บทที่ 20 กลับสู่โรงฝึก!
บทที่ 20 กลับสู่โรงฝึก!
"พี่เหลียน ตอนนี้พวกเรามีเงินแล้ว ข้าว่า...ข้าจะหาเวลาไปที่บ้านของตระกูลหวังเพื่อไถ่ตัวพี่แล้วซื้อสัญญาขายตัวของพี่กลับคืนมาดีไหม?"
ซื่อหวินเอ่ยขึ้น
เขาไม่อยากให้พี่สาวของเขาต้องเป็นทาสรับใช้ใครอีกต่อไป
ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเขาไม่มีเงินก็เลยต้องยอม
แต่ตอนนี้เขามีเงินแล้ว
เขาสามารถซื้อสัญญาขายตัวของพี่สาวคืนมาจากตระกูลหวังได้
ซื่อเหลียนเองก็สนใจอยู่บ้าง
ใครบ้างที่จะอยากไปเป็นทาสของคนอื่น?
ทั้งโดนดุด่าสารพัดและยังไม่มีอิสระ
แต่ถึงอย่งานั้นเธอก็ยังมีสติและคิดอะไรบางอย่างได้
เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ "น้องหวิน เรื่องสัญญาขายตัวของพี่ พี่ว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก"
"เจ้าอาจจะไม่ค่อยรู้เรื่องตระกูลหวังมากนัก พวกเขาเป็นตระกูลใหญ่ที่มีนักศิลปะการต่อสู้ในบ้านและยังมีมากกว่าหนึ่งคนด้วย นอกจากนี้แทบจะไม่เคยมีใครสามารถซื้อสัญญาขายตัวของคนรับใช้ในตระกูลหวังกลับคืนมาได้เลย"
"ดังนั้น ต่อให้เจ้ามีเงินมากแค่ไหนก็คงไม่มีประโยชน์ นอกจาก... วันหนึ่งเจ้าจะได้กลายเป็นนักศิลปะการต่อสู้หรือเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ถ้าเป็นแบบนั้นก็อาจจะพอมีหวังที่จะซื้อสัญญาขายตัวของพี่กลับคืนมาได้"
"แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งทำอะไรวู่วามจะดีกว่า พี่อยู่ที่ตระกูลหวังก็สบายดี อย่างน้อยก็ไม่ต้องอยู่อย่างอดๆอยากๆ"
ซื่อหวินพยักหน้า
เขาเคยสืบเรื่องตระกูลหวังมาบ้างแล้ว
มันไม่ง่ายอย่างที่พี่ของเขาบอกจริงๆ
ตระกูลหวังนั้นเป็นตระกูลใหญ่ พวกเขามีคนรับใช้หลายร้อยคนและยังมีกองกำลังส่วนตัวอีก
นอกจากนี้ ตระกูลหวังเองก็มีนักศิลปะการต่อสู้และกองกำลังองครักษ์ที่ผ่านการฝึกฝนโดยนักศิลปะการต่อสู้
ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงมีกองกำลังที่แข็งแกร่งมาก!
ตอนนี้ราชวงศ์ต้าเฉียนก็กำลังตกอยู่ในความวุ่นวาย
เกิดการก่อจลาจลไปทั่วจนค่อยๆสูญเสียการควบคุมอำนาจในพื้นที่ต่างๆ
แม้แต่ศาลในเมืองหลิว ถ้าหากต้องการปราบโจรก็ยังต้องพึ่งพาตระกูลใหญ่ๆอย่างตระกูลหวัง
ดังนั้น เมื่อเข้าไปในตระกูลหวังแล้ว การจะซื้อสัญญาขายตัวกลับคืนมาและได้รับอิสระอีกครั้งนั้นจึงยากมาก
ทางเดียวที่จะซื้อสัญญาขายตัวกลับคืนมาได้นั่นคือการฝึกวิทยายุทธ์
ต้องเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งจนตระกูลหวังไม่กล้าล่วงเกินได้
เมื่อถึงตอนนั้น แม้จะไม่ต้องให้ซื่อหวินเอ่ยปากแต่ตระกูลหวังก็จะยื่นสัญญาขายตัวของซื่อเหลียนมาให้เขาเอง
"ข้าเข้าใจแล้วพี่เหลียน!"
ซื่อเหลียนเองก็รู้สึกโล่งใจ
ครั้งนี้พี่น้องทั้งสามคนได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างมีความสุข
น่าเสียดายที่ซื่อเหล่าตี้พ่อของพวกเขาไปทำงานรับใช้และยังไม่กลับมา
ถ้าซื่อเหล่าตี้กลับมาตอนนี้ได้ก็คงจะดี
แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางไปตามหาพ่อของเขาได้จึงทำได้แค่รอคอยอย่างอดทน
หลังจากที่ซื่อเหลียนออกไป ซื่อหวินก็สงบจิตใจลง
ช่วงนี้เขาต้องรักษาตัวดังนั้นเขาจึงไปฝึกที่โรงฝึกดัชนีทองไม่ได้
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังฝึกขว้างดาบสั้นได้
การต่อสู้เสี่ยงตายกับซู่เอ๋อโก่วทำให้ซื่อหวินได้เข้าใจอะไรบางอย่าง
วิทยายุทธ์ของโรงฝึกดัชนีทองนั้นมีความสำคัญมาก
แม้แต่การฝึกฝนผิวหนังก็ยังมีประโยชน์
แต่การขว้างดาบสั้นเองก็สำคัญไม่แพ้กัน
ถ้าดาบของเขามีความเร็วและพลังที่มากขึ้น เขาก็คงไม่ต้องเสี่ยงขนาดนี้
แค่ขว้างดาบสั้นไปห้าเล่มก็น่าจะฆ่าซู่เอ๋อโก่วได้แล้ว
ดังนั้น ในช่วงที่บาดเจ็บและไม่สามารถฝึกฝนผิวหนังได้เขาจึงฝึกขว้างดาบสั้นต่อไป
แต่ซื่อหวินก็เริ่มพบข้อเสียของการพัฒนาวิชาดาบบิน ซึ่งนั่นก็คือพลังที่ไม่มากพอ!
ต่อให้ขว้างดาบสั้นได้แม่นยำแค่ไหน ถ้าหากมีพลังและความเร็วก็ไม่มากพอ ดาบเล่มนั้นก็จะถูกศัตรูปัดป้องได้ง่ายๆ
และต่อให้จะปักเข้าตัวศัตรูได้ แต่ถ้าพลังไม่มากพอก็อาจจะไม่สามารถสร้างบาดแผลที่ร้ายแรงหรือฆ่าศัตรูได้
อย่างเช่น ดาบสั้นสี่เล่มที่ซื่อหวินขว้างออกไป มีสองเล่มที่ถูกซู่เอ๋อโก่วใช้แผ่นประตูรับไว้ได้เพราะความเร็วยังช้าเกินไป
ส่วนอีกสองเล่มที่ปักเข้าตัวซู่เอ๋อโก่วก็ไม่สามารถสร้างบาดแผลที่รุนแรงได้เพราะพลังยังไม่มากพอ
ดังนั้น ซื่อหวินจึงเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่าพลังของวิชาดาบบินของเขานั้นยังไม่มากเพียงพอ
อย่างน้อยก็ต้องเพิ่มพลังของดาบสั้นให้มากขึ้น!
แต่การเพิ่มพลังนั้น ซื่อหวินยังไม่มีวิธีที่ดีนัก
เขาจึงทำได้เพียงรอให้แผลหายดีแล้วไปที่โรงฝึกดัชนีทองเพื่อดูว่าพอจะมีวิธีเพิ่มพลังได้หรือไม่
......
เวลาผ่านไปสิบวันอย่างรวดเร็ว
ซื่อหวินได้ใช้ชีวิตอย่าง "สุขสบาย" เป็นเวลาสิบวัน
นี่เป็นช่วงเวลาที่เขาสบายใจและมีความสุขมากที่สุดนับตั้งแต่มาถึงโลกนี้
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะยารักษาแผลของหมอเฉินนั้นดีเกินไปหรือเปล่า
แผลที่ไหล่ของเขาในตอนนี้หายดีจนเกือบเป็นปกติแล้วภายในเวลาเพียงสิบวัน
โชคดีที่คมดาบของซู่เอ๋อโก่วนั้นฝังไม่ลึกถึงกระดูก ไม่อย่างงั้นก็คงต้องใช้เวลานานกว่านี้
"ได้เวลากลับไปที่โรงฝึกแล้ว!"
ซื่อหวินขยับร่างกาย
แขนและไหล่ของเขาไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย
นั่นแสดงว่าแผลของเขาหายสนิทแล้ว
ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา เขาได้ใช้พลังของวงแหวนสีเขียวเร่งความเร็วในการฝึกขว้างดาบสั้นไปสามครั้ง ซึ่งทำให้เขาใช้ดาบสั้นได้คล่องแคล่วมากขึ้น
เพราะตอนนี้ซื่อหวินเป็นคนพิการที่ขา หลังจากนี้ไปวิชาขว้างดาบสั้นของเขาจะมีบทบาทสำคัญไปอีกนาน
ดังนั้น เขาจะไม่ยอมละทิ้งวิชานี้ไปเด็ดขาด ตรงกันข้าม เขาจะหาวิธีเพื่อทำให้วิชานี้ทรงพลังมากยิ่งขึ้นไปอีก!
"น้องหวิน ถึงแม้ว่าซู่เอ๋อโก่วจะตายไปแล้ว แต่เจ้าก็ต้องระวังตัวด้วยนะ เมืองหลิวในตอนนี้ยังไม่สงบสักเท่าไหร่นัก"
"ตอนนี้เจ้าไปฝึกที่โรงฝึกเถอะ ข้าจะไม่ไปไหนมาไหนพร่ำเพรื่อหรอก"
ซื่อหวินพยักหน้า จากนั้นจึงผลักประตูและเดินออกไปยังถนน
ในตอนนี้พระอาทิตย์กำลังขึ้น
แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงบนร่างของซื่อหวินจนทำให้เขารู้สึกอบอุ่นไปทั้งตัว
สมกับเป็น "แสงแดดอันอบอุ่น" ในช่วงฤดูหนาวจริงๆ
ซื่อหวินใช้ไม้ค้ำยันเดินกะเผลกๆเพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังโรงฝึกดัชนีทองอย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลังจากนั้น ซื่อหวินก็มาถึงโรงฝึก
ที่นี่ยังมีคนอยู่มากมายเหมือนเดิม ดังนั้นเขาจึงตรงไปยังลานฝึกหลังโรงฝึก
ที่ลานฝึกหลังโรงฝึก มีคนใหม่ๆมาฝึกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
พวกเขามองซื่อหวินด้วยความแปลกใจ เพราะการมี "คนขาพิการ" อย่างซื่อหวินอยู่ในโรงฝึกนั้น เป็นเรื่องที่สะดุดตาเป็นอย่างมาก
ซื่อหวินไม่ได้สนใจสายตาแปลกๆเหล่านั้น
เขามองตรงไปและเห็นจ้าวหงในทันที
จ้าวหงเองก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่จะแสดงความดีใจออกมา
ซื่อหวินส่ายหัวเบาๆเป็นสัญญาณให้จ้าวหงใจเย็นๆแล้วฝึกฝนต่อไป
ดังนั้นจ้าวหงจึงสงบสติอารมณ์ลง
ช่วงที่ผ่านมาจ้าวหงไม่เห็นซื่อหวินเลย
เขาจึงรู้สึกท้อแท้และคิดว่าซื่อหวินคงจะตายไปแล้ว
เพราะเขาเองก็พอจะเดาได้ว่าซื่อหวินไปทำอะไรมา
แต่ไม่คิดเลยว่าหลังจากผ่านไปหลายวันซื่อหวินจะกลับมาและดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรด้วย
ซื่อหวินเดินกะเผลกๆไปหาเซี่ยเหอ
"ศิษย์พี่เซี่ย" ซื่อหวินเอ่ยทัก
เซี่ยเหอรู้สึกแปลกใจ เขามองซื่อหวินตั้งแต่หัวจรดเท้า
"ซื่อหวิน ตอนแรกเจ้าขอลาหยุดแค่หนึ่งวันไม่ใช่รึ? แต่ตอนนี้มันได้ผ่านไปเป็นสิบวันแล้ว"
"ครั้งก่อนเจ้าจ่ายเงินมาฝึกแค่ครึ่งเดือน แม้ว่าเจ้าจะเข้ามาที่โรงฝึกแค่สิบเอ็ดวัน แต่เนื่องจากเวลาได้ล่วงเลยไปแล้ว ถ้าอยากฝึกต่อ ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม"
"อีกอย่าง ข้ากับศิษย์พี่คนอื่นนั้นไม่เหมือนกัน ถ้าเจ้าอยากฝึกต่อ เจ้าจะต้องจ่ายเงินสำหรับการฝึกหนึ่งเดือนเต็ม!"
ดูเหมือนเซี่ยเหอจะไม่พอใจซื่อหวินอยู่บ้าง เพราะคนที่อนุญาตให้ซื่อหวิน "ผ่อนจ่าย" นั้นเป็นศิษย์พี่อีกคนที่ไม่ใช่เขา
เมื่อตอนนี้เขาได้เป็นคนตัดสินใจ เขาจึงไม่อนุญาตให้ซื่อหวินผ่อนจ่ายค่าฝึกที่โรงฝึกอีกต่อไป
ดังนั้น ทางเลือกของซื่อหวินจึงมีแค่สองทาง
ถ้าจ่ายเงินก็ได้ฝึกต่อ หรือถ้าไม่จ่ายเขาก็ต้องออกไปจากโรงฝึกเดี๋ยวนี้!