ตอนที่ 40 : เลเวลสี่
ตอนที่ 40 : เลเวลสี่
ชายในชุดคลุมสีดำที่ควบคุมอีกาเมื่อคืนคือผู้ใช้เวทมนตร์งั้นเหรอ?
แต่เมื่อคืน หวู่เหิงก็ไม่เห็นอีกฝ่ายใช้เวทมนตร์อะไรเลย
ทั้งหมดที่เขารู้คืออีกฝ่ายได้ควบคุมอีกาพุ่งเข้าใส่เขา ซึ่งเขาก็ฟาดมันจนตายด้วยไฟฉายของเขาไปแล้ว
และไม้กายสิทธิ์เวทมนตร์ก็ดูจะไม่ใช้ไม้เท้าที่เอาไว้คอยประดับบารมีด้วย
อย่างไรก็ตาม มันก็ดูสวยดีทีเดียวด้วยลวดลายที่ซับซ้อนและการประดับตกแต่งด้วยเงิน
อุปกรณ์ที่เหลือประกอบไปด้วยดาบยาวหนึ่งเล่มและชุดเกราะหนังสามชุด
ทั้งสไตล์และฝีมือการตัดเย็บถือว่าดีมาก และพวกมันต่างก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์สวมใส่ระดับสูงในร้านค้าเลยก็ว่าได้
ส่วนระเบิดมือนั้นต่างก็เป็นระเบิดควันทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีคัมภีร์เวทมนตร์อีกสองอันที่ประกอบไปด้วยคัมภีร์ทักษะดาบอัคคีและทักษะขนนกโบยบิน
ทักษะดาบอัคคีสามารถเพิ่มคุณสมบัติธาตุไฟให้กับอาวุธได้ ส่วนทักษะขนนกโบยบินสามารถใช้ลดความเสียหายของการตกจากที่สูงได้
ไม่มีใครรู้ว่าไอเท็มเหล่านี้มาจากไหน
“หวู่เหิง เลือกของที่เจ้าต้องการไปได้เลย” ออทรัคพูดออกมา
จากสมาชิกของโบสถ์ทัณฑ์สวรรค์แปดคน หวู่เหิงได้จัดการกับคนพวกนั้นไปถึงเจ็ดคนแล้ว
ส่วนคนสุดท้ายอย่างป้าอู๋ตง แม้มันจะดูเหมือนว่าออทรัคเป็นคนตัดหัวของอีกฝ่ายด้วยการโจมตีครั้งสุดท้าย แต่หมอนั่นก็ถูกสังหารไปก่อนแล้วด้วยปืนพกของหวู่เหิง เพราะหวู่เหิงได้รับการแจ้งเตือนเรื่องค่าประสบการณ์
แต่ออทรัคไม่เห็นมัน ดังนั้นเขาจึงได้ลงมือปิดฉาก
มันไม่สำคัญว่าใครจะเป็นคนลงมือสังหาร เพราะการโจมตีปิดฉากของออทรัคก็สุดยอดเหมือนกัน และมันคงจะแปลกถ้าเป็นหวู่เหิงที่จัดการกับคนทั้งแปดได้
ถึงกระนั้นลำดับความสำคัญในการเลือกรางวัลก็ยังถูกมอบให้กับหวู่เหิง
“ข้าขอเลือกไม้กายสิทธิ์เวทมนตร์อันนี้ละกัน และขอชุดเกราะหนังให้บาเซนด้วย” หวู่เหิงพูดออกมา
เหตุผลที่ออทรัคไม่ได้ขายไม้กายสิทธิ์อันนี้ก็เป็นเพราะเขาอยู่แล้ว
ส่วนชุดเกราะหนังอีกอันก็คงจะถูกเตรียมไว้ให้บาเซน เพราะหลังจากผ่านการต่อสู้มาหลายครั้งแล้ว ชุดเกราะของบาเซนก็ดูยับเยินแล้ว
การส่งชุดเกราะไปที่ร้านชุดเกราะเพื่อซ่อมแซมนั้นก็คงจะไม่มีประโยชน์เท่ากับการหาอันใหม่มาแทน
“ตกลง แล้วเจ้าล่ะคาวิน่า?”
คาวิน่าเลือกดาบมือเดียวและชุดเกราะหนังอีกชุด ทำให้ของที่เหลืออยู่สำหรับออทรัคคือชุดเกราะหนังชุดสุดท้ายและคัมภีร์เวทมนตร์สองอัน
แม้ว่ามูลค่าของคัมภีร์เวทมนตร์และอาวุธจะไม่เท่ากัน แต่พวกมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันสำหรับคนทั้งสาม
จากนั้นทั้งสามคนก็ได้รับระเบิดควันคนละสามลูก และพวกเขาก็ได้แบ่งเงินรางวัลค่าหัวและเงินจากการขายไอเท็มอื่นๆ กัน
เมื่อมองไปยังถุงเงินถุงใหญ่ มันก็น่าจะมีเงินนับพันเหรียญเงินอยู่ภายในนี้
แต่ละคนมีความสุขมาก
ใครจะเกลียดการมีเงินเยอะแบบนี้กัน?
หลังจากแบ่งของกันแล้ว ออทรัคก็พูดออกมาว่า “ไอเท็มระดับสูงจำเป็นต้องลงทะเบียนก่อนรับ ดังนั้นก็รอข่าวจากข้าก่อน แล้วพวกเราค่อยไปเลือกรางวัลด้วยกัน”
“รับทราบ” ทั้งสองตอบกลับและพยักหน้า
หลังจากพูดคุยกันเกี่ยวกับการพัฒนาของหน่วยแล้ว หวู่เหิงก็ถามออกมาว่า “หัวหน้า ข้าสามารถยื่นเรื่องเปลี่ยนศพของป้าอู๋ตงให้กลายเป็นโครงกระดูกของข้าผ่านสมาคมได้ไหม?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ ทั้งออทรัคและคาวิน่าก็ผงะไป
พวกเขาหันมามองหวู่เหิงด้วยความประหลาดใจ
ป้าอู๋ตงมีความสามารถในการต่อสู้กับพวกเขาทั้งหน่วยได้เพียงลำพัง
ถ้าหวู่เหิงสามารถทำให้ป้าอู๋ตงกลายเป็นโครงกระดูกของตัวเองได้ กำลังรบของเขาก็คงจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากแน่นอน
มันชักจะน่ากลัวขึ้นมาแล้วสิ!
“ข้าเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน” ออทรัคพูดออกมา
หวู่เหิงนั้นแตกต่างไปจากนักผจญภัยทั่วไปและอาชีพของเขาก็ถูกจำกัดเอาไว้จากเมืองหินดำ เพราะมันมีกฎหมายหลายๆ อย่างที่เกี่ยวพันกับอาชีพเนโครแมนเซอร์
แม้ว่าสมาคมนักผจญภัยจะอนุมัติ แต่เมืองหินดำก็อาจจะไม่อนุมัติ ทำให้หวู่เหิงอาจจะไม่สามารถครอบครองโครงกระดูกตัวนั้นได้
เมืองหินดำจะยอมให้เนโครแมนเซอร์คนหนึ่งมีอันเดดที่ทรงพลังเช่นนั้นได้ยังไง?
ถ้าเมืองหินดำอนุมัติจริงๆ หลายคนก็อาจจะนอนไม่หลับได้
“แล้วถ้าข้าใช้รางวัลไอเท็มระดับสูงเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนล่ะ? มันจะเป็นไปได้ไหม?” หวู่เหิงเพิ่มเงื่อนไข
“ข้าเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน แต่ข้าจะลองคุยให้นะ” ออทรัคกล่าว
หวู่เหิงพยักหน้า เพราะเขาก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว
...
[แจ้งข่าวสารนะครับ หลังจากตอนที่ 41 เป็นต้นไปจะมีการเปิดกลุ่มลับในเพจเฟสบุ๊คนะครับ (Kaimah - ทรานสเลท) ราคาจะถูกกว่า กับลงในกลุ่มวันละ 3 ตอนครับ]
หลังจากออกมาจากสมาคมนักผจญภัยแล้ว หวู่เหิงก็ยังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องศพเลเวล 12 ตัวนั้น
เขาน่าจะให้มอยราตรวจสอบปืนพกของเขาเพื่อสร้างความประทับใจ เพราะบางทีเธออาจจะช่วยเขาในเรื่องนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ความคิดนี้ก็ไร้สาระเกินไป
แม้ว่าเขาจะให้เธอตรวจสอบปืนพก แต่มันก็อาจจะไม่ช่วยอะไรเช่นกัน
มันต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เพราะไม่ใช่ทุกอย่างที่จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
หลังจากกลับมาที่บ้านแล้ว เขาก็ได้เปลี่ยนชุดเกราะอันใหม่ให้กับบาเซนและมุ่งหน้าไปยังโลกซอมบี้
ณ โลกซอมบี้ นอกประตูทิศตะวันตก
กึก! กึก!
เสียงฝีเท้าจำนวนมากดังก้องมาจากถนนเบื้องหน้า
หลังจากนั้นฝูงซอมบี้ฝูงหนึ่งก็ปรากฏขึ้น และพุ่งเข้ามาพร้อมกับเสียงคำรามดุร้าย
“พลหอกออกไปรับหน้าเร็ว!” หวู่เหิงรีบสั่ง
ซอมบี้พวกนี้ราวกับว่าพวกมันกำลังซ่อนตัวอยู่เลย
พวกมันซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบๆ ก่อนที่จะโผล่หน้ากันออกมาทั้งฝูงโดยไม่มีเวลาให้หวู่เหิงได้จัดทัพเลย
โครงกระดูกผู้ใช้หอกรีบก้าวออกไปอยู่ในแนวหน้าและแทงหอกออกไป
[ทักษะจาระบี]
น้ำมันกระเซ็นไปทั่วพื้นที่กว้างสี่เมตร จากนั้นซอมบี้ที่อยู่ด้านหน้าก็ลื่นและล้มลงทันที
ก่อนที่พวกมันจะทันได้ลุกขึ้นมา มันก็มีซอมบี้จากทางด้านหลังเหยียบร่างของพวกมันไป
และพวกมันก็เริ่มล้มลงไปด้วย
หวู่เหิงชี้ไม้กายสิทธิ์ไปด้านหน้า จากนั้นหอกพลังงานสีฟ้าก็ปรากฏขึ้น จากนั้นก็พุ่งเข้าหาฝูงซอมบี้
หอกพลังงานพุ่งเข้าใส่ซอมบี้ตัวหนึ่ง ก่อตัวขึ้นเป็นไฟฟ้าสีฟ้าที่โจมตีเป้าหมาย 3-4 ตัวที่อยู่ใกล้ๆ กันด้วย
เมื่อเห็นเช่นนี้ หวู่เหิงก็ผงะไป
ทักษะศรแม่มดนี้ดูเหมือนจะมีธาตุสายฟ้าประกอบอยู่ด้วย มันดูมีประโยชน์อยู่พอสมควรเลย
ศรแม่มดเพียงหนึ่งครั้งไม่เพียงพอที่จะหยุดซอมบี้ได้
มันมีซอมบี้ที่เหยียบศพสหายของพวกมันมากขึ้นเรื่อยๆ และพุ่งเข้ามาหาพวกเขา
ฝูงซอมบี้กระแทกเข้าใส่แนวรบของโครงกระดูกโดยตรง และผลักให้โครงกระดูกที่อยู่ในแถวหน้าถอยไปข้างหลัง
ฝูงซอมบี้และกองทัพโครงกระดูกเข้าโรมรันกันวุ่นวาย
“โจมตี!”
หวู่เหิงสั่งการทันที
เหล่าโครงกระดูกที่อยู่ในแนวหลังพุ่งออกไป และเสียงการต่อสู้ก็ดังก้องไปทั่ว
พวกสุนัขโครงกระดูกก็เข้าร่วมวงด้วย ส่วนเจียนอี้และเจียนเอ๋อร์เองก็ลงมือด้วยเช่นกัน
ในการต่อสู้อันดุเดือด ฝ่ายของหวู่เหิงก็ค่อยๆ เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ
[ระดับของท่านเพิ่มขึ้นเป็นเลเวล 4 สติปัญญา +1, ความทนทาน +1, พลังวิญญาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อย]
ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นเพื่อบอกว่าเขาเลื่อนระดับเป็นเลเวลสี่แล้ว
สิ่งนี้บรรเทาความเจ็บปวดในใจของหวู่เหิงเนื่องจากการสูญเสียโครงกระดูกไปบางส่วน
เขาได้รับค่าสติปัญญาและความทนทานเพิ่มขึ้นมาอย่างละ 1 หน่วย
หวู่เหิงพบว่าค่าสถานะเหล่านี้มีประโยชน์มาก
การต่อสู้เบื้องหน้ากินเวลาต่อไปอีกสักพักและค่อยๆ สงบลง
ศพของซอมบี้และเศษโครงกระดูกกองกันเป็นเนินเล็กๆ ซึ่งดูคล้ายกับขุมนรกบนดินเลย
นักรบโครงกระดูกที่เปื้อนเลือดตั้งแต่หัวจรดเท้ากลับเข้าสู่โหมดสแตนด์บายอีกครั้ง
หวู่เหิงมองไปรอบๆ เพื่อยืนยันความปลอดภัยก่อนที่เขาจะสั่งการว่า “บาเซน ออกไปตรวจสอบย่านการค้าหน่อย”
บาเซนวิ่งออกไปในทันที
ในไม่ช้าบาเซนก็กลับมา และทำสัญญาณว่ามันไม่มีอันตรายอะไร
“พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ก่อนละกัน” หวู่เหิงบอกโครงกระดูกที่อยู่ข้างๆ เขา จากนั้นเขาก็พูดกับบาเซนว่า “พาข้าไปดูหน่อย”
บาเซนนำทางเขา และพวกเขาก็ปีนขึ้นไปบนชั้นสองของอาคารเล็กๆ แห่งหนึ่ง ทำให้พวกเขาสามารถมองเห็นย่านการค้าได้จากระยะไกล
สิ่งที่เขาเห็นบนย่านการค้านั้นก็ทำให้หัวใจของหวู่เหิงเต้นระรัว
ซอมบี้กลุ่มใหญ่เดินเตร่ไปมาบนถนนอย่างไร้จุดหมาย และมันก็มีเศษเนื้อหนังของมนุษย์กระจัดกระจายไปทั่วพื้น
มันมีคนตายมากขนาดนี้เลยเหรอ?