บทที่ 9 ยาพิเศษ
บทที่ 9 ยาพิเศษ
"ปุ๊ก"
ซื่อหวินเปิดจุกขวด
เขาเทยาภายในขวดออกมา
ยาชนิดนี้เป็นของเหลวข้นสีเขียว
มันมีกลิ่นเหม็นอย่างมากและค่อนข้างฉุน
อย่างไรก็ตาม เมื่อซื่อหวินทายาลงบนบาดแผลที่มือ เขากลับรู้สึกเย็นสบาย
มันเหมือนกับน้ำมันหอมระเหยที่ทำให้รู้สึกสบายมาก
แม้แต่ความเจ็บปวดที่มือก็ลดลงไปมาก
หลังจากทายา ตามกฎแล้วซื่อหวินต้องพักผ่อนหนึ่งชั่วยาม
เพื่อรอให้ผิวหนังบนมือค่อยๆดูดซับยา
ซื่อหวินเองก็เริ่มสังเกตเด็กฝึกหัดคนอื่นๆในลาน
ไม่ว่าจะฝึกด้วยกรวดทราย หรือฝึกด้วยลำต้นไม้
นิ้วของพวกเขาก็ล้วนได้รับบาดเจ็บ
พวกเขาเองก็มีขวดเล็กๆที่ใส่ยาสำหรับทาแผลเช่นกัน
"นี่ เจ้าเพิ่งมาใหม่เหรอ?"
ซื่อหวินเงยหน้าขึ้น
เขาเห็นชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะอายุไม่ถึงยี่สิบยืนอยู่
เขาแต่งตัวเรียบง่าย แววตาดูมีไหวพริบ
ซื่อหวินรู้ว่าอีกฝ่ายก็เองฝึกด้วยกรวดทรายเช่นกัน
แต่เขาน่าจะมาฝึกก่อนซื่อหวิน
"ใช่ ข้าเพิ่งมาฝึกวันนี้น่ะ"
"ข้าชื่อจ้าวหง ข้ามาที่นี่ก่อนเจ้าประมาณสิบวันได้แล้ว"
"สิบวันหรือ? เจ้าอยู่ที่นี่มาสิบวันแล้วแต่ยังฝึกด้วยกรวดทรายอยู่อีกหรือ?"
ดวงตาของซื่อหวินหรี่ลงเล็กน้อย
ผ่านมาสิบวันแล้วแต่ยังฝึกด้วยกรวดทรายอยู่
เขามีเวลาทั้งหมดแค่สิบห้าวัน
ถ้าหากผ่านสิบห้าวันนี้ไปแล้วยังไม่สามารถจ่ายเงินห้าตำลึงที่เหลือได้ เขาก็จะต้องออกไปจากที่นี่
แต่ถ้ายังฝึกด้วยกรวดทรายอยู่ มันจะมีประโยชน์อะไร?
"ฮ่ะๆๆ แค่สิบวันของข้าไม่นับว่ามากอะไรหรอก"
"เจ้าเพิ่งใหม่มาคงจะยังไม่รู้"
"ข้าเคยถามทุกคนมาแล้ว การฝึกด้วยกรวดทรายนั้นอาจใช้เวลาสั้นหรือยาวก็ได้"
"สำหรับคนที่ใช้เวลาสั้น ข้าเคยได้ยินว่าแค่สามถึงห้าวันก็สามารถผ่านได้แล้วก็ไปฝึกด้วยลำต้นไม้ต่อได้แล้ว"
"ส่วนคนที่ใช้เวลานานหน่อยก็อยู่ที่ครึ่งปี"
"แล้วถ้าเป็นตามปกติล่ะ?"
ซื่อหวินถาม
"ถ้าปกติแล้ว อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งเดือนหรือถ้าดีกว่านั้นหน่อยก็ประมาณยี่สิบกว่าวัน"
ซื่อหวินเงียบ
เขาต้องฝึกฝนที่นี่อย่างน้อยยี่สิบวันถึงหนึ่งเดือน
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าพรสวรรค์น้อยกว่านั้นก็อาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้
แต่โรงฝึกดัชนีทองไม่สนใจว่าผู้ฝึกจะใช้เวลานานแค่ไหน
ขอแค่มีเงินก็พอ
ถ้าหากไม่จ่ายเงินก็จะถูกไล่ออกจากโรงฝึกทันที
ซื่อหวินไม่มีเงินมาก เขาจึงอยากจะใช้เวลาให้สั้นที่สุดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
อย่างน้อย เขาก็ต้องไม่ "เล่นทราย" ถูผิวอยู่ที่นี่ เพราะมันไม่มีความหมายอะไรกับเขาเลย
ซื่อหวินคิดในใจ
เขาในตอนนี้ก็ยังแตกต่างจากคนอื่นอยู่ดี
แม้วงแหวนสีแดงของเขาจะสามารถทำลายคอขวดได้
ถ้าหากการฝึกฝนมีคอขวด
เขาก็สามารถใช้วงแหวนสีแดงเพื่อทะลวงผ่านได้โดยตรง!
แต่ต้องมีเงื่อนไขว่าเขาต้องฝึกฝนจนถึงคอขวดก่อน
ซื่อหวินได้พูดคุยกับจ้าวหงอีกครั้ง
การฝึกฝนนี้ก็มีคอขวดเหมือนกัน
อย่างเช่น การฝึกฝนด้วยกรวดทรายก็ถือเป็นขั้นตอนแรกของการฝึกฝน
การฝึกฝนด้วยลำต้นไม้ถือเป็นขั้นตอนที่สอง
และขั้นตอนแรกของการฝึกฝน คนที่เก่งกาจอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็สามารถไปถึงขั้นตอนที่สองได้
ซึ่งนั่นถือว่าเป็นระดับอัจฉริยะ!
ส่วนคนที่ใช้เวลานานก็อาจจะต้องใช้เวลาถึงครึ่งปีหรือหนึ่งปี
จนถึงตอนนี้ก็ยังมีบางคนที่ยังไม่สามารถไปถึงขั้นตอนที่สองได้เลย
ดังนั้น แม้การฝึกฝนนี้จะมีคอขวดแต่ก็ไม่ยากเกินไป
คนทั่วไปโดยพื้นฐานแล้วก็สามารถไปถึงขั้นตอนที่สองได้
เมื่อรู้ว่าขั้นตอนแรกของการฝึกฝนมีคอขวด ซื่อหวินจึงเบาใจ
ตอนนี้เขาแค่ต้องฝึกฝนอย่างตั้งใจเท่านั้น
และพยายามไปให้ถึงคอขวดของขั้นตอนแรกให้ได้โดยเร็วที่สุด
เมื่อไปถึงคอขวดแล้ว เขาถึงจะสามารถใช้วงแหวนสีแดงเพื่อทำลายคอขวดได้
เพื่อก้าวเข้าสู่ขั้นตอนที่สองของการฝึกฝน
ซื่อหวินยังคงพักผ่อนอย่างเงียบๆ
การฝึกฝนนี้เขาจะต้องอดทน!
เพราะการฝึกฝนด้วยกรวดทราย มือทั้งสองข้างจะต้องทนต่อการเสียดสีของกรวดทราย
มันเป็นความเจ็บปวดที่แสนสาหัส!
ทุกครั้งที่เอามือจุ่มลงไปในกรวดทราย
มันไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีเลย
ราวกับว่าทั้งสิบนิ้วกำลังเชื่อมต่อกับหัวใจ
ความเจ็บปวดนั้นทรมานจนถึงกระดูก!
แม้ว่าซื่อหวินจะมีจิตใจที่มุ่งมั่นแต่บางครั้งก็มีความลังเลใจเกิดขึ้น
หลังจากนั้น เวลาได้ผ่านไปทีละน้อย
ซื่อหวินพบว่า บาดแผลที่มือของเขาหายเร็วขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
ใช่ มันกำลังหายดี
แม้กระทั่งเริ่มตกสะเก็ดแล้ว
และนี่เพิ่งจะผ่านไปแค่หนึ่งชั่วยามเท่านั้น
"ยาพิเศษ!"
"ยาพิเศษของโรงฝึกดัชนีทองสามารถทำให้บาดแผลที่มือหายได้อย่างรวดเร็วจริงๆ"
"ไม่น่าแปลกใจเลยที่โรงฝึกดัชนีทองสามารถใช้วิธีที่เรียกว่า 'ทำร้ายตัวเอง' เพื่อฝึกฝนวิทยายุทธได้"
"ที่แท้ ก็มียาพิเศษที่น่าอัศจรรย์แบบนี้อยู่นี่เอง..."
ซื่อหวินมองขวดยาในมือด้วยแววตาของเขาเปล่งประกายแปลกๆออกมา
ดูเหมือนว่า โรงฝึกดัชนีทองนี้ยังพอจะมีอะไรดีๆอยู่บ้าง
หลังจากนั้น ซื่อหวินก็ยังคงกัดฟัน "ฝึกฝน" ต่อไป
เขาฝึกฝนไปอีกประมาณครึ่งชั่วยาม
มือของเขาตอนนี้เริ่มเต็มไปด้วยเลือดและเนื้อ ซึ่งในเวลานี้ควรจะต้องทายาพิเศษแล้ว
ไม่เช่นนั้น มือของเขาก็จะใช้การไม่ได้
หลังจากนั้น เวลาก็ผ่านไปทีละน้อย
ในไม่ช้า พระอาทิตย์ก็เริ่มตกดิน
เวลาฝึกฝนอีกหนึ่งวันได้สิ้นสุดลง
หลังจากนั้น จู่ๆ "ศิษย์พี่เซี่ย" ก็ไม่รู้ว่าปรากฎตัวขึ้นมาจากที่ไหน
เขาไล่ซื่อหวินและคนอื่นๆออกไปทั้งหมดโดยไม่ต้องการให้อยู่ต่อแม้แต่นาทีเดียว
"เจ้าซื่อ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ"
จ้าวหงพูดทักทายซื่อหวินด้วยความเจ็บปวด
มันเจ็บมากจริงๆ!
ท้ายที่สุดแล้ว การฝึกฝนด้วยกรวดทรายก็ทำให้มือนั้นเต็มไปด้วยเลือด
ซื่อหวินพยักหน้า
แม้จะเป็นวันแรกที่เขารู้จัก "จ้าวหง" ที่เอาแต่พูดมากคนนี้
แต่ถ้าหากจ้าวหงไม่พูดมาก ซื่อหวินก็คงไม่รู้ถึงความรู้ทั่วไปในโรงฝึกดัชนีทอง
หลังจากออกจากโรงฝึกไป ซื่อหวินยังไม่ได้กลับบ้านทันที
แต่ไปเดินเล่นอยู่ตามถนน
จนกระทั่งฟ้าเริ่มมืด เขาจึงค่อยๆเดินกลับบ้าน
แต่เนื่องจากร่างกายที่ขาดสารอาหาร ซื่อหวินจึงมีอาการตาพร่ามัวลงเล็กน้อย
ในตอนกลางคืน เขาแทบจะมองเห็นอะไรได้ไม่ค่อยชัดนัก
เขาเดินกลับบ้านอย่างทุลักทุเลโดยอาศัยเพียงความจำเท่านั้น
ซื่อหวินเปิดประตูและมองไปในห้องที่ว่างเปล่าซึ่งไม่มีแม้แต่เงาของซื่อฮุ่ย
"ซื่อฮุ่ย?"
ซื่อหวินเรียกชื่อพี่สาวคนที่สองของเขา
แต่ก็ยังไม่มีการตอบรับใดๆ
สีหน้าของซื่อหวินเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขาเริ่มเดินหาไปทั่วห้องอีกครั้ง
ไม่มีใครอยู่ในห้อง!
ตอนนี้ซื่อฮุ่ยได้หายตัวไป!
ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวของซื่อหวิน
“หรือว่าไอ้เจ้าซู่เอ๋อโก่วทำอะไรซื่อฮุ่ยหรือเปล่า?”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆข้าควรจะทำอย่างไร?”
เขาควรไปหาเรื่องซู่เอ๋อโก่วทันทีหรือควรไปขอความช่วยเหลือจากซื่อเหลียนดี?
ในตอนนี้ ซื่อหวินเข้าใจอย่างแท้จริงแล้วว่าตัวเขานั้นไร้ความสามารถมากเพียงใด
และยิ่งด้วยในสภาพของเขาตอนนี้ที่ขาพิการไปแล้วข้างหนึ่ง
หากเผชิญหน้ากับซู่เอ๋อโก่วก็คงไม่มีทางสู้ได้เลย
"แอ๊ด"
ในตอนนั้น ก็มีคนผลักประตูเข้ามา
"ซื่อฮุ่ย? นี่พี่ไปไหนมาน่ะ?"
ซื่อหวินมองไปที่ซื่อฮุ่ยอย่างตกใจ
ตอนนี้ซื่อฮุ่ยได้กลับมาแล้ว
ซื่อฮุ่ยอุ้มเสื้อผ้าจำนวนมากและมีใบหน้าที่เผยให้เห็นรอยยิ้มเล็กน้อย "วันนี้ป้าหลี่ที่อยู่ข้างบ้านแนะนำงานให้พี่น่ะ"
"ดูสิ มีเสื้อผ้าเยอะแยะเลย ถ้าหากซักเสร็จอย่างน้อยก็ได้สามสิบอีแปะแหนะ"
"ถ้าหากพี่เย็บปะเสื้อผ้าอีกหน่อยก็อาจจะได้เงินอีกหนึ่งตำลึง"
"แบบนี้ค่าฝึกวิทยายุทธในครึ่งเดือนหลังของเจ้า ก็จะขาดแค่สามตำลึงแล้ว"
"เดี๋ยวพี่จะค่อยหาวิธีด้วยการไปขอยืมชาวบ้านหรืออาจจะเอาของไปจำนำอีกสักหน่อย ก็อาจจะได้เงินมาอีกห้าตำลึง เท่านี้ก็น่าจะพอให้เจ้าอยู่ที่โรงฝึกดัชนีทองต่อได้อีกครึ่งเดือนแล้วล่ะ"
ซื่อหวินมองไปที่มือที่ซีดเซียวของพี่สาวของเขา
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาถึงกับรู้สึกจุกอยู่ในอกและไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา…