บทที่ 11 เจ้าโรงฝึก
บทที่ 11 เจ้าโรงฝึก
"เจ้าโรงฝึกพาผู้หญิงคนหนึ่งมางั้นหรือ?" ซื่อหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย
เขามาที่โรงฝึกดัชนีทองได้หนึ่งวันแล้ว
ดังนั้นเขาจึงพอจะเข้าใจอะไรหลายเรื่องอยู่บ้าง
เจ้าโรงฝึกของโรงฝึกดัชนีทองมีชื่อว่า “จินฝู”
ในนามของเขา เขาถือว่าเป็นอาจารย์ของทุกคนในโรงฝึกดัชนีทอง
แต่ในความเป็นจริง ศิษย์ที่ฝึกฝนในโรงฝึกดัชนีทองต่างเรียกเขาว่าเจ้าโรงฝึก
เพราะพวกเขายังไม่มีคุณสมบัติที่จะเรียกเขาว่าอาจารย์
ว่ากันว่า มีเพียงคนที่จินฝูเห็นชอบหรือฝึกฝนวิทยายุทธสำเร็จเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์เรียกจินฝูว่าอาจารย์
อย่างซื่อหวินและจ้าวหงที่จ่ายเงินเข้าสำนักฝึกเพื่อฝึกวิทยายุทธนั้นไม่มีโอกาสได้เจอกับจินฝูเลย
ไม่คาดคิดว่า จินฝูจะพาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในโรงฝึกดัชนีทองด้วยตัวเองแบบนี้
เห็นได้ชัดว่าเธอคนนั้นต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่
"เจ้าโรงฝึก!"
"คารวะท่านเจ้าโรงฝึกขอรับ!"
"ท่านอาจารย์!"
ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงดังโหวกเหวกมาจากลานด้านหลัง
ซื่อหวินหยุดเดินแล้วมองไปด้านหลัง
ซื่อหวินได้เห็นเจ้าโรงฝึกจินฝูแห่งโรงฝึกดัชนีทอง!
เขาเป็นชายชราที่มีอายุประมาณห้าสิบกว่าๆ
เขามีหนวดเคราสีขาวและดูไม่ค่อยแข็งแรง
มีรูปร่างค่อนข้างผอมบาง
ดวงตาทั้งสองข้างหรี่ลงเป็นเส้นตรง
สวมชุดฝึกสีขาวหลวมๆ
เมื่อมองจากระยะไกล ภาพๆหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของซื่อหวิน
หนู!
ใช่ จินฝูนั้นเหมือนกับหนูมาก!
หากมองจากระยะไกล จินฝูก็เหมือนกับหนูอ้วนตัวใหญ่
แต่ตอนนี้สายตาของคนส่วนใหญ่กลับจดจ่อไปอยู่ที่ด้านหลังของจินฝู
ซึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
นางยังสวมผ้าคลุมหน้าอยู่
นางมีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว
แค่เห็นจากด้านหลัง ก็รู้สึกถึงออร่าที่งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เมื่อจินฝูเห็นว่าทุกคนต่างจ้องมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น เขาเองก็ไม่ได้โกรธ
แต่เขากลับหัวเราะและเรียก "เจ้าเซี่ย" เพื่อเข้ามาแนะนำ
"เซี่ยเหอ นี่คือบุตรสาวของเพื่อนเก่าของอาจารย์มีนามว่า “เหอเหลิ่งเยว่” นางมาที่โรงฝึกดัชนีทองของเราเพื่อฝึกวิทยายุทธ"
"อาจารย์จะให้เธอมาอยู่กับเจ้าเพื่อให้เธอฝึกฝนขั้นพื้นฐานไปก่อน"
"เหลิ่งเยว่ นี่คือศิษย์พี่เซี่ยเหอของเจ้า วิทยายุทธของเขานั้นได้เข้าขั้นถึงขอบเขตผิวหนังหินแล้ว ดังนั้นแค่การแนะนำเจ้าก็ถือว่ามากพอแล้ว"
เหอเหลิ่งเยว่เองก็พูดขึ้นว่า "ขอบคุณท่านอาจินมากค่ะ"
"เอาล่ะ เมื่อมาถึงโรงฝึกดัชนีทองแล้วก็ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ" จินฝูโบกมือ
"ในเมื่อวันนี้ข้าเองก็มาที่นี่แล้ว ข้าก็จะถือโอกาสสอนเจ้าฝึกฝนด้วยตัวเองเลย"
จากนั้น จินฝูจึงเดินไปที่กองทรายโดยเอามือไพล่หลัง
ซื่อหวินรู้สึกตื่นเต้นมาก
ในที่สุดเขาก็ได้เจอจินฝูแล้ว
นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก
ซื่อหวินในตอนนี้ได้อาศัยบารมีของเหอเหลิ่งเยว่ จึงได้เห็นจินฝูสอนด้วยตัวเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่หาดูได้ง่ายๆ
เพราะคนในโรงฝึกต่างก็รู้กันดี
มีเพียงคนที่ผ่านการฝึกฝนขั้นพื้นฐานไปถึงขอบเขตผิวหนังหินและได้เป็นศิษย์ของจินฝูอย่างเป็นทางการเท่านั้น ถึงจะได้รับคำแนะนำจากจินฝูด้วยตัวเอง
ไม่เช่นนั้น ศิษย์เหล่านี้อาจจะไม่ได้เห็นหน้าจินฝูด้วยซ้ำ
ไม่คาดคิดเลยว่าเหอเหลิ่งเยว่ผู้ลึกลับคนนี้จะมีบารมีมากขนาดนี้
ถึงขนาดทำให้จินฝูต้องมาสอนการฝึกฝนด้วยตัวเองได้
จินฝูเดินมาถึงหน้ากองทราย
แม้แต่ศิษย์ที่ฝึกฝนด้วยลำต้นไม้ก็ยังมารวมตัวกัน
พวกเขาเองก็เป็นศิษย์เหมือนกัน ถึงแม้จะไปถึงขั้นตอนที่สองของการฝึกฝนแล้วแต่ก็ยังไม่มีคุณสมบัติให้จินฝูได้สอนด้วยตัวเอง
จินฝูยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนจนแทบจะถูกกลืนหายไปจนมองไม่เห็น
รูปร่างเตี้ยๆของเขาดูเหมือนกับหนูอ้วนตัวหนึ่ง
ซึ่งยากที่จะเชื่อมโยงเขากับการเป็น "นักศิลปะการต่อสู้" ได้
จินฝูมองไปที่กองทรายแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "เหลิ่งเยว่ เจ้าดูให้ดีๆล่ะ"
"โรงฝึกดัชนีทองของเราฝึกฝนที่ผิวหนังบนมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นิ้วมือ ดังนั้นการฝึกฝนขั้นพื้นฐานนี้จึงขาดไปไม่ได้"
"การฝึกฝนนี้ไม่มีเคล็ดลับอะไรมาก แค่ต้องฝึกฝนไปเรื่อยๆเพื่อทำให้ผิวหนังบนมือค่อยๆกลายเป็นหนังด้านหนาเท่านั้นก็พอแล้ว"
"ทุกครั้งที่ฝึกฝน เจ้าจะต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่โดยการจุ่มมือลงไปในกองทรายนี้เพื่อให้กรวดทรายและเศษเหล็กในกองทรายช่วยขัดเกลาผิวหนังบนมืออย่างต่อเนื่อง"
"แบบนี้..."
จินฝูยื่นมือออกมา
สีผิวบนมือของเขาดูเหมือนจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย
มันมีสีทองแดงจางๆ
จากนั้น จินฝูจึงค่อยๆจุ่มมือทั้งสองข้างลงไปในกองทราย
"ฟุ่บ"
จินฝูเองก็ทำเหมือนกับศิษย์คนอื่นๆโดยการจุ่มมือทั้งสองข้างลงไปในกองทราย
หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง...
แต่เขาไม่เหมือนกับศิษย์คนอื่นๆที่มือเต็มไปด้วยเลือด
แม้ว่าจินฝูจะแทงมือลงไปในกองทรายไปหลายสิบครั้งแล้ว
แต่มือของเขาก็ยังคงเป็นสีทองแดงและไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
สิ่งนี้ทำให้ศิษย์ทุกคนประหลาดใจอย่างมาก
จริงๆแล้ว การฝึกฝนนี้ไม่มีทางลัด
แค่คำว่า "ฝึกฝน" ก็เพียงพอที่จะอธิบายได้
แค่ต้องอาศัยความพยายามและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จึงจะประสบความสำเร็จในการฝึกฝนขั้นนี้ได้เท่านั้น
หลังจากนั้นจินฝูก็เอามือออก
เหอเหลิ่งเยว่พูดขึ้นทันที "ท่านอาจิน ข้าเคยได้ยินว่าวิทยายุทธของโรงฝึกดัชนีทองอยู่ที่มือ"
"ท่านพอจะให้พวกเราได้เห็นเป็นขวัญตาหน่อยได้ไหมคะ?"
เมื่อได้ยินคำพูดของเหอเหลิ่งเยว่ ทุกคนซึ่งรวมถึงซื่อหวินต่างกลั้นหายใจ
ทุกคนจ้องมองไปที่จินฝูซึ่งมีแม้กระทั่งมีความปรารถนาอยู่ในสายตา
เหล่าศิษย์เหล่านี้ รู้เพียงว่าวิทยายุทธของโรงฝึกดัชนีทองนั้นเน้นไปที่มือ
แต่ไม่มีใครรู้ว่าตรงไหนของมือ
แม้แต่ศิษย์พี่ใน "ขอบเขตผิวหนังหิน" อย่างเซี่ยเหอ ก็ยังไม่เคยแสดงความสามารถอะไรที่น่าอัศจรรย์ออกมา
อย่างมากก็แค่มีมือที่แข็งแรงกว่าและผิวหนังที่ทนทานกว่าเท่านั้น
"เฮอะๆ เหลิ่งเยว่ เจ้าอยากเห็นงั้นหรือ?"
"ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นข้าจะแสดงให้เจ้าดูสักหน่อยก็แล้วกัน"
"พวกเจ้าเองก็ดูให้ดีๆล่ะ วิทยายุทธของโรงฝึกดัชนีทองข้านั้นไม่ได้มีดีแค่ชื่อเสียงเท่านั้น!"
จินฝูยังคงหรี่ตา
มีรอยยิ้มจางๆปรากฏบนใบหน้า
เขาหยิบก้อนหินแข็งๆก้อนหนึ่งขึ้นมาจากพื้น
แล้วใช้นิ้วคีบก้อนหินนั้นเบาๆ
"เปรี๊ยะ"
ก้อนหินแข็งๆก้อนนั้นแตกละเอียดราวกับเปลือกไข่
ในพริบตาก็แตกสลายไป
จินฝูเดินไปที่ท่อนไม้แข็งๆท่อนหนึ่ง
เขายื่นมือขวาออกไป
เขากำลังเหมือนกับเดินเล่นอยู่ในสวน เมื่อทั้งห้านิ้วได้กางออกเขาใช้นิ้วมือทั้งห้าแทงทะลุเข้าไปในท่อนไม้ทันที
ราวกับว่านั่นไม่ใช่ท่อนไม้แข็งๆแต่เป็นเต้าหู้
เมื่อได้เห็นฉากนี้ ทุกคนต่างก็เบิกตากว้าง
ซื่อหวินเองก็ตกใจอย่างมาก!
"เอาล่ะ นี่เป็นแค่กลเม็ดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น"
"พวกเจ้าจงจำไว้ว่า ถ้าฝึกวิทยายุทธของโรงฝึกดัชนีทองข้าได้สำเร็จ นิ้วของพวกเจ้าจะคมยิ่งกว่าอาวุธวิเศษใดๆ!"
"ไม่ต้องพูดถึงท่อนไม้หรือก้อนหินพวกนี้หรอก แม้แต่เหล็กกล้าก็ยังแหลกสลายได้ด้วยพลังนิ้วของพวกเจ้า"
จินฝูเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
ถึงแม้ว่าเขาจะมีรูปร่างผอมบาง
แต่ในตอนนี้ ไม่มีใครกล้าดูถูกเขาอีกต่อไป
"เอาล่ะเหลิ่งเยว่ เจ้าฝึกไปก่อนนะ หากมีอะไรก็มาหาข้าภายหลังได้"
เมื่อพูดจบ จินฝูจึงเดินจากไปโดยเอามือไพล่หลัง
"เฮ้อ..."
ซื่อหวินได้ยินเสียงถอนหายใจยาวของจ้าวหงที่อยู่ข้างๆ
จากนั้น จ้าวหงก็พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "เจ้าหวิน เจ้าเห็นไหม? เขาสุดยอดไปเลยเนอะ!"
"มือของเจ้าโรงฝึกนั้นสุดยอดจริงๆ"
"ถ้าหากฝึกวิทยายุทธไปถึงขั้นนั้นได้ ในเมืองหลิวก็คงไม่มีใครกล้าหือกับข้าแล้ว"
ในขณะนี้ แววตาของศิษย์ส่วนใหญ่ต่างเปล่งประกายด้วยความกระตือรือร้น
ราวกับว่ามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าทีจะเป็นเหมือนกับเจ้าโรงฝึกให้ได้
พวกเองเขาอยากจะมีพลังไปให้ถึงระดับเดียวกันกับจินฝู
แต่เซี่ยเหอกลับส่ายหัวเล็กน้อย
เขาผ่านขั้นตอนการฝึกฝนขั้นพื้นฐานมาแล้วและก้าวเข้าสู่ขอบเขตผิวหนังหินเต็มตัว
มีเพียงคนที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตผิวหนังหินเต็มตัวเท่านั้น ถึงจะเข้าใจว่าขอบเขตของอาจารย์จินฝูนั้นน่ากลัวมากเพียงใด
หากต้องการไปถึงขอบเขตนั้น
ในบรรดาเหล่าศิษย์เหล่านี้ ก็คงไม่มีใครทำได้…