ตอนที่แล้วบทที่ 9 ยาพิเศษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11 เจ้าโรงฝึก

บทที่ 10 วิชาขว้างมีด!


บทที่ 10 วิชาขว้างมีด!

ซื่อหวินอ้าปากค้างราวกับมีคำพูดมากมายในใจแต่สุดท้ายก็ส่ายหัว "ซื่อฮุ่ย ต่อไปอย่าออกไปข้างนอกตามลำพังนะ ถ้าเกิดไอ้สวะ ซู่เอ๋อโก่วแอบจับตามองดูพี่อยู่ละ?"

ซื่อหวินรู้ว่าซื่อฮุ่ยพยายามอย่างหนัก

เพียงเพื่อหาเงินค่าฝึกวิทยายุทธครึ่งเดือนหลังให้เขา

ซื่อฮุ่ยเพียงแค่ยิ้มและพยักหน้า ไม่รู้ว่าฟังเข้าใจหรือเปล่า

"หวินเอ๋อร์ เจ้ายังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม?"

"วันนี้ซื่อเหลียนกลับมาพร้อมกับเอาขาไก่มาให้เจ้าด้วยล่ะ เดี๋ยวพี่อุ่นให้นะ"

ซื่อฮุ่ยรีบไปก่อไฟทำอาหาร

ซื่อหวินมองดูเงาของซื่อฮุ่ยที่กำลังยุ่งอยู่ ก็เงียบลง

"ซู่เอ๋อโก่วยังคงเป็นภัยต่อข้าอยู่และยังเป็นภัยคุกคามที่ใกล้เข้ามาทุกที"

"ตอนนี้อาจจะยังสามารถปิดบังซู่เอ๋อโก่วได้ แต่อีกไม่นานคงจะปิดบังไม่ได้แล้ว"

"และการฝึกฝนด้วยความเร็วแบบนี้ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะไปถึงคอขวด"

"อาจจะสิบวัน ยี่สิบวัน หรือแม้กระทั่งหนึ่งเดือน"

"แต่ถึงจะฝึกฝนสำเร็จ ข้าจะมีพลังที่แข็งแกร่งขึ้นจริงหรือ?"

ซื่อหวินส่ายหัว

นั่นมันก็ไม่แน่

เพราะการฝึกฝนนี้เป็นแค่การสร้างพื้นฐาน

ถึงจะฝึกฝนสำเร็จ พลังก็คงจะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก

ยิ่งไปกว่านั้น ซื่อหวินยังขาพิการ

คนที่มีขาพิการ ในด้านพลังต่อสู้แล้วย่อมอ่อนแอกว่าคนอื่นมาก

ดังนั้น ถ้าหากต้องการรับมือกับซู่เอ๋อโก่ว เขายังคงต้องหาวิธีอื่น

"ร่างกายของข้าในตอนนี้ หากใช้การต่อสู้ระยะประชิดเพื่อจัดการซู่เอ๋อโก่วนั่นคงแทบจะเป็นไปไม่ได้"

"หรือว่า…จะวางยาให้ตายๆไปซะเลย?"

ซื่อหวินนึกถึงการวางยาพิษ

แต่เขาก็ส่ายหัวและปฏิเสธความคิดนี้

ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะซื้อยาพิษมาได้อย่างไร?

ถึงซื้อมาได้แล้วจะทำอะไรต่อได้?

เขาจะวางยาพิษซู่เอ๋อโก่วได้อย่างไร?

นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในวันเดียว

"หากต่อสู้ระยะประชิดไม่ได้ งั้นก็ยิงธนูเพื่อสังหารจากระยะไกล"

"จริงสิ นอกจากการต่อสู้ระยะประชิดแล้วก็ยังมีอาวุธอื่นๆอยู่อีกนี่"

ดวงตาของซื่อหวินเป็นประกาย

ใช่แล้ว อาวุธลับ!

อาวุธลับในตำนาน!

ธนูถือว่าเป็นสิ่งของควบคุมซึ่งไม่ใช่ว่าจะซื้อกันได้ง่ายๆ

แต่ถึงไม่มีธนูก็ยังมีดาบบิน!

ในความทรงจำของเขา เคยมีจอมยุทธคนหนึ่งที่เชี่ยวชาญการใช้อาวุธลับ

ดาบบินของหลี่น้อยนั้นหากถูกเขวี้ยงออกไปแล้ว มันไม่เคยพลาดเป้าเลยสักครั้ง!

แต่ดาบบินของหลี่น้อยนั้นมีพลังภายใน ซึ่งแน่นอนว่าซื่อหวินยังไม่มีพลังภายใน

แต่เขามีวงแหวนสีแดง!

วิชาดาบบินนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง

เพียงแค่ฝึกขว้างดาบต่อไปเรื่อยๆเท่านั้น

เมื่อเวลาผ่านไป เขาจะต้องฝึกฝนวิชาดาบบินให้สำเร็จ

อย่างน้อย ความแม่นยำในการขว้างดาบก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เมื่อถึงตอนนั้น การฆ่าซู่เอ๋อโก่วก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

เพราะซู่เอ๋อโก่วก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น

"ใช่แล้ว ฝึกขว้างดาบ!"

เมื่ออยู่ที่บ้าน เขาจะไม่มียาวิเศษของโรงฝึกดัชนีทอง ดังนั้นซื่อหวินจึงไม่สามารถฝึกฝนได้ด้วยตัวเอง

ไม่เช่นนั้น มือของเขาก็จะใช้การไม่ได้

เมื่อซื่อหวินคิดแล้วจึงลงมือทำทันที

เขาใช้ฟางสานเป็นเป้าในบ้าน

ส่วนดาบบิน อันนี้ถือว่าหายากไปสักหน่อย

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ใช้ใบเคียวที่หักแทนไปก่อน

ใบเคียวที่หักนั้นมีชิ้นหนึ่งที่มีลักษณะค่อนข้างเหมือนดาบบิน

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการเตรียมการเท่านั้น

หากต้องการฝึก "วิชาดาบบิน" จริงๆ

แค่ซื่อหวินฝึกฝนเพื่อสะสมประสบการณ์ไปวันๆ เขาจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน?

ดังนั้นแล้ว เขายังคงต้องพึ่งพลังของวงแหวนสีแดง!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องพึ่งพลังของวงแหวนสีเขียวเพื่อเร่งความเร็วในการฝึก!

แน่นอนว่า เขาจะต้องมีความเชี่ยวชาญในวิชาดาบบินสักเล็กน้อยก่อน

จริงๆแล้ว ซื่อหวินก็พอจะเข้าใจกุญแจสำคัญในการสร้างความเชี่ยวชาญแล้ว

อาทิเช่น การฝึกฝนอย่างถูกต้องเพียงหนึ่งครั้ง

เพียงแค่ฝึกฝนได้อย่างถูกต้องเพียงหนึ่งครั้ง ก็จะสามารถสร้างความเชี่ยวชาญได้

แต่วิชาดาบบินนั้นแตกต่างออกไปเล็กน้อย

การฝึกฝนแบบวิทยายุทธที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนักของโรงฝึกดัชนีทอง

นั่นได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามันได้ผล

แล้ววิชาดาบบินล่ะ?

นี่เป็นเพียงจินตนาการของซื่อหวินเท่านั้น

แต่จินตนาการนี้ก็มีพื้นฐานจริงอยู่บ้าง

มันคล้ายๆกับการปาเป้า

ซื่อหวินแค่อยากปาดาบให้โดนเป้าหมายเท่านั้น

เขาแค่ต้องปาให้โดนจุดศูนย์กลางของเป้าหนึ่งครั้ง ก็น่าจะถือว่าสำเร็จ

และแน่นอนว่า สิ่งที่ซื่อหวินคาดเดานั้นถูกต้องหรือไม่ เขาก็ยังต้องทดลองดูจริงๆสักครั้งก่อน

ดังนั้น ซื่อหวินจึงเริ่มถอยห่างออกไป

เขาถอยห่างออกไปเป็นระยะประมาณสิบห้าก้าว

ซื่อหวินถอยไปจนเกือบสุดห้องแล้ว

บ้านของซื่อหวินมีขนาดเล็กมาก

ซื่อหวินมองดูเป้าที่วางเอาไว้

แม้จะเป็นระยะแค่สิบห้าก้าว แต่จริงๆแล้วมันก็ค่อนข้างไกลพอสมควร

การจะปาให้โดนเป้าหมายหนึ่งครั้งได้ตรงเป้านั้นยังเป็นเรื่องที่ยากมาก

ยิ่งไปกว่านั้น แรงที่ซื่อหวินใช้ขว้างดาบก็อาจไม่พอที่จะปาไปโดนเป้า

ดังนั้น ซื่อหวินจึงขยับเข้าไปใกล้ขึ้นอีกหน่อย

เขาขยับขึ้นไปประมาณเจ็ดก้าว

"อืม ตำแหน่งนี้ดูท่าน่าจะเหมาะสมที่สุด"

"แรงของข้าน่าจะพอที่จะปาให้เข้าเป้าได้"

"ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มฝึกเลยดีกว่า"

ซื่อหวินสูดหายใจเข้าลึกๆ

แล้วขว้างใบเคียวออกไป

"ฟิ้ววว"

แน่นอนว่าครั้งแรกนั้นพลาดเป้า

เขาปาใบเคียวออกไปไม่โดนเป้าเลยด้วยซ้ำ

แต่ซื่อหวินก็ไม่ท้อแท้

เพราะเขาแค่ต้องปาให้โดนสักครั้งก็เพียงพอ

หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง สี่ครั้ง ห้าครั้ง...

วิชาดาบบินนั้นยากมากจริงๆ

นอกจากนี้ ระยะเจ็ดก้าวก็ยังถือว่าค่อนข้างไกล

ซื่อหวินได้ฝึกปาใบเคียวไปกว่าสามสิบกว่าครั้ง

เขาปาไปเรื่อยๆจนแขนเริ่มชาไปท่อน

และในที่สุดเขาก็ปาโดนเป้าหนึ่งครั้ง!

"ในที่สุดก็โดนแล้ว"

"ไม่รู้ว่ามีร่องรอยของวิชาดาบบินเกิดขึ้นบ้างหรือยัง?"

ซื่อหวินสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วตั้งสมาธิทันที วงแหวนสีแดงสองวงได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขาอย่างรวดเร็ว

ภายใต้แสงสีแดง ได้ปรากฏเงาของคนที่กำลังฝึกขว้างดาบ

นี่คือร่องรอยของวิชาดาบบิน

"สำเร็จแล้ว!"

ซื่อหวินดีใจมาก

เมื่อมีร่องรอยของวิชาดาบบิน ที่เหลือก็ง่ายสำหรับเขาแล้ว

เขาเพียงแค่รออีกสามวันให้วงแหวนสีเขียวฟื้นพลัง แล้วใช้พลังของวงแหวนสีแดงเพื่อเร่งความเร็วในการฝึกได้ทันที

แต่ซื่อหวินก็ไม่ได้ฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้ที่วงวแหวนสีแดง

เขายังคงฝึกขว้างใบเคียวต่อไป

เขาฝึกไปจนกระทั่งดึกมาก ซื่อหวินจึงผลอยหลับไป

ในช่วงเช้าตรู่ ซื่อฮุ่ยก็เตรียมอาหารเช้าเอาไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้ว

จริงๆแล้วมันก็แค่แป้งเปียกหนึ่งชามที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มเลย

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่มีทางเลือก เพราะสภาพครอบครัวก็เป็นซะแบบนี้

โชคยังดีที่โรงฝึกมีอาหารกลางวันให้หนึ่งมื้อ

ในทุกวัน ซื่อหวินจะไปโรงฝึกด้วยความหิว แล้วตอนกินข้าวกลางวันก็จะ "จัดเต็ม"

จริงๆแล้ว ศิษย์ในโรงฝึกดัชนีทองก็ทำแบบนี้กันทุกคน

ดังนั้นแล้วในทุกวัน ทางโรงฝึกจึงต้องใช้อาหารกลางวันจำนวนมาก

เพราะพวกเขาทุกคนก็ล้วนเป็น "นักกิน"

"ซื่อฮุ่ย ข้าไปโรงฝึกก่อนนะ"

"จำไว้นะ อย่าออกไปข้างนอกเด็ดขาด"

"ถึงจะออกไปข้างนอก ก็ต้องรอให้ข้ากลับมาแล้วออกไปด้วยกันเท่านั้น" ซื่อหวินกำชับซื่อฮุ่ยอีกครั้ง

"ได้สิหวินเอ๋อร์" ซื่อฮุ่ยรู้ว่าซื่อหวินเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอมาก เธอจึงพยักหน้ารับคำ

ซื่อหวินใช้ไม้เท้าค้ำยันและเดินกะเผลกไปทางโรงฝึกดัชนีทอง

ในช่วงเช้าตรู่นี้ จ้าวหงเองก็มาถึงโรงฝึกดัชนีทองแล้ว

เมื่อเห็นซื่อหวิน จ้าวหงจึงทักทายก่อน

"เจ้าหวิน ทายซิว่าเมื่อกี้ใครมา?" จ้าวหงทำท่าทางลึกลับ

"ใครมารึ?" ซื่อหวินก็สงสัย

เขากำลังเตรียมตัวฝึกฝน

ที่โรงฝึก ซื่อหวินไม่อยากเสียเวลาไปแม้แต่วินาทีเดียว

"ฮึๆๆ ท่านเจ้าโรงฝึกมาไงล่ะ!"

"และไม่ใช่แค่เจ้าโรงฝึกเท่านั้นนะที่มา แต่เขายังพาผู้หญิงอีกคนหนึ่งมาด้วย"

"ผู้หญิงคนนั้นสวยมากจริงๆ ขนาดข้ายังไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้มาก่อนเลย"

"แต่คนที่เจ้าโรงฝึกพามานั้นคงไม่ธรรมดาเป็นแน่"

ถึงจ้าวหงจะพูดมากแต่ก็ไม่ได้พูดพล่อยๆ

ผู้หญิงที่เจ้าโรงฝึกพามานั้นจะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด