ตอนที่แล้วบทที่ 8 ตีตายมันโหดร้ายไป ทุบให้พิการก็พอ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10 ให้หน้าแต่ไม่รับ

บทที่ 9 การปฏิรูป


บทที่ 9 การปฏิรูป

ครึ่งชั่วยามต่อมา เถ้าแก่บ่อนพนัน โรงเตี๊ยม โรงน้ำชา โรงแรม ทั้งหมดในถนนไคว่หั่วหลินก็มารวมตัวกันที่ห้องโถงใหญ่ของจุ้ยเยว่โหลว ทักทายกันด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

การทำธุรกิจแบบพวกเขา จ่ายค่าคุ้มครองให้พรรคทุกเดือนเป็นเรื่องปกติ แต่เจ้าเคยเห็นการจ่ายสามครั้งในหนึ่งเดือนบ้างไหม?

ต้นเดือนนี้ เดิมทีถนนไคว่หั่วหลินเป็นของพรรคไผ่เขียว พวกเขาจ่ายไปแล้วครั้งหนึ่ง

ผลคือ พึ่งจ่ายค่าคุ้มครองไป พรรคเหยี่ยวเหินก็ยึดถนนไคว่หั่วหลินไป

ถูกหลิวซานเตาไอ้โลภมากคนนั้นรีดไถไปรอบหนึ่ง พวกเขาก็เจ็บปวดพอแล้ว ตอนนี้ซูซินมาอีก คงต้องเสียเลือดอีกครั้งสินะ?

“เถ้าแก่หลิว เถ้าแก่หวง พวกท่านมาเช้าจัง ได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับหัวหน้าซูบ้างไหม?” มีคนถามเถ้าแก่สองคนที่นั่งอยู่แถวหน้า

ในบรรดาพ่อค้าเหล่านี้ คนที่รวยที่สุดคือเถ้าแก่หลิวที่เปิดโรงเตี๊ยม จุ้ยเยว่โหลวนี้ก็เป็นของเขา

รองลงมาคือเถ้าแก่หวงที่เปิดบ่อนพนัน บ่อนพนันซุ่นเต๋อของเขา ติดอันดับห้าของทั้งเขตฉางหนิง

แม้ว่าเถ้าแก่หลิวจะเปิดโรงเตี๊ยม แต่เขากลับมีรูปร่างหน้าตาดี สุภาพเรียบร้อย

แม้ว่าจะอายุมากแล้ว แต่ถ้ามองเผินๆ ก็เหมือนบัณฑิตในโรงเรียน ไม่เหมือนเถ้าแก่โรงเตี๊ยมที่ขายบริการทางเพศเลย

ส่วนเถ้าแก่หวงนั้นเตี้ย อ้วน แม้ว่าจะดูเหมือนเศรษฐี แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความทุกข์

บ่อนพนันของเขารายได้ดีมาก ก่อนหน้านี้ก็ถูกหลิวซานเตารีดไถไปอย่างหนัก ครั้งนี้ไม่รู้ว่าซูซินจะรีดไถอย่างไรอีก

ดังนั้น เมื่อเผชิญกับคำถามของทุกคน เถ้าแก่หลิวก็ยิ้มโดยไม่พูดอะไร ส่วนเถ้าแก่หวงกลับพูดอย่างดุร้ายว่า “ใครจะรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน? ยังไงก็ไม่ใช่คนดี ได้ยินมาว่าเขาพึ่งตีเถ้าแก่ร้านขายยาหวังจี้จนพิการ”

ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็มองหน้ากัน หัวหน้าคนใหม่คนนี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่คนใจดีสินะ?

แต่พวกเขาไม่กังวลว่าซูซินจะทำร้ายพวกเขาเช่นกัน สถานะของพวกเขาไม่เหมือนอ้วนหวังที่เปิดร้านขายยา

พวกเขามีธุรกิจใหญ่โต มีลูกน้องกว่าร้อยคนที่ต้องเลี้ยงดู ถือว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในเขตฉางหนิง

ถ้าพรรคเหยี่ยวเหินกล้าทำร้ายพวกเขาจนตายหรือพิการ ผลกระทบคงจะใหญ่หลวง ทางการคงไม่นิ่งเฉย

“หัวหน้าซูมาแล้ว!”

ลูกน้องที่อยู่หน้าประตูตะโกนขึ้นทันที ทำให้เถ้าแก่หลายคนหยุดคิดฟุ้งซ่าน

เห็นซูซินที่หนุ่มแน่นรูปงามเดินเข้ามาในห้องโถง เถ้าแก่หลายคนก็รู้สึกอึดอัด

ซูซินอายุน้อยเกินไป ให้พวกเขาเรียกชายหนุ่มที่อายุไม่ถึงยี่สิบปีว่าหัวหน้า พวกเขารู้สึกอึดอัดใจมาก

แต่อึดอัดแค่ไหนก็ต้องทน ตอนนี้ซูซินไม่เพียงแต่เป็นหัวหน้ากลุ่มย่อยที่ดูแลถนนไคว่หั่วหลิน แต่ยังเป็นบุตรบุญธรรมของนายท่านหู่ซานเย่อีกด้วย

จี้กังและหลี่ฮ่วยที่ทำหน้าบึ้งที่อยู่ข้างหลังเขา ก็คือคนที่นายท่านหู่ซานเย่มอบให้ซูซิน เพื่อหนุนหลังเขา

“เถ้าแก่ทั้งหลาย ข้า ซูซิน เพิ่งมารับตำแหน่งดูแลถนนไคว่หั่วหลิน ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย”

ซูซินนั่งลงบนที่นั่งประธาน ยิ้มแย้ม ยกมือคำนับทุกคนด้วยท่าทางเป็นมิตร

เถ้าแก่หลายคนแอบมองเถ้าแก่หวง หัวหน้าซูคนนี้ดูไม่เลว ไม่ได้ดุร้ายอย่างที่เจ้าพูด อย่างน้อยก็ดีกว่าหลิวซานเตาคนก่อนเยอะ

หลิวซานเตาอดกลั้นมานานหลายปี พอขึ้นเป็นใหญ่ก็เหลิงอำนาจ ท่าทางนั้นช่างหยิ่งยโสเหลือประมาณ

“เหอะๆ หัวหน้าซู ท่านสุภาพเกินไปแล้ว ต่อไปพวกเราก็ต้องพึ่งหัวหน้าซูคอยคุ้มครอง” เถ้าแก่หลิวที่เป็นเจ้าของจุ้ยเยว่โหลวตอบด้วยรอยยิ้ม

“เถ้าแก่หลิวสุภาพเกินไป อย่างที่ว่าไว้ รับเงินของคนอื่น ก็ต้องกำจัดภัยพิบัติให้เขา รับค่าคุ้มครองของพวกท่านมาแล้ว พรรคเหยี่ยวเหินของพวกเราจะปล่อยให้คนอื่นมารังแกพวกท่านได้อย่างไร ใช่ไหม?”

ได้ยินคำพูดของซูซิน เถ้าแก่หลายคนก็คิดในใจ คนอื่นมารังแกพวกเรา? พวกเจ้าพรรคเหยี่ยวเหินไม่มารังแกพวกเราก็บุญแล้ว

พูดถึงตรงนี้ ซูซินก็เปลี่ยนเรื่องทันที “พูดถึงค่าคุ้มครอง วันนี้ข้ามีเรื่องอยากจะปรึกษากับพวกท่าน”

ได้ยินซูซินพูดแบบนี้ เถ้าแก่หลายคนก็คิดในใจ ในที่สุดก็เข้าเรื่องแล้ว

จริงๆ แล้ว พวกเขาก็คิดออกว่าวันนี้ซูซินเรียกพวกเขามาทำไม มันก็เพื่อเงินนั่นแหละ!

อย่างที่ว่าไว้ ราชวงศ์ใหม่ ขุนนางใหม่ ก่อนหน้านี้ ตอนที่พรรคไผ่เขียวดูแลถนนไคว่หั่วหลิน ค่าคุ้มครองเดือนละสามสิบตำลึง

ต่อมา เปลี่ยนเป็นหลิวซานเตา มันก็กลายเป็นห้าสิบตำลึง

ตอนนี้ซูซินมาแล้ว แม้ว่าหัวหน้าซูผู้นี้จะดูหนุ่มแน่นและเป็นมิตร แต่คงไม่ใจดีนักหรอก…

เถ้าแก่หวงพูดอย่างประชดประชัน “หัวหน้าซู กฎของพรรคเหยี่ยวเหินพวกท่านช่างแปลกจริงๆ ต้นเดือนพึ่งกำหนดค่าคุ้มครอง ตอนนี้จะเปลี่ยนอีกแล้วเหรอ?”

บ่อนพนันซุ่นเต๋อของเขารายได้ดีมาก ช่วงก่อนหน้านี้ก็ถูกหลิวซานเตารีดไถไปอย่างหนัก

ดังนั้น เขาจึงอ่อนไหวกับคำว่าค่าคุ้มครองมากที่สุด จึงอดไม่ได้ที่จะพูดประชดประชัน

แต่หลังจากพูดจบ เขาก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นหัวหน้ากลุ่มย่อยของพรรคเหยี่ยวเหิน และดูแลถนนไคว่หั่วหลิน

แม้ว่าจะทำอะไรเขาต่อหน้าไม่ได้ แต่แกล้งเขาแบบลับๆ หรือแม้แต่ทำให้ธุรกิจของเขาในถนนไคว่หั่วหลินอยู่ไม่ได้ ก็ยังทำได้ง่ายๆ

วิธีที่ง่ายที่สุดคือให้ลูกน้องหลายคนยืนอยู่หน้าบ่อนพนันของเขา ไล่ลูกค้าทุกคนที่เข้ามา ไม่เกินสามวัน บ่อนพนันของเขาก็ต้องปิดตัวลง

แต่โชคดีที่ซูซินไม่ได้ถือสาเขา แค่มองเขาอย่างเฉยเมย และพูดต่อ “กฎเป็นคนตั้ง หลิวซานเตาตั้งได้ ทำไมข้า ซูซิน จะตั้งไม่ได้? ตอนนี้ข้าตัดสินใจแล้ว ต่อไปค่าคุ้มครองของพวกท่าน ข้ายกเลิกทั้งหมด!”

คำพูดของซูซินทำให้ทุกคนตกตะลึง

ไม่เอาค่าคุ้มครอง แล้วซูซินกับลูกน้องจะกินอะไร ดื่มอะไร?

พรรคเหยี่ยวเหินไม่จ่ายเงินเดือนให้ลูกน้อง เงินในมือของลูกน้องเหล่านี้ ล้วนมาจากหัวหน้า หัวหน้าเป็นคนจ่ายให้ทั้งสิ้น

ถ้าไม่มีค่าคุ้มครอง ลูกน้องหกเจ็ดสิบคนของซูซิน ไม่เกินสามวันก็ต้องแยกย้ายกันไปหมด

เถ้าแก่หลิวหัวเราะ “หัวหน้าซูล้อเล่นได้น่าขำยิ่งนัก”

ซูซินส่ายหน้า “ข้าไม่ได้ล้อเล่น ต่อไปข้าจะไม่เอาค่าคุ้มครองแล้ว แต่ข้าจะเปลี่ยนวิธีการเก็บ”

ได้ยินซูซินพูดแบบนี้ ทุกคนก็เข้าใจ และดูถูกซูซินเล็กน้อย

แค่เปลี่ยนวิธีการเท่านั้น ทำไมต้องพูดมากมาย? คิดว่าเปลี่ยนวิธีการแล้วจะดูแตกต่างจากคนอื่นงั้นเหรอ?

“หัวหน้าซู วิธีการแบบไหน โปรดอธิบายให้พวกเราฟังหน่อย” เถ้าแก่หลิวพูดต่ออย่างรู้จักกาลเทศะ

ซูซินลุกขึ้นยืน และพูดว่า “ง่ายมาก ข้าต้องการหุ้นหนึ่งส่วนในธุรกิจของพวกท่าน ทุกเดือนแบ่งปันผลกำไร”

คำพูดนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง

ไม่มีใครคิดว่าซูซินจะโลภขนาดนี้ ขอหุ้นหนึ่งส่วนเลย

โลภขนาดนี้ เรียกว่าโลภมากก็ยังน้อยไป!

จี้กังที่อยู่ข้างหลังซูซินยังคงยิ้มแย้ม ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ส่วนหลี่ฮ่วยนั้นไม่มีสีหน้าใดๆ ทำหน้าบึ้ง เหมือนไม่ได้ยินคำพูดของซูซิน

ส่วนหวงปิ่งเฉิงที่เฝ้าอยู่หน้าประตูก็ร้อนใจ

ก่อนหน้านี้ ซูซินไม่ได้บอกอะไรเขาเลย ถ้าเขารู้ว่าซูซินจะทำแบบนี้ เขาต้องห้ามแน่ๆ

“หัวหน้าซู ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?” เถ้าแก่หลิวฝืนยิ้ม

ร้านค้าของพวกเขา โดยเฉพาะบ่อนพนันและโรงเตี๊ยม กำไรสุทธิต่อเดือนในช่วงที่ดีที่สุดอาจจะมากกว่าหมื่นตำลึง

คิดแบบนี้ หุ้นหนึ่งส่วนก็คือหนึ่งพันตำลึง เท่ากับค่าคุ้มครองเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า นี่มันเอาขี้เถ้ามาป้ายหน้าพวกเขาชัดๆ!

เถ้าแก่หวงแค่นเสียงเย็นชา “หัวหน้าซู ความโลภไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนงูที่อยากจะกลืนช้าง ข้าเฒ่าหวงผู้นี้ อยู่ในเขตฉางหนิงมานานหลายปี ไม่เคยได้ยินกฎแบบนี้มาก่อน! แม้แต่สมาคมสามวีรบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในสามพรรคสี่สมาคม ก็ไม่เคยเอาหุ้นของพวกเรา!”

ถ้าซูซินทำแบบนี้ คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือเขา

เพราะบ่อนพนันซุ่นเต๋อของเขาทำกำไรได้มากที่สุด ดังนั้นเงินที่ต้องจ่ายก็ต้องมากกว่าเถ้าแก่คนอื่นๆ

ซูซินกดมือลง บอกให้ทุกคนใจเย็นๆ

“พวกท่านฟังข้าพูดก่อน ข้าไม่ได้ขอหุ้นของพวกท่านไปเปล่าๆ แต่ข้ามีวิธีทำให้กำไรต่อเดือนของพวกท่านเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า”

ได้ยินซูซินพูดแบบนี้ ทุกคนก็เบ้ปาก เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ

เถ้าแก่หวงพูดอย่างประชดประชัน “โอ้ หัวหน้าซูมีฝีมือขนาดนั้นเลยเหรอ? ข้าเฒ่าหวงทำธุรกิจมานานหลายสิบปี ยังไม่กล้าพูดแบบนี้เลย”

ซูซินไม่สนใจเขา แต่มองเถ้าแก่หลิว ถามว่า “เถ้าแก่หลิว ข้าได้ยินมาว่า จุ้ยเยว่โหลวของท่านเคยเป็นโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุด หรูหราที่สุดในเขตฉางหนิง ทำไมตอนนี้ถึงสู้โรงเตี๊ยมหลายแห่งในใจกลางเขตฉางหนิงไม่ได้ล่ะ?”

เถ้าแก่หลิวฝืนยิ้ม อธิบายว่า “มันก็เพราะการย้ายเมืองหลวงไง ก่อนหน้านี้ ตอนที่เขตฉางหนิงของพวกเราเป็นเมืองหลวง เขตชางเต๋อที่อยู่ใจกลางเมือง ล้วนเป็นที่ตั้งของพระราชวัง ต้องรักษาหน้าตา บ่อนพนันและโรงเตี๊ยมถูกห้ามทั้งหมด

ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงเปิดบ่อนพนันและโรงเตี๊ยมไว้ที่เขตฉางเล่อที่อยู่ชายขอบ เพื่อให้ลูกหลานขุนนาง พ่อค้าร่ำรวย มาสนุกสนาน แม้แต่ชื่อเขตฉางเล่อ(เขตสุขยั่งยืน) ก็มาจากแบบนี้

แต่หลังจากที่ฝ่าบาททรงย้ายเมืองหลวง เขตฉางหนิงก็ไม่ต้องรักษาหน้าตาอีกต่อไป เขตชางเต๋อก็ค่อยๆ มีบ่อนพนันและโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ผุดขึ้นมา

สถานที่ทั้งสองแห่งไม่ต่างกัน ทุกคนย่อมเลือกสถานที่ที่ใกล้บ้าน ไม่ใช่ขึ้นรถม้าเดินทางครึ่งชั่วยามมาที่เขตฉางเล่อแบบนี้

ถ้าไม่ใช่เพราะลูกค้าเก่าๆ ที่คิดถึงอดีตมาเล่นบ่อยๆ คงจะไม่มีแม้แต่ถนนไคว่หั่วหลินแล้ว”

เถ้าแก่หลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็พยักหน้า พวกเขาล้วนผ่านยุคนั้นมา และรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น

พวกเขารุ่งเรืองก็เพราะเขตฉางเล่อ ล่มสลายก็เพราะเขตฉางเล่อ

หลังจากที่ราชวงศ์ต้าโจวย้ายเมืองหลวง คนฉลาดบางคนก็ซื้อที่ดิน สร้างอาคารในเขตชางเต๋อที่อยู่ใกล้ใจกลางเมือง พอพวกเขาตั้งสติได้ ที่นั่นก็ไม่มีแม้แต่ที่ดินสำหรับสร้างห้องน้ำแล้ว

ซูซินนั่งลง เคาะโต๊ะด้วยนิ้วอย่างเป็นจังหวะ และพูดว่า “เถ้าแก่หลิวพูดได้ละเอียดมาก การล่มสลายของเขตฉางเล่อ สาเหตุหลักคือทำเลที่ตั้งสินะ?

เพราะที่ตั้งอยู่ไกล ในกรณีที่ขนาดและการตกแต่งเหมือนกัน ลูกค้าส่วนใหญ่จะไม่ยอมเดินทางไกล ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมพวกท่านไม่คิดจะปฏิรูปล่ะ?”

“ปฏิรูป? จะปฏิรูปอย่างไร?”

เถ้าแก่หวงแค่นเสียง “ร้านค้าของพวกเราตอนนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตฉางหนิงแล้ว แม้จะลงทุนตกแต่งใหม่ มันก็แค่ดีขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

ข้อได้เปรียบเพียงเล็กน้อยแบบนี้ ไม่สามารถดึงดูดลูกค้าจำนวนมากได้ ถึงตอนนั้น พวกเราคงขาดทุนค่าตกแต่ง”

ซูซินส่ายหน้า “ข้าไม่ได้หมายถึงการตกแต่งใหม่ แต่หมายถึงการปฏิรูปบริการของถนนไคว่หั่วหลิน”

บริการ?

เถ้าแก่หลายคนมองหน้ากัน พวกเขารู้สึกไม่คุ้นเคยกับคำนี้

“ถนนไคว่หั่วหลินของพวกเรามีบ่อนพนัน โรงเตี๊ยม โรงน้ำชา และโรงแรมมากมาย พูดตรงๆ ก็คือให้บริการลูกค้าสี่อย่าง กิน ดื่ม เล่น พัก

แต่ตอนนี้ พวกเรายังทำได้ไม่ดีพอ ไม่ได้ให้บริการที่สะดวกสบายที่สุดแก่ลูกค้า

ลูกค้าเล่นพนันที่บ่อนพนัน ถ้ามีสาวงามอยู่ข้างๆ เชื่อว่าตอนที่พวกเขาเดิมพัน พวกเขาจะใจกว้างมากขึ้น

ชนะก็ให้ทิปสาวงาม แพ้สาวงามก็จะปลอบโยน และให้กำลังใจ

เหนื่อยจากการเล่นพนัน ก็มีอาหารและเหล้าของโรงเตี๊ยมคอยบริการ เรียกเมื่อไหร่ก็มา

เล่นจนเหนื่อย อ่อนเพลีย ด้านหลังก็คือโรงแรม ไม่ต้องรีบกลับบ้าน พักที่ถนนไคว่หั่วหลินก็ได้

ดังนั้น ความคิดของข้าคือ ย้ายร้านค้าทั้งหมดในถนนไคว่หั่วหลินมาจัดกลุ่มใหม่ ให้บ่อนพนันแต่ละแห่งมีโรงเตี๊ยม โรงน้ำชา และโรงแรมอยู่ใกล้ๆ

ลูกค้าอยากทำอะไร ก็ทำได้ในเวลาอันรวดเร็ว”

หลังจากที่ซูซินพูดจบ เถ้าแก่หลายคนก็ตกตะลึง จากนั้นก็ตบขาพร้อมกัน ทำไมพวกเขาถึงคิดแบบนี้ไม่ออกกันนะ!

จริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีลูกค้าทำแบบนี้ ไปหาสาวงามที่โรงเตี๊ยมก่อน แล้วค่อยไปเล่นพนันที่บ่อนพนัน

แต่มีเพียงลูกค้าที่ร่ำรวยจริงๆ เท่านั้น ถึงจะทำแบบนี้

ยังไงถนนไคว่หั่วหลินก็เป็นถนนสายยาว เดินจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งก็ต้องใช้เวลาหนึ่งเค่อ(15 นาที) สาวงามออกไปไกล ราคาต้องเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

ส่วนบ่อนพนันซุ่นเต๋อของเถ้าแก่หวงที่ทำธุรกิจได้ดี ไม่เพียงแต่เพราะขนาดใหญ่ แต่ยังเพราะอยู่ติดกับจุ้ยเยว่โหลว

จริงๆ แล้ว วิธีการของซูซินไม่ได้แปลกใหม่ ในชาติก่อน คาสิโนขนาดใหญ่หลายแห่งในต่างประเทศก็ดำเนินธุรกิจแบบนี้ พูดสั้นๆ ก็คือ ลูกค้าคือพระเจ้า!

เถ้าแก่หลายคนที่อยู่ในที่นี้ล้วนทำธุรกิจมานานหลายปี ไม่มีใครโง่ ซูซินแค่พูดเตือนเล็กน้อย พวกเขาย่อมเข้าใจ

เถ้าแก่หลิวถามอย่างระมัดระวัง “ถ้าเป็นแบบนี้ ร้านค้าบางแห่งของพวกเรา คงต้องย้ายที่ใหม่ใช่ไหม?”

ซูซินพยักหน้า “ต้องเป็นแบบนั้น แต่ที่ดินในถนนไคว่หั่วหลินล้วนถูกวางแผนไว้ล่วงหน้า มีขนาดใกล้เคียงกัน ถ้าสลับกันสับเปลี้ยน พวกท่านก็ไม่ได้เสียเปรียบ ร้านค้าของพวกท่านต่างกันแค่การตกแต่งเท่านั้น

พวกท่านมีธุรกิจใหญ่โต เงินตกแต่งใหม่ก็น่าจะหาได้ และของในร้านเดิม มันก็สามารถย้ายไปที่ร้านใหม่ได้ ข้าคิดว่าเงินจำนวนนี้ พวกท่านน่าจะจ่ายไหว”

เถ้าแก่หลายคนคิดอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาก็เริ่มสนใจ

ถ้าแค่ตกแต่งใหม่ ก็แค่เสียเงินเปล่าๆ แม้แต่ทุนก็ไม่ได้คืน

แต่ถ้าบวกกับแผนของซูซิน ย่อมมีโอกาสพลิกสถานการณ์

หวงปิ่งเฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบส่งชาให้ซูซิน

ในตอนนี้ เขายอมรับหัวหน้าผู้นี้ด้วยใจจริง หัวทางธุรกิจเฉียบแหลมขนาดนี้ ถ้าไปทำธุรกิจ คงจะสามารถเอาชนะเถ้าแก่ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ได้แน่ๆ!

จี้กังที่ยืนอยู่ข้างหลังซูซินก็ตกตะลึง ดูเหมือนว่าเขายังประเมินซูซินต่ำเกินไปสินะ?

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด