ตอนที่แล้วบทที่ 24
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26

บทที่ 25


"ป้า นี่คือเงินสามสิบหยวนค่ะ รับไว้เถอะ หนูรู้ดีว่าผักของตัวเองมีคุณภาพยังไง ถ้าป้าไม่ชอบกินก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินนี่นา คนข้างหลังรอซื้ออีกเยอะแยะเลยค่ะ ผักโขมตรงนี้ก็ปล่อยให้คนอื่นเขาซื้อกันเถอะ"

ป้าคนนั้นพูดไม่ออกไปชั่วขณะ จากนั้นก็ไม่รับเงิน "หนูเป็นคนใจร้อนจริงนะ ทำการค้าจะไม่ให้คนอื่นติติงได้เลยเหรอ แค่สามสิบหยวนเอง ไม่เอาก็ได้ หนูขายผักโขมให้ฉันสิ"

"ไม่ได้ค่ะ" ซ่งถานหัวเราะอย่างใจเย็น แต่คำพูดที่ปฏิเสธนั้นกลับแข็งกร้าว

"ป้าก็เห็น ผักของร้านเราจะขายไม่ทันอยู่แล้ว ซื้อไปแล้วไม่ชอบก็ไม่จำเป็นต้องซื้ออีกนี่คะ"

"ถูกต้อง! " ป้าข้างหลังเสริมรับทันที "ฉันจะเอาผักโขมกำนั้น! "

ได้ของถูกแต่เสียของแพง ผักโขมป่าวางอยู่ในตะกร้า รวมแล้วเหลือไม่ถึงห้ากิโลกรัม เธอมาติติงแล้วยังจะให้ขายผักให้อีก สรุปคือเธอตั้งใจตามมาขอคืนเงินหรือแสดงนิสัยเกเรกันแน่...

คนโง่ยังไม่ทำธุรกิจแบบนี้เลยนะ!

รสชาติของผักป่าแบบนี้จะขายไม่ออกได้ยังไง

ซ่งถานถือโอกาสตอนที่อีกฝ่ายอ้าปากค้างอยู่ เธอก็ยัดเงินสามสิบหยวนใส่ในมือคุณป้าอย่างว่องไว "ป้าคะ ตลาดยังมีร้านผักอื่นๆ อีก ป้าลองไปหาเลือกดูเองนะ ฉันยุ่งอยู่"

น้ำเสียงของเธอเหมือนกับไล่ให้ไป อีกฝ่ายยังไม่ทันได้โต้แย้ง ก็ถูกกลุ่มลูกค้าที่รีบเข้ามาเบียดออกไป

ในขณะเดียวกัน ณ มุมตลาดจุดหนึ่งซึ่งไม่ได้ห่างไกลจากที่นี่มากนัก ก็มีคู่รักคู่หนึ่งแอบมองมาทางนี้พอดี หญิงสาวทำหน้าบึ้งตึง "คุณหมายความว่ายังไง! คุณมองเพื่อนร่วมชั้นของฉันว่าสวยใช่มั้ยล่ะ พูดว่าอยากจะซื้อผัก แต่จริงๆ แค่หาข้ออ้างอยากเข้าไปใกล้ชิดซะมากกว่า! "

คนที่พูดคืออู่เฉียนเฉียน เพื่อนร่วมชั้นของซ่งถาน หลังจากที่แฟนหนุ่มของเธอแอบเข้ากลุ่มไปในวันนั้น เขาก็พบว่ากลุ่มที่มีสมาชิกเพียงสิบกว่าคนนี้คึกคักมาก! ทุกคนต่างก็ยกย่องรสชาติของผักป่ากันอย่างล้นหลาม พูดกันราวกับว่าเป็นอาหารเลี้ยงในวังสวรรค์ เมื่อนึกถึงผักโขมป่าที่เขาได้เดินผ่านไปเมื่อวันนั้น ชายหนุ่มยิ่งอยากกินมากขึ้นเรื่อยๆ สองสามวันนี้เขาฝันถึงรสชาติของผักป่าตลอดเวลา

แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีคนต่อแถวอยู่เยอะขนาดนั้น พอหันไปมองอากัปกิริยาของอู่เฉียนเฉียน เขาก็รู้สึกกังวลใจ ไม่กล้าไปต่อแถวเลย ได้แต่พูดจาดีๆ เพื่อเกลี้ยกล่อม “เฉียนเฉียน ดูสิคนต่อแถวเยอะขนาดนี้ ผักที่ขายต้องดีมากแน่ๆ ผมก็มาอยู่ที่นี่ได้ตั้งหลายวันแล้วนะ วันนี้แค่อยากลองทำอาหารให้พ่อกับแม่ชิมดูบ้างเผื่อท่านจะได้เอ็นดูผมเยอะๆ ก็แค่นั้นเอง”

“อีกอย่าง เธอก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นของคุณนี่นา คำพูดของเราสองคนเมื่อวานมันก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไรถ้าคุณไม่โอเคผมไม่ซื้อก็ได้ ยังไงก็ตามใจคุณมากกว่าอยู่แล้ว”

พอพูดอย่างนี้ อู่เฉียนเฉียนก็เปลี่ยนจากโกรธเป็นดีใจ ไม่มีอะไรจะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งมีความสุขไปมากกว่าการที่แฟนหนุ่มให้ความสำคัญกับเธอ

เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าอย่างกล้ำกลืน “ได้! งั้นฉันจะไปต่อแถวดู”

เธอทำทียึดถือมารยาท เดินดูแผงโน้นแผงนี้ แล้วค่อยๆ เนียนเข้าไปต่อแถวอย่างช้าๆ แต่พอถึงคิวของเธอ กลับพบว่าในตะกร้าว่างเปล่าแทบไม่มีผักอะไรหลงเหลือตรงหน้าแล้ว เหลือเพียงผักโขมจีนกำเล็กๆ ที่ซ่งถานกำลังใส่ลงในถุงพลาสติก

เธอรีบพูด “อ้าว! ทำไมไม่มีแล้ว! ซ่งถาน ผักเธออยู่ไหนหมด”

ซ่งถานยังไม่ทันพูดอะไร เฉียวเฉียวก็พูดแทรกขึ้นมา “พี่สาว พี่มาช้าไป ผักหมดแล้ว”

แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาให้สแกน QR CODE อย่างชำนาญ “เข้ากลุ่มไหมพี่สาว ครั้งหน้าจะได้บอกล่วงหน้า”

อู่เฉียนเฉียนโกรธมาก!

เธอไม่สนใจเฉียวเฉียว แต่จ้องไปที่ผักในมือของซ่งถาน “ซ่งถาน ผักในมือนั่นไม่ใช่ว่ายังเหลืออีกกำเหรอ เพื่อนเก่ามาอุดหนุนเธอ เธอกลับไม่ขายให้”

ซ่งถานไม่เงยหน้าขึ้นมา “อันนี้จะเอาไปให้คนอื่น”

แฟนหนุ่มยังคงมองอยู่ไกลๆ อู่เฉียนเฉียนรู้สึกอับอายมากยิ่งขึ้น

“ผักป่าแบบนี้มีอยู่ทั่วไปไม่ใช่เหรอ เธอจะเอาไปขายคนอื่นเมื่อไหร่ก็ได้ จะบอกตรงๆ ว่าถ้าไม่ใช่เพราะแฟนฉันอยากลองชิมผักป่า ฉันคงไม่ถ่อมาถึงร้านนี้หรอก ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ต่อราคาเธอแน่ ขายผักกำนั้นให้ฉันเถอะ”

ซ่งถานไม่ค่อยสนใจความคิดเล็กๆ น้อยๆ ของคนอื่น จึงไม่คิดจะฝืนใจตัวเอง “ไม่ได้ ผักป่ามีอยู่ทั่วไป เธอก็ไปขุดเองสิ ประหยัดไปสามสิบด้วย”

แล้วก็ยื่นมือไปยกตะกร้า “เฉียวเฉียว ไปกันเถอะ”

ปล่อยให้อู่เฉียนเฉียนยืนงงอยู่ตรงนั้น มองดูซ่งถานกับน้องชายเข็นตะกร้าขึ้นรถ แล้วก็ขับออกไป

จนถึงตอนนี้แฟนหนุ่มถึงได้เดินเข้ามาอย่างใจร้อน "โอ๊ย! ไม่ได้ซื้ออีกแล้ว! ผมเห็นในกลุ่มบอกว่ารอบหน้าต้องรอตั้งสามวัน..."

อู่เฉียนเฉียนรู้สึกว่าเสียหน้าอยู่แล้ว พอได้ยินแบบนี้ก็ระเบิดออกมาทันที "ซื้อ ซื้อ ซื้อ! ซื้อหัวเธอสิ! ผักอะไรก็กินได้ทั้งนั้นแหละ ทำไมต้องมาเลือกกินผักป่า! บ้านนอก! "

สีหน้าของแฟนหนุ่มเปลี่ยนไปทันที

ขณะที่ซ่งถานขับรถกระบะมาถึงบริษัทขนส่งสินค้า "ช่วยแพ็คของหน่อยค่ะ ส่งแบบแช่แข็งด่วน โรงพยาบาลประชาชนมณฑลหนิง สาขาที่ 1 ผู้ช่วยแพทย์เจินหลี่ นี่คือหมายเลขโทรศัพท์ค่ะ"

พนักงานขนส่งสินค้าหยิบผักออกมาจากถุงพลาสติกและตะแคงดู "ถ้าแช่แข็งแบบด่วนจะแพงนะคะ เพื่อผักแบบนี้ไม่คุ้มหรอกค่ะ"

ซ่งถานก็เสียดายค่าขนส่ง แต่ผักป่าไม่เสียเงินสักหน่อย

เธอพยักหน้า "ไม่เป็นไรค่ะ ส่งไปเถอะ พรุ่งนี้ก็ถึงใช่ไหมคะ"

อีกฝ่ายพยักหน้า "ลูกค้าวางใจได้ พรุ่งนี้เช้าถึงแน่นอนค่ะ รับรองว่าผักนี้ยังสดอยู่"

ซ่งถานจึงยอมจ่ายเงิน

ผู้ช่วยแพทย์เจินหลี่คนนี้ เธอเคยฝากถามข่าวคราวของผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองไว้นานแล้ว กระทั่งถึงวันนี้ก็ผ่านมาหลายวันแต่กลับยังไม่มีการตอบกลับใดๆ ซ่งถานกลัวว่าเรื่องจะเงียบไปเหลือเกิน เธอจึงตัดสินใจส่งผักป่าไปเพื่อเร่งรัดทางอ้อม

แค่ผักป่าเอง คงไม่ถึงขั้นเกี่ยวข้องกับการรับสินบนหรืออะไรทำนองนั้นหรอกเนอะ

เมื่อเก็บของเสร็จกลับถึงบ้าน ครอบครัวก็นั่งช่วยกันนับเงินจนหัวหมุนไปหมด

โอ้โห เงินห้าพันหยวนเลยนะ!

อู่หลานอดเสียดายไม่ได้ "ถ้าผักป่าขายได้ทั้งปีก็คงดีมาก"

ซ่งซานเฉินถึงกับพูดไม่ออกกับความโลภของผู้หญิงคนนี้ "ก็เพราะพระเจ้าเมตตาถึงทำให้ผักป่าของเราปีนี้โตดีเป็นพิเศษ อีกครึ่งเดือนผักก็คงขายลำบากแล้วมั้ง ถึงตอนนั้นเราจะยังขายในราคาสามสิบหยวนได้หรือเปล่าเถอะ ขนาดแค่สิบหยวนยังไม่รู้เลยจะขายได้นานแค่ไหนเชียว"

ซ่งถานคิดดู แล้วจึงพูดอย่างไม่ได้ทุกข์ร้อนใจใดๆ

"หนูตั้งใจจะขายไปจนถึงแค่วันที่ 20 นะคะ แล้วจะลองเปลี่ยนไปขายพืชพันธุ์อย่างอื่นบ้าง"

"เอ๋…? " พ่อและแม่เธอหันมาสบตากันอย่างงุนงง ในเมื่อผักป่าเดิมยังขายดีอยู่ ลูกสาวพวกเขาจะรีบเลิกขายทำไมให้เสี่ยงขาดทุน

สำหรับรสชาติแบบนี้ คนที่ยินดีจ่ายเงินมีมากมาย เธอไม่เคยประเมินความสามารถในการใช้จ่ายของทุกคนต่ำไปเลย แต่ถือว่าเป็นการปูทางสำหรับผักใหม่ๆ ให้กับร้านเธอ จึงจำเป็นต้องหยุดขายสักพักหนึ่งก่อน คติสำหรับซ่งถานคือ ขายผักดี อร่อย แพง และคุ้มค่า เธอตั้งใจอยากให้ลูกค้ากระวนกระวายใจหากไม่ได้กินสักหนึ่งมื้อ

ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมถึงไม่ขายในช่วงสิ้นเดือน?

ช่วงนั้นยอดดอกจากต้นถั่วม่วงน่าจะโตแล้ว เธอจะลองนำส่วนนั้นไปทดลองขายแทนเสียก่อน

ที่สำคัญ ผักป่าในตอนนี้เราขายมากจนเกินพอแล้ว เก็บทุกวัน เก็บทุกวัน ถึงจะมีพลังลมปราณคอยบำรุงก็คงรับมือไม่ไหวหรอก ปล่อยให้พวกมันมีชีวิตตามธรรมชาติบ้างเถอะ

อู่หลานแค่คิด แต่ซ่งถานกลับกล้าทำจริงๆ!

ดูสิ เธอพูดอย่างโอ้อวดราวกับว่าถ้าขาดผักจากสวนของเธอ คนอื่นจะอยู่ไม่ได้

ซ่งซานเฉินผู้เป็นพ่อถอนหายใจ เขาคิดว่าโลกเราเดี๋ยวนี้หาเงินได้ง่ายขนาดนี้เลยเหรอ ถึงกับรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปเลย "ช่วงนี้พ่อไม่ค่อยยุ่ง ปล่อยให้แม่ไปดูแลงานบ้านตอนเช้า ส่วนหนูก็ขับไปส่งพ่อเรียนขับรถ"

"ที่บ้านเรามีรถ ขับได้แค่คนเดียวก็เสียของเปล่าๆ เดี๋ยวพ่อสอบใบขับขี่ได้เมื่อไหร่ จะขับรถให้เอง ผู้หญิงขับรถกระบะมันไม่เหมาะ" เขาพูดด้วยความมุ่งมั่นราวกับว่าใบขับขี่อยู่ตรงหน้า

ซ่งถานเหลือบมองเขา "พ่อ พ่อดูข้อสอบวิชาแรกครบหมดแล้วเหรอ"

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด