บทที่ 81 รูปแบบสูงสุดของเด็กเรียนเก่ง
มุสา!
เธอต้องกำลังมุสาแน่ๆ!
เฉินเสี่ยวซินขมวดคิ้วมองข้อความที่สาวน้อยอัจฉริยะส่งมา ชัดเจนว่านี่เป็นกับดักที่วางไว้เป็นชุด หากไม่ระวังก็อาจจะพลาดท่าได้ง่ายๆ
เขาครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว วิเคราะห์อย่างใจเย็น แล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับ
เฉินเสี่ยวซิน: ยังไม่นอนอีกเหรอ?
ไม่นานเหยียนเสี่ยวซีก็ตอบกลับมา
เหยียนเสี่ยวซี: นอนไม่หลับ เพราะโดนนายทำให้โมโหน่ะสิ!
เฉินเสี่ยวซิน: ???
เฉินเสี่ยวซิน: เรามาพูดกันด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์นะ ทำไมฉันถึงทำให้เธอโมโหล่ะ? ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรเธอนี่
เหยียนเสี่ยวซี: ก็นายนั่นแหละ! นายนั่นแหละ! นายนั่นแหละ! รังแกฉันทุกวัน เถียงฉันไปเสียทุกเรื่อง แถมยังถือโอกาสจับฉันอีก!
จับเธอ?
เธอเป็นปลาที่ไหนกัน ฉันจะจับเธอทำไม?
เฉินเสี่ยวซินแบะปาก เผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาที่ไร้สาระนี้ เขาไม่มีทางยอมรับแน่
เฉินเสี่ยวซิน: ฉันจับเธอยังไง? จับตรงไหน? จับนานแค่ไหน?
เหยียนเสี่ยวซี: นายจับมือฉัน จับไม่ยอมปล่อย!
เฉินเสี่ยวซิน: นั่นเพราะเธอกำลังหยิกฉันอยู่! ฉันก็แค่อยากจะปลดมือเธอออก…
เหยียนเสี่ยวซี: ถามว่าจับหรือเปล่าก็พอ ไอ้คนโง่!
เฉินเสี่ยวซิน: เอ่อ..จับก็จับ ฉันจับแล้วไงล่ะ พอใจยัง?
เฉินเสี่ยวซิน: ดึกแล้ว นอนกันเถอะ ราตรีสวัสดิ์!
เหยียนเสี่ยวซีไม่ได้ตอบกลับมา ผ่านไปนานกว่าจะได้รับข้อความสั้นๆ สองคำว่า "ราตรีสวัสดิ์"
ในขณะนั้นเอง สาวน้อยอัจฉริยะกำลังนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่ม กอดหมอนใบหนึ่งแน่น ใบหน้าน่ารักของเธอเริ่มแดงเรื่อ รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว เธอทำพลาดไปแล้ว โชคดีที่แก้ตัวทันเสียก่อน
"เกิดอะไรขึ้น?"
"ฉัน...ฉันเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? ทำไมถึงส่งข้อความแบบนั้นออกไปได้"
เหยียนเสี่ยวซีกัดริมฝีปาก วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ แล้วกอดหมอนกลิ้งไปมาบนเตียง
อับอาย!
อับอายจนแทบอยากตาย!
แค่คิดถึงเขาในใจก็พอแล้ว แต่ดันพลาดให้เขารู้เข้าอีก โอ้พระเจ้า! ต่อไปจะเอาหน้าไปไว้ไหน?
เธอกลิ้งไปมาบนเตียงอยู่นาน ก่อนจะโยนหมอนทิ้ง จ้องเพดานด้วยดวงตาเลื่อนลอย หายใจหอบถี่ พึมพำกับตัวเอง "ไม่ได้ ไม่ได้ ฉันต้องระงับความคิดบ้าๆ นี่ให้ได้ เหยียนเสี่ยวซีเอ๋ย เหยียนเสี่ยวซี เธอทั้งน่ารักและฉลาดขนาดนี้ อย่าได้ทำตัวโง่เด็ดขาดนะ!"
เวลาผ่านไปไม่นาน ความง่วงก็โถมเข้าใส่ สาวน้อยอัจฉริยะที่กำลังวุ่นวายกับความรักค่อยๆ หลับใหลไป
รุ่งเช้าวันถัดมา
เฉินเสี่ยวซินมาถึงห้องเรียนเหมือนทุกวัน เริ่มแจกแบตเตอรี่สำรองและอาหารเช้า
"เฉินผี เอ้ย เฉินผิว!"
"ข้อนี้ทำยังไง?"
จางหยวนหางถือสมุดแบบฝึกหัดที่เหยียนเสี่ยวซีให้มา วิ่งมาหาเฉินเสี่ยวซินอย่างรีบร้อน ถามด้วยท่าทางจริงจัง "รีบสอนฉันหน่อย!"
"..."
"นายจริงจังเหรอ?"
เฉินเสี่ยวซินคิดว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งคืน ความกระตือรือร้นในการเรียนของเพื่อนคงจะจางหายไปแล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าแค่หนึ่งคืนกลับยิ่งลุกโชนขึ้น แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกัน
"ขอดูหน่อย"
เฉินเสี่ยวซินมองข้อที่เพื่อนชี้ ใบหน้าดำทะมึนทันที พูดอย่างหงุดหงิด "นี่มันแค่เรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับกราฟและคุณสมบัติของฟังก์ชันตรีโกณมิติ กับการคำนวณและประยุกต์ใช้เวกเตอร์เบื้องต้นเท่านั้นเอง นายทำไม่ได้เหรอ?"
จางหยวนหางเม้มปาก ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา พูดอย่างทุกข์ใจ "ถ้ากระผมทำได้ จะมาขอให้ท่านช่วยทำไมขอรับ?"
"โอ้โห"
"นายเลิกดีกว่า?" เฉินเสี่ยวซินแบะปาก พลิกดูสมุดแบบฝึกหัดในมือเพื่อน พูดว่า "ข้อนี้สอบเรขาคณิต ข้อนี้สอบการแก้อสมการ ข้อนี้สอบตัวแปรความน่าจะเป็น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด นายคงทำไม่ได้ทั้งหมด ฉันว่าเรา...เรายอมรับความเป็นจริงดีกว่า"
พูดจบ เขาก็มองสำรวจเพื่อนอย่างละเอียด ถามอย่างจริงจัง "จริงๆนะ นายอยากจะก้าวหน้าไหม? ฉันรู้สึกว่าการเรียนของนายดูไม่ค่อยบริสุทธิ์ใจเท่าไหร่!"
"พูดอะไรของนาย! ไม่ค่อยบริสุทธิ์ใจหมายความว่ายังไง!!"
"หมอนั่นเห็นนายมีผู้หญิงตามจีบเยอะแยะ ก็เลยอิจฉาน่ะสิ" หลี่เฉิงเฟิงพูดยิ้มๆ "ไม่งั้นนายคิดว่าเขาจะทำอะไร? จะตั้งใจเรียนจริงๆ น่ะเหรอ?"
จางหยวนหางทำหน้าเขินอาย ถอนหายใจลึกๆ พูดอย่างกลัดกลุ้ม "พวกนาย คนนึงจีบหัวหน้าห้อง อีกคนจีบอัจฉริยะสุดยอด มีแต่ฉันที่โดดเดี่ยว และรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจ ไปกินหมูกระทะคนเดียวมันเสียค่าเตาเพิ่ม!" จางหยวนหางเบะปากเหมือนจะร้องไห้
เฉินเสี่ยวซินกลอกตา ไม่อยากอธิบายอะไรมาก กินเสี่ยวหลงเปาไปพลางพูดเรียบๆ ว่า "นายเป็นลูกขุนนางชัดๆ แบบนี้ ยังจะกลัวไม่มีแฟนอีกเหรอ?"
"ฉันก็แค่อยากได้ความรักบริสุทธิ์!" จางหยวนหางมองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าเต็มไปด้วยความใฝ่ฝัน พึมพำว่า "ความรักที่ไม่มีสิ่งเจือปนใดๆ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง เป็นความปรารถนาที่มาจากหัวใจ ไม่ถูกล่อลวงหรือรบกวนจากภายนอก รักเพียงเพราะความรัก..."
พูดจบ จางหยวนหางก็เริ่มร้องเพลง "เพราะรักจึงรัก ความอ่อนโยนไม่อาจวางแผน ความสุขมาเร็วเหลือเกิน อย่ารอจนต้องทำร้ายกัน เพราะรักจึงรัก ความรู้สึกไม่จำเป็นต้องเสียสละ ไม่ต้องมีใครให้ฉันยุคทองอันงดงาม ฉันต้องการเธอตอนนี้..."
ไม่มีเทคนิคอะไรเลย มีแต่อารมณ์ล้วนๆ!
เฉินเสี่ยวซินแบะปาก ตอบกลับอย่างหงุดหงิด "ท่าทางที่นายตามหาความรักนี่ ดูเหมือนคนอยากไปขุดมันฝรั่งที่ไซบีเรียยังไงก็ไม่รู้" .
ในตอนนั้น
เหยียนเสี่ยวซีค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องเรียน เมื่อเห็นอัจฉริยะสาวเดินมา จางหยวนหางก็คืนสมุดแบบฝึกหัดให้เธอ
"พี่สะใภ้"
"คืนให้คุณแล้วนะ ผมไม่ใช่วัตถุดิบที่เหมาะกับเรื่องแบบนี้"
เหยียนเสี่ยวซีไม่ได้แปลกใจอะไร เธอมองออกตั้งแต่แรกแล้วว่าแรงจูงใจของคนคนนี้ไม่บริสุทธิ์ ไม่ผิดคาดเลยที่เขาคงถูกใครบางคนกระตุ้นจนอยากเริ่มเรียนอย่างไม่ลืมหูลืมตา
สาวน้อยอัจฉริยะไม่พูดอะไรมาก นั่งลงข้างๆ เฉินเสี่ยวซิน ยังคงเป็นหนังสือเรขาคณิตของรีมันน์เล่มเดิม แต่หน้าที่ยังไม่ได้อ่านเหลือไม่มากแล้ว จนกระทั่งจางหยวนหางจากไป เธอจึงค่อยๆ ใช้หางตามองไปทางชายหนุ่มข้างๆ
ไม่สนใจฉันเหรอ?
ถึงขนาดไม่มีแม้แต่ความสงสัยเลยเหรอ?
เหยียนเสี่ยวซีกัดริมฝีปากเบาๆ ดวงตาฉายแววโกรธเล็กน้อย เม้มปากพูดเบาๆ ว่า "เมื่อคืน...ฉันไม่ได้ตั้งใจส่งให้นายหรอกนะ"
"ฉันรู้"
"เธออธิบายไปแล้วนี่" เฉินเสี่ยวซินกินเสี่ยวหลงเปาไปพลางตอบอย่างไม่ใส่ใจ "ไม่ต้องพูดซ้ำอีกหรอก"
"ฉัน..."
เหยียนเสี่ยวซีเพิ่งอ้าปาก คำพูดที่ติดอยู่ที่ปากก็ลังเลอยู่นาน ก่อนจะกลืนกลับลงไป เธอพูดอย่างโมโห "ฉันไม่อยากคุยกับนายแล้ว!"
พูดจบ
เธอนั่งอ่านหนังสืออย่างหงุดหงิด แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ จนไม่สามารถอ่านต่อได้ เธอยื่นมือไปบีบต้นขาของเขาแรงๆ ระบายความโกรธทั้งหมดออกมา
"ซี่------"
เฉินเสี่ยวซินสูดลมหายใจเฮือก ภาวะโลกร้อนดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นอีกหนึ่งระดับ เขารีบคว้ามือเล็กๆ นุ่มนิ่มของเธอไว้ อ้อนวอนว่า "เจ็บ เจ็บ เจ็บ!"
"เจ็บตายซะเถอะ!"
เหยียนเสี่ยวซีปล่อยมือออก มองดูท่าทางเจ็บปวดของเขาด้วยหางตา รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย พึมพำว่า "ช่างเป็นคนโง่จริงๆ คนโง่!"
"เฮ้"
"วันเสาร์อาทิตย์นี้มีการสอบร่วมทั้งเมืองนะ"
"นาย...นายมั่นใจไหมว่าจะได้ที่ 1-3 ของเมือง?" เหยียนเสี่ยวซีถามอย่างไม่ใส่ใจ
"ที่ 1-3 เหรอ?"
"ดูถูกใครกันแน่?"
เฉินเสี่ยวซินนวดต้นขาไปพลางตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า "อย่างน้อยก็ต้องได้ที่ 2 สิ!"
"แล้วที่ 1 ล่ะ?" เหยียนเสี่ยวซีถามลอยๆ
"เธอไม่ใช่ที่ 1 หรอกเหรอ?" เฉินเสี่ยวซินมองเธอ พูดอย่างจริงจัง
เหยียนเสี่ยวซีชะงัก มองเขาอย่างสงสัย ถามอย่างอยากรู้ "นี่นับว่ายอมแพ้ล่วงหน้าแล้วเหรอ?"
"ไม่ๆๆ"
"ความสามารถโดยรวมของฉันสู้เธอไม่ได้หรอก" เฉินเสี่ยวซินยักไหล่ ตอบอย่างจนใจ
เหยียนเสี่ยวซีเม้มปาก พูดกับเขาอย่างจริงจังว่า "เฉินเสี่ยวซิน ฉันไม่อยากให้นายยอมฉัน และก็ไม่จำเป็นต้องยอมฉันด้วย นายเข้าใจความหมายของฉันไหม?"
"ยอม?"
"ทำไมฉันต้องยอมเธอด้วย?"
เฉินเสี่ยวซินมองเธออย่างสงสัย ยิ้มอย่างหงุดหงิด "อย่าบอกนะว่าเธอคิดว่าฉันกำลังยอมให้อันดับหนึ่งเธอน่ะ?"
"ฮึ!"
เหยียนเสี่ยวซีเบะปาก พึมพำเบาๆ ว่า "นายมีความสามารถแค่ไหน ฉันรู้ดีที่สุด ตอนนั้นฉันจะเปรียบเทียบข้อสอบนะ ถ้าฉันจับได้ว่านายไม่ปล่อยฝีมือออกมาเต็มที่ ฉัน...ฉันจะย้ายโรงเรียน ให้นายหาฉันไม่เจอเลย"
"จริงเหรอ?"
เฉินเสี่ยวซินดูตื่นเต้น รีบพูดว่า "สัญญานะ!"
พูดจบ
เห็นท่าทางของเธอที่กำลังจะระเบิด เฉินเสี่ยวซินก็ยิ้มกวนๆ พูดว่า "ล้อเล่นน่า เธอวางใจเถอะ ฉันจะไม่ยอมเธอหรอก"
เหยียนเสี่ยวซีแบะปาก พลิกหน้าหนังสือไปพลางพึมพำว่า "วันอาทิตย์หน้า มาบ้านฉัน แล้วติวฟิสิกส์กันไหม?"
"หมายความว่าไง?"
เฉินเสี่ยวซินทำหน้างงๆ
"นายไม่ได้จะเรียนต่อคณะฟิสิกส์เหรอ? ฉันก็จะเรียนคณะฟิสิกส์เหมือนกัน เราอาจจะเริ่มทำวิจัยล่วงหน้าได้ พอเข้ามหาวิทยาลัยก็จะได้เข้าห้องทดลองได้เลย" เหยียนเสี่ยวซีพูดอย่างจริงจัง "ฉันคิดไว้แล้วว่าจะเริ่มจากฟิสิกส์สถานะควบแน่น เพราะมีหัวข้อและเรื่องให้ศึกษามากมาย แถมยังตีพิมพ์บทความได้ง่าย พูดตรงๆ เลยนะ แค่เขียนลวกๆ ก็ได้ตีพิมพ์แล้ว"
"ฟิสิกส์สถานะควบแน่น?"
เฉินเสี่ยวซินขมวดคิ้ว ดูไม่พอใจนัก "รู้สึกว่าต่ำไปหน่อย ฉันกลัวโดนคนหัวเราะเอา เอาแค่ธาตุหลักๆ มาผสมกันก็เป็นสารประกอบใหม่แล้ว ถ้าขยายสารประกอบทวิภาคเป็นไตรภาคและจตุภาค แล้วเพิ่มการเจือปน ทำเป็นโครงสร้างโลหะผสม…ไม่เอาๆ!"
เหยียนเสี่ยวซีชะงักไปชั่วขณะ แต่ก็รวบรวมสติได้อย่างรวดเร็ว พูดเบาๆ ว่า "งั้นนายอยากศึกษาอะไร?"
"ทฤษฎีรวมทุกสรรพสิ่ง!"
เฉินเสี่ยวซินยืดอกขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจ พูดอย่างมีความหมายว่า "ต้องเป็นทฤษฎีรวมทุกสรรพสิ่งเท่านั้น! ถ้าเราสามารถอธิบายแรงโน้มถ่วง แรงนิวเคลียร์อย่างเข้ม แรงนิวเคลียร์อย่างอ่อน และแรงแม่เหล็กไฟฟ้า ทั้งสี่แรงนี้ด้วยสมการชุดเดียว เราก็จะสำเร็จในการสำรวจจักรวาลทั้งหมด ชื่อของเราสองคน...อย่าว่าแต่ไอน์สไตน์เลย แม้แต่นิวตันก็ต้องอยู่หลังเราด้วยซ้ำ"
เหยียนเสี่ยวซีกำหมัดแน่น พลังมหาศาลในร่างกายแทบจะควบคุมไม่อยู่แล้ว เธอกำลังพูดถึงความเป็นจริง แต่เขากลับพูดเรื่องนิยายวิทยาศาสตร์ ยังจะทฤษฎีรวมทุกสรรพสิ่งอีก เชื่อไหมว่าฉันจะขยายให้ใหญ่แล้วต่อยนายให้ตายคามือเลย!
"นายทำตัวดีๆ หน่อย!"
เหยียนเสี่ยวซีกัดฟันพูด "ไม่งั้นฉันจะโกรธจริงๆ แล้วนะ!"
"อะแฮ่ม..."
"ฟังเธอก็ได้ ฟังเธอก็ได้" เฉินเสี่ยวซินยิ้ม แล้วยัดเสี่ยวหลงเปาเข้าปาก พูดทั้งที่ปากเต็มว่า "เราเริ่มจากทฤษฎีก่อน แล้วค่อยทำการคำนวณก็ได้"
เหยียนเสี่ยวซีพยักหน้า ตอบรับเบาๆ
"แต่..."
"เราต้องตั้งกฎสามข้อ!" เฉินเสี่ยวซินพูดอย่างจริงจัง "ศึกษาฟิสิกส์ก็คือศึกษาฟิสิกส์ ห้ามทำอะไรที่เกินเลยกับฉัน"
เหยียนเสี่ยวซีไม่พูดอะไร เธอกำลังพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนผิดหวังกับคนคนนี้นะ?
คิดแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองเขา มองใบหน้าที่ดูกวนประสาทนั่น เหยียนเสี่ยวซีรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีดหัวใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ช่างเถอะ!
อย่างน้อยก็ยังเป็นคนอยู่
ในช่วงหลายวันต่อมา เฉินเสี่ยวซินยังคงวนเวียนอยู่ระหว่างสองจุด กลางวันขี้เกียจอยู่ที่โรงเรียน กลางคืนช่วยเหลือโลกใน Honor of Kings แถมยังไปหลอกคนอีกด้วย ชีวิตยังคงสบายๆ
แล้วในที่สุดวันเสาร์ก็มาถึง การสอบร่วมระดับมัธยมปลายทั้งเมืองก็เริ่มขึ้น! ครูประจำวิชาของ ม.6 โรงเรียนที่สองทั้งหมดไปคุมสอบที่โรงเรียนอื่น เหลือแค่ครูประจำชั้นแต่ละห้องเท่านั้น ขณะเดียวกัน ก็มีครูจากโรงเรียนอื่นมาคุมสอบที่โรงเรียนที่สองไม่น้อยเช่นกัน
ส่วนนักเรียนน่ะเหรอ ทุกคนต่างเครียดกันเป็นแถว แม้แต่พวกเด็กเรียนเก่งก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แน่นอนว่าไม่รวมเฉินเสี่ยวซินกับเหยียนเสี่ยวซี
ตอนนี้
ครูสองคนที่มาคุมสอบวิชาภาษาจีนก็มาถึงแล้ว ทั้งคู่เป็นครูชีววิทยาจากโรงเรียนที่สาม กำลังยืนคุยกันอยู่หน้าประตูห้องเรียน
"ห้องนี้มีเด็กเก่งนะ!"
ครูร่างสูงมองไปที่มุมห้อง พูดเบาๆ ว่า "ตรงมุมห้องนั่น นักเรียนผู้หญิงคนนั้น ดูสงบนิ่งมาก แค่มองก็รู้ว่าเป็นอัจฉริยะ!"
ครูร่างเตี้ยข้างๆ มองตาม พยักหน้าเห็นด้วย "จริงด้วย บรรยากาศความเป็นผู้เก่งกาจแผ่ออกมาเลย ดูเหมือนนักเรียนคนนี้จะมีฝีมือจริงๆ!"
และนักเรียนอัจฉริยะที่ครูทั้งสองพูดถึงก็คือเหยียนเสี่ยวซีนั่นเอง เธอนั่งอยู่ตรงนั้นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น กำลังอ่านหนังสือที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอบภาษาจีนเลย บุคลิกที่สงบนิ่งนั้นแผ่ออกมาจากภายใน มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนพิเศษมาแต่กำเนิด
"อ้อ"
"ลองทายซิว่าใครในห้องนี้เป็นเด็กเรียนอ่อนที่สุด" ครูร่างสูงถาม
"ต้องทายด้วยเหรอ?"
"พวกผู้ชายแถวหลังสุดนั่นแหละ ต้องเป็นเด็กเรียนอ่อนแน่ๆ" ครูร่างเตี้ยตอบ "โดยเฉพาะคนที่นั่งข้างๆ นักเรียนหญิงนั่น ยังกินมาม่าอยู่เลย กินไปตั้งสองถุงแล้วด้วย"
"เขา..."
"เขาน่าจะเป็นคนที่แย่ที่สุดในห้อง" ครูร่างสูงมองไปที่คนที่กำลังกินมาม่าอยู่ พูดเบาๆ ว่า "ดูแล้วไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่"
ขณะที่พูดคุยกันอยู่นั้น เสียงกริ่งเตือนก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ครูคุมสอบทั้งสองหยุดคุย เดินเข้าไปในห้องเรียนพร้อมกัน
"เก็บของบนโต๊ะให้หมด อีกสามนาทีจะเริ่มสอบแล้ว"
"ขอพูดอีกนิดนะ ระหว่างสอบขอให้รักษาระเบียบวินัยในห้องสอบ อย่าได้ทำอะไรผิดพลาดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ จนต้องเสียใจไปตลอดชีวิต"
ครูร่างสูงยืนหน้าชั้นเรียน พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
จากนั้นนักเรียนก็ได้รับข้อสอบ ทุกคนรีบดูคำถามในข้อสอบทันที รวมถึงเหยียนเสี่ยวซีด้วย
ไม่ยาก ค่อนข้างง่ายด้วยซ้ำ
เหยียนเสี่ยวซีถอนหายใจโล่งอก สิ่งที่เธอกังวลที่สุดคือข้อสอบภาษาจีนจะยากเกินไป ทำให้เสียคะแนนมากในวิชานี้ ตอนนี้ความกังวลใจก็หายไปแล้ว
ที่หนึ่ง! ต้องเป็นที่หนึ่งของเมืองเท่านั้น ฉัน เหยียนเสี่ยวซี จะไม่มีวันแพ้!
จากนั้นเธอก็แอบมองไปที่มังกรผู้หลับไหลข้างๆ เห็นเขาเอามือรองคางมองท้องฟ้าเหม่อลอย เหยียนเสี่ยวซีเบ้ปาก สีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ
เริ่มทำตัวเท่อีกแล้ว น่ารำคาญจริง!
กริ๊ง------
เสียงกริ่งเริ่มสอบดังขึ้น
เฉินเสี่ยวซินละสายตาจากท้องฟ้ากลับมาที่ข้อสอบ เงียบๆ ยื่นมือไปหยิบปากกา ทันใดนั้นพลังแห่งการเรียนรู้ก็พุ่งทะยานออกมาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ!
ใช่แล้ว!
นี่แหละความรู้สึกนั้น
เฉินเสี่ยวซินที่ดูเหนื่อยหน่ายมาตลอด ในพริบตาเดียวสายตาก็เฉียบคมขึ้นมา ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายแห่งการต่อสู้
สูดลมหายใจลึกๆ ค่อยๆ ถอดฝาปากกา
รูปแบบสูงสุดของเด็กเรียนเก่ง ปลดผนึก!!!