ตอนที่แล้วบทที่ 12 เหอเหลิ่งเยว่!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 14 การเตรียมพร้อม!

บทที่ 13 หางที่ตามติด


บทที่ 13 หางที่ตามติด

"ปั้กก!"

เสียงกระทบดังขึ้น

ใบเคียวปักลงบนพื้น

แต่หนูกลับวิ่งหนีไปได้

ซึ่งมันทำให้ซื่อหวินขมวดคิ้ว

"ความแม่นยำของข้าในตอนนี้ถือว่าดีมากแล้ว"

"แต่ที่ใบเคียวของข้ายังไม่สามารถปักบนตัวหนูได้ เหตุผลนั้นมีเพียงข้อเดียว เพราะว่าหนูมันเคลื่อนที่ได้!"

"เป้าหมายก่อนหน้านี้มันอยู่นิ่ง แต่หนูมันเคลื่อนที่ได้"

"เป้าที่อยู่นิ่งกับเป้าที่เคลื่อนที่ได้นั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง"

"หากยังคิดจะใช้ดาบบินเพื่อต่อสู้หรือแม้แต่ฆ่าซู่เอ๋อโก่ว ข้าจะต้องทำให้ดาบบินนั้นเร็วขึ้นและยังต้องเพิ่มการคาดการณ์ล่วงหน้าเข้าไปด้วย"

ซื่อหวินนึกถึงข้อบกพร่องของวิชาดาบบิน

ดังนั้น เขาจึงปรับปรุงวิชาดาบบินของเขาเล็กน้อย

แต่ถึงอย่างนั้น พลังของวิชาดาบบินที่ปรับปรุงแล้วก็ยังมีจำกัด

เพราะดาบบินนั้นต้องเร็ว แม่นยำ และรุนแรง

แต่การจะทำให้เร็วและรุนแรงได้ก็ต้องใช้แรงที่มากขึ้น

และพลังในการขว้างดาบก็ไม่สามารถเพิ่มด้วยพลังของวงแหวนแห่งแสงได้

ซื่อหวินจึงทำได้เพียงฝึกฝนทีละเล็กทีละน้อยเพื่อเสริมสร้างพลังร่างกายให้แข็งแรงเพื่อเป็นการเพิ่มพลัง

ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ภายในวันเดียว

แต่การเพิ่มการคาดการณ์ล่วงหน้าเข้าไปเล็กน้อยก็ยังพอเป็นไปได้

ซื่อหวินจึงฝึกฝนต่ออีกหลายครั้ง

เขาทำให้วิชาดาบบินที่ปรับปรุงแล้วมีรอยประทับได้อีกครั้ง

ซึ่งหมายความว่า การปรับปรุงวิชาดาบบินของเขานั้นเป็นไปได้

เพียงแค่รออีกสามวัน รอให้พลังของวงแหวนแห่งแสงสีเขียวฟื้นฟู เขาก็จะสามารถใช้การเร่งความเร็วในการฝึกได้อีกครั้ง

หลังจากนั้น ซื่อหวินได้ใช้ชีวิตตามปกติโดยการไปฝึกฝนที่โรงฝึกดัชนีทองทุกวัน

พอกลับมาบ้าน เขาก็ฝึกวิชาดาบบินตอนกลางคืน

เมื่อพลังของวงแหวนแสงสีเขียวฟื้นฟูกลับมา ซื่อหวินจึงสามารถใช้เพื่อเร่งความเร็วการฝึกได้อีกครั้ง

ในทุกครั้ง พลังของวงแหวนแสงสีเขียวจะสามารถเร่งเวลาการฝึกฝนได้ประมาณสิบวัน

แต่การที่จะทำให้วิชาดาบบินแม่นยำโดยไม่มีพลาดจะต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นเวลานาน

แค่เร่งความเร็วด้วยพลังของวงแหวนแสงสีเขียวไม่กี่ครั้งก็ยังไม่เพียงพอ

ส่วนความคืบหน้าในการฝึกฝนของซื่อหวินก็ช้ามาก

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ได้เห็นความเร็วในการฝึกฝนของเหอเหลิ่งเยว่ด้วยตาตัวเอง

เหอเหลิ่งเยว่ใช้เวลาเพียงเจ็ดวันก็ผ่านขั้นตอนแรกของการฝึกฝนได้แล้ว

ตอนนี้เธอได้เริ่มฝึกฝนในขั้นตอนที่สองเรียบร้อย

นี่แหละคือพลังแฝงของ "เงิน"!

เหอเหลิ่งเยว่มีเงินมากมาย เธอสามารถใช้ยาพิเศษของโรงฝึกดัชนีทองได้ทุกวัน

ดังนั้นแล้ว ประสิทธิภาพในด้านการฝึกฝนของเธอจึงย่อมดีกว่าคนอื่นมาก

ส่วนจ้าวหงใช้เวลาประมาณสิบแปดวัน จึงได้เริ่มฝึกฝนในขั้นตอนที่สอง

แต่กลับกัน ซื่อหวินนั้น…

ถึงจะผ่านไปแล้วแปดวัน แต่นอกจากผิวมือที่หยาบกร้านขึ้น เล็บที่ด้านขึ้น ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอื่นใด

เขายังต้องฝึกฝนต่อไปในกองทราย

วันแล้ววันเล่า

ในที่สุด เวลาก็ผ่านไปสิบกว่าวัน

"ฟิ้ววว"

ใบเคียวในมือซื่อหวินสว่างวาบขึ้น

"ฉึก"

เลือดสาดกระเซ็น

ใบเคียวนั้นปักเข้าไปในตัวหนูอย่างแม่นยำ

หนูตัวนั้นดิ้นรนเล็กน้อยก่อนจะล้มลงกับพื้นและกลายเป็นศพ

ซื่อหวินพอใจมาก

เขาได้ใช้การเร่งความเร็วการฝึกด้วยพลังของวงแหวนแห่งแสงสีเขียวไปทั้งหมดห้าครั้ง

ซึ่งก็เท่ากับการเร่งเวลาการฝึกไปถึงห้าสิบวัน

ส่วนประสิทธิภาพที่แท้จริงนั้นอาจจะสูงกว่านั้นอีก!

เพราะเกือบจะเทียบเท่ากับผลการฝึกฝนหลายเดือน

ดังนั้น ในที่สุดซื่อหวินจึงสามารถฆ่าหนูได้อย่างแม่นยำด้วยใบเคียวเพียงเล่มเดียว

แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าซื่อหวินจะสามารถขว้างใบเคียวได้แม่นยำทุกครั้ง

แต่อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้แล้วว่าความแม่นยำของวิชาดาบบินของซื่อหวินนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ตอนนี้เขามีพลังต่อสู้ที่แท้จริงแล้ว!

วิชาดาบบินของเขามีความก้าวหน้าอย่างมาก ดังนั้นซื่อหวินจึงพอมีกำลังเพื่อป้องกันตัวเองบ้าง

เมื่อเป็นเช่นนี้ ในใจของเขาจึงรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย

และวันนี้ ซื่อหวินก็ทำเหมือนเช่นเคย

เขาเปิดประตูบ้านและออกไปตั้งแต่เช้าโดยมุ่งหน้าไปยังโรงฝึกดัชนีทอง

แต่ซื่อหวินไม่ทันสังเกตเลย

ว่าตอนนี้มีเงาดำกำลังจ้องมองเขาอย่างไม่วางตา

"ซื่อหวิน เจ้านี่มันตายยากตายเย็นเสียจริง!"

"นอกจากนี้ยังออกไปตั้งแต่เช้าและกลับดึกทุกวัน นี่เจ้ากำลังหลบหน้าข้าอยู่งั้นรึ?"

"แต่ถ้าหากเจ้ายังไม่ตาย ข้าเองก็ยังวางใจไม่ได้..."

เงาดำพึมพำเบาๆ แววตาแฝงไปด้วยความดุร้าย

...

ซื่อหวินได้มาถึงโรงฝึกดัชนีทอง

โรงฝึกดัชนีทองในวันนี้ก็ยังคงคึกคักเหมือนเช่นเคย

ซื่อหวินเพิ่งก้าวเข้าไปในโรงฝึกดัชนีทอง ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากข้างหลัง

"ซื่อหวิน"

"ศิษย์พี่เซี่ย? มีอะไรหรือขอรับ?"

ซื่อหวินหันกลับไปมอง ปรากฏว่าเป็นเซี่ยเหอ

เซี่ยเหอเป็นศิษย์ที่แท้จริงของเจ้าโรงฝึกที่บรรลุ "ขอบเขตผิวหนังหิน" ไปแล้ว

นอกจากนี้  เซี่ยเหอก็ยังเป็นผู้สอนศิษย์ทุกคนที่อยู่ในขั้นฝึกฝนผิวหนัง

ดังนั้น ซื่อหวินจึงคุ้นเคยกับเซี่ยเหอเป็นอย่างดี

แต่โดยปกติแล้ว เซี่ยเหอจะไม่ค่อยพูดและไม่เคยเข้ามาคุยกับซื่อหวินก่อน

เซี่ยเหอก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็วและพูดอย่างมีนัยสำคัญว่า "ซื่อหวิน เจ้าได้ไปสร้างความแค้นให้กับใครเอาไว้หรือเปล่า?"

"ศิษย์พี่หมายความว่าอะไรหรือขอรับ?"

ซื่อหวินงุนงง

"มีคนแอบสะกดรอยตามเจ้าอยู่ นี่เจ้าไม่รู้ตัวเลยหรือ?"

"เอาเถอะ ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรเจ้าในบริเวณโรงฝึกดัชนีทองหรอก"

"แต่เรื่องความแค้นส่วนตัวของเจ้านั้นเจ้าจะต้องจัดการเอง โรงฝึกดัชนีทองจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวใดๆ"

หลังจากนั้น เซี่ยเหอก็ตบไหล่ซื่อหวินแล้วเดินเข้าไปในลานฝึกอย่างรวดเร็ว

ซื่อหวินยืนนิ่ง

"มีคนสะกดรอยตามข้ารึ?"

ซื่อหวินพึมพำเบาๆ

เขารีบเดินเข้าไปในโรงฝึกดัชนีทองแล้วไปที่ข้างหน้าต่างอย่างช้าๆ

เขาเริ่มสังเกตการณ์สถานการณ์ภายนอกโรงฝึกดัชนีทองอย่างเงียบๆ

ด้วยคำเตือนของเซี่ยเหอ ทันใดนั้นซื่อหวินก็เห็น "หาง" ที่ตามเขามาอย่างรวดเร็ว

แต่เมื่อเห็นเงาร่างนั้น ซื่อหวินก็ตัวแข็งทื่อและจิตใจสั่นสะท้าน!

"นั่นมัน…ซู่เอ๋อโก่วรึ?!"

"ดูเหมือนว่าเขาจะรู้แล้วว่าข้ายังไม่ตายและยังแอบสะกดรอยตามข้ามาอีก"

ความคิดต่างๆได้ผุดขึ้นมาในหัวซื่อหวิน

สิ่งที่เขากลัวที่สุด ในวันนี้ได้กลายเป็นจริงแล้ว!

ซู่เอ๋อโก่วยังคงเป็นภัยคุกคามสำหรับเขาอยู่!

ก่อนหน้านี้ ซื่อหวินออกไปตั้งแต่เช้าและกลับมาในช่วงดึกก็เพื่อหลบหน้าซู่เอ๋อโก่ว

เขาไม่คิดเลยว่าจะถูกซู่เอ๋อโก่วจับได้

คนอย่างซู่เอ๋อโก่วนั้นอันตรายมาก

เมื่ออีกฝ่ายลงมือกับซื่อหวินไปครั้งหนึ่งแล้ว ก็ต้องลงมืออีกเป็นครั้งที่สองแน่นอน

เขาต้องระวังตัวให้มากขึ้น!

เดิมทีซื่อหวินคิดว่าจะฝึกฝนขั้นแรกให้สำเร็จ อย่างน้อยก็ผ่านขั้นฝึกฝนผิวหนังและปรับปรุงวิชาดาบบินให้แข็งแกร่งขึ้นแล้วค่อยไปจัดการกับซู่เอ๋อโก่ว

แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว

ซู่เอ๋อโก่วเป็นภัยคุกคามที่กำลังเข้าใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ

แต่เมื่ออยู่ในโรงฝึกดัชนีทอง เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องของซู่เอ๋อโก่ว

ซื่อหวินจึงเฝ้าสังเกตซู่เอ๋อโก่ว

อีกฝ่ายเองก็ดูเหมือนจะจ้องมองอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หายตัวไป

ซู่เอ๋อโก่วน่าจะไปสืบเรื่องของซื่อหวิน

ถ้าซู่เอ๋อโก่วคิดจะลงมือ

เขาก็ต้องอยากรู้สถานการณ์ในปัจจุบันของซื่อหวินก่อน

ถ้าหากซู่เอ๋อโก่วรู้ว่าตอนนี้ซื่อหวินเป็นคนพิการและเดินขาเป๋

บางทีซู่เอ๋อโก่วอาจจะลงมือกับเขาได้ทุกเมื่อ!

ซื่อหวินเริ่มมีความกังวลเล็กน้อย ดังนั้นตั้งแต่เช้าจรดเย็นเขาจึงไม่มีสมาธิอยู่กับตัว

แม้แต่การฝึกฝนของเขาก็ดูเหมือนจะไม่มีสมาธิเลย

จนกระทั่งถึงตอนเย็น

ซื่อหวินดูเหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้

"เจ้าซู่เอ๋อโก่วนั่นเป็นภัยคุกคามต่อข้าจริงๆ"

"ข้าคงไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปได้อีกแล้ว"

"ยิ่งไปกว่านั้น วิชาดาบบินที่ข้าฝึกฝนมานานก็ไม่ใช่ฝึกเพราะว่าง"

"แต่ถ้าหากอยากใช้ดาบบินเพื่อฆ่ามัน ข้าก็ต้องมีดาบบินจริงๆก่อน!"

สิ่งที่เรียกว่า "ดาบบิน" ของซื่อหวินในตอนนี้ จริงๆแล้วก็คือเศษใบเคียว

ถ้าหากใช้เพื่อฝึกฝีมือหรือปาเป้าก็พอได้

แต่ถ้าหากจะฆ่าคนจริงๆ เศษใบเคียวเหล่านี้จะใช้ไม่ได้

เขาจะต้องใช้ดาบจริงๆ

และยังต้องเป็นดาบที่คมกริบเท่านั้น!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด