"แค่ระดับ SSS เท่านั้นแหละ เพิ่งจะก้าวข้ามไปได้เมื่อไม่นานมานี้เอง แต่นายก็ไม่ต้องอิจฉาหรอก ในอนาคตหลังจากเมืองหยุนย้ายไปเมืองฉีแล้ว บางทีนายก็อาจจะมีโอกาสก้าวข้ามไปเป็นระดับ SSS เหมือนกัน"

"ฉันก็มีโอกาสเป็นระดับ SSS เหรอ?"

เป็นระดับ SSS? จะมีโอกาสอะไรล่ะ? ก็แค่ดูการสั่งสมของผู้มีพลังพิเศษเองไม่ใช่เหรอ? เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซูหยางก็อึ้งไปก่อน

แต่ไม่นาน ดูเหมือนจะตระหนักถึงบางอย่าง สายตาของซูหยางก็สบกับสายตาของเฉินเสวียนอีกครั้ง

จากนั้น ซูหยางก็ดูเหมือนจะนึกถึงบางอย่าง ในดวงตาของเขาปรากฏแววตกตะลึงทันที

พลังของเฉินเสวียนเดิมทีก็อยู่ในระดับเดียวกับเขา แต่เขากลับก้าวข้ามไปเป็นระดับ SSS โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า

รวมกับคำว่า "โอกาส" ที่เฉินเสวียนเพิ่งพูดเมื่อครู่

หรือว่า? การก้าวข้ามของเฉินเสวียน ไม่ใช่เพราะการสั่งสมของตัวเองเพียงพอ

แต่เป็นเพราะมีโชคลาภบางอย่าง...

โชคลาภที่อาจจะได้รับหลังจากไปเมืองฉี? ความคิดอันกล้าหาญปรากฏขึ้นในสมองของซูหยาง

ในวินาถัดมา ดวงตาของซูหยางก็เบิกกว้างขึ้นทันที

ท่านหลี่เสี่ยว!

เมื่อรู้สึกถึงสายตาที่เปลี่ยนไปของซูหยาง รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินเสวียนก็ยิ่งลึกซึ้งขึ้น เขาพยักหน้าเบาๆ

ระดับ SSS สำหรับคนอื่นอาจจะดูเหมือนไกลเกินเอื้อม

แต่มีเพียงเฉินเสวียนที่รู้ว่า สำหรับหลี่เสี่ยวแล้ว การช่วยให้คนอื่นเพิ่มพลังขึ้นเป็นระดับ SSS ไม่มีความยากลำบากใดๆ เลย

ถ้าในอนาคตซูหยางไปเมืองฉี และได้พบกับหลี่เสี่ยวจริงๆ ได้รับโชคลาภบางอย่าง

การก้าวข้ามไปเป็นระดับ SSS ก็แค่เรื่องของความคิดเท่านั้นเอง

ส่วนผู้พิทักษ์เมืองต่างๆ ที่กำลังดูสถานการณ์ของขบวนเมืองหยุนผ่านอุปกรณ์บันทึกภาพ พวกเขาไม่รู้ว่าซูหยางและเฉินเสวียนกำลังคุยอะไรกัน

เพราะต้องอยู่ปกป้องเมือง พวกเขาจึงไม่สามารถออกมาด้วยตัวเองได้

ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีนี้แทน เพื่อดูกระบวนการย้ายเมืองหยุนทั้งหมด

และเพราะไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ พวกเขาจึงไม่สามารถรู้สึกถึงแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่ออกมาจากตัวเฉินเสวียนเมื่อครู่ได้

แต่เมื่อครู่ เพียงแค่เห็นการออกมือของเฉินเสวียน

ผู้พิทักษ์เมืองเหล่านี้ก็พอจะเดาอะไรได้บ้าง

ไอ้หมอนั่นเฉินเสวียน! กลายเป็นระดับ SSS จริงๆ ด้วย!

มองไปที่เฉินเสวียนอีกฝั่งของหน้าจอ ดวงตาที่ตกตะลึงของผู้พิทักษ์เมืองเหล่านี้ต่างเผยความตื่นเต้นและอิจฉา

ในช่วงห้าปีที่คลื่นสัตว์ประหลาดลงมา

นอกจากเมืองซิงแล้ว เมืองขนาดเล็กอื่นๆ ก็มีผู้มีพลังพิเศษระดับ SSS ปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรก!

มีเพียงที่เมืองซิง สมาคมผู้มีพลังพิเศษ

ตอนนี้สีหน้าของฉินหวันเสี่ยวดูไม่ดีเอาเสียเลย

อย่างชัดเจน เมื่อพบว่าเฉินเสวียนก็กลายเป็นระดับ SSS ฉินหวันเสี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

ตั้งแต่นานมาแล้ว ราวกับว่ามันกลายเป็นจิตใต้สำนึก

ฉินหวันเสี่ยวมักคิดว่า ผู้มีพลังพิเศษระดับ SSS ควรจะมีแค่ในเมืองซิงของพวกเขาเท่านั้น

แต่ตอนนี้...

"ไอ้หมอโชคดี บังเอิญได้เป็นระดับ SSS"

ฉินหวันเสี่ยวจ้องมองเฉินเสวียนที่ปรากฏบนหน้าจอตรงหน้า สีหน้าดูหม่นหมอง

"หรือว่านี่คือเหตุผลที่พวกนายตั้งใจจะย้ายเมืองหยุนไปเมืองฉี? แค่เพราะเฉินเสวียนก็กลายเป็นระดับ SSS? แต่พวกนายคิดจริงๆ เหรอว่าแค่มีผู้มีพลังพิเศษระดับ SSS เพิ่มมาอีกคนแบบเฉินเสวียน ก็จะปกป้องพวกนายได้แล้ว?"

ฉินหวันเสี่ยวยังไม่ลืมสิ่งที่เมืองซิงเจอมาก่อนหน้านี้

ผู้มีพลังพิเศษระดับ SSS สามคนของเมืองซิงที่เพิ่งก้าวขึ้นมารวมพลังกัน ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชาสัตว์ประหลาดตัวเดียวด้วยซ้ำ

แม้เฉินเสวียนจะกลายเป็นระดับ SSS แต่ก็เพิ่งก้าวขึ้นมาเท่านั้น

พลังอาจจะยังไม่ถึงระดับของอิ่งเสวียนและคนอื่นๆ ตอนที่เมืองซิงเจอคลื่นสัตว์ประหลาดครั้งก่อนด้วยซ้ำ

และตอนนี้ สมาคมผู้มีพลังพิเศษของพวกเขาได้บทเรียนแล้ว ทุ่มเททรัพยากรส่วนใหญ่ให้กับอิ่งเสวียนและคนอื่นๆ พลังของอิ่งเสวียนทั้งสองคนก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว

ส่วนเฉินเสวียนน่ะเหรอ? สำหรับเมืองขนาดเล็กอย่างเมืองฉีที่แม้แต่เนื้อสัตว์ประหลาดบางครั้งยังต้องขอความช่วยเหลือจากเมืองซิงในการแลกเปลี่ยน

คงไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะช่วยให้เขาเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วหรอก

เมื่อถึงเวลานั้น เมื่อราชาสัตว์ประหลาดมาถึง ต่อหน้าราชาสัตว์ประหลาด เฉินเสวียนก็ยังคงเป็นเพียงมดตัวเล็กๆ ที่ถูกเหยียบตายได้ตามใจชอบ!

ฉินหวันเสี่ยวกำมือแน่น คิดด้วยสีหน้าหม่นหมอง

......

อีกด้านหนึ่ง เฉินเสวียนและคณะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความคิดของฉินหวันเสี่ยวเลย

หลังจากจัดการขบวนย้ายให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว และซูหยางออกคำสั่งใหม่ ขบวนทั้งหมดก็เริ่มเคลื่อนย้ายอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้ เพราะมีเฉินเสวียนและคนอื่นๆ เข้าร่วม

ผู้มีพลังพิเศษของเมืองหยุนและประชาชนที่กำลังย้ายถิ่นฐานก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนผู้มีพลังพิเศษจากเมืองอื่นๆ ที่เดิมได้รับคำสั่งให้เตรียมช่วยเหลือเมืองหยุน เมื่อพบว่าวิกฤตของขบวนย้ายเมืองหยุนได้คลี่คลายแล้ว ก็ไม่มีความตั้งใจจะเข้าร่วมขบวน

พวกเขายังคงรักษาระยะห่างกับขบวนย้ายเมืองหยุน เพื่อส่งข้อมูลวิดีโอล่าสุดให้กับผู้พิทักษ์เมืองของตน

"เดี๋ยวก่อน นายบอกว่าคุณอีเสวียก็เป็นระดับ SSS แล้วเหรอ?"

ในขณะนี้ ที่ด้านหน้าของขบวนเมืองหยุน เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเสวียน ซูหยางก็มองอีเสวียที่อยู่ข้างๆ ด้วยความตกตะลึงอีกครั้ง

"ไม่งั้นล่ะ หรือว่านายลืมสัตว์ประหลาดระดับ SS ตัวแรกที่ตายไปแล้วล่ะ? นั่นเป็นฝีมือของคุณอีเสวียนะ"

เฉินเสวียนพูดพลางยิ้ม

เมื่อได้ยินคำเตือนของเฉินเสวียน ซูหยางที่ผ่อนคลายลงแล้วก็นึกถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

คิดดูให้ดี คลื่นพลังพิเศษที่สัตว์ประหลาดระดับ SS ตัวแรกที่ถูกฆ่าเผชิญหน้า ดูเหมือนจะแตกต่างจากของเฉินเสวียนมาก

แต่เมื่อกี้สถานการณ์ตึงเครียดเกินไป และหลังจากนั้นเฉินเสวียนก็แสดงความสามารถที่น่าตกตะลึงเกินไป ในขณะที่อีเสวียร่วมมือกับผู้มีพลังพิเศษคนอื่นๆ ในการฆ่าสัตว์ประหลาดระดับต่ำ

ทำให้ซูหยางโดยสัญชาตญาณคิดว่าการฆ่าสัตว์ประหลาดระดับ SS ทั้งสามตัวเป็นฝีมือของเฉินเสวียน

เมื่อเห็นสายตาตกตะลึงที่ซูหยางส่งมา อีเสวียก็ยิ้มอย่างสุภาพ พยักหน้าเบาๆ เป็นการยอมรับสิ่งที่เฉินเสวียนเพิ่งพูดไป

และพฤติกรรมแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้ความตกตะลึงในดวงตาของซูหยางเข้มข้นขึ้น

ก่อนหน้านี้ แค่เฉินเสวียนคนเดียวเป็นระดับ SSS ก็ทำให้ซูหยางตกตะลึงมากแล้ว

แต่ตอนนี้ ไม่ใช่แค่เฉินเสวียนคนเดียวที่เป็น SSS แม้แต่คุณอีเสวียก็ถึงระดับ SSS แล้ว!

สองคนระดับ SSS เลยนะ และนี่ยังไม่นับท่านหลี่เสี่ยว!

ถ้านับท่านหลี่เสี่ยวด้วย เมืองฉีเพียงเมืองเดียวก็รวมผู้มีพลังพิเศษระดับ SSS ถึงสามคนแล้ว?

ซูหยางนึกถึงคำใบ้ที่เขาให้กับเฟิงอัน ผู้พิทักษ์เมืองเฟิงก่อนหน้านี้

ตอนนั้นเขายังบอกเฟิงอันว่า ในอนาคตการพัฒนาของเมืองฉีจะต้องเกินหน้าเมืองซิงแน่นอน

แต่ตอนนี้ ซูหยางคิดว่าตัวเองพูดผิดถนัด

นี่ไม่ต้องรอถึงการพัฒนาในอนาคตแล้ว

ตอนนี้พลังโดยรวมของเมืองฉี คงจะเกินหน้าเมืองซิงไปแล้ว!

(จบบทที่ 61)

5 1 โหวต

Article Rating

1 Comment

Inline Feedbacks

ดูความคิดเห็นทั้งหมด