ตอนที่แล้วบทที่ 14 การเตรียมพร้อม!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 16 อันตราย!

บทที่ 15 จะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคืนนี้!


บทที่ 15 จะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคืนนี้!

"ข้ามาที่โรงฝึกดัชนีทองหลายวันแล้วรึ..."

ซื่อหวินเงยหน้าขึ้นและดูเหมือนจะประหลาดใจเล็กน้อย

ช่วงนี้….

เพราะภัยคุกคามจากซู่เอ๋อโก่ว จึงทำให้เขาเกือบลืมไปแล้วว่าเขาสามารถอยู่ในโรงฝึกดัชนีทองได้เพียงครึ่งเดือนเท่านั้น

และตอนนี้ เวลาก็ใกล้จะหมดลงแล้วและเขายังคงไม่สามารถรวบรวมเงินให้ครบห้าตำลึงได้

นอกจากนี้เขายังใช้เงินหนึ่งตำลึงไปกับการจ้างจ้าวหงให้ทำดาบบินอีก

"ศิษย์พี่เซี่ย เรื่องนี้นข้าทราบดีอยู่แล้ว"

"ถ้าเช่นนั้น ข้าขอลาหยุดหนึ่งวันนะขอรับ"

"ลาหยุดรึ? ได้สิ แต่ถึงเจ้าจะลาหยุด โรงฝึกดัชนีทองก็จะนับเป็นเวลาหนึ่งวันของเจ้า"

ซื่อหวินพยักหน้าเป็นการแสดงว่าเข้าใจ

ไม่ว่าเขาจะมาหรือไม่มาวันนี้

เขาก็สามารถฝึกที่สำนักได้เพียงครึ่งเดือนเท่านั้น

เมื่อถึงเวลาที่จะต้องจ่ายเงิน หากไม่มีจ่ายก็ต้องออกจากโรงฝึกไป

เซี่ยเหอมองไปที่จ้าวหงอีกครั้ง

แววตาของเขาแฝงไปด้วยความหมายบางอย่าง

ดูเหมือนเขาจะรู้ถึงอะไรบางอย่าง

แต่ถึงอย่างนั้นเซี่ยเหอก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วเขาก็ไปที่สวนด้านหลังอย่างรวดเร็ว

"เจ้าซื่อ... โชคดีนะ!"

จ้าวหงมองไปที่ดาบสั้นที่เหน็บอยู่ที่เอวของซื่อหวิน

จริงๆแล้ว ในใจของเขาก็พอจะคาดเดาอะไรได้บ้าง

แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไร

เพราะทุกอย่างนั้น ซื่อหวินรู้ดีอยู่แก่ใจ!

ซื่อหวินตบไหล่จ้าวหงเบาๆ

เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไร

ซื่อหวินรู้ว่าครั้งนี้เขาเป็นหนี้บุญคุณจ้าวหง

ครั้งนี้ ถ้าหากเขายังไม่ตาย เขาจะกลับมาตอบแทนบุญคุณของจ้าวหงแน่นอน

แต่ถ้าเขาตาย ทุกอย่างก็จบสิ้น!

เมื่อซื่อหวินจากไป เขาเดินออกไปจากโรงฝึกดัชนีทอง

เขายังไม่ได้ตรงกลับบ้าน แต่ตรงไปที่บ้านของซู่เอ๋อโก่ว!

ซู่เอ๋อโก่วนั้นมีฉายาว่า “คางคก”

เดิมทีเขาก็เป็นแค่อันธพาลประจำท้องถิ่นเท่านั้น

บ้านของเขาจริงๆแล้วก็เป็นแค่กระท่อมหญ้าที่ลมพัดผ่านได้ทั่ว

ภายในบ้านนั้นทรุดโทรม ไร้ซึ่งญาติมิตรและมีเพียงซู่เอ๋อโก่วอาศัยอยู่ผู้เดียว

ซื่อหวินคอยเฝ้าสังเกตการณ์รอบๆบ้านของซู่เอ๋อโก่วอย่างระมัดระวังเป็นเวลานานครึ่งชั่วยาม

เมื่อแน่ใจว่าซู่เอ๋อโก่วไม่ได้อยู่ที่บ้าน

ซื่อหวินจึงค่อยๆเดินเข้าไปในบ้านของซู่เอ๋อโก่วอย่างเงียบเชียบ

บ้านของซู่เอ๋อโก่วนั้นไม่มีแม้แต่รั้ว

นอกจากนี้ยังมีรูอยู่ทั่วรอบๆบ้านจึงทำให้เข้าไปข้างในได้ง่ายมาก

ซื่อหวินเดินเข้าไป

ภายในบ้านนั้นมีกลิ่นเหม็นชวนสะอิดสะเอียน

แต่ซื่อหวินก็ยังฝืนความขยะแขยงนั้นและคอยสังเกตไปรอบๆ

"ซู่เอ๋อโก่วน่าจะกลับมาตอนกลางคืน"

"ข้าจะซ่อนตัวอยู่ในบ้านของมัน"

"เมื่อมันกลับมา ข้าก็จะลงมือทันที!"

ใบหน้าของซื่อหวินดูสงบนิ่ง แต่ภายในใจของเขากลับไม่สงบเลย

วันนี้เขามาเพื่อฆ่าคน!

หากซู่เอ๋อโก่วไม่ตาย ซื่อหวินก็ยากที่จะวางใจได้!

ยิ่งไปกว่านั้น บางทีซู่เอ๋อโก่วอาจจะกำลังเตรียมการที่จะลงมือกับซื่อหวินอยู่แล้ว

แล้วซื่อหวินจะต้องกลัวหรือรออะไรอีก?

ซู่เอ๋อโก่วเคยฆ่าเขามาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นเขาจะต้องลงมือฆ่าเขาเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน

แม้ว่าวิชาดาบบินของซื่อหวินจะยังไม่ได้รับการพัฒนามาก

และแม้ว่าซื่อหวินเพิ่งจะเริ่มฝึกฝนวิทยายุทธจนแทบจะไม่มีพลังต่อสู้เลยก็ตาม

แต่เขาก็ต้องชิงลงมือก่อน

ไม่เช่นนั้น ด้วยสภาพที่ขาพิการของเขา หากปล่อยให้ซู่เอ๋อโก่วลงมือก่อน ซื่อหวินคงจะลำบากแน่

"จะสำเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคืนนี้แล้ว!"

"ถ้าหากซู่เอ๋อโก่วไม่ตาย ก็คงเป็นข้าที่ต้องตาย!"

ซื่อหวินพึมพำกับตัวเองเบาๆ

แววตาของเขานั้นมุ่งมั่นอย่างที่สุด

หลังจากนั้น ซื่อหวินก็ซ่อนตัวอยู่หลังตู้เก่าๆภายในบ้านของซู่เอ๋อโก่ว

เขาหลับตาพักผ่อนและรอให้ซู่เอ๋อโก่วกลับมาอย่างเงียบๆ

......

ที่แก๊งสามพยัคฆ์ ซู่เอ๋อโก่วดูเหมือนจะใจลอยและคิดอะไรบางอย่างอยู่

ช่วงนี้ ซู่เอ๋อโก่วได้สืบเรื่องราวต่างๆมาจนกระจ่างแล้ว

ซื่อหวินยังมีชีวิตอยู่จริงๆและยังไปฝึกวิทยายุทธที่โรงฝึกดัชนีทองอีกด้วย

ถึงแม้ว่าซื่อหวินจะขาพิการ แต่การที่ซื่อหวินฝึกวิทยายุทธก็ทำให้ซู่เอ๋อโก่วรู้สึกถึงภัยคุกคาม

ซื่อหวินอาจจะไม่สามารถเป็นจอมยุทธได้

ยิ่งเป็นคนขาพิการด้วยแล้ว

แต่ถ้าหากว่ามันเกิดเป็นไปได้ล่ะ?

สิ่งที่เขาทำกับซื่อหวิน ตัวเขาเองนั้นรู้ดีที่สุด

นอกจากนี้ซื่อหวินก็น่าจะพอจะรู้เรื่องบ้างแล้ว

ไม่เช่นนั้น ซื่อหวินจะหลบหน้าหลบตาเขาทำไม?

การที่ซื่อหวินยังไม่ตายนั้น ทำให้ซู่เอ๋อโก่วกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก

"เจ้าซื่อหวินนี่มันอึดจริงๆ ขนาดข้าวางแผนมาดีแล้วมันก็ยังไม่ตายอีก"

"แต่ยังไงซะ ข้าก็จะต้องทำให้มันตายด้วยมือของข้าให้ได้!"

"ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แล้ว ภายในสองวันนี้ข้าจะต้องฆ่าไอ้ซื่อหวินให้ตายเพื่อตัดปัญหาให้ได้อย่างเด็ดขาด!"

ซู่เอ๋อโก่วตัดสินใจอย่างเด็ดขาด

เขาจึงลุกขึ้นเดินไปหา "หวงหู่" หลิวเยี่ย หัวหน้าของเขา

"นายท่าน"

"อ้าวเอ๋อโก่ว มีอะไรรึ?"

หลิวเยี่ยนั้นเอ็นดูเอ๋อโก่วอยู่ไม่น้อย

เนื่องจากซู่เอ๋อโก่วชอบประจบและเอาใจเขา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ยังเคยมอบเงินก้อนโตกับหยกชั้นดีเป็นของขวัญแก่เขาอีกต่างหาก

ถึงจะรู้ว่าของพวกนี้ได้มาโดยที่ไม่ค่อยสุจริตนัก แต่หลิวเยี่ยก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

"นายท่าน ไอ้เจ้าซื่อหวินมันยังไม่ตายขอรับ มันรอดมาได้และยังไปฝึกวิทยายุทธที่โรงฝึกดัชนีทองอีก ข้ารู้สึกไม่ค่อยวางใจ และอยากจะไปจัดการกับมันให้เรียบร้อยภายในสองสามวันนี้ นายท่านโปรดอนุญาตข้าด้วยเถิดขอรับ"

หลิวเยี่ยรู้เรื่องของซู่เอ๋อโก่วดี เขาชอบในความซื่อสัตย์ จงรักภักดี และไม่เคยปิดบังอะไรเขาเลย ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เก็บเอ๋อโก่วไว้ใช้งานเป็นดั่งมือเท้าของเขา

"ได้ ถ้าอย่างงั้นข้าจะให้เวลาเจ้าสามวัน ไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเถอะ"

"ขอบพระคุณขอรับนายท่าน!"

ด้วยความดีใจ ซู่เอ๋อโก่วจึงรีบออกจากแก๊งสามพยัคฆ์ไปทันที

เขาไม่ได้ตรงไปที่โรงฝึกดัชนีทองเพราะเขากลัว

ถึงแม้จะรู้มาว่าโรงฝึกดัชนีทองไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของศิษย์ แต่มันก็ไม่แน่เสมอไป

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับนักศิลปะการต่อสู้นั้น แม้แต่ตัวของเขาเองยังไม่กล้าเสี่ยง

แต่ก่อน ซู่เอ๋อโก่วไม่รู้ว่านักศิลปะการต่อสู้แข็งแกร่งแค่ไหน

แต่หลังจากที่เขาพบสมบัติจากศพที่โรงหินแล้วใช้เงินนั้นเพื่อเข้าร่วมกับแก๊งสามพยัคฆ์

เขาก็ได้รู้ว่านักศิลปะการต่อสู้นั้นแข็งแกร่งเพียงใด

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับนักศิลปะการต่อสู้นั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก

สำหรับเขาที่เป็นแค่ลูกน้องของแก๊งสามพยัคฆ์ นักศิลปะการต่อสู้จากโรงฝึกดัชนีทองสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาบราวกับบี้มด

ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าไปวนเวียนอยู่แถวโรงฝึกดัชนีทองอีก

"ไปซื้อเหล้ากับเนื้อมากินให้อิ่มแล้วค่อยนอนพักเอาแรงก่อนดีกว่า พอตกเย็นค่อยไปดักรอไอ้เจ้าซื่อหวินระหว่างทางกลับบ้าน ไอ้เป๋นั่นข้าใช้ดาบฟันที่เดียวก็น่าจะตายแล้ว!" ซู่เอ๋อโก่วคิดในใจ

เขาไม่อยากรออีกต่อไป

วันนี้เขาจะต้องจัดการกับซื่อหวินให้ได้!

ส่วนเรื่องปัญหาที่จะตามมา เขาไม่ได้สนใจเลย

เพราะซื่อหวินก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง

ในเมืองหลิวทุกวันนี้ มีวันไหนบ้างที่ไม่มีคนตาย?

นอกจากนี้ ถ้าหากมีปัญหาอะไร นายท่านหลิวเยี่ยก็ช่วยเขาได้อยู่แล้ว

ดังนั้น ซู่เอ๋อโก่วจึงไปซื้อเหล้าแรงๆมาหนึ่งจินพร้อมกับเนื้อตุ๋นกับถั่วลิสง

เขาถือของกินของดื่มแล้วเดินกลับบ้านอย่างสบายอารมณ์

บ้านของเขาอยู่ในเขตใต้ของเมือง

ที่นี่คือแหล่งเสื่อมโทรม เป็นที่อยู่ของคนยากจนและคนเร่ร่อนมากมาย

ตามตรอกซอกซอยมักจะมีขอทานหรือคนจรจัดนอนรอความตายอยู่เกลื่อนกลาด

"ท่านผู้ใจบุญ ได้โปรดให้ทานข้าด้วยเถอะ ข้าหิวเหลือเกิน..."

ขอทานแก่ผอมโซร่างเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก พอได้เห็นเหล้าและเนื้อในมือซู่เอ๋อโก่วจึงรีบคลานเข้ามาหาและคุกเข่าอ้อนวอน

"ไสหัวไปซะ!"

ซู่เอ๋อโก่วทำหน้าตาดุดันและตวาดเสียงแข็งพร้อมกับถีบขอทานแก่จนกระเด็นล้มลงไปกองกับพื้น

ขอทานแก่คนนั้นแน่นิ่งไปและไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยัง….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด