกพร่องที่ร้ายแรงเช่นกัน นั่นก็คือหลังจากปล่อยทักษะออกไปแล้ว เขาจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
ระยะโจมตีของลูกไฟนรกคือ 35 เมตร และระยะโจมตีของทักษะของเขาเองคือ 30 เมตร ซึ่งมีผลต่างกัน 5 เมตร หากสัตว์อสูรตัวนี้ยังคงโจมตีด้วยลูกไฟนรกในระยะห่างออกไป 30 เมตร พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย
“โชคดีที่จำนวนไม่ได้มากนัก แต่ด้วยการที่พวกมันกระจัดกระจายออกไปจึงค่อนข้างจัดการได้ลำบาก”
ในขณะที่รอทักษะคูลดาวน์ หลินหยวนก็คิดถึงวิธีที่จะนำสัตว์อสูรมารวมกัน
หลังจากมองไปรอบ ๆ ดวงตาของหลินหยวนก็สว่างขึ้น
“ที่นั่นใช้ได้ เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการล่อสัตว์อสูรมารวมกัน”
ในทิศทางที่หลินหยวนจ้องมอง มีหลุมศพสูง 3 เมตรตั้งอยู่ที่นั่น
ใต้หลุมศพมีหลุมขนาดพอจะซ่อนคนได้
ความคิดของหลินหยวนคือการเดินไปข้างหน้าและดึงดูดความเกลียดชังของสัตว์อสูรทั้งหมดไว้ที่ตัวเขา จากนั้นจึงไปซ่อนตัวอยู่ในหลุมศพ
หลังจากที่เขาซ่อนตัวแล้ว เหล่าก็อบลินเวทย์ไฟก็จะไม่มีเป้าหมายที่จะร่ายคาถาใส่อีกต่อไป ดังนั้นพวกมันจะต้องพุ่งมาหาเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในกรณีนั้นเขาสามารถจัดการพวกมันทั้งหมดได้ในคราวเดียว
"ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันนี้ช่างฉลาดจริงๆ!"
หลินหยวนเห็นว่าทักษะได้รับการคูลดาวน์แล้ว จึงบอกให้จางฟานที่อยู่ข้างๆ เขาไปล่อสัตว์อสูรมา….
…………………