บทที่ 42 : วิชาดาบคลั่งสามวิถีสั่นพ้องกับวิชาดาบตัดวิญญาณ!
บทที่ 42 : วิชาดาบคลั่งสามวิถีสั่นพ้องกับวิชาดาบตัดวิญญาณ!
วิชาดาบตัดวิญญาณ, เป็นวิชาลับสุดยอดของสำนักธารา!
ทั้งสำนักธารามีเพียงหวูหย่ง, และผู้อาวุโสอีกสองสามคนเท่านั้นที่มีสิทธิ์ฝึกฝน
ดังนั้น, หลินเสวียนไม่มีทางเคยฝึกฝนวิชาดาบตัดวิญญาณมาก่อนอย่างแน่นอน!
แต่ ณ ขณะนี้…หวูหย่งมั่นใจอย่างยิ่งว่าออร่าดาบที่แผ่ออกมาจากร่างกายของหลินเสวียนในตอนนี้, คือออร่าของวิชาดาบตัดวิญญาณอย่างแน่นอน!
แม้ว่าจะยังเทียบกับเขาไม่ได้ แต่มันก็เป็นของจริง!
"ท่านเจ้าสำนัก...จะเป็นไปได้ไหมว่า หลินเสวียนใช้เจตนาดาบที่อยู่ภายในดาบตัดวิญญาณ บรรลุวิชาดาบตัดวิญญาณโดยตรง?"
ลุงไห่คาดเดาด้วยความตกตะลึง
เข้าใจวิชาดาบจากเจตนาดาบ!
พรสวรรค์ของหลินเสวียน สูงส่งถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
เเละเมื่อหวูหย่งได้ยินดังนั้น, ดวงตาของเขาก็เปร่งประกายทันที
"ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่า หลินเสวียนเข้าร่วมสำนักเทียนเซียวได้ไม่กี่วันก็สามารถทะลวงไปสู่ขอบเขตหลอมรวมลมปราณขั้นที่สามได้!"
"นอกจากนี้, เขายังผ่านการประเมินระดับยากของสำนักเทียนเซียวใช่ไหม?"
"ใช่ครับ!" ลุงไห่พยักหน้า
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ซูเหอเล่าให้ฟัง, มันจึงน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง
"อืม!"
"ข้าบอกเจ้าได้เลยว่าตอนนี้พลังลมปราณของหลินเสวียนไม่ใช่ขอบเขตหลอมรวมลมปราณขั้นที่สามหรือขั้นที่สี่….แต่เป็นอย่างน้อยก็อยู่ในขอบเขตหลอมรวมลมปราณขั้นที่เจ็ด!" หวูหย่งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
คนอื่นอาจจะดูพลังลมปราณของหลินเสวียนไม่ออก แต่หวูหย่งดูออก เพราะพลังลมปราณของเขาสูงกว่าหลินเสวียนมาก
"อะไรนะ?"
"ขอบเขตหลอมรวมลมปราณขั้นที่เจ็ด?" ลุงไห่เบิกตากว้างอย่างตกตะลึง!
"หลินเสวียน เข้าร่วมสำนักเทียนเซียวได้ไม่นาน…ก็ฝึกฝนจนถึงขอบเขตหลอมรวมลมปราณขั้นที่เจ็ดแล้ว!"
"เขาเกิดมาเพื่อที่จะเป็นเซียนอย่างแท้จริง!"
"ด้วยพรสวรรค์ระดับนี้ การเข้าใจวิชาดาบจากเจตนาดาบก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้!"
หลังจากพูดจบ สายตาที่หวูหย่งมองหลินเสวียนก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
"ท่านเจ้าสำนัก, ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี?"
"วิชาดาบตัดวิญญาณเป็นวิชาลับสุดยอดของสำนักธาราของเรา!"
"จะทำอย่างไรดี?"
"ก็ทำเป็นไม่เห็นสิ!" หวูหย่งพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น
หลินเสวียนเข้าใจวิชาดาบตัดวิญญาณไปเเล้ว…นั่นคือความจริง เปลี่ยนแปลงไม่ได้!
อีกอย่าง, สำนักธาราตั้งดาบเอาไว้ให้คนเห็นเอง…จะไปห้ามไม่ให้คนที่มีพรสวรรค์มาเข้าใจวิชาดาบตัดวิญญาณได้อย่างไร?
นั่นมันไม่สมเหตุสมผลเลย
แน่นอนว่าถ้าเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีภูมิหลัง, หวูหย่งคงไม่คิดแบบนี้
เเต่ตอนนี้, เขาทำได้แค่แกล้งทำเป็นไม่เห็น…และผูกมิตรกับหลินเสวียนไว้เช่นเดิมเท่านั้น
ศิษย์ชั้นยอดของสำนักเทียนเซียว!
ในอนาคต, เขาอาจจะนำผลประโยชน์มหาศาลมาสู่สำนักธาราก็ได้!
"จริงสิ!"
"ต้องผูกมิตรกับตระกูลหลินด้วย!"
“ไห่เทียน, เจ้าจงจำเอาไว้…ต่อไปนี้เรื่องของตระกูลหลินก็คือเรื่องของสำนักธารา” หวูหย่งพูดด้วยสายตาที่เป็นประกาย
“ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการผูกมิตรกับผู้แข็งแกร่ง, ไม่ใช่ตอนที่เขาแข็งแกร่ง…แต่เป็นตอนที่เขายังไม่รุ่งโรจน์!”
“การได้ผูกมิตรกับหลินเสวียนในตอนที่เขายังอ่อนแอเป็นเรื่องที่หลายคนได้เเต่ใฝ่ฝัน!”
“เราต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ได้!”
หวูหย่งมองหลินเสวียนที่เจตนาดาบบนร่างกายของเขาเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ…แล้วตัดสินใจในใจ
“เข้าใจแล้วท่านเจ้าสำนัก!” ลุงไห่พยักหน้าอย่างจริงจัง!
……
“ฟุ่บ!”
ในตอนนี้เอง, หลินเสวียนที่กำลังเข้าใจแก่นแท้ของวิชาดาบตัดวิญญาณก็ก้าวเท้าไปข้างหน้าอีกก้าวใหญ่!
เคร้ง!
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังของหลินเสวียน, ดาบตัดวิญญาณที่อยู่บนก้อนหินสีดำ ก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง!
ทันใดนั้น, ปราณดาบอันแหลมคมก็พุ่งทะลุอากาศ…เเละตรงไปยังหว่างคิ้วของหลินเสวียน!
“ฟุ่บ!”
ปราณดาบพุ่งเข้าปะทะหว่างคิ้วของหลินเสวียน…กลายเป็นรอยประทับรูปดาบที่ปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง
[วิชาดาบตัดวิญญาณที่วิชาดาบคลั่งสามวิถีเข้าใจ…เกิดการสั่นพ้องกับดาบตัดวิญญาณ!]
[ดาบตัดวิญญาณได้มอบปราณดาบออกมาหนึ่งสาย…ทำให้สามารถเข้าใจวิชาได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น!]
[วิชาดาบคลั่งสามวิถี สัมผัสได้ถึงดาบที่เหนือกว่าตนเอง จึงเข้าสู่สภาวะหลับใหล…กำลังทำความเข้าใจวิชาดาบตัดวิญญาณอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น!]
“วิชาดาบตัดวิญญาณมอบปราณดาบออกมาหนึ่งสายเพื่อช่วยให้เราเข้าใจวิชามากยิ่งขึ้น?”
หลินเสวียนก็รู้สึกตกตะลึงเช่นกัน
ตอนนี้เขาไม่รู้เเล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างเเล้ว
“เอาเป็นว่า…นี่น่าจะเป็นเรื่องดี!”
“ตอนนี้วิชาดาบคลั่งสามวิถีเลื่อนระดับเป็นระดับสีเหลืองขั้นสูงแล้ว และครั้งนี้เพื่อที่จะเข้าใจแก่นแท้ของวิชาดาบตัดวิญญาณ…มันจึงเข้าสู่สภาวะหลับใหล”
“ดังนั้นเมื่อวิชาดาบคลั่งสามวิถีตื่นขึ้นมาอีกครั้ง…คาดว่ามันจะไม่ใช่ระดับสีเหลือง, แต่เป็นระดับลึกลับขั้นต้น!”
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้…ดวงตาของหลินเสวียนก็เปร่งประกาย!
ฟุ่บ!
หลังจากนั้น, ร่างกายของหลินเสวียนก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเเละถอยกลับไปยังข้างๆหวูหย่ง!
“น้องหลิน!”
“พี่ชายยอมแพ้แล้วจริงๆ!”
“ไม่คิดเลยว่าวิชาดาบตัดวิญญาณที่แม้แต่คนในสำนักธารายังมีไม่กี่คนยที่สามารถฝึกฝนได้….จะถูกน้องหลินเข้าใจจากเจตนาดาบโดยตรง”
หวูหย่งพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
“พี่หวู ข้าต้องขอโทษจริงๆ…ข้าก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น วิชาดาบนี้…”
หลินเสวียนแสร้งทำเป็นรู้สึกผิด
“น้องหลิน, เจ้าพูดอะไรอย่างนั้น!”
“ดาบเล่มนี้ตั้งอยู่ตรงนี้, ข้าจะไปห้ามไม่ให้คนอื่นเข้าใจวิชาดาบได้อย่างไร?”
“เเละการที่เจ้าเข้าใจวิชาได้…นั่นก็เป็นเพราะพรสวรรค์อันสูงส่งของเจ้า!”
หวูหย่งพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง ราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องการโดนขโมยเรียนวิชาดาบเลยสักนิด
“ถ้าอย่างนั้น…ข้าก็ต้องขอบคุณความใจกว้างของพี่หวูมากๆ”
พี่ชายคนใหม่ของเขานี้นิสัยดีจริงๆ!
“มาเถอะ…น้องหลิน”
“เข้าไปนั่งข้างในกันก่อน!”
“แม้ว่าสำนักธาราของเราจะเทียบกับสำนักเทียนเซียวไม่ได้…แต่ก็มีสิ่งที่พิเศษอยู่บ้าง”
หวูหย่งพูดพร้อมรอยยิ้ม, แล้วเชิญหลินเสวียนเข้าไปในสำนัก
……
หลินเสวียนอยู่ที่สำนักธาราครึ่งวัน, จากนั้นจึงขอตัวกลับไปที่ตระกูลหลิน
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา, หลินเสวียนปรุงน้ำยาสมุนไพรสำหรับแช่ตัวจำนวนมากแล้วมอบไว้ให้หลินเทียน
ตอนนี้, ทั้งหลินเทียนเเละหลินหลันต่างก็กำลังฝึกฝนวิชาระฆังทองคำอมตะ
การมีน้ำยาสมุนไพรช่วยเสริม…ย่อมทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
พ่อของหลินเสวียนก็แช่น้ำยาสมุนไพรเช่นกัน…เพราะมันสามารถเสริมสร้างร่างกายเเละเพิ่มพลังเลือดได้
ถึงแม้จะไม่สามารถทำให้ร่างกายแข็งแกร่งจนถึงขั้นฝึกฝนวิชาระฆังทองคำอมตะได้…แต่การยืดอายุขัยนั้นไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
ส่วนหลินเสวียน!
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาพลังลมปราณของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก
“ดูเหมือนว่าการฝึกฝนในสำนักจะดีกว่า”
“อย่างน้อยๆ…เรื่องทรัพยากรก็อุดมสมบูรณ์กว่ามาก!”
“คิดดูแล้ว, นี่ก็ใกล้ถึงเวลาที่ศิษย์สายนอกจะได้รับทรัพยากรแล้ว”
หลังจากผ่านไปสามวัน หลินเสวียนก็ดูเวลา…แล้วตัดสินใจ
ตอนนี้, ถึงเวลาที่เขาต้องกลับไปที่สำนักแล้ว!
………………….