บทที่ 69 หรือว่าฉันจะตกหลุมรักไปแล้ว?
เนื่องจากเหยียนเสี่ยวซีพลาดล้มเข้าไปในอ้อมกอดของเฉินเสี่ยวซินโดยไม่ตั้งใจ ทำให้เกิดแรงกระแทกอย่างแรงจนเก้าอี้ล้มลง ทั้งสองคนจึงล้มลงไปกับพื้น
ตอนนี้นักเรียนสาวอัจฉริยะสวยๆ นอนทับอยู่บนตัวเฉินเสี่ยวซิน หัวมึนงงเล็กน้อย ส่วนเฉินเสี่ยวซินที่อยู่ข้างใต้ก็ถูกกระแทกจนมึนไปหมด... ที่สำคัญยังมีนักเรียนอัจฉริยะทับอยู่บนตัว ยิ่งทำให้เขาหายใจลำบาก (ฉากนี้ละครไทยมากก-.- จากผู้แปล)
ติ๊ก------
ติ๊ก------
เข็มวินาทีบนนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังเดินไม่หยุด
ทั้งสองค่อยๆ ได้สติ มองหน้ากันในระยะประชิด ถึงขนาดได้ยินเสียงหายใจของอีกฝ่ายชัดเจน ในช่วงเวลานั้น... ราวกับเวลาหยุดนิ่ง อากาศรอบตัวเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัยหนุ่มสาวจางๆ เหมือนดอกท้อที่บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ เงียบสงบและบริสุทธิ์
"ลุกขึ้นได้ไหม?"
"หนักไปหน่อย หายใจไม่ออกแล้ว" เฉินเสี่ยวซินพูดขึ้นทันใด ลมหายใจร้อนๆ พ่นใส่ใบหน้าเนียนนุ่มของเหยียนเสี่ยวซี
ทันใดนั้น นักเรียนสาวอัจฉริยะสวยๆ สะดุ้งเฮือก แก้มทั้งสองข้างเริ่มแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แดงไปถึงคอและหู เธอรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ วิ่งหนีออกจากห้องนอนของตัวเอง เหมือนกระต่ายที่ตกใจ... ทิ้งให้เฉินเสี่ยวซินนอนอยู่บนพื้นคนเดียว
พระเจ้า! พระเจ้า! ฉัน... ฉันไม่บริสุทธิ์แล้ว... เหยียนเสี่ยวซีหนีเข้าไปในห้องน้ำ แล้วขังตัวเองไว้ข้างใน ตอนนี้เธอยืนอยู่หน้ากระจก มองดูใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเอง ความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกพลุ่งพล่านในร่างกาย เธอค่อยๆ ยกมือขึ้น ลูบแก้มของตัวเองเบาๆ ตอนนี้เธอพบว่าใบหน้าร้อนผ่าว
"ฮือ"
"ตั้งแต่เจอเขา ไม่เคยราบรื่นเลย" เหยียนเสี่ยวซีถอนหายใจอย่างจนใจ เปิดก๊อกน้ำแล้วกอบน้ำขึ้นมา ซับหน้าเบาๆ พยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว แทนที่จะกลัวๆ กล้าๆ แล้วหนีปัญหา ก็ควรกล้าเผชิญหน้ากับมันดีกว่า
แต่พูดอีกอย่าง เขาก็สุภาพดีนะ ในสถานการณ์แบบนั้น กลับไม่ได้ลวนลามอะไรฉันเลย
เช็ดน้ำบนใบหน้า เหยียนเสี่ยวซีปรับอารมณ์ แล้วค่อยๆ เดินออกจากห้องน้ำ พอมาถึงหน้าประตูห้องนอนของตัวเอง เธอก็หยุดกะทันหัน เริ่มกลัว เริ่มลังเล และเริ่มอ่อนแอ
ขณะที่เหยียนเสี่ยวซีไม่รู้จะทำอย่างไร ประตูห้องนอนก็เปิดออกจากด้านใน ทั้งสองเจอกันที่หน้าประตูพอดี
"พอดีเลย"
"ในเมื่อซ่อมคอมพิวเตอร์ให้เธอเสร็จแล้ว ฉันก็ควรกลับบ้านได้แล้ว" เฉินเสี่ยวซินมองเหยียนเสี่ยวซีที่ดูงงๆ แล้วหัวเราะเบาๆ "คราวหน้าเธอกินให้น้อยลงหน่อยนะ... เกือบจะทับฉันเป็นเนื้อบด เธอหนักสามร้อยกิโลหรือเปล่า?"
"ไสหัวไป!"
"นาย... นายสิสามร้อยกิโล!"
เหยียนเสี่ยวซีเงยหน้าขึ้น จ้องเขาอย่างดุดัน พูดอย่างโมโห "เรื่องวันนี้ห้ามพูดให้ใครรู้นะ ไม่งั้น ไม่งั้นฉันจะ... จะไม่เล่นเกมกับนายอีก แล้วก็จะบอกครูประจำชั้นให้ย้ายฉันออกไปจากนาย!"
"ครับ ครับ ครับ"
"ไม่ต้องกังวล ฉันไม่มีทางพูดออกไปแน่นอน" เฉินเสี่ยวซินยักไหล่ แล้วค่อยๆ เดินลงบันไดไป
มองดูเงาร่างที่เดินจากไป ทั้งสบายๆ และดูเย็นชานิดหน่อย เหยียนเสี่ยวซีกัดริมฝีปาก ในใจมีความรู้สึกไม่พอใจนิดๆ ที่บรรยายไม่ถูก เธอเดินตามไปเงียบๆ เดินข้างๆ เขาแล้วพูดเบาๆ ว่า "ระหว่างมัธยมปลาย... ฉันจะไม่คบแฟนหรอก อย่างน้อยต้องรอถึงเรียนปริญญาโทก่อน แล้วก็... แล้วก็ฉันไม่ยอมรับความสัมพันธ์ทางไกล ฉันว่าความสัมพันธ์ทางไกลไม่น่าไว้ใจ"
"???"
"ทำไมเธอต้องมาพูดเรื่องพวกนี้กับฉันด้วย?" เฉินเสี่ยวซินมองเธออย่างงงๆ มองนักเรียนสาวอัจฉริยะสวยๆ ที่ทำหน้าจริงจัง แล้วถามอย่างสงสัย
เหยียนเสี่ยวซีกลอกตา ตอบเรียบๆ ว่า "ฉันแค่พูดไปงั้นๆ มันไปเกี่ยวอะไรกับนายด้วย? อยากฟังก็ฟัง ไม่อยากฟังก็ไม่ต้องฟังสิ แล้วก็... อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นักเลย"
เฉินเสี่ยวซินขมวดคิ้วทันที หยุดเดินกะทันหัน มองเธอเขม็ง
"ทำ"
"ทำไมอะไร?"
เหยียนเสี่ยวซีตกใจกับการกระทำกะทันหันของเขา เม้มปากแล้วถามอย่างหงุดหงิด "จู่ๆ ทำหน้าจริงจังแบบนั้นทำไม?"
"ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้ความเชื่อของเธอดูจะสั่นคลอนนะ!" เฉินเสี่ยวซินพูดอย่างจริงจัง "สหายเหยียนเสี่ยวซีที่รัก... ตอนนี้ประเทศยังไม่รุ่งเรือง จะมาพูดเรื่องชู้สาวได้ยังไง? รีบเก็บความคิดเรื่องความรักบ้าๆ นั่นไปซะ แล้วมาพยายามไต่เต้าขึ้นไปด้วยกัน เราจะมาเจอกันที่จุดสูงสุด!"
พูดจบ เฉินเสี่ยวซินตบไหล่เธอ แล้วพูดอย่างจริงจัง "มาเข้าใกล้แสงสว่างด้วยกัน ไล่ตามแสงสว่างด้วยกัน กลายเป็นแสงสว่างด้วยกัน และแผ่แสงสว่างออกไปด้วยกัน!"
ทันใดนั้น
ในหัวของเหยียนเสี่ยวซีมีแต่เสียงอื้ออึง เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
ผ่านไปสักพัก เหยียนเสี่ยวซีถึงได้สติ แต่คนข้างๆ หายไปนานแล้ว... "เชี่ย!"
"ไอ้บ้านั่นไปไหนแล้ว?"
นักเรียนสาวอัจฉริยะที่ปกติสุภาพเรียบร้อย ตอนนี้ด่าออกมาเต็มๆ เหยียนเสี่ยวซีวิ่งออกจากบ้าน แล้วก็เห็นเงาร่างที่กำลังวิ่งหนีอยู่ไกลๆ... พรืด------
เหยียนเสี่ยวซีหลุดขำ ดวงตาเผยแววอ่อนโยนจางๆ พร้อมกับความรู้สึกจนใจเล็กน้อย
ไอ้โง่ ไอ้โง่บ้า!! .
กลางคืน มักจะเงียบสงบเสมอ
เหยียนเสี่ยวซีนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ถอดหูฟังออก ยืดตัวอย่างขี้เกียจ แล้วปิดเกมและคอมพิวเตอร์ กลับไปนอนบนเตียง มุดเข้าไปในผ้าห่ม ถือโทรศัพท์มือถือดูวิดีโอไร้สาระต่างๆ ตอนนั้นเอง... ก็มีข้อความจากใครบางคนส่งมา
เฉินเสี่ยวซิน: เราถือว่าเป็นเพื่อนสนิทกันรึเปล่า?
เหยียนเสี่ยวซีขมวดคิ้ว ถือโทรศัพท์พิมพ์ข้อความตอบอย่างรวดเร็ว แล้วกดส่ง
เหยียนเสี่ยวซี: ถือว่าเป็นศัตรู... ฉันกับนายมีความแค้นที่ล้างไม่หมด!
เฉินเสี่ยวซิน: ยังไงก็ถือว่าสนิทกันก็พอ งั้น... ขอร้องเธอเรื่องหนึ่ง
เหยียนเสี่ยวซี: ไม่ตกลง!
เฉินเสี่ยวซิน: อย่าเพิ่งปฏิเสธสิ เธอยังไม่ได้ดูเลย อย่ารีบปฏิเสธ เรื่องมันเป็นแบบนี้... ช่วงนี้มีคนมาจ้างชาร์จแบตเตอรี่สำรองเยอะขึ้นเรื่อยๆ ฉันรับงานไม่ไหวแล้ว แต่ก็ไม่อยากเสียลูกค้าดีๆ พวกนั้นไป ดังนั้น... ยังไงเงินทั้งหมดก็ให้เธอหมด
เหยียนเสี่ยวซีเบะปาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด แต่ตอนนี้เธอกลับพูดปฏิเสธไม่ออก ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยๆ ส่งคำตอบไป
เหยียนเสี่ยวซี: ช่วยได้แค่สิบอัน มากกว่านั้นแบกไม่ไหวแล้ว
เฉินเสี่ยวซิน: ได้เลย! สิบอันก็พอแล้ว!
เฉินเสี่ยวซิน: ราตรีสวัสดิ์------
เหยียนเสี่ยวซี: ไปให้พ้น------
หลังจากคุยกับใครบางคนเสร็จ เหยียนเสี่ยวซีนอนเงียบๆ บนเตียง มองเพดาน ความคิดในหัวสับสนวุ่นวาย
จะทำยังไงดี? เพื่อเขา... ดูเหมือนเธอจะทำลายขีดจำกัดของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า
หรือว่าฉันจะตกหลุมรักไปแล้ว?
จริงๆ แล้วคำตอบก็ชัดเจนอยู่แล้ว แต่เหยียนเสี่ยวซีที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองสูง ต่อให้ตายก็ไม่ยอมรับความจริงที่ว่าตัวเองชอบใครบางคนหรอก
วันรุ่งขึ้น
ในห้องทำงานของการแข่งขันคณิตศาสตร์เซินไห่
คณะครูหกคนมองดูข้อสอบของเฉินเสี่ยวซินและเหยียนเสี่ยวซี มองดูวิธีการแก้โจทย์ที่น่าทึ่งในสองข้อสุดท้าย พวกเขาตกอยู่ในความตกตะลึงอย่างถอนตัวไม่ขึ้น