OS ตอนที่ 14 เปลี่ยนเผ่าพันธุ์
อีควิน็อกซ์กำลังครุ่นคิดว่าจะเลือกอะไรดี แต่อย่างน้อย ๆ เผ่ายอตุนน์ไม่อยู่ในตัวเลือกของเขาเลย เพราะพวกเขาเป็นเผ่ายักษ์ ด้วยร่างกายที่ใหญ่โต ประจวบกับเป็นนักอัญเชิญ มันก็ไม่ต่างจากบอกเป็นนัย ๆ ว่า 'โจมตีฉันสิ ฉันอยู่ตรงนี้!' เลย
นอกจากนี้ ด้วยความสัมพันธ์ทางพลังธาตุ เขาน่าจะมีข้อจำกัดมากมายในการใช้งาน
ส่วนเผ่าเซลวาจเจียก็ยิ่งไม่เข้ากับนักอัญเชิญเช่นกัน พวกเขาอาศัยพละกำลังของร่างกายและความคล่องแคล่วเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ แต่ทว่าร่างกายสุดพิเศษของพวกเขาก็ไม่ต่างจากดาบสองคม
ในฐานะนักอัญเชิญ แน่นอนว่าความคล่องแคล่วก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่ค่าสถานะอันนั้นไม่ได้ช่วยส่งเสริมการอัญเชิญ นอกจากจะถูกจำกัดด้านการอัญเชิญแล้ว มันยังส่งผลกระทบต่อการใช้เวทมนตร์เสริมอีกด้วย
ณ ตอนนี้เหลือตัวเลือกเพียงสามเผ่าพันธุ์ก็คือ แฟกิ้น เอเรเบียน และเดมอส
แฟกิ้นดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากพวกเขามีความเชี่ยวชาญด้านเวทย์รักษา
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ด้วยทักษะเสริมพลัง มันช่วยให้เขาสามารถเอาชนะบอสหมาป่าอัลฟ่าได้สำเร็จ แม้ว่าสุดท้ายเขาจะต้องตายก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ทำให้เขาเห็นความสำคัญของเวทย์รักษา
ดังนั้นแล้ว เผ่าพันธุ์นี้จึงตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักอัญเชิญ แต่ทว่าอีควิน็อกซ์ติดปัญหาอยู่ข้อหนึ่ง
“ฉันจะไม่มีวันเป็นพวกแฟรี่!!!”
จู่ ๆ อีควิน็อกซ์ก็ตะโกนออกมา ซึ่งก้องไปทั่วห้องโถง
จิตวิญญาณแห่งโถงสังเกตเห็นสิ่งนี้แต่ไม่ได้พูดอะไร และทำเพียงแค่เฝ้ามองอีควิน็อกซ์อย่างเงียบ ๆ
‘หรือฉันจะเป็นเลซีดี? แต่ถ้ามันอิงจากนิทานพื้นบ้านเก่า ๆ ฉันจะต้องแช่อยู่ในแหล่งน้ำ และรับสารอาหารจากทะเลสาบ แถมเวทมนตร์ไฟก็อาจจะฆ่าฉันได้ แต่ไม่ว่าอย่างไร เวทย์รักษาเป็นข้อได้เปรียบที่น่าดึงดูดใจอยู่ดี’
ด้วยทางเลือกอื่นก็เป็นเผ่าเอเรเบียนกับเผ่าเดมอส
สำหรับเผ่าเอเรเบียน สายพันธุ์แวมไพร์น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากตามตำนานเล่าขานว่าพวกเขามีพวกสัตว์เป็นบริวาร
ส่วนสายพันธุ์มนุษย์หมาป่าก็น่าจะยอดเยี่ยมมากเช่นกัน เพราะผู้เล่นสามารถกลายเป็นหมาป่ามาขย้ำศัตรูได้ แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมาะกับนักอัญเชิญ
ดูเหมือนว่า เผ่าเอเรเบียนน่าจะเหมาะกับสเคาท์มากกว่า เนื่องจากฉายาลูกหลานแห่งราตรี มันจะทำให้สเคาท์จะได้เปรียบอย่างมาก
ช่างน่าเสียดายที่เขาเป็นนักอัญเชิญ ดังนั้นการเปลี่ยนเป็นเผ่าเอเรเบียนจึงทำให้เขาได้เปรียบแค่เล็กน้อยเท่านั้น
ทางเลือกสุดท้ายที่สมเหตุสมผลคือการเปลี่ยนเป็นเผ่าเดมอส แต่เขาน่าจะไม่เลือกสายพันธุ์เดียโบลอน เนื่องจากพวกเขามีขนาดใหญ่เกือบเท่ากับยอตุนน์
แล้วสายพันธุ์ไหนจะมีประโยชน์กับเขามากที่สุด?
เลซี, แวมไพร์, อิมป์
แต่ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเลือกอย่างเด็ดขาด เขามีเรื่องหนึ่งที่ต้องถามจิตวิญญาณของโถงเสียก่อน
“เวทมนตร์ต้นกำเนิดคืออะไรเหรอครับ?” อีควิน็อกซ์ถามด้วยความอยากรู้
“แม้แต่ข้าหรือผู้กล้าอีควิน็อกซ์ก็ไม่อาจทราบความจริงทั้งหมด แม้แต่ เทพเจ้าที่มีอำนาจทุกอย่าง แต่ไม่ได้รอบรู้ไปซธทุกเรื่องเช่นกัน ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าเผ่าเดมอสเป็นเผ่าพันธุ์ที่เข้าถึงยากที่สุดจากทั้งห้าเผ่า
นอกจากนี้ พวกเขายังมีวิธีที่จะหลีกเลี่ยงสายตาที่คอยจับจ้องของเทพเจ้าได้ เนื่องจากพวกเขามีความสามารถบิดเบือนเวลาและช่องว่างมิติได้ ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงสายตาของเทพเจ้าได้
แต่อย่างที่เจ้ารู้ พลังที่ยิ่งใหญ่กว่ามาพร้อมกับความเสี่ยง และความยากลำบากในการฝึกฝนที่มากขึ้น”
จิตวิญญาณของโถงตอบ
ด้วยคำตอบที่เขาได้รับ ในที่สุด อีควิน็อกซ์ก็ตัดสินใจได้ว่าเขาจะเป็นเผ่าพันธุ์และสายพันธุ์อะไร
...
"สวัสดีค่ะ ชาวเกมแพนดีโมเนียมทุกคน ฉันหวังว่าพวกคุณคงสนุกกับการเล่นเกมนะคะ เพราะฉันก็สนุกเหมือนกันค่ะ!"
ผู้ประกาศข่าวหญิงกล่าวอย่างกระตือรือร้น
"ผมก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกันสเตลล่า เอาล่ะครับ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ แพนดีโมนิวส์ รายการข่าวที่นำเสนอสิ่งที่น่าสนใจในเกม ไม่ว่าจะเป็นข่าวซุบซิบหรือข่าวด่วนเกี่ยวกับเกม ผม สตีฟ ส่วนผู้ดำเนินรายการอีกคนคือ สเตล่าครับ!"
ผู้ประกาศข่าวชายกล่าว
"สเตลล่า แพตช์นี้มีอะไรใหม่บ้างครับ? ผู้ชมของเราอยากจะรู้จะแย่แล้ว" สตีฟกล่าว
"เอาล่ะค่ะ สตีฟ อย่างที่พวกเราทราบมา แพตช์นี้จะเป็นกิจกรรมระดับโลกที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ค่ะ หากผู้เล่นประสบความสำเร็จในการหยุดภัยคุกคามครั้งนี้ เราก็จะมีการพัฒนาอาชีพใหม่สำหรับนักเวทย์ ซึ่งก็คือเนโครแมนเซอร์ค่ะ" สเตลล่าตอบ
"สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาอาชีพใหม่นี้ เรามีคุณคราวลีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนหลักของเกมแพนดีโมเนียมมาให้ข้อมูลพวกเราด้วย เชิญเลยครับ คุณคราวลีย์" สตีฟรายงาน
"สวัสดีทุกคนที่รับชมรายการ ฉันชื่อวิกเตอร์ คราว์ลีย์ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
สำหรับผู้ที่เพิ่งเข้ามา หรือสำหรับผู้ที่สงสัยว่าทำไมเนโครแมนเซอร์ถึงไม่ใช่การเลื่อนขั้นอาชีพสำหรับนักอัญเชิญ แต่สำหรับนักเวทย์แทน
เหตุผลหลัก ๆ ก็คือ เราต้องการมุ่งเน้นไปที่ชุดทักษะ และที่มาของอาชีพของเนโครแมนเซอร์ โดยพื้นฐานแล้วเนโครแมนเซอร์จะควบคุมมนตราและพิษ
ซึ่งทำให้พวกเขาจึงเป็นการเลื่อนขั้นอาชีพที่สามของนักเวทย์ ซึ่งใกล้เคียงกับนักเวทย์มนต์ดำ ซึ่งเป็นการเลื่อนขั้นอาชีพที่สองของนักเวทย์
ส่วนทำไมพวกเขาไม่ได้มีไว้สำหรับนักอัญเชิญ เหตุผลก็คือการอัญเชิญของเนโครแมนเซอร์ไม่ถาวร แต่เป็นการชั่วคราวและใช้มานาตราบเท่าที่อันเดดอยู่ในสนามรบ
แต่ผู้ชมไม่กังวลไป มันไม่ได้หมายความว่าผู้เล่นอาชีพนักอัญเชิญจะไม่สามารถฝึกฝนอันเดดได้
แต่เนื่องจาก อันเดดไม่เหมือนกับมอนสเตอร์ทั่วไป พวกเขามีวิญญาณที่ผิดรูป ซึ่งเป็นเหตุว่าทำไมจึงต้องใช้ขั้นตอนพิเศษในการผูกวิญญาณกับอันเดด
แน่นอนว่าฉันจะไม่บอกขั้นตอนนั้นในรายการ เพราะฉันต้องการให้พวกคุณออกไปค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง”
คุณคราวลีย์กล่าว
“มีอย่างอื่นที่คุณคราวลีย์พอจะบอกพวกเราได้มั้ยคะ?” สเตลล่าถามด้วยสายตาเหมือนลูกสุนัข
“มีอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันพอจะเล่าให้ฟังได้” คุณคราวลีย์ตอบ ซึ่งทำให้ทั้งสตูดิโอมุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่เขาพูดต่อไป
“ถ้าจะให้พูดล่ะก็ มันคงจะเป็นคำว่า ‘ความลับอันน่ารังเกียจ มันไม่อาจกลบฝังไว้ได้’” คุณคราวลีย์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นลางร้าย
“โอ้! นั่นต้องเป็นเบาะแสสำหรับผู้เล่นในการทำกิจกรรมให้สำเร็จลุล่วงแน่นอนเลยครับ คุณผู้ชม!”
สตีฟกล่าวในขณะที่มองไปที่คุณคราวลีย์เพื่อรอคำตอบ แต่กลับได้รอยยิ้มเขิน ๆ เป็นการตอบแทน
“สำหรับข่าวอื่น ๆ ทางเกมได้มีการนำระบบความเชี่ยวชาญเข้ามาปรับใช้ในเกม ซึ่งทำให้ตัวเกมมีความท้าทายมากขึ้น แต่ก็ตื่นเต้นมากขึ้นเช่นกัน ความเชี่ยวชาญด้านทักษะที่ดีขึ้นหมายถึงความเสียหายที่สูงขึ้นและเอฟเฟ็กต์ที่ดีขึ้น ดังนั้นทุกคนมั่นฝึกฝนทักษะของตัวเองไว้นะคะ ไม่แน่ว่ามันอาจจะมีอะไรดี ๆ รอคุณอยู่”
สเตลล่ากล่าวด้วยรอยยิ้มที่สดใส
การพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาการอัปเดตยังคงดำเนินต่อไปประมาณสามชั่วโมงก่อนที่การถ่ายทอดสดจะสิ้นสุดลง...