บทที่ 13 หางที่ตามติด
บทที่ 13 หางที่ตามติด
"ปั้กก!"
เสียงกระทบดังขึ้น
ใบเคียวปักลงบนพื้น
แต่หนูกลับวิ่งหนีไปได้
ซึ่งมันทำให้ซื่อหวินขมวดคิ้ว
"ความแม่นยำของข้าในตอนนี้ถือว่าดีมากแล้ว"
"แต่ที่ใบเคียวของข้ายังไม่สามารถปักบนตัวหนูได้ เหตุผลนั้นมีเพียงข้อเดียว เพราะว่าหนูมันเคลื่อนที่ได้!"
"เป้าหมายก่อนหน้านี้มันอยู่นิ่ง แต่หนูมันเคลื่อนที่ได้"
"เป้าที่อยู่นิ่งกับเป้าที่เคลื่อนที่ได้นั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง"
"หากยังคิดจะใช้ดาบบินเพื่อต่อสู้หรือแม้แต่ฆ่าซู่เอ๋อโก่ว ข้าจะต้องทำให้ดาบบินนั้นเร็วขึ้นและยังต้องเพิ่มการคาดการณ์ล่วงหน้าเข้าไปด้วย"
ซื่อหวินนึกถึงข้อบกพร่องของวิชาดาบบิน
ดังนั้น เขาจึงปรับปรุงวิชาดาบบินของเขาเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างนั้น พลังของวิชาดาบบินที่ปรับปรุงแล้วก็ยังมีจำกัด
เพราะดาบบินนั้นต้องเร็ว แม่นยำ และรุนแรง
แต่การจะทำให้เร็วและรุนแรงได้ก็ต้องใช้แรงที่มากขึ้น
และพลังในการขว้างดาบก็ไม่สามารถเพิ่มด้วยพลังของวงแหวนแห่งแสงได้
ซื่อหวินจึงทำได้เพียงฝึกฝนทีละเล็กทีละน้อยเพื่อเสริมสร้างพลังร่างกายให้แข็งแรงเพื่อเป็นการเพิ่มพลัง
ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ภายในวันเดียว
แต่การเพิ่มการคาดการณ์ล่วงหน้าเข้าไปเล็กน้อยก็ยังพอเป็นไปได้
ซื่อหวินจึงฝึกฝนต่ออีกหลายครั้ง
เขาทำให้วิชาดาบบินที่ปรับปรุงแล้วมีรอยประทับได้อีกครั้ง
ซึ่งหมายความว่า การปรับปรุงวิชาดาบบินของเขานั้นเป็นไปได้
เพียงแค่รออีกสามวัน รอให้พลังของวงแหวนแห่งแสงสีเขียวฟื้นฟู เขาก็จะสามารถใช้การเร่งความเร็วในการฝึกได้อีกครั้ง
หลังจากนั้น ซื่อหวินได้ใช้ชีวิตตามปกติโดยการไปฝึกฝนที่โรงฝึกดัชนีทองทุกวัน
พอกลับมาบ้าน เขาก็ฝึกวิชาดาบบินตอนกลางคืน
เมื่อพลังของวงแหวนแสงสีเขียวฟื้นฟูกลับมา ซื่อหวินจึงสามารถใช้เพื่อเร่งความเร็วการฝึกได้อีกครั้ง
ในทุกครั้ง พลังของวงแหวนแสงสีเขียวจะสามารถเร่งเวลาการฝึกฝนได้ประมาณสิบวัน
แต่การที่จะทำให้วิชาดาบบินแม่นยำโดยไม่มีพลาดจะต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นเวลานาน
แค่เร่งความเร็วด้วยพลังของวงแหวนแสงสีเขียวไม่กี่ครั้งก็ยังไม่เพียงพอ
ส่วนความคืบหน้าในการฝึกฝนของซื่อหวินก็ช้ามาก
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ได้เห็นความเร็วในการฝึกฝนของเหอเหลิ่งเยว่ด้วยตาตัวเอง
เหอเหลิ่งเยว่ใช้เวลาเพียงเจ็ดวันก็ผ่านขั้นตอนแรกของการฝึกฝนได้แล้ว
ตอนนี้เธอได้เริ่มฝึกฝนในขั้นตอนที่สองเรียบร้อย
นี่แหละคือพลังแฝงของ "เงิน"!
เหอเหลิ่งเยว่มีเงินมากมาย เธอสามารถใช้ยาพิเศษของโรงฝึกดัชนีทองได้ทุกวัน
ดังนั้นแล้ว ประสิทธิภาพในด้านการฝึกฝนของเธอจึงย่อมดีกว่าคนอื่นมาก
ส่วนจ้าวหงใช้เวลาประมาณสิบแปดวัน จึงได้เริ่มฝึกฝนในขั้นตอนที่สอง
แต่กลับกัน ซื่อหวินนั้น…
ถึงจะผ่านไปแล้วแปดวัน แต่นอกจากผิวมือที่หยาบกร้านขึ้น เล็บที่ด้านขึ้น ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอื่นใด
เขายังต้องฝึกฝนต่อไปในกองทราย
วันแล้ววันเล่า
ในที่สุด เวลาก็ผ่านไปสิบกว่าวัน
"ฟิ้ววว"
ใบเคียวในมือซื่อหวินสว่างวาบขึ้น
"ฉึก"
เลือดสาดกระเซ็น
ใบเคียวนั้นปักเข้าไปในตัวหนูอย่างแม่นยำ
หนูตัวนั้นดิ้นรนเล็กน้อยก่อนจะล้มลงกับพื้นและกลายเป็นศพ
ซื่อหวินพอใจมาก
เขาได้ใช้การเร่งความเร็วการฝึกด้วยพลังของวงแหวนแห่งแสงสีเขียวไปทั้งหมดห้าครั้ง
ซึ่งก็เท่ากับการเร่งเวลาการฝึกไปถึงห้าสิบวัน
ส่วนประสิทธิภาพที่แท้จริงนั้นอาจจะสูงกว่านั้นอีก!
เพราะเกือบจะเทียบเท่ากับผลการฝึกฝนหลายเดือน
ดังนั้น ในที่สุดซื่อหวินจึงสามารถฆ่าหนูได้อย่างแม่นยำด้วยใบเคียวเพียงเล่มเดียว
แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าซื่อหวินจะสามารถขว้างใบเคียวได้แม่นยำทุกครั้ง
แต่อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้แล้วว่าความแม่นยำของวิชาดาบบินของซื่อหวินนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ตอนนี้เขามีพลังต่อสู้ที่แท้จริงแล้ว!
วิชาดาบบินของเขามีความก้าวหน้าอย่างมาก ดังนั้นซื่อหวินจึงพอมีกำลังเพื่อป้องกันตัวเองบ้าง
เมื่อเป็นเช่นนี้ ในใจของเขาจึงรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
และวันนี้ ซื่อหวินก็ทำเหมือนเช่นเคย
เขาเปิดประตูบ้านและออกไปตั้งแต่เช้าโดยมุ่งหน้าไปยังโรงฝึกดัชนีทอง
แต่ซื่อหวินไม่ทันสังเกตเลย
ว่าตอนนี้มีเงาดำกำลังจ้องมองเขาอย่างไม่วางตา
"ซื่อหวิน เจ้านี่มันตายยากตายเย็นเสียจริง!"
"นอกจากนี้ยังออกไปตั้งแต่เช้าและกลับดึกทุกวัน นี่เจ้ากำลังหลบหน้าข้าอยู่งั้นรึ?"
"แต่ถ้าหากเจ้ายังไม่ตาย ข้าเองก็ยังวางใจไม่ได้..."
เงาดำพึมพำเบาๆ แววตาแฝงไปด้วยความดุร้าย
...
ซื่อหวินได้มาถึงโรงฝึกดัชนีทอง
โรงฝึกดัชนีทองในวันนี้ก็ยังคงคึกคักเหมือนเช่นเคย
ซื่อหวินเพิ่งก้าวเข้าไปในโรงฝึกดัชนีทอง ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากข้างหลัง
"ซื่อหวิน"
"ศิษย์พี่เซี่ย? มีอะไรหรือขอรับ?"
ซื่อหวินหันกลับไปมอง ปรากฏว่าเป็นเซี่ยเหอ
เซี่ยเหอเป็นศิษย์ที่แท้จริงของเจ้าโรงฝึกที่บรรลุ "ขอบเขตผิวหนังหิน" ไปแล้ว
นอกจากนี้ เซี่ยเหอก็ยังเป็นผู้สอนศิษย์ทุกคนที่อยู่ในขั้นฝึกฝนผิวหนัง
ดังนั้น ซื่อหวินจึงคุ้นเคยกับเซี่ยเหอเป็นอย่างดี
แต่โดยปกติแล้ว เซี่ยเหอจะไม่ค่อยพูดและไม่เคยเข้ามาคุยกับซื่อหวินก่อน
เซี่ยเหอก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็วและพูดอย่างมีนัยสำคัญว่า "ซื่อหวิน เจ้าได้ไปสร้างความแค้นให้กับใครเอาไว้หรือเปล่า?"
"ศิษย์พี่หมายความว่าอะไรหรือขอรับ?"
ซื่อหวินงุนงง
"มีคนแอบสะกดรอยตามเจ้าอยู่ นี่เจ้าไม่รู้ตัวเลยหรือ?"
"เอาเถอะ ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรเจ้าในบริเวณโรงฝึกดัชนีทองหรอก"
"แต่เรื่องความแค้นส่วนตัวของเจ้านั้นเจ้าจะต้องจัดการเอง โรงฝึกดัชนีทองจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวใดๆ"
หลังจากนั้น เซี่ยเหอก็ตบไหล่ซื่อหวินแล้วเดินเข้าไปในลานฝึกอย่างรวดเร็ว
ซื่อหวินยืนนิ่ง
"มีคนสะกดรอยตามข้ารึ?"
ซื่อหวินพึมพำเบาๆ
เขารีบเดินเข้าไปในโรงฝึกดัชนีทองแล้วไปที่ข้างหน้าต่างอย่างช้าๆ
เขาเริ่มสังเกตการณ์สถานการณ์ภายนอกโรงฝึกดัชนีทองอย่างเงียบๆ
ด้วยคำเตือนของเซี่ยเหอ ทันใดนั้นซื่อหวินก็เห็น "หาง" ที่ตามเขามาอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อเห็นเงาร่างนั้น ซื่อหวินก็ตัวแข็งทื่อและจิตใจสั่นสะท้าน!
"นั่นมัน…ซู่เอ๋อโก่วรึ?!"
"ดูเหมือนว่าเขาจะรู้แล้วว่าข้ายังไม่ตายและยังแอบสะกดรอยตามข้ามาอีก"
ความคิดต่างๆได้ผุดขึ้นมาในหัวซื่อหวิน
สิ่งที่เขากลัวที่สุด ในวันนี้ได้กลายเป็นจริงแล้ว!
ซู่เอ๋อโก่วยังคงเป็นภัยคุกคามสำหรับเขาอยู่!
ก่อนหน้านี้ ซื่อหวินออกไปตั้งแต่เช้าและกลับมาในช่วงดึกก็เพื่อหลบหน้าซู่เอ๋อโก่ว
เขาไม่คิดเลยว่าจะถูกซู่เอ๋อโก่วจับได้
คนอย่างซู่เอ๋อโก่วนั้นอันตรายมาก
เมื่ออีกฝ่ายลงมือกับซื่อหวินไปครั้งหนึ่งแล้ว ก็ต้องลงมืออีกเป็นครั้งที่สองแน่นอน
เขาต้องระวังตัวให้มากขึ้น!
เดิมทีซื่อหวินคิดว่าจะฝึกฝนขั้นแรกให้สำเร็จ อย่างน้อยก็ผ่านขั้นฝึกฝนผิวหนังและปรับปรุงวิชาดาบบินให้แข็งแกร่งขึ้นแล้วค่อยไปจัดการกับซู่เอ๋อโก่ว
แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว
ซู่เอ๋อโก่วเป็นภัยคุกคามที่กำลังเข้าใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ
แต่เมื่ออยู่ในโรงฝึกดัชนีทอง เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องของซู่เอ๋อโก่ว
ซื่อหวินจึงเฝ้าสังเกตซู่เอ๋อโก่ว
อีกฝ่ายเองก็ดูเหมือนจะจ้องมองอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หายตัวไป
ซู่เอ๋อโก่วน่าจะไปสืบเรื่องของซื่อหวิน
ถ้าซู่เอ๋อโก่วคิดจะลงมือ
เขาก็ต้องอยากรู้สถานการณ์ในปัจจุบันของซื่อหวินก่อน
ถ้าหากซู่เอ๋อโก่วรู้ว่าตอนนี้ซื่อหวินเป็นคนพิการและเดินขาเป๋
บางทีซู่เอ๋อโก่วอาจจะลงมือกับเขาได้ทุกเมื่อ!
ซื่อหวินเริ่มมีความกังวลเล็กน้อย ดังนั้นตั้งแต่เช้าจรดเย็นเขาจึงไม่มีสมาธิอยู่กับตัว
แม้แต่การฝึกฝนของเขาก็ดูเหมือนจะไม่มีสมาธิเลย
จนกระทั่งถึงตอนเย็น
ซื่อหวินดูเหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้
"เจ้าซู่เอ๋อโก่วนั่นเป็นภัยคุกคามต่อข้าจริงๆ"
"ข้าคงไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปได้อีกแล้ว"
"ยิ่งไปกว่านั้น วิชาดาบบินที่ข้าฝึกฝนมานานก็ไม่ใช่ฝึกเพราะว่าง"
"แต่ถ้าหากอยากใช้ดาบบินเพื่อฆ่ามัน ข้าก็ต้องมีดาบบินจริงๆก่อน!"
สิ่งที่เรียกว่า "ดาบบิน" ของซื่อหวินในตอนนี้ จริงๆแล้วก็คือเศษใบเคียว
ถ้าหากใช้เพื่อฝึกฝีมือหรือปาเป้าก็พอได้
แต่ถ้าหากจะฆ่าคนจริงๆ เศษใบเคียวเหล่านี้จะใช้ไม่ได้
เขาจะต้องใช้ดาบจริงๆ
และยังต้องเป็นดาบที่คมกริบเท่านั้น!