ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 685 พื้นคืนชีพ
ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 685 พื้นคืนชีพ
การปรากฏตัวของเสียงเต้นของหัวใจที่แปลกประหลาดนี้ ทำให้ค่ายกลเซียนเต๋าสูงสุดเกิดระลอกคลื่น แม้กระทั่ง... เกือบจะพังทลาย
แม้แต่กู่หยาง เขาก็ยังรู้สึกเหมือนหัวใจของเขาถูกบีบรัด หายใจไม่ออก
“หรือว่าการคาดเดาของข้าผิด? เบื้องหลังของต้นกำเนิดแห่งความมืดไม่มีใครควบคุมมัน? การปรากฏตัวของข้า ดึงดูดความสนใจของร่างจริงหรือ?”
สีหน้าของกู่หยางดูเคร่งขรึมอย่างมาก ความรู้สึกอันตรายพุ่งเข้ามาในใจ ทำให้เขารู้สึกหนักใจอย่างมาก
หากร่างจริงของต้นกำเนิดแห่งความมืดปรากฏตัวขึ้น เกรงว่า... แม้แต่เขาก็ยังหนีไม่พ้น
แน่นอนว่า กู่หยางยังคงมีไม้ตายที่ไม่เคยใช้มาก่อน
นั่นก็คือ... ใช้ระบบ ย้อนเวลากลับไปอย่างบังคับ
ในขณะที่กู่หยางกำลังจะย้อนเวลากลับไป ปล่อยให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม ฝ่ามือขนาดใหญ่ที่เลือนรางก็ปรากฏขึ้นภายในค่ายกลเซียนเต๋าสูงสุดอย่างกะทันหัน
จากนั้น ฝ่ามือนั้นก็พุ่งโจมตีไปยังต้นกำเนิดแห่งความมืดโดยตรงภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของกู่หยาง
สุดท้าย ฝ่ามือนั้นก็ปราบปรามเสียงเต้นของหัวใจที่แปลกประหลาดลงไปอย่างสมบูรณ์ ด้วยท่าทีที่แข็งแกร่งและไร้เทียมทาน จากนั้นก็สลายหายไปอย่างช้า ๆ
“นี่คือ...”
เมื่อเห็นฉากนี้ กู่หยางก็รู้สึกขนลุก
ฝ่ามือนั้นช่างน่ากลัวยิ่งนัก เพียงแค่เหลือบมอง กู่หยางในตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนจิตวิญญาณของเขากำลังจะแตกสลาย
ยิ่งไปกว่านั้น... มหาเต๋าที่แฝงอยู่บนฝ่ามือนั้น ยิ่งทำให้กู่หยางตกใจอย่างมาก
นั่นคือ... เจตจำนงแท้มหาเต๋าแห่งมิติและกาลเวลาที่เหนือกว่า 9 ส่วนโดยสมบูรณ์
ไม่ใช่เจตจำนงแท้มหาเต๋า แต่เป็นมหาเต๋าแห่งมิติและกาลเวลาที่แท้จริง
ยากที่จะจินตนาการว่าเจ้าของฝ่ามือนั้นแข็งแกร่งเพียงใด
อย่างไรก็ตาม... ไม่รู้ว่าเหตุใด กู่หยางจึงรู้สึกคุ้นเคยและใกล้ชิดกับฝ่ามือนั้น ทำให้เขาขมวดคิ้ว
สุดท้าย กู่หยางก็สลัดความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ออกจากใจ ผ่อนคลายลงอย่างเงียบ ๆ
“โชคดีที่การคาดเดาของข้าถูกต้อง ถึงแม้ว่าต้นกำเนิดแห่งความมืดจะน่ากลัว แต่มันก็มีตัวตนที่น่ากลัวคอยต่อต้านอยู่จริง ๆ”
กู่หยางมองไปยังส่วนลึกของค่ายกลเซียนเต๋าสูงสุด เขาลงมืออีกครั้ง เสริมสร้างต้นกำเนิดแห่งความมืด และพูดพึมพำกับตัวเอง
วิกฤตครั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะอันตราย แต่ก็ยังผ่านพ้นไปได้
ในขณะนี้ สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนในสามพันโลกต่างก็ตกตะลึงและมึนงง พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ในสายตาของพวกเขา สิ่งมีชีวิตจำนวนมากก็ตายอย่างกะทันหัน จากนั้นค่ายกลเซียนเต๋าสูงสุดก็ดูเหมือนจะปั่นป่วน จากนั้นก็สงบลงอย่างรวดเร็ว
ส่วนเสียงเต้นของหัวใจที่แปลกประหลาดและฝ่ามือขนาดใหญ่ที่เลือนราง พวกเขาไม่รู้จัก
เพราะพลังอ่อนแอเกินไป ไม่สามารถสัมผัสได้
แม้แต่จอมจักรพรรดินีจิ้งจอกสวรรค์ที่เป็นมหาจอมจักรพรรดิไร้เทียมทานก็ยังไม่สามารถสัมผัสได้
สิ่งมีชีวิตทุกคนต่างก็คิดว่า... นี่เป็นเพียงการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของต้นกำเนิดแห่งความมืด
ทันใดนั้น กู่หยางก็มองลงไปที่สามพันโลก มองไปยังสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน เขาพูดขึ้นอย่างช้า ๆ
“ต้นกำเนิดแห่งความมืดถูกค่ายกลเซียนเต๋าสูงสุดปราบปรามอย่างสมบูรณ์แล้ว สิ่งมีชีวิตทุกคนได้แสดงฝีมือครั้งยิ่งใหญ่ให้กับสามพันโลก ดังนั้น ข้าจึงตัดสินใจที่จะฉายแสงไปยังสามพันโลก ฟื้นคืนชีพสิ่งมีชีวิตที่ตายไปในสามพันโลก และเผยแพร่เต๋าไปยังสามพันโลก”
“ขอบคุณพระคุณของนายท่าน!”
“ดีจริง ๆ! ขอบคุณพระคุณของนายท่าน!”
เมื่อวิกฤตผ่านพ้นไป สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนที่เสียใจกับการตายของญาติมิตร เมื่อได้ยินคำพูดของกู่หยาง ทุกคนก็เริ่มดีใจ
หากคนอื่นกล้าพูดว่าจะฟื้นคืนชีพสิ่งมีชีวิตที่ตายไปในสามพันโลก พวกเขาจะต้องดูถูกอย่างแน่นอน
แต่...
หากคำพูดนี้มาจากปากของกู่หยาง พวกเขาก็จะเชื่อ
ท้ายที่สุด กู่หยางในใจของพวกเขา เป็นตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าเซียน
เมื่อไม่นานมานี้ เขายังนำพวกเขาปราบปรามต้นกำเนิดแห่งความมืดอย่างสมบูรณ์ ปกป้องสามพันโลก
ดังนั้น สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนจึงเชื่อใจกู่หยาง
ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ยกย่องกู่หยางเป็นนายท่านอย่างเป็นเอกฉันท์
สำหรับปฏิกิริยาของสิ่งมีชีวิตในสามพันโลก กู่หยางก็พยักหน้าเล็กน้อย
จากนั้น กู่หยางก็เริ่มลงมือ
วิชาเซียนที่น่ากลัวก่อตัวขึ้นในฝ่ามือของเขา เจตจำนงแท้มหาเต๋าที่น่ากลัวเริ่มแผ่ขยายออกไป
เดิมที กู่หยางยังคิดว่าหลังจากเป็นจอมจักรพรรดิแล้ว เขาจะฟื้นคืนชีพมหาจอมจักรพรรดิเต๋าสวรรค์ที่เป็นพ่อของมู่หรงเฉียนเสวี่ย
ในเวลานั้น เขาหวังพึ่งพาระบบ
แต่กู่หยางในตอนนี้ กลับพบว่า เขาในตอนนี้เติบโตขึ้นจนสามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างได้โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบ
หากอยู่ในโลกเซียน เขาจะไม่กล้าฟื้นคืนชีพมหาจอมจักรพรรดิโดยพลการ
แต่ในสามพันโลก ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ ด้วยระดับความเข้าใจเจตจำนงแท้มหาเต๋าของเขา
การฉายแสงไปยังสามพันโลก การฟื้นคืนชีพสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน รวมถึงการฟื้นคืนชีพมหาจอมจักรพรรดิ เป็นเรื่องง่ายดาย
ผลกรรมภายในนั้น ไม่สามารถทำอะไรกู่หยางได้
เมื่อกู่หยางลงมือ ร่างเงาจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นในทุกมุมของสามพันโลก
ในหมู่พวกนั้น ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตายไปในการต่อสู้เพื่อช่วยเหลือสามพันโลกครั้งนี้
มหาจอมจักรพรรดิ ก็อยู่ในหมู่พวกนั้น
“พวกเรา... นี่...”
มหาจอมจักรพรรดิทั้งสามพันคนมองหน้ากัน พวกเขางุนงง
จอมจักรพรรดินีจิ้งจอกสวรรค์ก็ได้รับการดูแลจากกู่หยาง จากสภาพแก่นแท้เสียหาย ใกล้จะตาย กลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แบบอีกครั้ง
“เป็นนายท่านที่ฟื้นคืนชีพพวกเจ้า”
ในสายตาของจอมจักรพรรดินีจิ้งจอกสวรรค์เต็มไปด้วยความชื่นชมต่อกู่หยาง นางอธิบายให้มหาจอมจักรพรรดิทั้งสามพันคน
“นายท่าน... ฟื้นคืนชีพ...”
“ขอบคุณนายท่าน!”
มหาจอมจักรพรรดิทั้งสามพันคนต่างก็ตกตะลึง จากนั้นก็ตอบสนอง พวกเขาดีใจอย่างมาก จากนั้นก็ขอบคุณกู่หยางอย่างพร้อมเพรียงกัน ยกย่องกู่หยางเป็นนายท่าน
ในหมู่พวกนั้น จอมจักรพรรดิกระบี่แสงอรุณก็รู้สึกตกใจเช่นกัน ไม่คิดว่ากู่หยางจะสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้ง่ายดาย
หวงเทียนหั่วก็รู้สึกมึนงง
ในตอนนั้น นางยังต่อสู้กับกู่หยาง
ไม่คิดว่า... ในชั่วพริบตา กู่หยางจะแข็งแกร่งขึ้นมาก
“การต่อสู้ครั้งนั้น อาจเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้า”
หวงเทียนหั่วถอนหายใจ
ณ เวลานี้ มู่หรงเฉียนเสวี่ยมองไปที่มหาจอมจักรพรรดิเต๋าสวรรค์ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตา
“เฉียนเสวี่ย ลูกได้หาสามีที่ดีให้พ่อจริง ๆ”
มหาจอมจักรพรรดิเต๋าสวรรค์ลูบหัวมู่หรงเฉียนเสวี่ย มองไปยังทิศทางของกู่หยาง และถอนหายใจจากใจจริง
“หืม!”
“การได้แต่งงานกับกู่หยาง เป็นความโชคดีที่สุดในชีวิตของข้า”
มู่หรงเฉียนเสวี่ยพยักหน้าอย่างหนัก กล่าวด้วยความจริงใจ
ในขณะที่สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนกำลังดีใจ ขอบคุณกู่หยาง จากนั้นก็พูดคุยกับญาติมิตรด้วยน้ำตา กู่หยางก็ก้าวเข้าไปในค่ายกลเซียนเต๋าสูงสุด
ตอนนี้ กระบี่ตัดสวรรค์ยังคงอยู่ในสถานะวิวัฒนาการ กำลังพัฒนาไปสู่ระดับอาวุธเซียนระดับกลาง
เมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งนี้ กู่หยางที่ว่างก็ได้ถ่ายทอดเจตจำนงแท้มหาเต๋าอันน่ากลัวของเขาเข้าไป บ่มเพาะและหล่อเลี้ยงกระบี่ตัดสวรรค์
แน่นอนว่า กู่หยางไม่ได้ลำเอียง เขายังคงหล่อเลี้ยงกระบี่มารหมึกดำ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด การวิวัฒนาการจึงหยุดลง
กระบี่มารหมึกดำประสบความสำเร็จในการยกระดับไปถึงระดับอาวุธมารแท้ระดับกลาง ห่างจากช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดอีกก้าวหนึ่ง
ส่วนกระบี่ตัดสวรรค์ ก็ประสบความสำเร็จในการวิวัฒนาการเป็นอาวุธเซียนระดับกลาง
กู่หยางเก็บกระบี่ตัดสวรรค์ มองไปที่กระบี่มารหมึกดำ
“เฉียนหยวน กระบี่ตัดสวรรค์เป็นอาวุธเซียนประจำกายของข้า ไม่เหมาะที่จะทิ้งไว้เป็นดวงตาค่ายกล ข้าจะปล่อยให้เจ้ากำราบต้นกำเนิดความมืดในอนาคต รอจนกว่าข้าไปเยือนโลกเซียน เมื่อเจ้าแข็งแกร่งเพียงพอแล้ว ข้าจะพาเจ้าไป”
กูห่ยางพูดกับกระบี่มารหมึกดำ