ตอนที่แล้วบทที่ 23 เทคนิคการหายใจ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25 รายได้เสริมของซื่อหวิน!

บทที่ 24 คำชี้แนะของจ้าวหง


บทที่ 24 คำชี้แนะของจ้าวหง

"เทคนิคการหายใจคือเทคนิคการใช้พลัง"

"ถ้าสามารถปรับพลังของร่างกายทั้งหมดผ่านการหายใจแล้วปลดปล่อยมันออกมาในพริบตา"

"ด้วยการใช้เทคนิคการหายใจ ศิษย์ของโรงฝึกดัชนีทองสามารถใช้นิ้วจิ้มออกไปด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นซึ่งเทียบเท่ากับอาวุธวิเศษ"

"แล้วเทคนิคการใช้พลังนี้สามารถนำไปใช้กับวิชาดาบบินได้ไหม?"

"วิชาดาบบินของข้าตอนนี้มีความแม่นยำมากแล้ว ถึงจะไม่ถูกเป้าทุกครั้งแต่ก็ไม่ต่างกันมาก ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ยังขาดอยู่ก็คือพลัง"

"ถ้าหากสามารถรวมเทคนิคการหายใจเข้ากับวิชาดาบบินได้ พลังของวิชาดาบบินก็น่าจะสูงยิ่งขึ้น!"

ความคิดมากมายแล่นเข้ามาในหัวของซื่อหวิน

ถึงแม้ว่าซื่อหวินจะฝึกยุทธที่โรงฝึกดัชนีทอง แต่เขาก็รู้ดี

ว่าตัวเขายังคงเป็นคนขาพิการ

แม้ว่าจะฝึกสำเร็จและได้กลายเป็นนักศิลปะการต่อสู้

แต่ขาที่พิการก็จะยังเป็นข้อบกพร่องของเขา

อย่างน้อยในด้านการต่อสู้ เขาก็จะเสียเปรียบมาก

อย่างเช่น เขาไม่สามารถตามทันความเร็วของคู่ต่อสู้ได้

หรือเขาก็อาจทำได้แค่ตั้งรับและไม่สามารถโจมตีกลับได้

เพราะขาที่พิการจึงส่งผลกระทบต่อทุกด้าน

ดังนั้น เขาจึงต้องชดเชยข้อเสียเปรียบนี้

และซื่อหวินคิดว่าวิชาดาบบินนั้นสามารถชดเชยข้อบกพร่องของขาที่พิการของเขาได้เป็นอย่างดี

ในการต่อสู้ระยะประชิด ซื่อหวินสามารถใช้วิทยายุทธของโรงฝึกดัชนีทองได้

ถ้าหากคู่ต่อสู้ถอยห่างออกไป นั่นก็ยิ่งดี

เพราะซื่อหวินจะใช้ดาบสั้นเพื่อโจมตี

แน่นอนว่า ถ้าหากต้องการให้วิชาดาบบินเป็นไปตามความต้องการของเขา

เขาก็ต้องเพิ่มพลังของวิชาดาบบินอย่างต่อเนื่อง

และตอนนี้ เงื่อนไขสำคัญที่จำกัดวิชาดาบบินก็คือพลังของซื่อหวินยังไม่มากเพียงพอ

ตอนนี้ เทคนิคการหายใจของโรงฝึกดัชนีทองดูเหมือนจะทำให้ความหวังในการเพิ่มพลังของวิชาดาบบินแก่ซื่อหวินเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น ซื่อหวินจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก

แต่จะทำได้หรือไม่นั้น เขาก็ต้องลองทำจริงๆที่บ้านถึงจะรู้

เพราะที่โรงฝึกดัชนีทอง ซื่อหวินจะไม่เปิดเผยวิชาดาบบินเป็นอันขาด

"ความเข้าใจของเจ้าไม่เลวนี่"

"ใช้เวลาเพียงเท่านี้ก็เข้าใจแก่นแท้ของเทคนิคการหายใจแล้ว"

"ซื่อหวิน ตอนนี้เจ้าสามารถใช้เทคนิคการหายใจเพื่อดึงพลังทั้งหมดของร่างกายมาฝึกฝนต่อได้แล้ว"

"จำไว้ว่าต้องทุ่มสุดพลังทุกครั้งและไม่ต้องกลัวว่านิ้วจะหัก เพราะโรงฝึกดัชนีทองของเรามียาพิเศษ แม้แต่นิ้วที่หักก็ยังสามารถต่อกลับได้"

"เมื่อเจ้าสามารถจิ้มนิ้วเข้าไปในลำต้นของต้นไม้โดยที่นิ้วไม่เป็นอะไร นั่นหมายความว่าเจ้าได้ฝึกสำเร็จขั้นสูงแล้ว!"

เซี่ยเหอเดินมาหาซื่อหวินแล้วพูด

ซื่อหวินเงยหน้ามองเซี่ยเหอ

หลังจากนั้นเขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "ข้าขอถามศิษย์พี่เซี่ยได้ไหมขอรับ? ถ้าหากฝึกสำเร็จขั้นสูงแล้ว ข้าจะได้กลายเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริงเลยหรือไม่ขอรับ?"

นี่ไม่ใช่แค่คำถามของซื่อหวิน แต่เป็นคำถามของเหล่าศิษย์หลายคน

ศิษย์เหล่านี้มีเป้าหมายในการฝึกยุทธเพื่อเป็นนักศิลปะการต่อสู้

แต่พวกเขาไม่มีแนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับนักศิลปะการต่อสู้

อะไรคือสิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริง?

"การบอกเจ้าไปก็คงไม่เสียหาย"

เซี่ยเหอไม่ได้หลบเลี่ยงคำถามในครั้งนี้แต่ตอบไปตรงๆว่า "การฝึกสำเร็จในขั้นสูงได้ ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะได้เป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริง"

"ในโรงฝึกดัชนีทองของเรา มีเพียงเงื่อนไขเดียวที่จะเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริงได้"

"นั่นคือการก้าวเข้าสู่ขอบเขตผิวหนังหินเท่านั้น!"

"แล้วขอบเขตผิวหนังหินคืออะไรน่ะหรือ?"

"เมื่อเจ้าได้ฝึกฝนกับต้นไม้จนถึงขีดสุด ในตอนนั้นเจ้าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง"

"การเปลี่ยนแปลงนี้ถือว่าสำคัญที่สุด"

"หลายคนฝึกฝนชั่วชีวิตก็ยังคงเป็นแค่การฝึกฝนและไม่สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงได้"

"นี่แหละคือพรสวรรค์!"

"นักศิลปะการต่อสู้ต้องอาศัยพรสวรรค์ แม้แต่วิทยายุทธของโรงฝึกดัชนีทองที่เป็นวิชาพลังภายนอกก็ยังต้องอาศัยพรสวรรค์"

"ถ้าหากไม่มีพรสวรรค์นี้ ก็ทำได้แค่ฝึกฝนไปชั่วชีวิตและไม่สามารถก้าวเข้าสู่การเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริงได้"

เซี่ยเหอพูดพลางกอดอก

เหล่าศิษย์ต่างเงียบลง

การเปลี่ยนแปลง!

พวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถพบกับการเปลี่ยนแปลงนั้นได้หรือไม่?

แต่เมื่อได้ยินศิษย์พี่เซี่ยเหอพูดแบบนี้ พวกเขาจึงรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นคงยากลำบาก

"พรสวรรค์..."

ซื่อหวินพึมพำกับตัวเอง

เขาไม่รู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์หรือไม่

แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาตื่นเต้น

จากคำอธิบายของเซี่ยเหอ

การฝึกฝนก็มีคอขวด

คอขวดนี้เป็นอุปสรรคสำหรับศิษย์หลายคน

หากทะลวงคอขวดนี้ไปได้ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงและก้าวเข้าสู่ขอบเขตผิวหนังหินจนได้กลายเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริง

ถ้าหากทะลวงไม่ได้ ก็จะไม่มีโอกาสเป็นนักศิลปะการต่อสู้และทำได้แค่ฝึกฝนไปตลอดชีวิต

"แค่มีคอขวดก็พอแล้ว..."

ซื่อหวินไม่ได้กังวลเลยสักนิด

ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์

เพราะบางที เขาอาจจะเป็น "ผู้ที่มีพรสวรรค์" หนึ่งในหมื่น

ไม่ใช่แค่ซื่อหวินที่คิดแบบนี้

ศิษย์คนอื่นๆเองต่างก็คิดแบบนี้เช่นกัน

เพราะหากยังไม่เคยสิ้นหวังจริงๆ ใครจะคิดว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์?

"เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ฝึกฝนกันต่อได้แล้ว"

เซี่ยเหอพูดขึ้น

เหล่าศิษย์จึงกลับไปฝึกฝนกันต่อ

ซื่อหวินได้ใช้เทคนิคการหายใจและฝึกฝนกับต้นไม้เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง

หลังจากนั้น มือของเขาก็เริ่มบวม

เพราะต้นไม้นั้นไม่เหมือนกองทราย

ต้นไม้มันแข็งมาก

และทุกครั้งที่ใช้เทคนิคการหายใจเพื่อดึงพลังทั้งหมดออกมาแล้วใช้นิ้วจิ้มลงไป มันก็เหมือนกับการปะทะกันโดยตรง

การที่นิ้วไม่หักก็ถือว่าดีแล้ว

ส่วนอาการบวมแดงก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

เมื่อถึงตอนนี้ ก็ต้องทายาแล้ว

นอกจากนี้ ซื่อหวินยังพบว่ายาที่ใช้ในขั้นที่สองของการฝึกฝนแตกต่างจากยาที่ใช้ในขั้นแรก

ดูเหมือนว่าแต่ละขั้นตอนของการฝึกยุทธจะใช้ยาที่แตกต่างกัน

"ยา" นี้ คงเป็นกุญแจสำคัญในการฝึกยุทธ

ขณะที่ซื่อหวินกำลังทายา เขาก็เฝ้าสังเกตศิษย์คนอื่นๆ

ศิษย์ที่อยู่ในขั้นที่สองนั้นมีจำนวนมากที่สุด

แต่ซื่อหวินมองไปคร่าวๆ

มีเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจเทคนิคการหายใจ

พวกเขามีประมาณครึ่งเดียวเท่านั้น

ซื่อหวินรู้สึกว่าเทคนิคการหายใจนั้นไม่ได้ยากมากนัก

แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะสามารถเข้าใจได้

แม้ว่าหลายคนจะฝึกฝนมาหนึ่งหรือสองเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าใจเทคนิคการหายใจได้

ตัวอย่างเช่น จ้าวหง

จ้าวหงเริ่มฝึกเทคนิคการหายใจก่อนซื่อหวิน

เขาเริ่มพยายามฝึกเทคนิคการหายใจไปแล้วประมาณยี่สิบกว่าวัน

แต่ดูเหมือนจะยังขาดอะไรบางอย่างไป

เขายังไม่สามารถเข้าใจเทคนิคการหายใจได้

ยิ่งเห็นซื่อหวินที่เข้าใจเทคนิคการหายใจแล้ว จ้าวหงก็ยิ่งร้อนใจ

"แกร๊ก"

นิ้วของจ้าวหงหักหลังจากจิ้มไปที่ต้นไม้

จ้าวหงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

ซึ่งนี่แตกต่างจากเหอเหลิ่งเยว่

ถึงแม้ว่าเหอเหลิ่งเยว่จะมีเงินและใช้ยาที่แพงกว่า

แต่เหอเหลิ่งเยว่ก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ก็สามารถเข้าใจเทคนิคการหายใจได้แล้ว

ซื่อหวินคิดอยู่ครู่หนึ่ง

หลังจากทายาเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นเดินไปหาจ้าวหง

"จ้าวหง"

"เจ้าอย่าพึ่งใจร้อนไป เทคนิคการหายใจนั้นไม่ยากหรอก"

"มา มาฝึกตามข้ามา"

หลังจากนั้น ซื่อหวินจึงเริ่ม "ชี้แนะ" จ้าวหง

นี่ไม่ใช่ว่าซื่อหวินอวดเก่ง

ในสายตาคนอื่น ซื่อหวินดูเหมือนจะเพิ่งเข้าใจเทคนิคการหายใจเท่านั้น

แต่จริงๆแล้วซื่อหวินได้เร่งความเร็วการฝึกจากวงแหวนสีเขียวถึงสิบวัน

ดังนั้นประสิทธิภาพการฝึกของเขาจึงสูงมาก

ราวกับว่าเขาได้ฝึกเทคนิคการหายใจมาแล้วสองถึงสามเดือน

แก่นแท้ของเทคนิคการหายใจ ซื่อหวินเองก็เข้าใจอย่างเชี่ยวชาญแล้ว

ดังนั้น ซื่อหวินจึงเริ่มชี้แนะจ้าวหงอย่างตั้งใจ

เขาแทบจะจับหายใจแทนเลยด้วยซ้ำ

ก่อนหน้านี้ จ้าวหงเคยเห็นเซี่ยเหอสาธิตเทคนิคการหายใจให้ดูเพียงครั้งเดียว

แต่กลายเป็นว่าตอนนี้กลับเป็นซื่อหวินที่กำลังสอนจ้าวหงอยู่แทน

ดังนั้น จ้าวหงจึงเริ่มสงบจิตใจลง

ทันใดนั้น นิ้วอีกข้างของจ้าวหงได้จิ้มลงไปบนลำต้นไม้

"บู้มม!"

หลังจากนั้น ได้เกิดเสียงดังขึ้นบนลำต้นของต้นไม้

จ้าวหงถึงกับเบิกตากว้าง

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดีใจเป็นอย่างมาก

"เจ้าซื่อ ข้า... ข้ารู้สึกว่าเข้าเริ่มใจเคล็ดลับของเทคนิคการหายใจแล้ว..."

ซื่อหวินยิ้มเล็กน้อยและไม่พูดอะไร

เขาทำเพียงแค่ตบบ่าจ้าวหงแล้วให้เขาฝึกฝนต่อไป

ด้วยการชี้แนะอย่างละเอียดของเขาจนแทบจะหายใจแทนเช่นนี้ ส่วนที่เหลือ ก็ขึ้นอยู่กับจ้าวหงแล้วที่จะต้องค่อยๆทำความคุ้นเคยกับการหายใจของตัวเอง

ฉากที่เกิดขึ้นนี้ ศิษย์คนอื่นๆเองก็ได้เห็นเช่นกัน

ทันใดนั้น สายตาของศิษย์บางคนก็เริ่มมีประกายแวววาว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าศิษย์ที่ยังไม่เข้าใจเทคนิคการหายใจ

เขามองไปที่ซื่อหวินเป็นระยะๆโดยที่ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด