ตอนที่แล้วบทที่ 167 ใครส่งเจ้ามาสังหารข้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 169 ฟางรุ่ยผู้ใช้ทวน 

บทที่ 168 เผชิญหน้าตัวเต็ง!


หลัวเฉิงยิ้มน้อยๆ “ดูท่าเจ้าคงมั่นใจมาก ว่าจะสามารถสังหารข้าได้จริงๆ”

“ทำไม เจ้าคิดว่าจะสามารถหลบพ้นเงื้อมมือของข้าได้งั้นหรือ? แค่เจ้า ข้าสามารถสังหารได้อย่างง่ายดายคล้ายบดขยี้มดปลวกเท่านั้น!”

เฉาชิงไม่ได้เห็นความสามารถของหลัวเฉิงอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย

คนไร้ค่าที่มีเพียงวิญญาณยุทธ์ขยะ ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่ หรือต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้า ไม่ว่าอย่างไรสุดท้ายขยะมันก็เป็นได้เพียงแค่ขยะเท่านั้น!

หลัวเฉิงกล่าวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “เจ้าจะรู้ได้อย่างไรหากเจ้าไม่ลงมือ”

เฉาชิงหรี่ตาลง “ไยเจ้าจึงยังบ้าได้ขนาดนี้แม้นจะเห็นว่าความตายอยู่ตรงหน้า! แต่น่าเสียดายที่เจ้าไม่มีคุณสมบัติมากพอจะสู้กับข้า”

“ไปจับมันเอาไว้! แล้วอย่าเพิ่งรีบสังหารมันเล่า ข้าอยากจะให้มันได้ลิ้มรส ว่าความรู้สึกอยู่ไม่สู้ตายนั้นเป็นอย่างไร!”

เฉาชิงคิดว่ามันไม่เหมาะสมกับฐานะตนหากจะลงมือกับคนไร้ค่าด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงสั่งศิษย์อีกสองคนแทน

“ทราบแล้วศิษย์พี่!”

“ไอ้หนู ความบ้าบิ่นจะนำหายนะมาสู่ตน ในเมื่อเจ้าเรียกร้องมันนักก็อย่าได้ตำหนิข้า!”

ศิษย์บำรุงสำนักสองคนก็เข้าล้อมเขาไว้ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

หลัวเฉิงเหลือบมอง “สองคนหรือช่างดูถูกกันยิ่งนัก เข้ามาพร้อมกันทั้งสามคนเลยดีกว่า!”

“สถานการณ์เช่นนี้เจ้ายังกล้าปากดีอีก ช่างไม่รู้จักประมาณตน!”

“วันนี้ข้าจะลังเลือดของเจ้าให้นองพื้น!”

หลังได้ฟังวาจาของหลัวเฉิง ศิษย์บำรุงสำนักทั้งสองไหนเลยจะไม่แค้นใจ ใบหน้าของพวกเขาแดงก่ำไปด้วยเลือดที่พุ่งพล่าน

แม้ฝีมือพวกเขาจะมิอาจเปรียบกับเฉาชิงได้ แต่พวกเขาก็ยังเป็นศิษย์ผู้มีฝีมือโดดเด่นในบรรดาศิษย์บำรุงสำนักด้วยกัน ทว่ายามนี้กลับถูกคนไร้ค่าเหยียดหยามมีหรือพวกเขาจะทนได้!

“ไปตายซะ!”

เกือบจะในเวลาเดียวกัน ทั้งสองพุ่งตัวเข้าไปโจมตีหลัวเฉิงพร้อมกันทันที

“ตายซะ!”

หลัวเฉิงไม่พูดพล่ามทำเพลงให้มากความ ชั่วพริบตาก็ขยับฝีเท้าเข้าหา หนึ่งหมัดชก หนึ่งเท้าเตะอย่างรุนแรง

ผลั่ก! ผลั่ก!

ศิษย์บำรุงสำนักสองคนร่ำร้องอย่างเจ็บปวด ร่างละลิ่วปลิวออกไปคล้ายกับใบไม้ที่ร่วงหล่น ก่อนกระแทกเข้ากับพื้นอย่างแรง แล้วแน่นิ่งไปมิอาจทราบได้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว!

“หืม?”

เฉาชิงขมวดคิ้วทันที พร้อมนัยน์ตาฉายแววตกตะลึงเล็กน้อย

คนสองคนนี้ คนหนึ่งเป็นผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสาม และอีกคนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่ กลับถูกสังหารทันทีหลังได้เผชิญหน้าเพียงครั้งเดียว!

“ฝีมือเจ้าไม่เลว! ขอข้าดูหน่อย!”

เฉาชิงตวาดลั่นพร้อมกับสะอึกกายพุ่งเข้าหาหลัวเฉิง แล้วเตะตัดอากาศเข้าใส่อย่างรุนแรง

วืด!

ด้วยพลังอันมหาศาลของกระบวนท่านี้ ทำให้มวลอากาศโดยรอบประหนึ่งถูกเขย่าอย่างรุนแรง ก้อนหินดินทรายที่เกลื่อนพื้นกระจายไปทั่ว

หลัวเฉิงคล้ายจะมีสายตามองเห็นข้างหลัง จึงขยับสามก้าวไปข้างหนึ่งเพื่อหลบปราณเตะของเฉาชิง

“ข้าบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าจะให้เจ้าหนี?”

มุมปากเฉาชิงยกขึ้นยิ้มอย่างเย้ยหยัน แล้วตวัดมือฟาดเข้าใส่หลัวเฉิงอีกครั้งอย่างดุดันไร้ปรานี

“ใครจะหนี?”

หลัวเฉิงเหยียดยิ้มเยาะแล้วหันกลับมาชกหมัดสวนทันที

หนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือเข้าปะทะกันอย่างแรง จนเกิดเสียงอึกทึกกัมปนาท คลื่นลมแรงแผ่กระจายพัดใบไม้ร่วงหล่นจนปลิวว่อน

หลัวเฉิงถอยไปครึ่งก้าว แต่ร่างกำยำของเฉาชิงกลับถอยไปไกลเจ็ดหรือแปดก้าวก่อนที่เขาจะหยุดนิ่ง!

“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!”

ดวงตาของเฉาชิงเบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เขาเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้า กล้ามเนื้อและร่างกายก็แข็งแกร่งมิใช่ชั่ว ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิบตัวเต็งของการทดสอบชิงอวิ๋นอีกต่างหาก!

แต่บัดนี้ เขาถูกบังคับให้ล่าถอยไปไกลโดยคนไร้ค่าที่มีเพียงวิญญาณยุทธ์ขยะเท่านั้น อีกทั้งดูท่ามันยังเพิ่งทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่ได้เพียงไม่นาน!

นี่มันเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี ไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง!

“รับฝ่ามือข้าไป! ฝ่ามือทลายวายุ!”

ด้วยความคับแค้นใจเป็นที่สุด เฉาชิงเปิดปากตวาทลั่นพร้อมปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ ทันใดหมีสีแดงขนาดยักษ์ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหลัง ในตัวมันมีดาวห้าดวงส่องแสงเจิดจ้าระยิบระยับ พริบตาก็ซัดปราณฝ่ามือเข้าใส่หลัวเฉิงทันที!

“ย่อมได้! สะท้านขุนเขา!”

จวบกระทั่งตอนนี้ ในที่สุดก็มีคนที่สามารถรับมือกับเขาได้เกินหนึ่งกระบวนท่าเสียที หลัวเฉิงรับรู้ได้ถึงแรงกดดันของวิญญาณยุทธ์ฝ่ายตรงข้าม จึงใช้เพลงหมัดสยบภูผาของตนเข้าต้านทันที

บูม!

หมัดและฝ่ามือปะทะกันอีกหน คลื่นแรงปะทะแผ่กระจายเป็นวงกว้าง เฉาชิงกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ แม้นเท้าจะเหยียบพื้นจนมั่นแต่ก็ยังถลาถอยหลังออกไปอีกไกลโข มือขวาของเขาสั่นสะท้านเล็กน้อย

เฉาชิงกลั้นข่มอารมณ์ความเจ็บปวดแล้วมองยังหลัวเฉิง ในแววตาเขายามนี้หลงเหลือไว้เพียงความตกตะลึงและความตื่นกลัวเท่านั้น ทันใดก็เปิดปากร้องตะโกนข้ามไปยังอีกฟากของป่าทึบ

“ฟางรุ่ย เจ้าจะอยู่เฉยดูการต่อสู้นี้ไปอีกนานแค่ไหน! หรือเจ้าต้องการรอให้ไอ้เด็กนี่มันชนะทุกคนเสียก่อนงั้นหรือ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด