ตอนที่แล้วบทที่ 25
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 27

บทที่ 26


โรงพยาบาลประชาชนมณฑลหนิง สาขาที่ 1

ผู้ช่วยแพทย์เจินหลี่เพิ่งลงจากห้องผ่าตัด พยาบาลก็เข้ามาบอกว่า "ผู้ช่วยเจินคะ มีพัสดุส่งมาถึงคุณค่ะ"

เจินหลี่งุนงง เธอจำไม่ได้ว่าตัวเองสั่งซื้ออะไรไว้ พอไปถึงแผนกก็อุทานว่า "นี่! ทำไมเป็นของสดแช่เย็นล่ะเนี่ย"

พอตรวจสอบชื่อผู้ส่งก็ถึงกับบางอ้อ "ซ่งถาน"

เธอเงียบไป..

พยาบาลสาวๆ แห่กันเข้ามา "ผู้ช่วยเจินคะ ผู้ช่วยสั่งอะไรมาเหรอ"

เจินหลี่หัวเราะทั้งน้ำตา "นี่ฉันไม่ได้สั่งซื้อนะ ก่อนหน้านี้เคยมีอุบัติเหตุรถชนบนสะพาน แล้วผู้หญิงคนนั้นที่ฉันเป็นคนรับผิดชอบร่วมกับนายแพทย์จางหยวน เธอก็ส่งของนี่มาให้เฉยๆ "

"พวกคุณคงจำได้ ตอนนั้นที่ผู้หญิงคนนั้นถูกทับอยู่ในรถ ดึงยังไงก็ดึงไม่ออกไง แล้วก็มีผู้ชายใจดีคนหนึ่งช่วยดึงเธอออกมา แต่พอส่งมาถึงโรงพยาบาล เธอดันไม่เป็นอะไรเลยซะอย่างนั้น"

โชคดีอะไรอย่างนี้!

พอได้ฟังต้นสายปลายเหตุของเรื่องราว ทุกคนก็ต่างนึกถึงเหตุการณ์นั้นออกทันที เนื่องจากเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่โด่งดังไปทั่วโรงพยาบาลในรอบปี จึงสลับหันกลับไปมองพัสดุก็ยิ่งต่างแปลกใจกันใหญ่ เจินหลี่เธอเป็นผู้ช่วยแพทย์ลำดับแรก ซึ่งการช่วยชีวิตคนเป็นหน้าที่ของเธออยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องส่งของตอบแทนอะไรมาทั้งสิ้น แม้ทุกคนจะแปลกใจ แต่เธอก็พอจะเดาออกว่าเป็นเพราะอะไร

แต่เรื่องนี้มันไม่ง่ายเลย…

พยาบาลถอนหายใจ "ช่วงนี้หน่วยตรวจสอบวินัยเข้มมากเลยนะคะผู้ช่วยเจิน ถ้าอย่างนั้นคุณลองดูข้างในก่อนไหม ของสดแช่เย็นก็คืนไม่ได้ เดี๋ยวลองเช็กราคาดูก่อนแล้วโอนเงินให้เขาไปเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องโดนร้องเรียนเรื่องนี้"

ผู้ช่วยเจินก็คิดแบบนั้น

แต่เดี๋ยวนี้เธอก็จนลงเหมือนกัน เนื่องจากเงินเดือนก็ยังอยู่เพียงระดับผู้ช่วยแพทย์เท่านั้น ถ้าสาวน้อยส่งของแพงๆ มาให้ เธอจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืน

คิดไปคิดมา เธอก็เปิดกล่องพัสดุด้วยใจระทึก

กล่องโฟม ถุงน้ำแข็ง ถุงลมกันกระแทก ข้างในห่อไว้ด้วยผักเล็กๆ สีเขียวดูสดกรอบ

มีกระดาษโน้ตแนบมาด้วย ผู้ช่วยแพทย์เจินหลี่คะ ผักป่าสดจากบ้านเกิดของฉันค่ะ ลองชิมดูนะคะ

เดี๋ยวนะ! ก็คือว่าค่าขนส่งราคา 60 หยวน เพียงเพื่อส่งผักป่าหนึ่งกำเนี่ยนะ? ในขณะที่เจินหลี่รู้สึกโล่งใจ ก็อดหัวเราะไม่ได้เล็กน้อย

ทุกคนเงียบไม่พูดอะไร นึกว่าของสดแช่เย็นนี้จะมีราคาสูงลิ่วกว่านี้ สุดท้ายจึงได้แต่ชื่นชมอย่างอึดอัดว่า "เอ่อ…ตัวหนังสือค่อนข้างสวยดีนะคะ"

ไม่ว่าจะเป็นแผนกฝ่ายไหนในโรงพยาบาลก็ล้วนไม่มีความลับ

ยังไม่ทันถึงเวลาพักเที่ยง ทุกคนก็รู้ทันทีว่าผู้ช่วยแพทย์เจินหลี่แห่งแผนกศัลยกรรมอุบัติเหตุ ได้รับผักป่าหนึ่งกำจากผู้ป่วยที่ส่งมาไกลเป็นพันลี้ เป็นของขวัญเล็กน้อยแต่ความรู้สึกมากมาย

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็หัวเราะลั่น "เด็กสาวคนนี้ คงเดาว่าผู้ช่วยเจินของเราก็อายุปูนนี้ คงคิดว่าเธอจะทำอาหารเป็น เธอก็เป็นแค่สาวโสดคนหนึ่ง กินอาหารที่โรงอาหารอยู่ทุกวัน จะส่งผักป่ามาทำไม? มาๆ มาบอกเสี่ยวจาง ให้มาเอาผักป่าส่งไปที่โรงอาหาร แจกจ่ายให้ทุกคนได้ลองชิม"

เมื่อพูดอย่างนี้ ทุกคนก็หัวเราะ

ผู้ช่วยแพทย์เจินหลี่ก็ค่อนข้างมีความสุข

ผักป่าหนึ่งกำ ไม่สามารถถูกกล่าวหาว่าเป็นการรับผลประโยชน์หรือรับสินบนใดๆ  เป็นเพียงของที่คนอื่นส่งมาจากระยะทางไกลเพื่อเป็นของขวัญเล็กน้อยเท่านั้น แม้ว่าจะไม่มีค่า แต่เป็นไปได้ว่าเรื่องนี้จะทำให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเริ่มจดจำชื่อและรู้จักเธอมากขึ้น

เมื่อหัวหน้าเชฟเห็นก็ดีใจเช่นกัน "ผู้ช่วยเจิน คนคนนี้ส่งของมาค่อนข้างใส่ใจเลยนะ คุณดูผักโขมนี้สิ สดกรอบ น่ากินมาก! ยิ่งตอนนี้อากาศหนาวๆ ผักป่าก็มีไม่มาก ต้องเลือกอย่างพิถีพิถันกว่าจะได้สักหนึ่งกำ"

"เดี๋ยวเที่ยงๆ ผมจะลวกน้ำร้อนแล้วคลุกกับอาหาร เอาไว้ให้ทุกคนได้ลิ้มรสผักป่าดู"

ผู้ช่วยแพทย์เจินหลี่ได้ยินเชฟพูดแบบนั้น ในหัวก็จินตนาการไปแล้วว่า ชนบทในภูเขา ลมหนาวจัด หญิงสาวคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าพื้นเมือง กำลังค้นหาผักป่าอย่างยากลำบากในทุ่งนา... ทันใดนั้นก็รู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อย

เธอจึงรีบเปิดจอโทรศัพท์มือถือแล้วส่งข้อความออกไป พร้อมแนบรูปผักป่าไปด้วย

"คุณลู่จิ่งคะ ลู่ชวนฟื้นตัวเป็นอย่างไรบ้างคะช่วงนี้? คือเป็นแบบนี้ค่ะ ก่อนหน้านี้ที่พวกคุณเคยขอร้องให้ฉันรักษาความลับไว้ ฉันจึงไม่เคยพูด แต่เด็กสาวที่ลู่ชวนช่วยออกมาจากรถ ตอนนี้เธอกำลังสืบหาข่าวคราวพวกคุณด้วยความยากลำบากอยู่นะคะ เธอดูอยากจะตอบแทนพระคุณของลู่ชวนที่ช่วยชีวิตเธอไว้มากจริงๆ จนอุตส่าห์ส่งผักป่ามาตั้งไกลไม่รู้กี่ร้อยโล เพื่อขอให้ฉันช่วยเหลือเธอทางอ้อม"

"แต่ไม่เป็นไรนะคะ ถ้าคุณไม่ต้องการให้ที่อยู่ แต่อย่างน้อยก็ให้เบอร์ติดต่อไว้ก็ดีนะคะ เด็กสาวจะได้ขอบคุณและสบายใจสักที"

พระคุณที่ช่วยชีวิต แต่กลับยังไม่ทันได้กล่าวขอบคุณอะไรสักคำกับผู้ช่วยเหลือตัวเอง รู้ข่าวอีกทีก็ย้ายโรงพยาบาลไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีแม้แต่ข่าวสาร

เด็กสาวจะรู้สึกอย่างไร…

โรงพยาบาลเหรินไห่ในเมืองหลวง

หญิงสาวหน้าตาซูบผอมนั่งอยู่บนเก้าอี้ในโถงทางเดินของโรงพยาบาล ขณะนี้เธอกำลังนั่งมองผนังอย่างว่างเปล่า จู่ๆ โทรศัพท์ของเธอก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นหลายครั้ง

เธอตกใจ รีบเปิดหน้าแชทขึ้นมา : ข้อความแรกเป็นรูปภาพผักสีเขียวขจีที่ดูน่ากินมาก

เมื่อเลื่อนลงไปดูข้อความถัดมา หญิงสาวก็เงียบไป หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็พิมพ์ข้อความตอบกลับไปอย่างกระอักกระอ่วนใจ "ขอบคุณผู้ช่วยเจินมากนะคะ ตอนนี้สภาพของลู่ชวนยังโอเคอยู่ค่ะ แต่อาจารย์หมอบอกว่าแผลไฟไหม้ระดับลึกบริเวณกว้าง... ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่นัก รู้แต่ว่าถ้าปล่อยทิ้งไว้ อาจจะรักษาไม่หายในภายหลัง"

"แม้จะผ่าตัดปลูกถ่ายผิว ก็อาจจะยังมีรอยแผลเป็นหลงเหลืออยู่..."

"ลู่ชวนบอกว่าเขาไม่ชอบออกไปไหนอยู่แล้ว ตอนนี้หน้าก็เสียโฉมแล้ว อยู่บ้านเฉยๆ ก็ได้ จะได้ไม่มีใครมายุ่ง แต่แผลตอนอยู่ที่บ้านก็ไม่ค่อยหายดี เลยต้องพากลับมารักษาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง"

หลังจากคิดทบทวน เธอก็ลบข้อความนี้ทิ้งไป

แล้วพิมพ์ตอบกลับไปสั้นๆ ว่า "ขอบคุณผู้ช่วยเจินนะคะ ตอนนี้สภาพร่างกายของลู่ชวนยังโอเคอยู่ค่ะ แต่เขาไม่ยอมผ่าตัดปลูกถ่ายผิว ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการรักษา เด็กสาวคนนั้นดูเป็นคนจิตใจดีนะคะ ก็แสดงว่าลูกชายฉันช่วยคนไว้ไม่ผิดแล้ว งั้นยังไงก็รบกวนให้เบอร์ติดต่อของลู่ชวนกับเธอไปก็ได้ค่ะ เบอร์โทรศัพท์กับไลน์ผูกไว้เป็นเบอร์เดียวกัน"

ทั้งคู่เป็นหนุ่มสาวที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกัน ลู่ชวนเองก็ไม่มีเพื่อนสนิทอะไรมากมาย ก็ดีเหมือนกันเผื่อเธอจะช่วยโน้มน้าวใจได้

ในห้องผู้ป่วยที่อยู่คนละฝั่งกำแพง

ลู่ชวนรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างกายจนรู้สึกตัวสะดุ้งตื่นขึ้น เขาพยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ตอนนี้ผมของเขาถูกโกนจนเกลี้ยง ใบหน้าตั้งแต่โหนกแก้มซ้ายไปจนถึงหน้าผากถูกพันด้วยผ้าปิดแผลไปกว่าครึ่งซีก ด้านซ้ายของลำคอก็ถูกปิดอย่างมิดชิด ผ้าปิดแผลลามไปถึงไหล่ หลัง และแม้แต่หน้าอกก็มีบ้างเล็กน้อย

เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ มีข้อความส่วนตัวในแอปพลิเคชั่นไลน์ค้างไว้ ‘ 99+ ’

ลู่ชวนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจกดเปิด

และเมื่อกดเปิดไลน์ ทันใดนั้นข้อความใหม่ก็เด้งขึ้นมารัวๆ จนอ่านแทบไม่ทัน

“ลู่ชวน แกคือลูกชายคนเดียวของตระกูลโจว หลังจากพอโตเป็นผู้ใหญ่ก็ปีกกล้าขาแข็งแอบไปเปลี่ยนนามสกุลเอาเองลับหลังพ่อ มันใช่เรื่องหรือยังไง! แต่ช่างมัน เรื่องนั้นฉันยังให้อภัยแกได้ แต่ขอแค่แกเปลี่ยนกลับมาเหมือนเดิมก็พอ ที่สำคัญแกไม่ควรทำตัวตามใจตัวเองแบบนี้เข้าใจไหม ไม่ควรเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงด้วย”

“ฉันได้ยินจากแม่แกว่า แกไม่ยอมรับการปลูกถ่ายผิวหนังเหรอ”

“ห้ามทำแบบนั้นเด็ดขาด!! แกต้องรักษาตัวให้ดี! หน้าตาแกหล่อเหลาขนาดนั้น ขนาดลูกสาวลุงจางยังหลงใหลได้ปลื้มแกจะตายไป ที่บ้านเขามีลูกสาวแค่คนเดียว ทรัพย์สินไม่รู้กี่ล้าน แกจะยอมพลาดโอกาสแบบนี้ไปเหรอ เป็นบ้าหรือยังไง!”

“ยิ่งกว่านั้น ถ้าฉันไม่มีลูกชายให้สืบทอดทรัพย์สินมูลค่าเป็นห้าสิบล้าน แกต้องการให้ทุกคนหัวเราะเยาะฉันเหรอ! คงสะใจมากสินะ”

“ฉันเป็นพ่อแท้ๆ ของแกนะ! ถึงจะหย่ากับแม่แกแล้วก็ตาม”

“ฉันสั่งให้แกต้องยอมรับการผ่าตัด ลูกสาวลุงจางแอบชอบแกมาก จนถึงตอนนี้เธอยังไม่มีแฟนเลย เธอรอแกอยู่คนเดียวเนี่ย เพราะฉะนั้นอย่าทำให้เธอต้องผิดหวัง และห้ามทำให้ฉันผิดหวังเด็ดขาด!”

“หลังจากที่ผ่าตัดเสร็จแล้ว ก็รีบกลับมาบ้านด้วย”

ลู่ชวนยิ้มเยาะ เสียงหัวเราะของเขาทำให้ผิวหนังที่ห่อหุ้มใบหน้ารัดตึง ความเจ็บปวดจากบาดแผลไม่ต่างกับจิตใจที่บอบช้ำในตอนนี้ เขาเลื่อนหารายชื่อไลน์ต่อไป จนกระทั่งหยุดอยู่ที่รายชื่อหนึ่ง แล้วจึงกดส่งข้อความ : สวัสดีครับ คุณคือคุณจ้าว นายหน้าของบริษัทหวังหยางในเมืองหลวงใช่ไหม? บ้านที่แม่ผมดูไว้ก่อนหน้านี้ ซื้อได้เลยครับตอนนี้ แล้วลงชื่อในโฉนดเป็นของแม่ผมได้เลย”

“รบกวนคุณมาที่โรงพยาบาลเหรินไห่เพื่อรับเงินมัดจำก้อนแรกด้วย แล้วพาแม่ผมไปดูบ้านอีกครั้ง บอกว่าผมเป็นคนให้จัดการเรื่องทั้งหมด”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด