ตอนที่แล้วบทที่ 8 ฝึกฝนวิทยายุทธ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10 วิชาขว้างมีด!

บทที่ 9 ยาพิเศษ


บทที่ 9 ยาพิเศษ

"ปุ๊ก"

ซื่อหวินเปิดจุกขวด

เขาเทยาภายในขวดออกมา

ยาชนิดนี้เป็นของเหลวข้นสีเขียว

มันมีกลิ่นเหม็นอย่างมากและค่อนข้างฉุน

อย่างไรก็ตาม เมื่อซื่อหวินทายาลงบนบาดแผลที่มือ เขากลับรู้สึกเย็นสบาย

มันเหมือนกับน้ำมันหอมระเหยที่ทำให้รู้สึกสบายมาก

แม้แต่ความเจ็บปวดที่มือก็ลดลงไปมาก

หลังจากทายา ตามกฎแล้วซื่อหวินต้องพักผ่อนหนึ่งชั่วยาม

เพื่อรอให้ผิวหนังบนมือค่อยๆดูดซับยา

ซื่อหวินเองก็เริ่มสังเกตเด็กฝึกหัดคนอื่นๆในลาน

ไม่ว่าจะฝึกด้วยกรวดทราย หรือฝึกด้วยลำต้นไม้

นิ้วของพวกเขาก็ล้วนได้รับบาดเจ็บ

พวกเขาเองก็มีขวดเล็กๆที่ใส่ยาสำหรับทาแผลเช่นกัน

"นี่ เจ้าเพิ่งมาใหม่เหรอ?"

ซื่อหวินเงยหน้าขึ้น

เขาเห็นชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะอายุไม่ถึงยี่สิบยืนอยู่

เขาแต่งตัวเรียบง่าย แววตาดูมีไหวพริบ

ซื่อหวินรู้ว่าอีกฝ่ายก็เองฝึกด้วยกรวดทรายเช่นกัน

แต่เขาน่าจะมาฝึกก่อนซื่อหวิน

"ใช่ ข้าเพิ่งมาฝึกวันนี้น่ะ"

"ข้าชื่อจ้าวหง ข้ามาที่นี่ก่อนเจ้าประมาณสิบวันได้แล้ว"

"สิบวันหรือ? เจ้าอยู่ที่นี่มาสิบวันแล้วแต่ยังฝึกด้วยกรวดทรายอยู่อีกหรือ?"

ดวงตาของซื่อหวินหรี่ลงเล็กน้อย

ผ่านมาสิบวันแล้วแต่ยังฝึกด้วยกรวดทรายอยู่

เขามีเวลาทั้งหมดแค่สิบห้าวัน

ถ้าหากผ่านสิบห้าวันนี้ไปแล้วยังไม่สามารถจ่ายเงินห้าตำลึงที่เหลือได้ เขาก็จะต้องออกไปจากที่นี่

แต่ถ้ายังฝึกด้วยกรวดทรายอยู่ มันจะมีประโยชน์อะไร?

"ฮ่ะๆๆ แค่สิบวันของข้าไม่นับว่ามากอะไรหรอก"

"เจ้าเพิ่งใหม่มาคงจะยังไม่รู้"

"ข้าเคยถามทุกคนมาแล้ว การฝึกด้วยกรวดทรายนั้นอาจใช้เวลาสั้นหรือยาวก็ได้"

"สำหรับคนที่ใช้เวลาสั้น ข้าเคยได้ยินว่าแค่สามถึงห้าวันก็สามารถผ่านได้แล้วก็ไปฝึกด้วยลำต้นไม้ต่อได้แล้ว"

"ส่วนคนที่ใช้เวลานานหน่อยก็อยู่ที่ครึ่งปี"

"แล้วถ้าเป็นตามปกติล่ะ?"

ซื่อหวินถาม

"ถ้าปกติแล้ว อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งเดือนหรือถ้าดีกว่านั้นหน่อยก็ประมาณยี่สิบกว่าวัน"

ซื่อหวินเงียบ

เขาต้องฝึกฝนที่นี่อย่างน้อยยี่สิบวันถึงหนึ่งเดือน

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าพรสวรรค์น้อยกว่านั้นก็อาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้

แต่โรงฝึกดัชนีทองไม่สนใจว่าผู้ฝึกจะใช้เวลานานแค่ไหน

ขอแค่มีเงินก็พอ

ถ้าหากไม่จ่ายเงินก็จะถูกไล่ออกจากโรงฝึกทันที

ซื่อหวินไม่มีเงินมาก เขาจึงอยากจะใช้เวลาให้สั้นที่สุดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

อย่างน้อย เขาก็ต้องไม่ "เล่นทราย" ถูผิวอยู่ที่นี่ เพราะมันไม่มีความหมายอะไรกับเขาเลย

ซื่อหวินคิดในใจ

เขาในตอนนี้ก็ยังแตกต่างจากคนอื่นอยู่ดี

แม้วงแหวนสีแดงของเขาจะสามารถทำลายคอขวดได้

ถ้าหากการฝึกฝนมีคอขวด

เขาก็สามารถใช้วงแหวนสีแดงเพื่อทะลวงผ่านได้โดยตรง!

แต่ต้องมีเงื่อนไขว่าเขาต้องฝึกฝนจนถึงคอขวดก่อน

ซื่อหวินได้พูดคุยกับจ้าวหงอีกครั้ง

การฝึกฝนนี้ก็มีคอขวดเหมือนกัน

อย่างเช่น การฝึกฝนด้วยกรวดทรายก็ถือเป็นขั้นตอนแรกของการฝึกฝน

การฝึกฝนด้วยลำต้นไม้ถือเป็นขั้นตอนที่สอง

และขั้นตอนแรกของการฝึกฝน คนที่เก่งกาจอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็สามารถไปถึงขั้นตอนที่สองได้

ซึ่งนั่นถือว่าเป็นระดับอัจฉริยะ!

ส่วนคนที่ใช้เวลานานก็อาจจะต้องใช้เวลาถึงครึ่งปีหรือหนึ่งปี

จนถึงตอนนี้ก็ยังมีบางคนที่ยังไม่สามารถไปถึงขั้นตอนที่สองได้เลย

ดังนั้น แม้การฝึกฝนนี้จะมีคอขวดแต่ก็ไม่ยากเกินไป

คนทั่วไปโดยพื้นฐานแล้วก็สามารถไปถึงขั้นตอนที่สองได้

เมื่อรู้ว่าขั้นตอนแรกของการฝึกฝนมีคอขวด ซื่อหวินจึงเบาใจ

ตอนนี้เขาแค่ต้องฝึกฝนอย่างตั้งใจเท่านั้น

และพยายามไปให้ถึงคอขวดของขั้นตอนแรกให้ได้โดยเร็วที่สุด

เมื่อไปถึงคอขวดแล้ว เขาถึงจะสามารถใช้วงแหวนสีแดงเพื่อทำลายคอขวดได้

เพื่อก้าวเข้าสู่ขั้นตอนที่สองของการฝึกฝน

ซื่อหวินยังคงพักผ่อนอย่างเงียบๆ

การฝึกฝนนี้เขาจะต้องอดทน!

เพราะการฝึกฝนด้วยกรวดทราย มือทั้งสองข้างจะต้องทนต่อการเสียดสีของกรวดทราย

มันเป็นความเจ็บปวดที่แสนสาหัส!

ทุกครั้งที่เอามือจุ่มลงไปในกรวดทราย

มันไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีเลย

ราวกับว่าทั้งสิบนิ้วกำลังเชื่อมต่อกับหัวใจ

ความเจ็บปวดนั้นทรมานจนถึงกระดูก!

แม้ว่าซื่อหวินจะมีจิตใจที่มุ่งมั่นแต่บางครั้งก็มีความลังเลใจเกิดขึ้น

หลังจากนั้น เวลาได้ผ่านไปทีละน้อย

ซื่อหวินพบว่า บาดแผลที่มือของเขาหายเร็วขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ

ใช่ มันกำลังหายดี

แม้กระทั่งเริ่มตกสะเก็ดแล้ว

และนี่เพิ่งจะผ่านไปแค่หนึ่งชั่วยามเท่านั้น

"ยาพิเศษ!"

"ยาพิเศษของโรงฝึกดัชนีทองสามารถทำให้บาดแผลที่มือหายได้อย่างรวดเร็วจริงๆ"

"ไม่น่าแปลกใจเลยที่โรงฝึกดัชนีทองสามารถใช้วิธีที่เรียกว่า 'ทำร้ายตัวเอง' เพื่อฝึกฝนวิทยายุทธได้"

"ที่แท้ ก็มียาพิเศษที่น่าอัศจรรย์แบบนี้อยู่นี่เอง..."

ซื่อหวินมองขวดยาในมือด้วยแววตาของเขาเปล่งประกายแปลกๆออกมา

ดูเหมือนว่า โรงฝึกดัชนีทองนี้ยังพอจะมีอะไรดีๆอยู่บ้าง

หลังจากนั้น ซื่อหวินก็ยังคงกัดฟัน "ฝึกฝน" ต่อไป

เขาฝึกฝนไปอีกประมาณครึ่งชั่วยาม

มือของเขาตอนนี้เริ่มเต็มไปด้วยเลือดและเนื้อ ซึ่งในเวลานี้ควรจะต้องทายาพิเศษแล้ว

ไม่เช่นนั้น มือของเขาก็จะใช้การไม่ได้

หลังจากนั้น เวลาก็ผ่านไปทีละน้อย

ในไม่ช้า พระอาทิตย์ก็เริ่มตกดิน

เวลาฝึกฝนอีกหนึ่งวันได้สิ้นสุดลง

หลังจากนั้น จู่ๆ "ศิษย์พี่เซี่ย" ก็ไม่รู้ว่าปรากฎตัวขึ้นมาจากที่ไหน

เขาไล่ซื่อหวินและคนอื่นๆออกไปทั้งหมดโดยไม่ต้องการให้อยู่ต่อแม้แต่นาทีเดียว

"เจ้าซื่อ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ"

จ้าวหงพูดทักทายซื่อหวินด้วยความเจ็บปวด

มันเจ็บมากจริงๆ!

ท้ายที่สุดแล้ว การฝึกฝนด้วยกรวดทรายก็ทำให้มือนั้นเต็มไปด้วยเลือด

ซื่อหวินพยักหน้า

แม้จะเป็นวันแรกที่เขารู้จัก "จ้าวหง" ที่เอาแต่พูดมากคนนี้

แต่ถ้าหากจ้าวหงไม่พูดมาก ซื่อหวินก็คงไม่รู้ถึงความรู้ทั่วไปในโรงฝึกดัชนีทอง

หลังจากออกจากโรงฝึกไป ซื่อหวินยังไม่ได้กลับบ้านทันที

แต่ไปเดินเล่นอยู่ตามถนน

จนกระทั่งฟ้าเริ่มมืด เขาจึงค่อยๆเดินกลับบ้าน

แต่เนื่องจากร่างกายที่ขาดสารอาหาร ซื่อหวินจึงมีอาการตาพร่ามัวลงเล็กน้อย

ในตอนกลางคืน เขาแทบจะมองเห็นอะไรได้ไม่ค่อยชัดนัก

เขาเดินกลับบ้านอย่างทุลักทุเลโดยอาศัยเพียงความจำเท่านั้น

ซื่อหวินเปิดประตูและมองไปในห้องที่ว่างเปล่าซึ่งไม่มีแม้แต่เงาของซื่อฮุ่ย

"ซื่อฮุ่ย?"

ซื่อหวินเรียกชื่อพี่สาวคนที่สองของเขา

แต่ก็ยังไม่มีการตอบรับใดๆ

สีหน้าของซื่อหวินเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เขาเริ่มเดินหาไปทั่วห้องอีกครั้ง

ไม่มีใครอยู่ในห้อง!

ตอนนี้ซื่อฮุ่ยได้หายตัวไป!

ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวของซื่อหวิน

“หรือว่าไอ้เจ้าซู่เอ๋อโก่วทำอะไรซื่อฮุ่ยหรือเปล่า?”

“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆข้าควรจะทำอย่างไร?”

เขาควรไปหาเรื่องซู่เอ๋อโก่วทันทีหรือควรไปขอความช่วยเหลือจากซื่อเหลียนดี?

ในตอนนี้ ซื่อหวินเข้าใจอย่างแท้จริงแล้วว่าตัวเขานั้นไร้ความสามารถมากเพียงใด

และยิ่งด้วยในสภาพของเขาตอนนี้ที่ขาพิการไปแล้วข้างหนึ่ง

หากเผชิญหน้ากับซู่เอ๋อโก่วก็คงไม่มีทางสู้ได้เลย

"แอ๊ด"

ในตอนนั้น ก็มีคนผลักประตูเข้ามา

"ซื่อฮุ่ย? นี่พี่ไปไหนมาน่ะ?"

ซื่อหวินมองไปที่ซื่อฮุ่ยอย่างตกใจ

ตอนนี้ซื่อฮุ่ยได้กลับมาแล้ว

ซื่อฮุ่ยอุ้มเสื้อผ้าจำนวนมากและมีใบหน้าที่เผยให้เห็นรอยยิ้มเล็กน้อย "วันนี้ป้าหลี่ที่อยู่ข้างบ้านแนะนำงานให้พี่น่ะ"

"ดูสิ มีเสื้อผ้าเยอะแยะเลย ถ้าหากซักเสร็จอย่างน้อยก็ได้สามสิบอีแปะแหนะ"

"ถ้าหากพี่เย็บปะเสื้อผ้าอีกหน่อยก็อาจจะได้เงินอีกหนึ่งตำลึง"

"แบบนี้ค่าฝึกวิทยายุทธในครึ่งเดือนหลังของเจ้า ก็จะขาดแค่สามตำลึงแล้ว"

"เดี๋ยวพี่จะค่อยหาวิธีด้วยการไปขอยืมชาวบ้านหรืออาจจะเอาของไปจำนำอีกสักหน่อย ก็อาจจะได้เงินมาอีกห้าตำลึง เท่านี้ก็น่าจะพอให้เจ้าอยู่ที่โรงฝึกดัชนีทองต่อได้อีกครึ่งเดือนแล้วล่ะ"

ซื่อหวินมองไปที่มือที่ซีดเซียวของพี่สาวของเขา

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาถึงกับรู้สึกจุกอยู่ในอกและไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด