บทที่ 341 เกิดปัญหาใหญ่แล้ว
"ซี่ราง(ดินวิเศษ)!"
จางซีเป่าเบิกตากว้าง ตบหัวจินเมาซูเบาๆ: "นี่มันเหมือนกำลังง่วงแล้วมีคนส่งหมอนมาให้เลยนะ จับกระต่ายแค่นี้ก็เจอของดีแบบนี้แล้ว!"
"เอามันออกมา!"
จางซีเป่าหยิบดาบดำใหญ่ออกมา ตั้งใจจะฟันภูเขาลูกนี้ให้แยกออก
"เดี๋ยวก่อน เจ้าจะทำอะไรน่ะ?"
จั้นเหนียนลอยออกมาจากดาบบินอย่างกะทันหัน ขัดขวางการกระทำต่อไปของจางซีเป่า
"ผมจะฟันภูเขาให้แยกออก แล้วขุดซี่รางออกมา!" จางซีเป่าทำท่าเหมือนไม่อยากให้ใครมาขัดขวาง
จั้นเหนียนพูดเสียงเรียบ: "พลังศรัทธาที่สะสมมาอย่างยากลำบาก เจ้าจะเอามาฟันภูเขาเหรอ อยู่ในดินแดนลี้ลับที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้ ถ้าเจอศัตรูจะทำยังไง?"
จางซีเป่ามองไปรอบๆ ยักไหล่: "บินมาทั้งวันแล้ว ในดินแดนลี้ลับนี้มีแต่อสูรระดับต่ำ จะมีศัตรูที่ไหนกัน?"
"ใครบอกว่าไม่มีศัตรู?"
จั้นเหนียนยิ้มอย่างประหลาด ไม่รอให้จางซีเป่าถาม บินกลับเข้าไปในดาบดำใหญ่
"ก็ไม่เห็นมีอะไรสักอย่างนี่นา..."
แม้จะบ่น แต่จั้นเหนียนคงไม่หลอกเขา จางซีเป่าตัดสินใจไม่ใช้พลังเทพขุดซี่รางออกมา
เปลี่ยนดาบบินเป็นพลั่ว จางซีเป่าเริ่มขุดด้วยเสียง "เฮ้อ-ซ่า เฮ้อ-ซ่า" ด้วยพละกำลังของเขา ก็สามารถขุดซี่รางออกมาได้อย่างรวดเร็ว เพียงแต่ไม่สะใจเท่ากับฟันภูเขาให้แยกออกด้วยดาบเดียว
"อา ไม่ได้ทำงานใช้แรงแบบนี้มานานแล้ว..."
"ทำไมขุดดินถึงเหนื่อยกว่าต่อยคนอีกล่ะ?"
"ใช้ระเบิดก็ไม่ได้ มันจะทำให้ดินกระจัดกระจาย ไม่สามารถขุดซี่รางออกมาแบบจุดๆได้!"
"จินเมาซู ฉันมีการคาดเดาอันบ้าบิ่นอย่างหนึ่ง นายว่าภูเขาใหญ่ในดินแดนลี้ลับนี้จะเกิดจากซี่รางก้อนนั้นค่อยๆเติบโตขึ้นมาหรือเปล่า?"
จางซีเป่าพูดพึมพำคุยกับจินเมาซูไปด้วยขณะขุด
ไม่นาน อุโมงค์ลึกลงไปใต้ดินก็ปรากฏขึ้น
"พวกนั้นคงคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่าอันเซิงผู้สูงส่งจะมาขุดดินอย่างมอมแมมแบบนี้!"
เสียงของจางซีเป่าดังอู้อี้ออกมาจากโพรง
"เอ๊ะ?"
มีเสียงอุทานเบาๆ แสงสว่างจ้าส่องออกมาจากโพรง
จางซีเป่าถือกระบองเหลียงจิงจิงส่องไปยังอุโมงค์ที่ตัวเองขุดพัง พบว่ามีอุโมงค์ที่มีขนาดใหญ่กว่าอยู่ตรงหน้า สูงถึงสองเมตรกว่า กว้างพอให้จางซีเป่าเดินเข้าไปได้
"โอ้โห โพรงกระต่ายใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?"
"ดูเหมือนอุโมงค์จะถูกเสริมความแข็งแรงเป็นพิเศษ..."
จางซีเป่าลูบผนังอุโมงค์ แล้วเริ่มเดินลึกเข้าไปตามอุโมงค์ เขาหันไปถามจินเมาซู: "เมื่อกี้เคยเจอที่นี่หรือเปล่า?"
จินเมาซูส่ายหัว: "ไม่เคย ข้างในนี้มีอุโมงค์นับพันเส้น ผมไม่ทันสำรวจ"
"ช่างมันเถอะ บอกทางให้ฉันหน่อย เราไปขุดซี่รางกัน"
จางซีเป่ายักไหล่ แล้วมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายโดยมีจินเมาซูช่วยนำทาง
โครม โครม โครม...
จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าดังสนั่นในอุโมงค์ เสียงม้าวิ่งเป็นฝูงแบบนี้ จางซีเป่าเคยได้ยินแค่ในละครโทรทัศน์
"เกิดอะไรขึ้น อุโมงค์จะถล่มเหรอ?"
จางซีเป่าและจินเมาซูทำหน้างงๆ เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ
แสงจากเหลียงจิงจิงส่องไปยังส่วนลึกของอุโมงค์ เห็นดวงตาสีแดงก่ำสะท้อนแสงเป็นคู่ๆ
นั่นเป็นฝูงกระต่าย!
"โอ้โห หัวกระต่ายต้มเผ็ดเยอะขนาดนี้เลย!"
จางซีเป่ากลืนน้ำลาย
แม้เขาจะอยากกิน แต่ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องได้ซี่รางมา
"หยุดนะ เจ้าอสูรร้าย!"
เสียงที่ฟังไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิงดังมาจากฝูงกระต่าย จางซีเป่างงๆ มองไปรอบๆ ไม่เห็นว่ามีอสูรร้ายที่ไหน
จินเมาซูก็ทำหน้าไร้เดียงสา แสดงว่าไม่ใช่ตัวมันที่พูด
"ใครน่ะ?"
จางซีเป่าเบิกตามอง พบว่ากระต่ายที่อยู่ด้านหลังฝูงยืนตัวตรง และถืออาวุธด้วย!
ผู้พูดคือกระต่ายสีน้ำตาลที่มีจุดสีดำ
งั้นอสูรร้ายในปากกระต่ายก็คือจางซีเป่านี่เอง?
"พวกอสูรร่างกระต่ายบางตัวนี่มีสติปัญญาสูงนะ!"
จางซีเป่าชะงักทันที: "เอ๊ะ ไม่ถูกสิ ทำไมกระต่ายถึงพูดภาษาต้าเซียได้ นี่มันดินแดนลี้ลับที่เพิ่งเปิดใหม่นะ มีปัญหา มีปัญหาใหญ่แล้ว!"
"อสูรร้าย วางอาวุธ ไม่งั้นพวกข้าจะไม่สุภาพแล้วนะ!" กระต่ายสีน้ำตาลย้ำอีกครั้ง
"อาวุธ?"
จางซีเป่ามองไม้เท้าในมือขวา แล้วชูพลั่วในมือซ้าย: "เจ้าหมายถึงอันไหน?"
"ทุกคนระวัง มันกำลังจะโจมตี!"
กระต่ายสีน้ำตาลตะโกน ทหารกระต่ายที่ถือหอกต่างเตรียมพร้อม
"เดี๋ยวก่อน ข้าไม่ใช่อสูรร้าย!"
จางซีเป่าดึงเสื้อคลุมออกทันที แล้วถอดหน้ากากฉีหลินออก เมื่อกี้เขาใช้ความสามารถบินของหน้ากากเพื่อไล่ตามกระต่าย พวกกระต่ายคงเห็นเขาใส่หน้ากากแล้วคิดว่าเป็นอสูรร้าย
"มนุษย์?"
พวกกระต่ายถอนหายใจโล่งอก แต่ก็ยังไม่วางอาวุธ กระต่ายสีน้ำตาลถามอีกครั้ง: "เจ้ามาจากเผ่าไหน ทำไมถึงทำลายประตูของพวกข้า?"
"ประตู?"
จางซีเป่าคิดว่าประตูของพวกกระต่ายคงเป็นทางเข้าอุโมงค์ เมื่อกี้เพื่อให้เร็วขึ้น เขาขุดทางเข้าจนยุ่งเหยิงไปหมด
"เอ่อ เรื่องนี้น่ะ..."
จางซีเป่าเกาหัวแกรกๆ คิดในใจว่าฉันก็ไม่รู้ว่าพวกแกมีสติปัญญานี่นา
"ข้ามาหาของ" จางซีเป่าตั้งใจจะเปลี่ยนหัวข้อ
กระต่ายสีน้ำตาลถาม: "หาอะไร?"
จางซีเป่าตอบ: "หาดิน..."
"เป็นดินที่งอกเองได้ใช่ไหม?" กระต่ายสีน้ำตาลถามต่อ
จางซีเป่าพยายามยิ้มอย่างมีไมตรีที่สุด: "ใช่ๆๆๆ ข้าหาดินแบบนั้นแหละ!"
"แย่แล้ว มนุษย์คนนี้จะมาแย่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ากระต่ายเรา พี่น้องทั้งหลาย ตามข้ามาไล่คนชั่ว เข้าโจมตี!"
กระต่ายสีน้ำตาลตะโกน พวกกระต่ายที่ถือหอกก็พุ่งเข้ามาราวกับคลื่น
"สิ่งศักดิ์สิทธิ์?"
จางซีเป่างงงวย นี่พูดกันไม่รู้เรื่องก็จะตีกันแล้วเหรอ?
หอกในมือกระต่ายเป็นแค่ไม้เล็กๆ ไม่มีแม้แต่อาวุธเหล็กที่ดูดีสักชิ้น ดังนั้นจึงไม่สามารถแทงทะลุเสื้อคลุมพิเศษของจางซีเป่าได้
หอกพุ่งเข้าใส่เสื้อคลุมดำด้วยเสียงปุๆๆ จางซีเป่ารู้สึกเหมือนพวกกระต่ายกำลังจั๊กจี้เขา
ฮ่า~ จางซีเป่าหาวด้วยความเบื่อ: "พวกเจ้าตีพอหรือยัง ถ้าพอแล้วก็นั่งลงมาคุยกันดีๆเถอะ!"
ทหารกระต่ายต่างเหนื่อยจนแทบหมดแรง แต่ก็ยังฝืน "โจมตี" ต่อไป
กระต่ายสีน้ำตาลแค่นเสียง: "พวกข้าไม่มีอะไรต้องคุยกับโจร!"
"โอ้โฮ ยังจะเอาอีกเหรอ?"
จางซีเป่าสะบัดชายเสื้อ ทหารกระต่ายมากมายถอยกรูด เขาก้าวสามก้าวเป็นสองก้าว คว้าหูของกระต่ายสีน้ำตาลตัวนั้นไว้: "เจ้าเป็นหัวหน้าใช่ไหม?"
"เจ็บ เจ็บ เจ็บ เจ็บ..." กระต่ายสีน้ำตาลร้องลั่น
จางซีเป่าจับหูกระต่ายทั้งสองข้าง ยกกระต่ายสีน้ำตาลขึ้นมาระดับสายตา จ้องตาสีแดงก่ำคู่นั้น แล้วยิ้มเผยฟันขาว ถาม: "ตอนนี้คุยกันได้หรือยัง?"
"คุยได้ เจ้าปล่อยข้าลงก่อน!" กระต่ายสีน้ำตาลดิ้นพล่านกลางอากาศ
"โอ้..."
จางซีเป่าปล่อยมือ กระต่ายสีน้ำตาลร่วงลงพื้น
"เจ้าอยากคุยยังไง?" กระต่ายสีน้ำตาลถาม
"เอ่อ ผม…เอ้ยข้า..แค่อยากขุดดินที่เจ้าพูดถึงนั่นนิดหน่อย เห็นพวกเจ้ามีสติปัญญา ข้าเอาของมาแลกก็ได้ ไม่ได้จะรังแกพวกเจ้า"
จางซีเป่าพูดพลางค้นในคลังสมบัติทะลุฟ้า หยิบแครอทสีแดงสดออกมาหนึ่งหัว
กระต่ายก็ต้องกินแครอทใช่ไหมล่ะ?
แครอทหัวนี้เดิมทีจะเอาไว้ทำอาหาร ตอนนี้เอามาแลกซี่รางได้แล้วสินะ...
.
หนิงหนิง Talk🍎: ช่วงนี้ผู้แปลอ๊องๆหน่อยนะคะ เพราะมีชื่อตัวละครโผล่มาใหม่เยอะมากกก5555 หลังๆก็สับสนกับการแปลของตัวเองอยู่บ้างมีการแก้ปรับคำไปมาค่อนข้างเยอะ5555 กลัวเพื่อนๆนักอ่านงง ขอชี้แจงนิดนึงนะคะ
• ตัวเอกของเราจางซีเป่า หรือคนอื่นๆที่เป็นคนยุคใหม่จะพูด ฉัน/แก/เธอ แต่ถ้ามีสถานการณ์ที่ต้องพูดแบบอื่นก็จะไหลไปตามน้ำ…
• สิ่งมีชีวิตในดินแดนลี้ลับคุนหลุน กับพวกที่อยู่มานานหลายร้อยปี หมื่นปี ก็จะพูด ข้า/เจ้า ประมาณนี้ค่ะ
ผลงานแปลเรื่องแรกเดินทางมาเกินครึ่งแล้ว ยังไงจะพยายามเรียนรู้และแปลให้ดีขึ้นนะคะ ขอบคุณค่า💖