ตอนที่แล้วบทที่ 165 คำขู่ไม่เป็นผล!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 167 ใครส่งเจ้ามาสังหารข้า

บทที่ 166 กลยุทธ์ขจัดเสี้ยนหนาม 


หลัวเฉิงโบกมือแล้วกล่าวว่า “เกรงใจเกินไปแล้ว แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น อีกอย่างข้าไม่ชอบวิธีการของคนเหล่านี้สักเท่าไหร่”

เซวียเหิน กล่าวว่า “ถึงกระนั้น หากมิใช่เพราะศิษย์พี่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ข้าเซวียเหินคงตายไปแล้วในครั้งนี้ ข้าจะจดจำพระคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านไว้! และข้าจะไม่มีวันเปิดเผยที่อยู่ของท่านให้ผู้อื่นล่วงรู้เป็นอันขาด!”

“ไม่ได้”

หลัวเฉิงส่ายศีรษะ

“ข้ากล่าวผิดไปคำหนึ่งกระนั้นหรือ?”

เซวียเหินใช้แววความสงสัยในดวงตา

หลัวเฉิงยิ้มและกล่าวว่า “ข้าไม่ต้องการให้เจ้าช่วยปิดบังเรื่องที่อยู่ของข้า แต่ในทางกลับกันข้าต้องการให้เจ้ากระทำบางสิ่งเพื่อข้าเท่านั้นเอง”

เซวียเหินกล่าวอย่างเร่งรีบ “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอันใด ข้าเซวียเหินจะไม่บ่ายเบี่ยงอย่างแน่นอน!”

หลัวเฉิงกล่าวน้ำเสียงสงบ “มันมิได้เป็นเรื่องอันตรายร้ายแรงอะไร เจ้าแค่ไปบอกทุกคนว่าข้าอยู่ที่นี่ก็พอแล้ว”

“บอกทุกคนว่าท่านอยู่ที่นี่กระนั้นหรือ!”

ดวงตาเซวียเหินเบิกกว้าง คล้ายว่าเขาได้ฟังอะไรผิดไป “ศิษย์พี่ท่านล้อข้าเล่นหรือ? รู้หรือไม่ว่ามีคนนับไม่ถ้วนต้องการศีรษะท่านเพื่อแลกกับการกลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอก หากที่อยู่ของท่านถูกเปิดเผย ข้าเกรงว่า…”

“ข้าไม่ได้ล้อเจ้าเล่น”

หลัวเฉิงขัดจังหวะอีกฝ่ายแล้วกล่าวเสริมว่า “หากเจ้าต้องการตอบแทนบุญคุณที่ข้าช่วยชีวิต ก็ไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย สำคัญกว่านั้นคือต้องป่าวประกาศเรื่องนี้ให้คนรับรู้มากที่สุด!”

ผู้ที่ต้องการสังหารเขาอย่างไรเสียก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจ สุดท้ายก็จะตามรังควานไม่เลิกรา!

หลัวเฉิงใคร่ครวญเรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่แทนที่เขาจะไปตามหาหลินจินไท่ด้วยตนเอง ซึ่งนั่นเท่ากับว่ามองหาเข็มในผืนหญ้า มิสู้เปลี่ยนให้อีกฝ่ายมาตามหาเขาแทนจะไม่ง่ายกว่าหรือ

นี่จึงจะถือว่าเป็นการขจัดเสี้ยนหนามให้หมดสิ้นในคราเดียว!

เซวียเหินตะลึงตะไลเป็นที่สุด เมื่อเห็นว่าหลัวเฉิงไม่ได้กล่าววาจาล้อเล่นกับเขา

หากข่าวนี้ถูกแพร่ออกไป ไม่รู้เลยว่าจะมีคนมากขนาดไหนที่กรูกันเข้ามาหมายสังหารหลัวเฉิง!

เมื่อถึงตอนนั้น เกรงว่าป่ารกทึบแห่งนี้ จะเกิดพายุนองเลือดครั้งใหญ่กลายเป็นขุมนรกแห่งการสังหารทันที!

ถ้าหลัวเฉิงไม่ได้บ้า เขาก็คงมีความมั่นใจในฝีมือตนมากทีเดียวที่จะต้องเผชิญหน้ากับคนจำนวนมาก!

ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะต้องเผชิญหน้ากับตัวเต็งสิบอันดับแรกก็เป็นได้!

ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่ มีความสามารถกระทำการเช่นนี้ได้กระนั้นหรือ?

เซวียเหินใคร่ครวญอยู่ในใจหลายรอบ แต่บทสรุปที่ได้ก็คือหลัวเฉิงต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ!

เมื่อเห็นว่าเซวียเหินยังคงเงียบงัน หลัวเฉิงก็ขมวดคิ้วนิ่วหน้าเล็กน้อย “ทำไม เจ้าทำไม่ได้งั้นหรือ?”

เซวียเหินได้สติกลับมา จากนั้นกล่าวด้วยความเคารพทันที “ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล ข้าจะรีบไปจัดการให้! ทุกคนต้องได้ทราบข่าวนี้อย่างแน่นอน!”

“ประเสริฐ เจ้ารีบไปเถอะ!”

หลัวเฉิงพยักหน้า

“ศิษย์พี่โปรดระวังตัวด้วย!”

เซวียเหินมองหลัวเฉิงอย่างลึกซึ้ง

ด้วยในใจรู้ว่า บนเกาะชิงอวิ๋นแห่งนี้ต้องเกิดพายุลูกใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!

โดยไม่ได้กล่าวอะไรเสริมอีก เซวียเหินก็หันหลังแล้วพุ่งร่างเข้าไปในป่าทึบทันที

“ฮ่าฮ่า ข้าอยากจะเห็นนักว่าจะมีคนมากขนาดไหนที่ต้องการหัวของข้าผู้นี้!”

หลัวเฉิงเงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วระเบิดเสียงหัวเราะอย่างอำมหิต จากนั้นจึงนั่งลงบนพื้นเข้าชานสมาธิแล้วเริ่มกลืนกินวิญญาณยุทธ์จากศพเหล่านี้ทันที

แสงแวววาวเจ็ดสีส่องประกายอย่างงดงาม และวิญญาณยุทธ์ก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างของหลัวเฉิงทีละสี

พัฟ!

ร่างกายหลัวเฉิงสะท้านขึ้นเล็กน้อย หลังจากกลืนกินวิญญาณยุทธ์ของผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ทั้งเจ็ดในลมหายใจเดียว

ภายในตันเถียนยามนี้ เศียรของปราณมังกรค่อยๆ เด่นชัดและสง่างามมากขึ้น ดวงตามังกรคู่นั้นเปล่งประกายสดใสคล้ายมีพลังอันไร้ที่สิ้นสุด

“ใกล้แล้ว! ปราณมังกรใกล้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งที่สามในอีกไม่นานนี้แน่!”

หลัวเฉิงเปิดตาขึ้น พร้อมกับใบหน้าอันเปี่ยมด้วยความปีติ

ในระดับสามของวิชามังกรแท้ ปราณมังกรจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่หัวมีรูปร่างคล้ายหัวอูฐ ซึ่งตอนนี้มันก็เริ่มก่อเกิดเป็นเค้าโครงแล้ว!

การกลืนกินวิญญาณยุทธ์ เป็นหนทางการฝึกแบบรวบรัดของวิชามังกรแท้เป็นแน่!

แท้จริงแล้ว หลัวเฉิงก็ได้ใคร่ครวญเรื่องนี้ก่อนจะขอให้เซวียเหินไปเปิดเผยที่อยู่เขา

มีคนมากมายต้องการศีรษะเขา หลัวเฉิงจึงจะอาศัยโอกาสนี้เปลี่ยนแปลงวิกฤตให้กลายเป็นโอกาส เปลี่ยนคนเหล่านี้เป็นบันไดหินให้เขาเหยียบย่างขึ้นไปสู่ความแข็งแกร่งอันยิ่งใหญ่!

ในเมื่อพวกเขามีความโลภมาก ก็ต้องจ่ายในราคาที่สูงทัดเทียมกัน!

หลัวเฉิงผงาดกลายขึ้นยืนแล้วเริ่มร่ายรำกระบี่

วืด!

ลมกระบี่อันรุนแรงพัดเข้าปะทะต้นไม้ใหญ่ พานให้ใบไม้ร่วงหล่นปลิวว่อน!

“ข้าอยากเห็นนักว่าใครจะมาเป็นคนแรก!”

หลัวเฉิงชูกระบี่ขึ้นสูงพร้อมรอยยิ้มอำมหิต จากนั้นหันหลังเดินไปยังโขดหินขนาดใหญ่ แล้วนั่งเข้าฌานสมาธิ เพื่อปรับแต่งปราณให้เข้าที่

เวลาล่วงเลยไปทีละน้อย ดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้ากำลังจมลงทางด้านทิศตะวันตก เหลือเพียงแสงแดงระเรื่อจับเส้นขอบฟ้า ย้อมผืนป่าให้กลายเป็นสีแดง!

ฟึบ!

หลัวเฉิงลืมตาขึ้น พร้อมกับประกายแสงสว่างดุจอัสนี!

มาแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด