ตอนที่แล้วบทที่ 10 วิชาขว้างมีด!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 12 เหอเหลิ่งเยว่!

บทที่ 11 เจ้าโรงฝึก


บทที่ 11 เจ้าโรงฝึก

"เจ้าโรงฝึกพาผู้หญิงคนหนึ่งมางั้นหรือ?" ซื่อหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย

เขามาที่โรงฝึกดัชนีทองได้หนึ่งวันแล้ว

ดังนั้นเขาจึงพอจะเข้าใจอะไรหลายเรื่องอยู่บ้าง

เจ้าโรงฝึกของโรงฝึกดัชนีทองมีชื่อว่า “จินฝู”

ในนามของเขา เขาถือว่าเป็นอาจารย์ของทุกคนในโรงฝึกดัชนีทอง

แต่ในความเป็นจริง ศิษย์ที่ฝึกฝนในโรงฝึกดัชนีทองต่างเรียกเขาว่าเจ้าโรงฝึก

เพราะพวกเขายังไม่มีคุณสมบัติที่จะเรียกเขาว่าอาจารย์

ว่ากันว่า มีเพียงคนที่จินฝูเห็นชอบหรือฝึกฝนวิทยายุทธสำเร็จเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์เรียกจินฝูว่าอาจารย์

อย่างซื่อหวินและจ้าวหงที่จ่ายเงินเข้าสำนักฝึกเพื่อฝึกวิทยายุทธนั้นไม่มีโอกาสได้เจอกับจินฝูเลย

ไม่คาดคิดว่า จินฝูจะพาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในโรงฝึกดัชนีทองด้วยตัวเองแบบนี้

เห็นได้ชัดว่าเธอคนนั้นต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่

"เจ้าโรงฝึก!"

"คารวะท่านเจ้าโรงฝึกขอรับ!"

"ท่านอาจารย์!"

ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงดังโหวกเหวกมาจากลานด้านหลัง

ซื่อหวินหยุดเดินแล้วมองไปด้านหลัง

ซื่อหวินได้เห็นเจ้าโรงฝึกจินฝูแห่งโรงฝึกดัชนีทอง!

เขาเป็นชายชราที่มีอายุประมาณห้าสิบกว่าๆ

เขามีหนวดเคราสีขาวและดูไม่ค่อยแข็งแรง

มีรูปร่างค่อนข้างผอมบาง

ดวงตาทั้งสองข้างหรี่ลงเป็นเส้นตรง

สวมชุดฝึกสีขาวหลวมๆ

เมื่อมองจากระยะไกล ภาพๆหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของซื่อหวิน

หนู!

ใช่ จินฝูนั้นเหมือนกับหนูมาก!

หากมองจากระยะไกล จินฝูก็เหมือนกับหนูอ้วนตัวใหญ่

แต่ตอนนี้สายตาของคนส่วนใหญ่กลับจดจ่อไปอยู่ที่ด้านหลังของจินฝู

ซึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

นางยังสวมผ้าคลุมหน้าอยู่

นางมีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว

แค่เห็นจากด้านหลัง ก็รู้สึกถึงออร่าที่งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

เมื่อจินฝูเห็นว่าทุกคนต่างจ้องมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น เขาเองก็ไม่ได้โกรธ

แต่เขากลับหัวเราะและเรียก "เจ้าเซี่ย" เพื่อเข้ามาแนะนำ

"เซี่ยเหอ นี่คือบุตรสาวของเพื่อนเก่าของอาจารย์มีนามว่า “เหอเหลิ่งเยว่” นางมาที่โรงฝึกดัชนีทองของเราเพื่อฝึกวิทยายุทธ"

"อาจารย์จะให้เธอมาอยู่กับเจ้าเพื่อให้เธอฝึกฝนขั้นพื้นฐานไปก่อน"

"เหลิ่งเยว่ นี่คือศิษย์พี่เซี่ยเหอของเจ้า วิทยายุทธของเขานั้นได้เข้าขั้นถึงขอบเขตผิวหนังหินแล้ว ดังนั้นแค่การแนะนำเจ้าก็ถือว่ามากพอแล้ว"

เหอเหลิ่งเยว่เองก็พูดขึ้นว่า "ขอบคุณท่านอาจินมากค่ะ"

"เอาล่ะ เมื่อมาถึงโรงฝึกดัชนีทองแล้วก็ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ" จินฝูโบกมือ

"ในเมื่อวันนี้ข้าเองก็มาที่นี่แล้ว ข้าก็จะถือโอกาสสอนเจ้าฝึกฝนด้วยตัวเองเลย"

จากนั้น จินฝูจึงเดินไปที่กองทรายโดยเอามือไพล่หลัง

ซื่อหวินรู้สึกตื่นเต้นมาก

ในที่สุดเขาก็ได้เจอจินฝูแล้ว

นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก

ซื่อหวินในตอนนี้ได้อาศัยบารมีของเหอเหลิ่งเยว่ จึงได้เห็นจินฝูสอนด้วยตัวเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่หาดูได้ง่ายๆ

เพราะคนในโรงฝึกต่างก็รู้กันดี

มีเพียงคนที่ผ่านการฝึกฝนขั้นพื้นฐานไปถึงขอบเขตผิวหนังหินและได้เป็นศิษย์ของจินฝูอย่างเป็นทางการเท่านั้น ถึงจะได้รับคำแนะนำจากจินฝูด้วยตัวเอง

ไม่เช่นนั้น ศิษย์เหล่านี้อาจจะไม่ได้เห็นหน้าจินฝูด้วยซ้ำ

ไม่คาดคิดเลยว่าเหอเหลิ่งเยว่ผู้ลึกลับคนนี้จะมีบารมีมากขนาดนี้

ถึงขนาดทำให้จินฝูต้องมาสอนการฝึกฝนด้วยตัวเองได้

จินฝูเดินมาถึงหน้ากองทราย

แม้แต่ศิษย์ที่ฝึกฝนด้วยลำต้นไม้ก็ยังมารวมตัวกัน

พวกเขาเองก็เป็นศิษย์เหมือนกัน ถึงแม้จะไปถึงขั้นตอนที่สองของการฝึกฝนแล้วแต่ก็ยังไม่มีคุณสมบัติให้จินฝูได้สอนด้วยตัวเอง

จินฝูยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนจนแทบจะถูกกลืนหายไปจนมองไม่เห็น

รูปร่างเตี้ยๆของเขาดูเหมือนกับหนูอ้วนตัวหนึ่ง

ซึ่งยากที่จะเชื่อมโยงเขากับการเป็น "นักศิลปะการต่อสู้" ได้

จินฝูมองไปที่กองทรายแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "เหลิ่งเยว่ เจ้าดูให้ดีๆล่ะ"

"โรงฝึกดัชนีทองของเราฝึกฝนที่ผิวหนังบนมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นิ้วมือ ดังนั้นการฝึกฝนขั้นพื้นฐานนี้จึงขาดไปไม่ได้"

"การฝึกฝนนี้ไม่มีเคล็ดลับอะไรมาก แค่ต้องฝึกฝนไปเรื่อยๆเพื่อทำให้ผิวหนังบนมือค่อยๆกลายเป็นหนังด้านหนาเท่านั้นก็พอแล้ว"

"ทุกครั้งที่ฝึกฝน เจ้าจะต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่โดยการจุ่มมือลงไปในกองทรายนี้เพื่อให้กรวดทรายและเศษเหล็กในกองทรายช่วยขัดเกลาผิวหนังบนมืออย่างต่อเนื่อง"

"แบบนี้..."

จินฝูยื่นมือออกมา

สีผิวบนมือของเขาดูเหมือนจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย

มันมีสีทองแดงจางๆ

จากนั้น จินฝูจึงค่อยๆจุ่มมือทั้งสองข้างลงไปในกองทราย

"ฟุ่บ"

จินฝูเองก็ทำเหมือนกับศิษย์คนอื่นๆโดยการจุ่มมือทั้งสองข้างลงไปในกองทราย

หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง...

แต่เขาไม่เหมือนกับศิษย์คนอื่นๆที่มือเต็มไปด้วยเลือด

แม้ว่าจินฝูจะแทงมือลงไปในกองทรายไปหลายสิบครั้งแล้ว

แต่มือของเขาก็ยังคงเป็นสีทองแดงและไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

สิ่งนี้ทำให้ศิษย์ทุกคนประหลาดใจอย่างมาก

จริงๆแล้ว การฝึกฝนนี้ไม่มีทางลัด

แค่คำว่า "ฝึกฝน" ก็เพียงพอที่จะอธิบายได้

แค่ต้องอาศัยความพยายามและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จึงจะประสบความสำเร็จในการฝึกฝนขั้นนี้ได้เท่านั้น

หลังจากนั้นจินฝูก็เอามือออก

เหอเหลิ่งเยว่พูดขึ้นทันที "ท่านอาจิน ข้าเคยได้ยินว่าวิทยายุทธของโรงฝึกดัชนีทองอยู่ที่มือ"

"ท่านพอจะให้พวกเราได้เห็นเป็นขวัญตาหน่อยได้ไหมคะ?"

เมื่อได้ยินคำพูดของเหอเหลิ่งเยว่ ทุกคนซึ่งรวมถึงซื่อหวินต่างกลั้นหายใจ

ทุกคนจ้องมองไปที่จินฝูซึ่งมีแม้กระทั่งมีความปรารถนาอยู่ในสายตา

เหล่าศิษย์เหล่านี้ รู้เพียงว่าวิทยายุทธของโรงฝึกดัชนีทองนั้นเน้นไปที่มือ

แต่ไม่มีใครรู้ว่าตรงไหนของมือ

แม้แต่ศิษย์พี่ใน "ขอบเขตผิวหนังหิน" อย่างเซี่ยเหอ ก็ยังไม่เคยแสดงความสามารถอะไรที่น่าอัศจรรย์ออกมา

อย่างมากก็แค่มีมือที่แข็งแรงกว่าและผิวหนังที่ทนทานกว่าเท่านั้น

"เฮอะๆ เหลิ่งเยว่ เจ้าอยากเห็นงั้นหรือ?"

"ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นข้าจะแสดงให้เจ้าดูสักหน่อยก็แล้วกัน"

"พวกเจ้าเองก็ดูให้ดีๆล่ะ วิทยายุทธของโรงฝึกดัชนีทองข้านั้นไม่ได้มีดีแค่ชื่อเสียงเท่านั้น!"

จินฝูยังคงหรี่ตา

มีรอยยิ้มจางๆปรากฏบนใบหน้า

เขาหยิบก้อนหินแข็งๆก้อนหนึ่งขึ้นมาจากพื้น

แล้วใช้นิ้วคีบก้อนหินนั้นเบาๆ

"เปรี๊ยะ"

ก้อนหินแข็งๆก้อนนั้นแตกละเอียดราวกับเปลือกไข่

ในพริบตาก็แตกสลายไป

จินฝูเดินไปที่ท่อนไม้แข็งๆท่อนหนึ่ง

เขายื่นมือขวาออกไป

เขากำลังเหมือนกับเดินเล่นอยู่ในสวน เมื่อทั้งห้านิ้วได้กางออกเขาใช้นิ้วมือทั้งห้าแทงทะลุเข้าไปในท่อนไม้ทันที

ราวกับว่านั่นไม่ใช่ท่อนไม้แข็งๆแต่เป็นเต้าหู้

เมื่อได้เห็นฉากนี้ ทุกคนต่างก็เบิกตากว้าง

ซื่อหวินเองก็ตกใจอย่างมาก!

"เอาล่ะ นี่เป็นแค่กลเม็ดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น"

"พวกเจ้าจงจำไว้ว่า ถ้าฝึกวิทยายุทธของโรงฝึกดัชนีทองข้าได้สำเร็จ นิ้วของพวกเจ้าจะคมยิ่งกว่าอาวุธวิเศษใดๆ!"

"ไม่ต้องพูดถึงท่อนไม้หรือก้อนหินพวกนี้หรอก แม้แต่เหล็กกล้าก็ยังแหลกสลายได้ด้วยพลังนิ้วของพวกเจ้า"

จินฝูเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ

ถึงแม้ว่าเขาจะมีรูปร่างผอมบาง

แต่ในตอนนี้ ไม่มีใครกล้าดูถูกเขาอีกต่อไป

"เอาล่ะเหลิ่งเยว่ เจ้าฝึกไปก่อนนะ หากมีอะไรก็มาหาข้าภายหลังได้"

เมื่อพูดจบ จินฝูจึงเดินจากไปโดยเอามือไพล่หลัง

"เฮ้อ..."

ซื่อหวินได้ยินเสียงถอนหายใจยาวของจ้าวหงที่อยู่ข้างๆ

จากนั้น จ้าวหงก็พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "เจ้าหวิน เจ้าเห็นไหม? เขาสุดยอดไปเลยเนอะ!"

"มือของเจ้าโรงฝึกนั้นสุดยอดจริงๆ"

"ถ้าหากฝึกวิทยายุทธไปถึงขั้นนั้นได้ ในเมืองหลิวก็คงไม่มีใครกล้าหือกับข้าแล้ว"

ในขณะนี้ แววตาของศิษย์ส่วนใหญ่ต่างเปล่งประกายด้วยความกระตือรือร้น

ราวกับว่ามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าทีจะเป็นเหมือนกับเจ้าโรงฝึกให้ได้

พวกเองเขาอยากจะมีพลังไปให้ถึงระดับเดียวกันกับจินฝู

แต่เซี่ยเหอกลับส่ายหัวเล็กน้อย

เขาผ่านขั้นตอนการฝึกฝนขั้นพื้นฐานมาแล้วและก้าวเข้าสู่ขอบเขตผิวหนังหินเต็มตัว

มีเพียงคนที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตผิวหนังหินเต็มตัวเท่านั้น ถึงจะเข้าใจว่าขอบเขตของอาจารย์จินฝูนั้นน่ากลัวมากเพียงใด

หากต้องการไปถึงขอบเขตนั้น

ในบรรดาเหล่าศิษย์เหล่านี้ ก็คงไม่มีใครทำได้…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด