ตอนที่ 219 ข้องใจ
“ค่อยว่ากันตอนนั้นแล้วกัน”
เย่เฉิน พูดขึ้น
เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน เย่เฉิน ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะไปที่ไหน
ค่อยคิดไปเรื่อยๆ เถอะ อย่างไรตอนนี้ก็ไปไหนไม่ได้อยู่ดี
คืนถัดมา เย่เฉิน ได้ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์
งานเลี้ยงนี้จัดขึ้นโดยประธานบริษัทท่านหนึ่งในเจียงโจวซึ่ง เย่เฉิน เองบังเอิญรู้จักพอดี
อีกฝ่ายเชิญชวน เย่เฉิน อย่างกระตือรือร้นหลายครั้ง ในที่สุด เย่เฉิน จึงตัดสินใจมา
“หือ?”
เย่เฉิน เพิ่งก้าวเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงก็มีคนสังเกตเห็นเขา
“บังเอิญจริงๆ เลยนะเนี่ย”
เมื่อเห็น เย่เฉิน ชายหนุ่มคนหนึ่งพึมพำขึ้นมา
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือลูกชายของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งหนานเจียง — ฟาง ซิงอัน ซึ่งเคยถูก เย่เฉิน เล่นงานในงานประมูล ฟู่หยุน จนสูญเสียเงินไปหลายร้อยล้าน
ครั้งนั้นเขาโกรธจนต้องถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล พักฟื้นอยู่นานถึงสี่ห้าวันกว่าจะออกมาได้ ฟาง ซิงอัน คิดว่าจะออกมาผ่อนคลายอารมณ์สักหน่อย
แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะมาเจอกับ เย่เฉิน ที่นี่
ฟาง ซิงอัน รู้ตัวดีว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ เย่เฉิน
แต่การที่ถูก เย่เฉิน เล่นงานจนสูญเสียเงินไปหลายร้อยล้านนั้นทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก
บังเอิญว่า คืนนี้พี่ใหญ่ของเขาก็จะมาด้วย มีพี่ใหญ่อยู่ด้วย เย่เฉิน ก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว
ฟาง ซิงอัน ถือแก้วไวน์แดงเดินตรงเข้ามาหา เย่เฉิน ด้วยความมั่นใจ
“เจอกันอีกแล้วนะ”
เมื่อเดินเข้ามา ฟาง ซิงอัน กล่าวทักทาย เย่เฉิน ก่อน
“เรา..เคยรู้จักกันด้วยเหรอ?”
เย่เฉิน ถามอย่างประหลาดใจเมื่อเห็น ฟาง ซิงอัน
เราเคยรู้จักกันด้วยเหรอ?
เมื่อได้ยินสิ่งที่ เย่เฉิน พูด ฟาง ซิงอัน แทบจะกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
เย่เฉิน ทำให้เขาต้องสูญเสียเงินไปหลายร้อยล้าน แต่กลับลืมเขาได้เร็วขนาดนี้?!!
นั่นมันคือเงินตั้งหลายร้อยล้านเชียวนะเว้ย ซึ่งสิ่งนี้มันได้ทำให้เขาทุกข์ใจอยู่นานมาก
เนื่องจากเรื่องนี้ พ่อของเขาถึงกับตำหนิเขาอยู่หลายครั้งผ่านทางโทรศัพท์จนเขาไม่กล้ากลับบ้าน
แต่ผลปรากฏว่า เย่เฉิน กลับจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ?
ฟาง ซิงอัน รู้สึกเหมือนโดนซ้ำเติมอีกครั้ง
“ฉันชื่อ ฟาง ซิงอัน คนที่บริจาคเงินไปหลายร้อยล้านในงานประมูล ฟู่หยุน ครั้งที่แล้ว”
ฟาง ซิงอัน พูดอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมกับเอามือกุมหน้าอกตัวเอง
“โอ้.. เป็นคุณนี่เอง”
หลังจากฟังสิ่งที่ ฟาง ซิงอัน พูดแล้ว เย่เฉิน ก็จำได้ว่าเขาเป็นใคร
เขาเจอคนมากมาย ทั้งเศรษฐี และลูกคุณหนูเยอะแยะ แล้วเขาจะไปจำพวกเขาทั้งหมดได้อย่างไร?
เมื่อเห็นว่า เย่เฉิน จำเขาได้ ฟาง ซิงอัน จึงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
“เอ้อ.. ว่าแต่คุณชื่อ ฟาง อะไรนะ?”
เย่เฉิน ถามอีกครั้ง
เมื่อได้ยิน เย่เฉิน ถามแบบนี้ ฟาง ซิงอัน แทบจะหัวใจวายตายตรงนั่นไปอีกครั้ง
“ฟาง ซิงอัน ฟาง ซิงอัน ฟาง ซิงอัน!”
ฟาง ซิงอัน รู้สึกแย่มาก เขาตะโกนตอบ เย่เฉิน เสียงดังๆ
เขาเป็นคนไม่สำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?
ตัวเขานั้นเป็นถึงลูกชายมหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง แต่ในสายตาของ เย่เฉิน กลับเป็นเพียงแค่ตัวประกอบที่ไม่คู่ควรจะจดจำชื่อด้วยซ้ำ?
ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร ฟาง ซิงอัน ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น
ไอ้คนแซ่เย่ แกรอก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวพี่ใหญ่ฉันมา ตอนนั้นล่ะ ‘ตัวประกอบที่ไร้ชื่อ’ มันจะต้องเป็นแกอย่างแน่นอน
ฟาง ซิงอัน คิดปลอบใจตัวเอง
“ตอนนี้คุณรู้จักชื่อฉันแล้วใช่ไหม?”
ฟาง ซิงอัน ถาม เย่เฉิน
“อืม”
“รู้แล้ว ฟาง อันซิง”
เมื่อเห็น เย่เฉิน พยักหน้า ฟาง ซิงอัน ก็รู้สึกโล่งใจ
ในที่สุดเขาก็ทำให้ เย่เฉิน รู้จักชื่อของเขาได้แล้ว(?)
ในขณะนี้ ฟาง ซิงอัน ไม่รู้ว่าควรจะดีใจ หรือเสียใจดี
และเมื่อไร.. เขาจะพ้นจากสถานการณ์แบบนี้สักที?
“ฉัน...”
ฟาง ซิงอัน กำลังจะพูดอะไรต่อ
“ขอโทษทีนะ คุณฟาง อันซิง ขยับหน่อย คุณกำลังขวางทางผม”
เย่เฉิน พูดขึ้นมาทันที
เขารู้สึกหิวขึ้นมาเล็กน้อยจึงตั้งใจจะเดินไปหาอะไรทานพอดี แต่ ฟาง ซิงอัน ขวางทางอยู่ตรงหน้า
ฟาง ซิงอัน ต้องเบี่ยงตัวหลบ เพื่อให้ เย่เฉิน เดินผ่านไป
เดี๋ยวนะ?
เมื่อครู่ เย่เฉิน เรียกเขาว่าอะไรทั้งสองครั้ง?
ฟาง อันซิง?!!
เมื่อย้อนนึกถึงคำพูดของ เย่เฉิน ฟาง ซิงอัน ก็แทบจะบ้าคลั่งอย่างสมบูรณ์
เขาพยายามแก้ไขชื่อของตัวเองตั้งนาน แต่ เย่เฉิน ก็ยังเรียกชื่อเขาผิดอยู่ดี!
ฟาง ซิงอัน รู้สึกหมดหวังจนต้องทำได้เพียงแอบภาวนาในใจให้ เย่เฉิน เจอกับปัญหา
อีกเดี๋ยวพี่ใหญ่เขาจะมา ตอนนั้น ‘ตัวประกอบที่ไร้ชื่อ’ จะต้องเป็นมันอย่างแน่นอน
ฟาง ซิงอัน คิดปลอบใจตัวเองอีกครั้ง
ฟาง ซิงอัน รออย่างกระวนกระวาย เขาจ้องไปที่ทางเข้าอย่างไม่กะพริบตา
หลังจากรออยู่สิบกว่านาที เมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งเพิ่งเดินเข้ามาในสถานที่จัดงาน ฟาง ซิงอัน ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้นมาทันที
“พี่ใหญ่ คุณมาแล้ว”
ฟาง ซิงอัน รีบเดินเข้าไปทักทายด้วยความกระตือรือร้น
“หืม? นายอยู่ที่เจียงโจวด้วยเหรอ?”
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาแสดงความประหลาดใจเมื่อเห็น ฟาง ซิงอัน
“ใช่ครับ พี่ใหญ่ ไม่เจอกันนานเลยนะครับ พี่ใหญ่ดูหล่อขึ้นอีก…”
ฟาง ซิงอัน รีบพยักหน้าตอบกลับ จากนั้นก็เริ่มชมชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาด้วยคำเยินยอต่างๆ มากมาย
“ฉันก็หล่อทั่วๆ ไปแหละ..”
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาตอบอย่างถ่อมตัว
หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็เริ่มมองซ้ายมองขวา เหมือนกำลังมองหาใครบางคน
“พี่ใหญ่ นี่พี่กำลังมองหาอะไรอยู่เหรอ?”
ฟาง ซิงอัน ถามด้วยความสงสัย
“ฉันกำลังมองหาพี่ใหญ่ฉัน”
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ตอบ
อะไรนะ?!
คำพูดของชายหนุ่มเหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัวของ ฟาง ซิงอัน อย่างแรง
พี่ใหญ่เขาบอกว่ากำลังมองหาพี่ใหญ่ของเขาหรือ?
พี่ใหญ่มีพี่ใหญ่ด้วยงั้นเหรอ?
ฟาง ซิงอัน รู้ดีว่าพี่ใหญ่ของเขาคนนี้นั้นมีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งขนาดไหน…
แต่ยังมีคนที่เหนือกว่านั้นอีกเหรอ?
แล้วคนๆ นั้นเขาจะสุดยอดขนาดไหนกันนะ?
ฟาง ซิงอัน ไม่กล้าคิดจินตนาการเลย
“นี่ก็แค่ความคาดหวังของฉันเองล่ะนะ คนคนนั้นจะยอมรับฉันเป็นน้องหรือไม่ ..ก็ยังไม่รู้เลย”
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาได้แต่ถอนหายใจ
“หืม? เจอแล้ว”
ขณะที่ ฟาง ซิงอัน กำลังตกใจ ชายหนุ่มก็พบเป้าหมายของเขาที่ตามหา
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลารีบทิ้ง ฟาง ซิงอัน ไว้ข้างหลัง แล้วก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
“คุณชายเย่ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ เราได้เจอกันอีกแล้วนะครับ”
เมื่อมาถึงหน้า เย่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาก็ทักทายด้วยความเคารพ
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือ หนิง ซิวเหยียน จากตระกูลหนิงที่ร่ำรวยในหางโจว
เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ่อน้ำพุร้อนครั้งก่อน หนิง ซิวเหยียน จึงได้รู้ว่า เย่เฉิน นั้นมีฐานะ และความมั่งคั่งที่น่าเกรงขามอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงพยายามหาโอกาสสร้างความสัมพันธ์กับ เย่เฉิน
แต่เขาก็กลัวว่าถ้าหากชวน เย่เฉิน ออกมา ..เย่เฉิน อาจจะไม่มา
ดังนั้นเขาจึงวางแผนอย่างดีจนพบกับประธานบริษัทท่านหนึ่งในเจียงโจว แล้วจัดงานเลี้ยงครั้งนี้ขึ้นมา
ทั้งหมดก็เพื่อสร้างโอกาสให้เขาได้เจอกับ เย่เฉิน โดยบังเอิญ
“อ้อ เป็นนายเอง”
เย่เฉิน พูดออกมา เนื่องจากเพิ่งเจอ หนิง ซิวเหยียน เมื่อไม่กี่วันก่อน เย่เฉิน จึงยังพอจำเขาได้บ้าง
“ใช่ครับ คุณชายเย่ เป็นผมเอง”
หนิง ซิวเหยียน ตอบอย่างนอบน้อมพร้อมกับคอยเอาอกเอาใจ เย่เฉิน ตลอดเวลา
อีกด้านหนึ่ง ฟาง ซิงอัน ที่เพิ่งจะตั้งสติได้เริ่มมองหา หนิง ซิวเหยียน ที่หายไปรอบๆ
หลังจากนั้นไม่นานนัก เขาก็เห็น หนิง ซิวเหยียน ที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้า เย่เฉิน อย่างเคารพนบนอบ
ฟาง ซิงอัน ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
ไม่..ไม่มีทาง มันไม่จริงหรอกใช่ไหม?
พี่ใหญ่ที่พี่ใหญ่ของเขาบอกว่ากำลังหา ก็คือ เย่เฉิน อย่างนั้นเหรอ?!!
“อึกอึก..”
ฟาง ซิงอัน ถึงกับกลืนน้ำลายลงไปอีกหลายอึก เหงื่อเย็นเริ่มผุดขึ้นตามหน้าผากของเขา
“เสี่ยวฟาง มานี่สิ มาทักทาย คุณชายเย่”
หนิง ซิวเหยียน สังเกตเห็น ฟาง ซิงอัน จึงเรียกให้เขาเข้ามา
“ส-สวัสดีครับ คุณชายเย่”
ฟาง ซิงอัน ไม่มีทางเลือก นอกจากต้องกัดฟันเดินเข้าไปพร้อมกับร่างกายที่เกร็งไปทั้งตัว
เวลานี้สีหน้าของ ฟาง ซิงอัน เต็มไปด้วยความตกใจมาก
แท้จริงแล้ว.. เย่เฉิน กลายเป็นพี่ใหญ่ของพี่ใหญ่ของเขาไปได้อย่างไร?
นั่นไม่ได้หมายความว่า เย่เฉิน คนนี้มีฐานะที่พี่ใหญ่ของเขาอย่าง หนิง ซิวเหยียน ยังต้องเงยหน้าขึ้นมองอย่างนั้นเหรอ?
มันจะน่ากลัวขนาดไหนกัน…
ในขณะนี้ เขารู้สึกทันทีว่าการที่ เย่เฉิน จำชื่อของเขาไม่ได้ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรอีกต่อไป
บุคคลสำคัญอย่าง เย่เฉิน การไม่รู้จักชื่อของเขานี่ ..ก็คงเป็นเรื่องปกติ
หลังจากอยู่ในงานเลี้ยงสักพัก เย่เฉิน รู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ.. ในที่สุดเขาจึงขับรถออกไป โดยมี หนิง ซิวเหยียน และฟาง ซิงอัน ยืนส่ง เย่เฉิน ด้วยความเคารพ
เมื่อกลับถึงบ้าน เย่เฉิน เพิ่งจะนั่งลง ไม่นานนักก็มีเสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น
เย่เฉิน เหลือบมองนาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มเกือบจะสองทุ่ม
ใครมาหาเขาในเวลานี้กันนะ?
เย่เฉิน เดินมาเปิดประตูคฤหาสน์ของเขาด้วยความสงสัย
เมื่อเปิดประตูออกมาแล้ว เย่เฉิน ก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นเมื่อเห็นคนสองคนที่ยืนอยู่หน้าบ้าน…