ตอนที่แล้วตอนที่ 99 ทำตามสัญญา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 101 โลกในภาพวาด

ตอนที่ 100 อ๋องเซียวเหยา (ฟรี)


ตอนที่ 100 อ๋องเซียวเหยา

“ใต้เท้า ข้ารู้สึกละอายใจอย่างยิ่งที่ต้องบอกว่าด้วยตำแหน่งอันต่ำต้อยของข้ามิอาจช่วยเหลือสำนักสวินเต๋าได้มากนัก!”

“ด้วยตำแหน่งขุนนางตัวเล็กๆ สิ่งที่ข้าสามารถช่วยเหลือสำนักสวินเต๋าได้นั้นมีจำกัดมากเหลือเกิน ทุกวันตอนกลางดึก ข้าต้องตื่นขึ้นมา และรู้สึกเศร้าเสียใจกับความไร้ความสามารถของตัวเอง!” ลอร์ดหยุนหลงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดด้วยสีหน้าอับอายใจ

"..." มุมปากของจี้ซุนเฟิงกระตุกเล็กน้อย ความนัยที่สื่อออกมาจากคำพูดของชายคนนี้ชัดเจนเกินไปแล้ว

“ข้าก็เห็นเหมือนกันว่าตัวเขานั้นทำงานทั้งกลางวัน และกลางคืนให้เพื่อสำนักของข้า และข้าก็รู้สึกทรมานใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเขาผอมลงเรื่อยๆ” ลู่ซวนก็กล่าวด้วยท่าทางเจ็บปวด และโทษตัวเอง ถ้าไม่เพราะมีตำแหน่งเจ้าสำนักค้ำคออยู่ เขาคงหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นแสร้งเช็ดน้ำตาแล้ว

“เจ้าได้คอยสอดส่อง และดูแลจังหวัดหยุนหลงมานานหลายปีแล้ว เรื่องนี้ต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ” จี้ซุนเฟิงมองไปที่ลอร์ดหยุนหลง และพูดด้วยรอยยิ้ม

“จ้าวมณฑลจี้ ข้าสงสัยว่าตอนนี้มีตำแหน่งว่างในมณฑลเฉียนหยวนหรือไม่?” หลังจากที่ลู่ซวนลังเลอยู่พักหนึ่ง เขาก็ถามตรงประเด็น โดยไม่ต้องการซ่อนอะไรอีกต่อไป

“นี่...ดูเหมือนว่าจะไม่มี” หลังจากที่จี้ซุนเฟิงคิดอย่างรอบคอบอยู่พักหนึ่ง เขาก็พูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้

แม้ว่าเขาจะเป็นจ้าวมณฑลเฉียนหยวน แต่ก็มีหลายสิ่งที่เขาไม่สามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งเจ้าเมืองระดับสองของลอร์ดหยุนหลงนั้นสูงมากอยู่แล้ว ในฐานะผู้ปกครองจังหวัดหนึ่ง การเลื่อนตำแหน่งไม่ได้ทำได้ง่ายนัก

ลู่ซวนขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดของเขา

“เจ้าสำนักลู่ ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการช่วย แต่ความสามารถของข้าก็มีกำจัด หากเจ้าขอให้ข้าย้ายเขาไปยังมณฑลอื่นที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากกว่า ข้าก็ทำได้ แต่สำหรับมณฑลเฉียนหยวนนั้น…” จี้ซุนเฟิงถอนหายใจลึกๆ แล้วพูดอย่างช้าๆ

ขณะนี้มณฑลเฉียนหยวนอยู่ในสถานการณ์ที่มีผู้ฝึกยุทธ์มากเกินไป และมีประชากรน้อยเกินไป เป็นการยากที่จะเลื่อนตำแหน่งให้กับลอร์ดหยุนหลง

เขาไม่สามารถลาออกจากการเป็นจ้าวมณฑลแล้วปล่อยให้ลอร์ดหยุนหลงเข้ามารับตำแหน่งแทนได้จริงไหม?

ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะเต็มใจหรือไม่ แม้แต่จักรวรรดิต้าเฉียนก็ยังไม่ตัดสินตำแหน่งจ้าวมณฑลอย่างเร่งรีบ ความเป็นไปได้ที่มากกว่าคือ การหาจ้าวมณฑลคนใหม่จากมณฑลอื่น

แม้ว่าจี้ซุนเฟิงจะเป็นจ้าวมณฑลเฉียนหยวน แต่เขาไม่สามารถปิดท้องฟ้าด้วยฝ่ามือได้

หลังจากที่ลอร์ดหยุนหลงได้ยินสิ่งที่จี้ซุนเฟิงพูด เขาก็เงียบไป สีหน้าของเขามืดมนมาก และไม่เหลือประกายในดวงตาของเขา

เขาต้องอยู่ในจังหวัดหยุนหลงไปตลอดชีวิตจริงหรือ? ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะก้าวหน้า?

ต้องบอกว่านี่เป็นความเศร้าใจที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

“ข้า และอ๋องเซียวเหยาแห่งจักรวรรดิต้าเฉียนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน หากเจ้าสำนักลู่เชื่อในตัวข้า ข้าอาจจะสามารถช่วยอะไรได้” จู่ๆ ชิงหยุนก็พูดขึ้น

“อ๋องเซียวเหยา? อนุชาของจักรพรรดิต้าเฉียนองค์ปัจจุบันงั้นรึ?” หลังจากได้ยินคำพูดของชิงหยุน จี้ซุนเฟิงก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็อุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว

อ๋องเซียวเหยาเป็นที่รู้จักไปทั่วจักรวรรดิต้าเฉียน ว่ากันว่าเขาไม่เพียงแต่ทรงอำนาจ แต่ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน และได้รับการยกย่องอย่างสูงจากอีกฝ่าย

เมื่อจักรวรรดิต้าเฉียนกำลังต่อสู้เพื่อบัลลังก์มังกร อ๋องเซียวเหยาไม่ต้องการสังหารพี่น้องของตน เขาจึงเป็นคนแรกที่สละสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์ และนำกองทัพของตนไปที่ชายแดน ยึดเมืองสิบสามแห่งที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล!

ดังนั้น หลังจากที่จักรพรรดิองค์ปัจจุบันขึ้นครองบัลลังก์ เขาก็ให้ความสำคัญกับอ๋องเซียวเหยาเป็นอย่างมาก และอนุญาตให้เขาปกครองสามมณฑลทางตอนเหนือ

นั่นทำให้อ๋องเซียวเหยามีอำนาจอันยิ่งใหญ่ในจักรวรรดิต้าเฉียน และสถานะของเขารองจากจักรพรรดิเท่านั้น พวกเขาอยู่ภายใต้คนๆ เดียว แต่สูงกว่าคนนับล้าน

จี้ซุนเฟิงคิดไม่ถึงเลยว่าชิงหยุนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีเช่นนี้กับอ๋องเซียวเหยา เขาพูดได้เพียงว่ายอดฝีมือของสำนักเต๋านั้นไม่ธรรมดาจริงๆ

“ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ข้ากับอ๋องเซียวเหยาถือได้ว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน” ชิงหยุนยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดออกมาอย่างเฉยเมย แต่ก็ไม่สามารถความภาคภูมิใจที่เปล่งออกมาได้

“นี่... จะไม่รบกวนท่านเกินไปใช่ไหม?” ลู่ซวนถามเสียงดังหลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง

ลู่ซวนเคยได้ยินเกี่ยวกับชื่อเสียงของอ๋องเซียวเหยา และรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนแบบไหน ดังนั้นเขาจึงลังเลเล็กน้อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ชื่อเสียงของอ๋องเซียวเหยาโด่งดังมากจนเกือบทุกคนล่วงรู้

แม้แต่ ลู่ซวนก็เคยชื่นชมอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก โดยคิดว่าเป็นวีรบุรุษที่แท้จริงที่หาได้ยากยิ่งในโลก

“มันเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก” ชิงหยุนยิ้มให้ลู่ซวน แล้วพูดอย่างสบายๆ

แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และเขาอาจจำเป็นต้องจ่ายในราคาไม่น้อย

แต่ชิงหยุนได้เห็นคุณสมบัติพิเศษของสำนักสวินเต๋า ดังนั้นเขาจึงยินดีที่จะจ่ายราคาสูงเพื่อแลกกับความโปรดปรานของสำนักสวินเต๋า

เขามีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และแทบไม่เคยทำสิ่งใดที่ขาดทุนเลย

“ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ต้องขอรบกวนผู้อาวุโสแล้ว” ลู่ซวนรีบพูดกับชิงหยุน

“หยุนหลงขอบคุณผู้อาวุโสชิง หากมีสิ่งใดที่ข้าสามารถตอบแทนได้ในอนาคต ข้าจะไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย!” ลอร์ดหยุนหลงก็โค้งคำนับชิงหยุนด้วย แล้วกล่าวด้วยความขอบคุณอย่างยิ่ง

เขารู้ดีว่าความฝันของเขาอาจเป็นจริงได้ และตอนนี้เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

“ไม่จำเป็นต้องสุภาพถึงขนาดนั้น ข้าแค่ช่วยในสิ่งที่สามารถช่วยได้ก็เท่านั้น” ชิงหยุนหัวเราะเสียงดัง

“ถูกต้อง พวกเจ้าไม่ต้องกังวลไป ตราบใดที่ข้ายังอยู่ในสำนักชิงจิ้ง สิ่งเหล่านี้ก็แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น!” ในขณะนี้ หลู่ต๋าคิดว่าเหตุผลที่ชิงหยุนทำสิ่งนี้ก็เพราะเห็นแก่หน้าเขา เขาจึงตบหน้าอกแล้วพูดออกมาอย่างกล้าหาญ

หลังจากที่ลู่ซวนได้ยินคำพูดของหลู่ต๋า เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยกแก้วไวน์ขึ้นอย่างเงียบๆ และมองไปที่หลู่ต๋าเล็กน้อย

“เจ้าสำนักลู่ ข้ามีคำขอหนึ่ง หวังว่าเจ้าจะช่วยเติมเต็มความปรารถนาของข้า” หลังจากสังสรรค์กันอีกสักพักหนึ่งจู่ๆ ชิงหยุนก็พูดขึ้น

“ผู้อาวุโสเชิญกล่าว ตราบใดที่ข้าสามารถตัดสินใจเองได้ ข้าจะไม่มีวันปฏิเสธ” ลู่ซวนกล่าวโดยไม่ลังเล

ดังค่ากล่าวที่ว่า แม้บุญคุณเท่าหยดน้ำ ก็จงตอบแทนดั่งมหาสมุทร ไม่ว่าทำไมชิงหยุนจึงช่วยเหลือสำนักสวินเต๋าเพราะอะไร เขาก็จะจดจำความเมตตานี้ไว้ในใจ

"เมื่ออายุมากขึ้น เขาชอบวาด และเขียนเมื่อไม่มีอะไรทำ ก่อนหน้านี้ข้าได้เห็นภาพวาดที่มีมนต์ขลังมากจากสำนักเจ้า ข้าจึงหวังว่าเจ้าสำนักลู่ให้โอกาสข้าได้เชยชมมันสักวันสองวัน” หลังจากที่ชิงหยุนคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็พูดอย่างตรงไปตรงมากับลู่ซวน

ชิงหยุนสนใจม้วนภาพนั้นมาก เขารู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ที่จะก้าวหน้าหากได้ศึกษามัน!

“นี่... ม้วนภาพนั้นเป็นสมบัติที่บรรพบุรุษมอบให้ผู้อาวุโสสอง ข้าไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเองได้” หลังจากที่ลู่ซวนได้ยินสิ่งที่ชิงหยุนพูด เขาก็ตกตะลึงเล็กน้อยแล้วพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“ถ้ามันไม่สะดวกจริงๆ ข้าสามารถรั้งอยู่ในสำนักเจ้าได้สองสามวัน และจะไม่นำมันไปไหน ข้าแค่ต้องการมองดูมันสักเล็กน้อยเท่านั้น” หลังจากที่ชิงหยุนเงียบไปสักพัก เขาก็พูดกับลู่ซวน หนึ่งประโยค

เขาแค่อยากจะศึกษาเต๋าที่สลักในม้วนภาพนั่น ไม่มีความคิดที่จะแย่งชิงมันไปเลยแม้แต่น้อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด