บทที่ 6 โรงฝึกแห่งพิเศษ!
บทที่ 6 โรงฝึกแห่งพิเศษ!
"เจ้าอยากฝึกวิทยายุทธงั้นรึ?"
ผู้นำโรงฝึกรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ตั้งแต่ที่เขาสร้างโรงฝึกนี้ขึ้นมา แน่นอนว่าเขาคิดที่จะเปิดรับศิษย์ทุกคนโดยไม่สนใจภูมิหลัง
ตราบใดที่อยากเข้าโรงฝึกก็ไม่มีปัญหา
แต่เมื่อเขามองไปที่ขาของซื่อหวิน คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
ผู้นำโรงฝึกถอนหายใจออกมายาวๆก่อนส่ายหัวแล้วพูดว่า "กลับไปเถอะ อย่าเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์เลย เจ้าน่ะกลับไปใช้ชีวิตอยู่บ้านของเจ้าเถอะ"
"วิทยายุทธในโรงฝึกกังจินของข้านั้นไม่เหมาะกับเจ้าจริงๆ"
ท่าทีของผู้นำโรงฝึกนั้นอ่อนโยน
แต่คำพูดของเขาก็ยังคงเป็นการปฎิเสธ
เขาพูดอย่างชัดเจนว่าโรงฝึกกังจินจะไม่รับซื่อหวินเข้ามาเป็นศิษย์
ไม่เช่นนั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกในวงการนักศิลปะการต่อสู้ในเมืองหลิว
คนพิการจะฝึกวิทยายุทธได้ด้วยงั้นหรือ?
นั่นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
ซื่อหวินจ้องไปที่ผู้นำโรงฝึกอยู่ครู่หนึ่ง
เขารู้ว่าเมื่อผู้นำโรงฝึกได้พูดเช่นนั้นออกมาแล้ว เขาก็ไม่มีทางได้เข้าโรงฝึกกังจินได้
"น้องฮุ่ย พวกเราไปกันเถอะ"
ซื่อหวินไม่ได้พูดอะไรอีกและปล่อยให้ซื่อฮุ่ยประคองร่างของเขาแล้วหันหลังเดินออกจากโรงฝึกกังจินไป
ผู้นำโรงฝึกมองไปที่ซื่อหวินแล้วส่ายหัวเบาๆก่อนพูดว่า "ความดื้อดึงของเจ้านั้นข้าเห็นอย่างชัดเจน"
"แต่ต่อให้เจ้าจะมีความมุ่งมั่นแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์"
"ด้วยร่างกายไม่สมบูรณ์เช่นนั้นเจ้าจะฝึกวิทยายุทธให้สำเร็จได้อย่างไร!"
หลังจากนั้นคนของโรงฝึกกังจินก็แยกย้ายกันไป
ราวกับว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยและไม่มีใครสนใจ
ซื่อหวินมองไปที่โรงฝึกกังจินที่อยู่ด้านหลัง เขาไม่ได้พูดอะไรแต่รีบมุ่งหน้าไปยังโรงฝึกแห่งถัดไปทันที
เพราะยังไงในเมืองหลิวก็มีโรงฝึกอยู่มากมาย
เพียงแต่ว่าเขาเคยคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าโรงฝึกกังจินนั้นเหมาะสมที่สุดกับเขา
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเข้าร่วมกับโรงฝึกกังจินเท่านั้น
แต่เมื่อซื่อหวินไปที่โรงฝึกที่สอง ที่สาม ที่สี่ และที่ห้า
เขาก็เริ่มเงียบไป
โรงฝึกเหล่านี้ปฏิเสธเขาหมดทุกที่
แม้เขาจะมอบเงินที่สูงกว่าปกติแต่พวกเขาก็ยังปฏิเสธ
ทั้งที่เขาแค่อยากได้โอกาสในการฝึกวิทธยายุทธเท่านั้น
"พี่หวิน ถ้าหากว่าไม่ได้จริงๆพวกเรากลับบ้านไปปรึกษากันใหม่ดีกว่า..."
ซื่อฮุ่ยรู้สึกสงสารพี่ชายของเธอ
เขาถูกปฏิเสธจากโรงฝึกถึงห้าแห่งติดต่อกัน
ซึ่งนั่นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันได้ทำลายความมั่นใจของซื่อหวินมากเพียงใด
เธอถึงกับกลัวว่าซื่อหวินจะท้อแท้ด้วยซ้ำ
ซื่อหวินสูดหายใจเข้าลึกๆ
เขาก้มหน้าลงอย่างแรงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "เหตุผลที่โรงฝึกเหล่านั้นไม่รับข้าแม้จะเสนอเงินเพิ่มก็ยังไม่ยอมให้ข้าเข้าร่วมก็เพราะพวกเขากลัวเสียหน้า"
"บางทีการรับคนไร้ค่าอย่างข้าเข้าไปอาจทำให้โรงฝึกเหล่านั้นกลายเป็นเรื่องตลกในเมืองหลิว"
"แต่ข้าเชื่อว่ามีโรงฝึกแห่งหนึ่งที่จะต้องรับข้าแน่นอน!"
"เดิมทีข้าเองก็ไม่เคยคิดจะไปที่โรงฝึกแห่งนี้มาก่อน"
"แต่ตอนนี้มีเพียงที่นั่นเท่านั้นที่ข้าจะไปได้..."
ดังนั้นซื่อหวินจึงพาซื่อฮุ่ยเดินออกจากโรงฝึกนั้นไปอย่างรวดเร็ว
เขามุ่งหน้าไปยังถนนที่เงียบสงบแห่งหนึ่งในเมืองหลิว
ไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงหน้าโรงฝึกแห่งหนึ่ง
"โรงฝึกดัชนีทอง!"
ซื่อหวินมองไปที่ป้ายชื่อของโรงฝึกนี้
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นโรงฝึกแต่ชื่อของมันกลับดูเหมือนกับเป็นสำนักอย่างมาก
แต่ใครๆต่างก็รู้ว่าที่นี่คือโรงฝึก
เหตุผลที่ซื่อหวินเลือกโรงฝึกนี้เป็นตัวเลือกสุดท้ายจนถึงขั้นไม่มาที่นี่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
เหตุผลนั้นมีเพียงอย่างเดียว
ราคาเข้าร่วมโรงฝึกนี้มีราคาที่สูงมาก!
แทบจะเรียกได้ว่ารีดไถเงินได้เลยด้วยซ้ำ
ตราบใดที่ให้เงินตามที่กำหนดใครๆก็สามารถเข้าไปฝึกวิทยายุทธที่โรงฝึกนี้ได้
แต่ถ้าหากว่าไม่มีเงินจ่ายขึ้นมาล่ะก็…
คนๆนั้นจะถูกไล่ออกจากโรงฝึกในทันที
ที่สำคัญกว่านั้น ทางโรงฝึกดัชนีทองมีแนวทางคือไม่ปกป้องศิษย์ที่อยู่ภายใต้โรงฝึกเลย
หลังจากที่จ่ายเงินแล้วพวกเขาก็มีหน้าที่แค่ฝึกวิทยายุทธที่โรงฝึกดัชนีทองเท่านั้น
ถ้าหากเจอเรื่องอะไรภายนอกทางโรงฝึกดัชนีทองจะไม่มีทางออกหน้าช่วยเป็นอันขาด
ดังนั้น ถ้าหากไม่จำเป็นจริงๆซื่อหวินเองก็ไม่อยากมาที่โรงฝึกดัชนีทอง
เพราะสาเหตุที่เขาอยากฝึกวิทยายุทธนั้น นอกจากอยากให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมแล้ว
เหตุผลที่สำคัญกว่านั้นก็คืออยากหาที่พึ่งพิงชั่วคราว
เขาต้องการทำให้ซู่เอ๋อโก่วไม่กล้าลงมือกับเขาแม้ว่าจะรู้ว่าเขายังไม่ตาย
แต่โรงฝึกดัชนีทองนั้นคงไม่ทำให้ซู่เอ๋อโก่วเกรงกลัวแต่อย่างใด
แต่เมื่อลองคิดดูจนรอบคอบแล้ว
หากต้องการฝึกวิทยายุทธ โรงฝึกดัชนีทองก็เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของซื่อหวินในตอนนี้แล้ว
ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาก็แค่ต้องมาลองดูเท่านั้น
หลังจากนั้นทั้งสองคนจึงเดินเข้าไปในโรงฝึกดัชนีทอง
พวกเขากลับพบว่ามีคนอยู่ข้างในโรงฝึกดัชนีทองมากมาย
แต่ว่าจะอธิบายยังไงดี?
แต่ละคนที่เข้ามาฝึกนั้นมีแววตาที่เจ้าเล่ห์
หรือไม่ก็มีแววตาที่ดูดุร้าย
หรือบางคนก็ดูมีอารมณ์ที่มืดมน
ซึ่งมองยังไงก็ไม่เหมือนคนดีหรือคนปกติทั่วไปแม้แต่น้อย
อันที่จริง คนที่มาเรียนวิทยายุทธที่โรงฝึกดัชนีทองต่างก็มีความ "ผิดปกติ" อยู่บ้างไม่มากก็น้อย
เพราะคนปกตินั้นสามารถไปที่โรงฝึกกังจินหรือโรงฝึกอื่นๆได้
ด้วยราคาโรงฝึกแห่งอื่นๆที่ถูกกว่าทำไมพวกเขาจะต้องมาที่โรงฝึกดัชนีทองด้วย?
คนที่มากที่โรงฝึกดัชนีทองทุกคนต่างก็มี “ความลับ” เป็นของตัวเอง
ซื่อหวินเดินไปที่จุดลงทะเบียนของโรงฝึกดัชนีทอง
ที่นี่มีชายร่างใหญ่ตาเดียวที่ดูดุร้ายคุมอยู่
ชายตาเดียวคนนั้นมองไปที่ซื่อหวินและซื่อฮุ่ยหลังจากนั้นสายตาของเขาก็ไปจดจ่ออยู่ที่ซื่อหวิน
"เจ้าอยากเข้าโรงฝึกดัชนีทองเพื่อฝึกวิทยายุทธงั้นรึ?"
"ซื่อหวินพยักหน้าและตอบว่า "ใช่ ข้าอยากฝึกวิทยายุทธ ท่านจะรับข้าเข้าโรงฝึกหรือไม่?"
"ขาของเจ้าเป็นง่อยเพียงชั่วคราวหรือว่ามันพิการไปแล้ว?"
ชายร่างยักษ์ตาเดียวถามขึ้นมา
"ข้าคิดว่ามันน่าจะพิการไปแล้ว"
ซื่อหวินไม่คิดที่จะปิดบัง
"หึ อย่างงั้นเจ้าก็ขาเป๋งั้นสินะ"
"ไม่เลวนี่ที่ยังคิดมาถึงโรงฝึกดัชนีทอง ดูท่าเจ้าคงตั้งใจจะฝึกวิทยายุทธจริงจังแล้วล่ะสิ?"
"นอกจากนี้โรงฝึกแห่งอื่นก็คงไม่รับแกหรอก! ฮ่าๆๆๆ! แต่ไม่เป็นไรเพราะสำนักนิ้วทองของพวกเราเปิดรับทุกคนเสมอ!"
"แต่แน่นอนว่าเจ้าจะต้องมีเงินจ่ายก่อน!"
"ข้าคิดๆดูแล้วสภาพของเจ้าแบบนี้ ค่าสมัครก็คงต้อง..."
ชายร่างยักษ์ตาเดียวดีดลูกคิดดังแกร๊กๆและ "คำนวณ" อย่างรวดเร็ว
ซื่อหวินขมวดคิ้วเล็กน้อยและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "หรือว่าการสมัครเข้าเรียนวิทยายุทธที่โรงฝึกดัชนีทองนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละคนงั้นรึ?"
ชายร่างใหญ่ตาเดียวเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ซื่อหวินด้วยสายตาเย้ยหยัน "แน่นอนว่าไม่เหมือนกันอยู่แล้ว"
"เจ้าเห็นชายที่สวมเสื้อแขนสั้นคนนั้นไหม?"
"เขาเป็นนักดาบใหญ่ในแก๊งเลือดทมิฬที่ต้องต่อสู้โดยเสี่ยงชีวิตทุกวัน"
"แต่ตอนนี้เขายังไม่มีคุณสมบัติมากเพียงพอที่จะให้แก๊งสอนวิทยายุทธ ดังนั้นเขาจึงมาที่โรงฝึกดัชนีทองของเราเพื่อฝึกฝน"
"ในเดือนหนึ่งเขาต้องจ่ายเงินมากถึงสิบสามตำลึง!"
"ส่วนชายคนนั้นที่แต่งกายด้วยผ้าไหมราวกับว่าจะอวดความร่ำรวยคนนั้นนะ ข้าจะบอกอะไรให้"
"เขาเป็นลูกนอกสมรสของผู้มีอำนาจคนหนึ่งน่ะ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเปิดเผยตัวตนของเขาหรอก ฮ่าๆๆๆ"
"แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอยากฝึกวิทยายุทธเพื่อกำหนดชะตาชีวิตของตนเองดังนั้นก็เลยต้องจ่ายเงินเดือนละยี่สิบตำลึงไงล่ะ"
"เพราะฉะนั้นค่าแรกเข้าโรงฝึกดัชนีทองของข้าก็เลยต้องขึ้นอยู่แล้วแต่คน เจ้าเข้าใจรึยัง?"
ซื่อหวินเข้าใจทันที
โรงฝึกดัชนีทองแห่งนี้มีเพียงคำเดียวที่เหมาะสมนั่นก็คือ 'โหด'!
ถ้าหากจะเพิ่มเป็นสองคำก็ต้องเป็นคำว่า 'โหดเหี้ยม'!
ซื่อหวินรู้ดีว่าถ้าหากมีทางเลือก คนพวกนี้ก็คงไม่มาที่โรงฝึกดัชนีทองเป็นแน่
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาส่วนใหญ่ไม่มีทางเลือก
สาเหตุที่คนพวกนี้ได้มาฝึกวิทยายุทธที่โรงฝึกดัชนีทองได้นั้นล้วนเป็นเพราะความจำเป็นทั้งสิ้น
เพราะสถานะของพวกเขา โรงฝึกหลายแห่งจึงไม่กล้ารับเข้าเพราะกลัวว่าจะนำพาปัญหามาให้กับทางโรงฝึก
แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง
โรงฝึกดัชนีทองก็น่าสนใจไม่น้อย
เพราะคนพวกนี้มีสถานะที่ลึกลับ ซึ่งทำให้โรงฝึกแห่งอื่นต่างพากันกลัวแต่โรงฝึกดัชนีทองนั้นกลับไม่ปฏิเสธใครเลยสักคน
ราวกับว่าพวกเขาไม่กลัวปัญหาใดๆที่จะตามมาเลยแม้แต่น้อย
ซึ่งนี่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์กลายๆว่าโรงฝึกดัชนีทองต้องมีด้านที่แข็งแกร่งไม่น้อย
ไม่เช่นนั้นโรงฝึกแห่งนี้จะสามารถตั้งตระหง่านอยู่ในเมืองหลิวได้นานขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?
"แล้วค่าแรกเข้าของข้าคือเท่าไหร่งั้นหรือ?"
ซื่อหวินสูดลมหายใจเข้าลึกๆและถามออกไป