ตอนที่แล้วบทที่ 22 สิ้นสุดการฝึกฝนขั้นแรก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 24 คำชี้แนะของจ้าวหง

บทที่ 23 เทคนิคการหายใจ!


บทที่ 23 เทคนิคการหายใจ!

เหอเหลิ่งเยว่ดูเหมือนว่าจะรู้ตัว

เธอยกหัวขึ้นทันที

สายตาภายใต้ผ้าคลุมหน้าจ้องมองมาที่ซื่อหวิน

ซื่อหวินเบือนสายตาไปอย่างช้าๆ

"เทคนิคการหายใจมันยากขนาดนั้นเลยหรือ?"

"เจ้าซื่อ เทคนิคการหายใจน่ะมันยากจริงๆ แต่เจ้าก็ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก การที่ฝึกไม่ได้ภายในหนึ่งหรือสองเดือนก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ"

ซื่อหวินส่ายหัวเล็กน้อย

หากฝึกไม่ได้ภายในหนึ่งหรือสองเดือน ไม่เพียงแต่เสียเวลา แต่ยังเสียเงินอีกด้วย!

โรงฝึกดัชนีทองไม่สนใจว่าจะใช้เวลาเรียนรู้เทคนิคการหายใจนานแค่ไหน

เพราะการอยู่ที่โรงฝึกหนึ่งวันก็ต้องจ่ายเงินหนึ่งวัน

และซื่อหวินก็ไม่คิดว่าเทคนิคการหายใจนี้จะยากเย็นอะไรขนาดนั้น

อย่างน้อยก็ดูเหมือนง่ายจะง่ายกว่าเอามือทิ่มลงทรายด้วยซ้ำ

มันคงไม่ยากอย่างที่จ้าวหงพูดหรอก

ดังนั้น ซื่อหวินจึงเริ่มลองฝึกเทคนิคการหายใจ

เขาปรับลมหายใจเหมือนกับที่เซี่ยเหอทำ

ยาวสั้น สั้นยาว ยาวสั้นยาว...

พูดแล้วอาจดูซับซ้อน แต่ถ้าจำจังหวะของเทคนิคการหายใจได้ ก็ไม่ยาก

แต่แล้ว ซื่อหวินก็ล้มเหลว

ใช่ เขาล้มเหลว

เขาจำจังหวะของเทคนิคการหายใจได้แม่นยำแล้ว

แต่เขายังใช้เวลานานเกินไป

การเปลี่ยนแปลงจังหวะของเทคนิคการหายใจต้องใช้ความชำนาญอย่างมาก

ไม่เช่นนั้น อาจทำให้เกิดอาการหายใจไม่ออกได้

"ลองอีกครั้ง!"

ซื่อหวินไม่ท้อแท้

เพราะนี่เป็นแค่การฝึกครั้งแรกเท่านั้น

ครั้งที่สอง สาม สี่ ห้า...

หน้าของซื่อหวินเริ่มแดงก่ำเพราะการปรับลมหายใจ

แต่หลังจากฝึกมาสิบกว่าครั้ง เขาก็ยังทำไม่สำเร็จสักครั้ง

ซื่อหวินมองไปที่จ้าวหงซึ่งดูเหมือนจะกำลังกลั้นหัวเราะเอาไว้

ซื่อหวินไม่สนใจ แต่ยังคงฝึกฝนต่อไป

เขาไม่เชื่อหรอกว่าอย่างเขาจะทำไม่ได้

ครั้งนี้ ซื่อหวินระมัดระวังและตั้งสมาธิจดจ่อมากขึ้น

หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า...

ซื่อหวินยังคงฝึกฝนต่อไปอีกยี่สิบครั้ง

เวลาผ่านไปหนึ่งถึงสองชั่วโมงแล้ว

นอกจากจะทำให้หน้าของซื่อหวินแดงก่ำ เขาก็ยังไม่ได้อะไรเลย

จ้าวหงก็ยังคงกลั้นหัวเราะดังเดิม

ซื่อหวินยังรู้สึกว่าเหอเหลิ่งเยว่กำลังมองมาที่เขาเป็นระยะๆ

สายตาที่ลึกลับนั้นมีความหมายชัดเจน

ซื่อหวินสูดหายใจเข้าลึกๆ

"ช่างเถอะ เทคนิคการหายใจนี้คงต้องใช้เวลาสิบกว่าวันหรืออาจจะถึงหนึ่งเดือนกว่าจะเข้าใจได้"

"ถ้านานขนาดนั้น ก็เท่ากับเสียเงินเปล่า"

"ดังนั้น..."

ซื่อหวินไม่ลังเลอีกต่อไป

ทันใดนั้น พลังของวงแหวนสีเขียวได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

ภายใต้พลังของวงแหวนสีเขียว ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สัญลักษณ์ของเทคนิคการหายใจได้ปรากฏขึ้น

บางที อาจเป็นตอนที่ซื่อหวินลองฝึกเทคนิคการหายใจหลายสิบครั้งแล้วบังเอิญทำสำเร็จครั้งหนึ่ง

มันจึงเกิดเป็นสัญลักษณ์ขึ้นมา

แต่นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

ในเมื่อมีสัญลักษณ์ นั่นหมายความว่าซื่อหวินสามารถเร่งความเร็วในการฝึกได้

ทันใดนั้น ซื่อหวินไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

เขาย้ายสัญลักษณ์ของเทคนิคการหายใจเข้าไปในงวงแหวนสีเขียวทันที

"วู้มมม!"

ภาพต่างๆได้ปรากฏขึ้นในหัวของซื่อหวิน

ราวกับว่าเขากำลังฝึกเทคนิคการหายใจทุกวัน

หนึ่งวัน สองวัน สามวัน สี่วัน ห้าวัน...

พลังของวงแหวนสีเขียวยังคงเร่งความเร็วการฝึกไปอีกจนครบสิบวัน

หลังจากนั้น พลังของวงแหวนสีเขียวก็เปลี่ยนเป็นสีเทา

ซื่อหวินยังคงซึมซับความทรงจำในหัวอย่างช้าๆ

พลังของวงแหวนสีเขียวได้เร่งความเร็วการฝึกฝนได้สิบวัน

ซึ่งนั่นคือการฝึกสิบสองชั่วโมงต่อหนึ่งวัน

ในความทรงจำนั้น เขาฝึกเทคนิคการหายใจทุกวินาที

ดังนั้น ประสิทธิภาพของการฝึกจึงสูงกว่าการฝึกปกติกว่าสิบเท่า!

พลังของวงแหวนสีเขียวได้เร่งความเร็วการฝึกสิบวัน นั่นเท่ากับว่าซื่อหวินฝึกเทคนิคการหายใจมาแล้วมากกว่าหนึ่งร้อยวัน

ดังนั้น ซื่อหวินจึงคุ้นเคยกับ "รายละเอียด" ของเทคนิคการหายใจเป็นอย่างดี

ซื่อหวินหลับตาลง

ความทรงจำในหัวค่อยๆหลอมรวมเข้ากับจิตสำนึก

ราวกับว่านี่เป็นสัญชาตญาณ

เพราะนี่คือความสามารถของแหวนสีเขียว

มันเหมือนกับว่าซื่อหวินได้ฝึกเทคนิคการหายใจจริงๆโดยไม่หลับไม่นอนวันละสิบสองชั่วโมง

และยังฝึกมาสิบวันเต็มๆ

"ฟุ่บ!"

ซื่อหวินลืมตาขึ้น

ทันใดนั้น เขาได้เริ่มหายใจเข้าออกทางจมูกอย่างต่อเนื่อง

และจังหวะก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาสามารถดึงพลังในร่างกายทั้งหมดออกมาและรวมไว้ที่ปลายนิ้วได้ผ่านการหายใจ

เพราะเทคนิคการหายใจของโรงฝึกดัชนีทอง ก็คือเทคนิคการใช้พลัง

"ตู้มมม!"

ซื่อหวินใช้นิ้วจิ้มไปที่ลำต้นของต้นไม้ที่แข็งแกร่งต้นหนึ่ง

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังเกิดขึ้น

ในขณะเดียวกัน นิ้วของซื่อหวินก็สั่นเล็กน้อย

แม้ว่าจะมีหนังด้านหนาๆ

แต่ครั้งนี้มันแรงมากเกินไป ดังนั้นแรงกระแทกจึงแรงมากตามไปด้วย

ซึ่งนั่นทำให้นิ้วของซื่อหวินเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

"นี่... นี่คือพลังของเทคนิคการหายใจงั้นรึ?"

"เจ้าซื่อ นี่เจ้าเข้าใจเทคนิคการหายใจแล้วหรือ?"

จ้าวหงเบิกตากว้าง

ราวกับว่าเขาไม่เชื่อในสายตาของตัวเอง

ซื่อหวินใช้เวลาเพียงหนึ่งถึงสองชั่วโมงก็สามารถเข้าใจเทคนิคการหายใจที่ซับซ้อนได้แล้วหรือ?

ขนาดตัวเขาฝึกมาเป็นเดือนแล้วยังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำ

ซื่อหวินไม่ได้ตอบ แต่เริ่มปรับลมหายใจแล้วจิ้มนิ้วลงไปที่ต้นไม้อีกครั้ง

"ตู้ม ตู้ม ตู้ม"

เมื่อเห็นซื่อหวินทุ่มสุดตัวโดยการจิ้มนิ้วลงไปที่ต้นไม้ครั้งแล้วครั้งเล่า

เสียงที่ดังมาข้างหูจึงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าซื่อหวินเข้าใจเทคนิคการหายใจแล้วจริงๆ

และดูจากความเร็วแล้ว

เขายังเข้าใจอย่างเชี่ยวชาญอีกด้วย

ในขณะเดียวกัน ไม่เพียงแต่จ้าวหงเท่านั้นที่ตกใจ

แม้แต่เหอเหลิ่งเยว่และเซี่ยเหอที่อยู่ไกลออกไปก็ประหลาดใจเช่นกัน

โดยเฉพาะเซี่ยเหอ

เขาบรรลุขอบเขตผิวหนังหินแล้วและเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริง

เขารู้ดีถึงความสำคัญของเทคนิคการหายใจ

เทคนิคการหายใจนั้นเป็นหนึ่งใน "วิธีฝึก" ที่สำคัญที่สุดของโรงฝึกดัชนีทอง

ไม่ใช่แค่ในขั้นตอนการฝึกฝน

แม้จะบรรลุขอบเขตผิวหนังหินแล้ว ก็ยังต้องใช้เทคนิคการหายใจ

แต่เขาไม่เคยเห็นใครที่เข้าใจเทคนิคการหายใจได้เร็วขนาดนี้

"แค่หนึ่งถึงสองชั่วโมง ไม่สิ ไม่น่าเกินสองชั่วโมงด้วยซ้ำ ซื่อหวินก็เข้าใจเทคนิคการหายใจได้แล้วรึ แถมยังเข้าใจได้อย่างเชี่ยวชาญขนาดนี้ด้วย"

"แม้แต่ศิษย์พี่ใหญ่ที่มีพรสวรรค์ที่สุดในโรงฝึกดัชนีทองตอนนี้ก็ยังต้องใช้เวลาหนึ่งวันกว่าจะเข้าใจเทคนิคการหายใจได้ และยังไม่คล่องแคล่วเท่ากับซื่อหวินด้วยซ้ำ"

"ความเข้าใจของซื่อหวินช่างน่ากลัวจริงๆ! ถ้าหากไม่ขาเป๋ล่ะก็ เขาก็คงเป็นอัจฉริยะที่น่าปลุกปั้น น่าเสียดายจริงๆ..."

เซี่ยเหอเองก็รู้สึกตกใจเช่นกัน

แต่เขาก็ได้แต่ส่ายหัวและไม่ได้พูดอะไร

การฝึกยุทธต้องอาศัยพรสวรรค์ ความมุ่งมั่น และความเข้าใจ

ในบรรดาสิ่งเหล่านี้ พรสวรรค์สำคัญที่สุด

ความมุ่งมั่นและความเข้าใจก็มีส่วนช่วยในการฝึกยุทธ

ความเข้าใจที่ดี ช่วยให้เข้าใจเทคนิคต่างๆของวิทยายุทธได้อย่างคล่องแคล่ว

และสามารถประหยัดเวลากับพลังงานได้มาก

แต่ทั้งหมดนี้ ก็เสียเปรียบไปทั้งหมดเมื่อเทียบกับขาที่พิการของซื่อหวิน

แม้ว่าซื่อหวินจะมีความเข้าใจที่ดีมากเพียงใด

แต่เขาเป็นคนพิการ แม้จะไปถึงขอบเขตผิวหนังหินได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร

ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าตอนนี้ซื่อหวินยังไม่ใช่นักศิลปะการต่อสู้

แม้แต่นักศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียง หากสูญเสียขาไปข้างหนึ่งก็ต้องวางมือออกจากวงการไป

สำหรับนักศิลปะการต่อสู้ การสูญเสียขาไปข้างหนึ่ง แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีอะไรมาทดแทน

เหล่าศิษย์รอบข้างต่างก็ให้ความสนใจกับซื่อหวิน

เพราะขาที่พิการของซื่อหวินนั้นเป็น "เอกลักษณ์" ประจำตัวของเขา

ตอนนี้ ซื่อหวินได้ใช้เวลาเพียงหนึ่งถึงสองชั่วโมงก็สามารถเข้าใจเทคนิคการหายใจได้แล้ว

ความเข้าใจที่เฉียบแหลมนี้ ทำให้หลายคนถึงกับต้องยอมรับ

แต่น่าเสียดายที่ซื่อหวินขาเป๋

หลายคนต่างพากันส่ายหัว

บางคนอาจจะเสียดาย

บางคนอาจจะดูถูก

แต่ไม่ว่าจะพวกเขาจะคิดแบบไหน ซื่อหวินก็ไม่ได้สนใจ

เพราะตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก

เพราะเขาค้นพบประโยชน์อีกอย่างของเทคนิคการหายใจแล้ว!

นอกจากจะใช้ฝึกฝนได้แล้ว

แต่สำหรับซื่อหวิน เทคนิคการหายใจอาจช่วยเพิ่มพลังของวิชาดาบบินของเขาให้สูงขึ้นไปอีกขั้นได้!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด