(ฟรี) บทที่ 130 ละครของคุณมีฉากจูบไหม?
ถังเว่ยเว่ยกินไปประมาณหนึ่งในสามแล้วปฏิเสธที่จะทานต่อ
หลังจากนั้น ไม่ว่าสวี่ชิวเหวินจะพยายามป้อนเธออย่างไร เธอก็ส่ายหัวและปฏิเสธ
อาหารที่เหลืออยู่เพียงพอที่จะเติมเต็มกระเพราะของเขา
หลังอาหารกลางวันมีเวลาพักสั้นๆ สวี่ชิวเหวินจึงดึงถังเว่ยเว่ยออกไป
ไป๋เยว่เอ๋อร์ไม่ได้ติดตามพวกเขาอย่างโง่เขลา และโดยธรรมชาติแล้วซือเซียงหมิงก็ไม่ทำเช่นกัน
หลังจากมาถึงมุมหนึ่ง เดิมทีสวี่ชิวเหวินต้องการให้ถังเว่ยเว่ยนั่งบนตักเขา แต่หญิงสาวกลับปฏิเสธที่จะเห็นด้วย
สวี่ชิวเหวินไม่มีทางเลือกนอกจากต้องประนีประนอมและยอมให้หญิงสาวนั่งข้างๆแทน
เขาจับมือเล็กๆของหญิงสาวไว้แน่น นิ้วของเขาลูบผิวขาวและอ่อนนุ่มของเธออยู่ตลอดเวลา
“อิ่มแล้วจริงๆเหรอ?”
“อื้อ” ใบหน้าของถังเว่ยเว่ยแดงระเรื่อ เธอดึงมือออกเบาๆ แต่มันก็ไม่ขยับ ดังนั้นเธอจึงยอมแพ้และปล่อยให้สวี่ชิวเหวินเล่นกับมัน
“เว่ยเว่ย ฉันกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ แต่ไม่รู้จะพูดกับเธอยังไงดี”
ถังเว่ยเว่ยเงยหน้าขึ้นมอง อยากรู้ว่าเขาต้องการพูดอะไร
สวี่ชิวเหวินเป็นคนตรงไปตรงมาโดยตลอด อย่างน้อยก็ต่อหน้าเธอ
สวี่ชิวเหวินมองตาเธอและพูดอย่างจริงจัง “ฉันวางแผนที่จะซื้อโทรศัพท์มือถือให้เธอ”
“ไม่เป็นไร ฉันมีมือถือของพี่สาวเยว่เอ๋อร์” ถังเว่ยเว่ยโบกมือทันทีเพื่อปฏิเสธเมื่อได้ยินเรื่องการซื้อโทรศัพท์
สวี่ชิวเหวินบีบมือของหญิงสาวเบาๆ “ฉันรู้ แต่มันไม่สะดวกสำหรับเธอที่จะใช้โทรศัพท์ของเยว่เอ๋อร์ตลอดเวลา ฉันขอซื้อให้เธอได้ไหม? เธอจะสามารถติดต่อฉันได้ตลอดเวลา และฉันก็สามารถติดต่อเธอได้เช่นกัน”
ถังเว่ยเว่ยยังคงปฏิเสธ
เธอสามารถยอมรับสวี่ชิวเหวินเป็นเพื่อนที่ดีได้ และยอมให้เขาเอาเปรียบเป็นครั้งคราว แต่เธอไม่อาจยอมให้สวี่ชิวเหวินดูแลทุกอย่างและใช้เงินของเขา
เธอรู้สึกว่าสวี่ชิวเหวินช่วยเธอมามากพอแล้ว
เธอไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่ชอบใช้เงินของผู้ชาย
ตั้งแต่ยังเด็ก คุณยายสอนให้เธอพึ่งพาตนเองและไม่สร้างภาระให้ผู้อื่น
แม้ว่าคุณยายจะยังไม่ได้ยอมรับความสัมพันธ์ของเธอกับสวี่ชิวเหวิน แต่พวกเขาก็จูบและสัมผัสกัน เธอตัดสินใจแล้วว่าสวี่ชิวเหวินจะเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวของเธอ
สวี่ชิวเหวินรู้ดี ถึงแม้ถังเว่ยเว่ยภายนอกจะดูว่าง่าย แต่จิตใจของเธอก็มุ่งมั่นมาก อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ยอมแพ้ “เว่ยเว่ย โทรศัพท์จะไม่ซื้อให้เธอเป็นการส่วนตัว แต่เป็นการซื้อให้ทีมงาน เธอเป็นคนจัดการบัญชี ทั้งผู้กำกับ คนจัดสถานที่ ช่างแต่งหน้า และคนเตรียมอุปกรณ์ประกอบฉาก ทั้งหมดล้วนต้องติดต่อเธอ การไม่มีโทรศัพท์นั้นไม่สะดวกอย่างยิ่ง ดังนั้นฉันจึงควรซื้อให้เธอ”
ถังเว่ยเว่ยยอมรับเหตุผลของเขา แต่เธอยังคงดื้อรั้นและไม่เต็มใจ
สวี่ชิวเหวินรู้สึกทำอะไรไม่ถูกมาก
เขาลองชักชวนจากอีกมุมหนึ่ง “หากทีมงานติดต่อเธอไม่ได้เพราะไม่มีโทรศัพท์มือถือแล้วส่งผลต่อความคืบหน้าในการถ่ายทำ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ!”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ถังเว่ยเว่ยก็กัดริมฝีปากและไม่พูดอะไรเลย
“คืนนี้ฉันจะพาเธอไปซื้อโทรศัพท์มือถือ ห้ามปฏิเสธ”
ถังเว่ยเว่ยมองเขาอย่างดื้อรั้น ดวงตากลมโตของเธอไม่กระพริบ บ่งบอกถึงความคับข้องใจ
สวี่ชิวเหวินมองกลับไปยังถังเว่ยเว่ยอย่างไม่เกรงกลัว
หลังจากผ่านไปกว่าสิบวินาที ถังเว่ยเว่ยก็ยอมแพ้
หญิงสาวสูดลมหายใจเบาๆ ลดสายตาลงแล้วกระซิบว่า “ฉันเข้าใจแล้ว”
สวี่ชิวเหวินยิ้มทันที เขาเอื้อมมือออกไปลูบผมของหญิงสาวด้วยความรัก “เว่ยเว่ยของเราเก่งมาก”
ถังเว่ยเว่ยสัมผัสได้ถึงความยินดีของเขา ซึ่งทำให้อารมณ์ของเธอดีขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน
ไม่ไกลนัก ซือเซียงหมิงเห็นสวี่ชิวเหวินลูบผมของถังเว่ยเว่ย ซึ่งทำให้เขามั่นใจมากขึ้นว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นมากกว่าเพื่อนที่ดีอย่างแน่นอน
แต่ถ้าเป็นแฟนหนุ่มกับแฟนสาวก็พบว่ามันน่าเหลือเชื่อ
สวี่ชิวเหวินมีคนรักวัยเด็กอย่างเซียวโหยวหรานผู้เป็นสาวงามของมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่เขากลับเลือกที่จะอยู่กับหญิงสาวธรรมดาๆอย่างถังเว่ยเว่ย?
เขายังไม่ตื่นเต็มที่ใช่ไหม?
หรืออาจเป็นการคบซ้อน?
แต่สิ่งนี้ก็ทำให้เขารู้สึกสบายใจเช่นกัน
เนื่องจากสวี่ชิวเหวินสนใจถังเว่ยเว่ย จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะชอบไป๋เยว่เอ๋อร์ ท้ายที่สุดไป๋เยว่เอ๋อร์และถังเว่ยเว่ยก็เป็นเพื่อนร่วมห้องกัน ซือเซียงหมิงจึงไม่กังวลอีกต่อไปว่าไป๋เยว่เอ๋อร์จะตกหลุมรักสวี่ชิวเหวิน
ไป๋เยว่เอ๋อร์เองก็ให้ความสนใจกับสวี่ชิวเหวินและถังเว่ยเว่ย
พฤติกรรมใกล้ชิดระหว่างทั้งสองราวกับไม่มีใครอยู่รอบๆทำให้เธออิจฉา
ในฐานะเพื่อนร่วมห้อง ไป๋เยว่เอ๋อร์รู้ว่าถังเว่ยเว่ยหน้าตาดีเพียงใด แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกด้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ถังเว่ยเว่ยได้รับความรักจากสวี่ชิวเหวิน ในขณะที่เธอ ด้วยเหตุผลหลายประการ ทำได้เพียงหมั้นกับซือเซียงหมิงและกลายเป็นคู่หมั้นของเขาเท่านั้น
แค่ความคิดที่จะแต่งงานกับซือเซียงหมิงหลังจากสำเร็จการศึกษาก็ทำให้ไป๋เยว่เอ๋อร์รู้สึกหม่นหมอง
สวี่ชิวเหวินและถังเว่ยเว่ยคุยกันสักพัก
เนื่องจากมีเรียนตอนบ่าย ถังเว่ยเว่ยจึงจากไป
ก่อนออกเดินทางหญิงสาวเน้นย้ำอีกครั้งว่า “แค่ซื้อรุ่นที่ถูกที่สุด”
สวี่ชิวเหวินยิ้มและเห็นด้วยอย่างมั่นใจ
หลังถังเว่ยเว่ยจากไป ก่อนที่จะถึงเวลาถ่ายทำ สวี่ชิวเหวินก็เตรียมหลับตาลงและพักผ่อน
แต่ไป๋เยว่เอ๋อร์เข้าหาเขาด้วยความคิดริเริ่มของเธอเอง
“เมื่อกี้คุณกระซิบกระซาบอะไรกับเว่ยเว่ย? ฉันฟังด้วยไม่ได้เหรอ?”
“ใครจะรู้ว่าคุณแอบฟังอยู่” สวี่ชิวเหวินไม่ตอบเธอโดยตรง แต่เหน็บแนมแทน
ไป๋เยว่เอ๋อร์ไม่ได้โกรธ เธอตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันแค่กังวลว่าใครบางคนจะหลอกลวงเว่ยเว่ยของเรา ท้ายที่สุดแล้วเว่ยเว่ยไร้เดียงสามาก มันง่ายสำหรับเธอที่จะถูกคนเจ้าเล่ห์แถวนี้หลอก”
“รู้ว่าฉันเจ้าเล่ห์ทำไมยังจงใจมาคุยด้วยอีก? คู่หมั้นของเธออยู่ข้างๆ ไม่ไปคุยกับเขาแทนล่ะ?”
“ใครคุยกับคุณ ฉันแค่กำลังถามคุณอยู่”
“เธอควรสนใจเรื่องของตัวเองดีกว่า พี่ซืออยู่ที่นี่เพื่อสนับสนุนเธอ เธอควรมุ่งความสนใจไปที่เขาไม่ใช่ฉัน”
ไป๋เยว่เอ๋อร์ตะคอกเบาๆ
ขณะที่ไป๋เยว่เอ๋อร์เดินมา ซือเซียงหมิงก็ตามมาเช่นกัน
เขาได้ฟังการสนทนาระหว่างทั้งสองและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เยว่เอ๋อร์ ชิวเหวิน มีบางอย่างที่ฉันอยากรู้มาโดยตลอด”
“พี่ซือ มันคืออะไร?” สวี่ชิวเหวินสังเกตเห็นสีหน้าลำบากใจของซือเซียงหมิง
ไป๋เยว่เอ๋อร์ก็มองด้วยความประหลาดใจเช่นกัน สังสัยว่าเขาจะถามอะไร
ซือเซียงหมิงรู้สึกถึงสายตาของทั้งสองและลังเลมาก
เขารู้ว่าการพูดออกมาอาจทำให้ทั้งคู่โกรธ แต่หากไม่พูดเขาคงรู้สึกไม่สบายใจ ท้ายที่สุดแล้วจึงถามออกมา
“มีฉากจูบในละครเรื่องนี้ไหม?”
ประโยคนี้ทำให้ทั้งสวี่ชิวเหวินและไป๋เยว่เอ๋อร์ตกตะลึงโดยตรง
หลังจากกลับมามีสติอีกครั้ง สวี่ชิวเหวินก็หันสายตาไปทางอื่น “มีอยู่บ้าง แต่ไม่มาก”
เมื่อได้ยินสวี่ชิวเหวินบอกว่ามีฉากจูบ ซือเซียงหมิงก็กำหมัดแน่นโดยสัญชาตญาณ
แค่นึกถึงว่าสวี่ชิวเหวินกับไป๋เยว่เอ๋อร์ถ่ายฉากจูบกัน เขาก็รู้สึกอึดอัดมาก
ในที่สุดไป๋เยว่เอ๋อร์ก็รู้ว่าเขาต้องการอะไร และกล่าวอย่างไม่อดทนเล็กน้อย “ซือเซียงหมิง คุณอยากจะถามอะไรกันแน่? การมีฉากจูบไม่ใช่เรื่องปกติเหรอ?”
“แต่คุณ—” ซือเซียงหมิงพูดไปได้เพียงต้นประโยค
สวี่ชิวเหวินรู้สึกว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะกังวลถึงการมีอยู่ของเขาและไม่สามารถพูดได้อย่างอิสระ เขาจึงริเริ่มหาข้อแก้ตัวที่จะจากไป
“ฉันจะไปหาผู้กำกับ พวกคุณคุยกันเลย”
หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็เดินออกจากห้องแต่งตัวอย่างรวดเร็ว
/////