ตอนที่แล้วบทที่ 164 หนึ่งกระบี่สามศีรษะ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 166 กลยุทธ์ขจัดเสี้ยนหนาม 

บทที่ 165 คำขู่ไม่เป็นผล!


“อ๊า! อ่า...”

ศิษย์บำรุงสำนักที่เหลือ ใบหน้าของพวกเขาล้วนชุ่มโชคไปด้วยคราบโลหิต ในแววตามองเห็นเพียงสีแดงฉานอันน่าสยดสยอง

เมื่อสายตาประจักษ์เห็นศพที่นอนชักกระตุกอยู่บนพื้น ร่างก็ผงะถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจากก้นบึ้ง

ฉึก!

แต่ขณะที่พวกเขาเปิดปากจะแผดเสียงร้อง ก็ปรากฏแสงกระบี่วาวเยือกสายหนึ่ง จมเข้าไปในปากยับยั้งความหวาดกลัวของพวกเขาทันที

อึก!

เซวียเหินซึ่งยืนมองเหตุการณ์อยู่ทางด้านข้าง ก็ถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง ดวงตาเบิกกว้างราวกับว่าเขาได้เห็นเรื่องที่น่าทึ่งที่สุดในโลก

ผู้ฝึกยุทธ์สามคนในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสาม และผู้ฝึกยุทธ์สี่คนในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่!

เมื่อทั้งเจ็ดคนรวมกลุ่มตั้งเป็นกองกำลัง ความแข็งแกร่งนั้นย่อมมิใช่น้อย แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนถูกสังหารสิ้นในการเผชิญหน้าเพียงครั้งเดียว ซ้ำยังไร้พลังไม่อาจต้านได้แม้เพียงกระบวนท่า!

นี่มันความแข็งแกร่งอะไรกัน!

ต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าก็ไม่อาจกระทำการได้เช่นนี้!

แม้ตัวเขาจะได้ประจักษ์ชัดกับตาตนเองแล้ว แต่เซวียเหินก็ยังไม่อยากจะเชื่อราวกับว่ากำลังตกอยู่ในห้วงความฝัน

“นี่มันเป็นไปไม่ได้ ไม่อาจเป็นไปได้อย่างแน่นอน! เจ้าเป็นเพียงแค่คนไร้ค่าที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะขึ้นมา จะสามารถแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร!”

เฉาจีมองยังหลัวเฉิงด้วยความหวาดกลัว แต่ในใจกลับไม่อาจยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้

หลัวเฉิงเหลือบมองเขาด้วยหางตาแล้วกล่าวน้ำเสียงราบเรียบ

“ตอนนี้เจ้าจะบอกข้าได้หรือยัง ว่าเหตุใดเฉาชิงจึงตามหาข้า”

เพียงแววตาที่จ้องมองมาก็ทำเอาเฉาจีถึงกับรู้สึกหนาวสั่นทั่วทั้งกระดูกสันหลัง ไหนเลยเขาจะกล้าปกปิด เบื้องหน้าเขายามนี้คล้ายไม่ใช่คน แววตาที่มองมาดุจเดียวกับมัจจุราช

“ข้า...ข้าไม่ค่อยรู้ละเอียดนัก เพียงได้ยินมาจากลูกพี่ลูกน้องข้าว่ามีคนขอให้เขากับฟางรุ่ยสังหารเจ้าในการทดสอบชิงอวิ๋น”

“โอ้? สองตัวเต็งสิบอันดับแรกงั้นหรือ!”

หลัวเฉิงเลิกคิ้วขึ้นคล้ายกำลังนึกคิด หากเป็นผู้อาวุโสเหออยู่เบื้องหลัง ก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกกังวลแต่อย่างใด

“มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ต้องการเอาชีวิตข้า!”

หลัวเฉิงเหยียดยิ้มเย็นชา

ด้วยอำนาจที่สามารถสั่งการตัวเต็งสิบอันดับแรกได้อย่างใจนึก นั่นเท่ากับว่าฐานะของผู้อยู่เบื้องหลังนั้นย่อมไม่ธรรมดา

แต่เขายังไม่รู้ว่าเป็นฉินต้าวหยวนผู้อาวุโสของสำนักฝ่ายนอก หรือ จินหมินศิษย์หลักกันแน่

“หลัวเฉิง ข้าบอกเจ้าในทุกเรื่องที่ข้ารู้แล้ว ข้าไปได้หรือยัง?”

เฉาจีมองหลัวเฉิงด้วยแววตาหวาดหวั่นยิ่ง

“ไปงั้นหรือ?”

หลัวเฉิงส่ายศีรษะแล้วกล่าวน้ำเสียงราบเรียบ “เพื่อเป็นการตอบแทนที่เจ้าอุตส่าห์บอกเรื่องนี้แก่ข้า ข้าจะทำให้เจ้าจากไปอย่างไม่เจ็บปวด”

“เจ้า! เจ้าต้องการฆ่าข้างั้นรึ!”

ดวงตาเฉาจีเบิกกว้างแล้วกล่าวอย่างรวดเร็ว “หลัวเฉิง ลูกพี่ลูกน้องของข้าคือเฉาชิง หนึ่งในสิบตัวเต็งอันดับแรก! หากเจ้าสังหารข้าเขาจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่! ไม่ว่าเจ้าจะมีความแข็งแกร่งมากขนาดไหนก็ไม่มีวันประมือกับเขาได้!”

โดยมีเฉาชิงเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เฉาจีจึงไม่ได้หวาดกลัวต่อศัตรูใด จึงคิดว่าหากกล่าวออกไปหลัวเฉิงต้องไม่กล้าแตะต้องเขาอย่างแน่นอน!

“เฉาชิง?”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของหลัวเฉิง ทันใดก็เอื้อมมือไปคว้าคอของเฉาจียกขึ้นแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มอำมหิต

“แม้แต่ผู้อาวุโสข้าก็ทำให้ขุ่นเคืองมาแล้ว คิดว่าข้ายังจะกลัวเฉาชิงอยู่หรืออย่างไรกัน หากเจ้าคิดจะใช้อำนาจเขาข่มขู่ข้า เกรงว่าเจ้าคงคิดผิด”

แฮก! แฮก! แฮก!

ใบหน้าของเฉาจีเริ่มเปลี่ยนเป็นแดงก่ำและใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อสูดลมหายใจเข้า มือเท้าพยายามกระเสือกกระสนดิ้นรนให้หลุดจากมือที่กำลังกระชับลำคอเขาไว้แน่น

ในตอนนี้ เขาก็ได้เข้าใจว่าความหวาดกลัวที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร

เขาไม่คิดเลยว่าหลัวเฉิงผู้นี้จะกล้ามากขนาดไร้ซึ่งความหวาดกลัวต่อนามเฉาชิง ขณะที่พยายามจะเปิดปากอ้อนวอนร้องขอความเมตตา แต่เสียงที่ส่งออกมากลับเป็นเพียงเสียงอากาศหวีดหวิว

“ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานข้าจะให้เจ้ากับลูกพี่ลูกน้องของเจ้าได้พบกันอีกครั้งในปรโลก!”

สิ้นเสียง หลัวเฉิงก็บีบมือเข้าอย่างแรง

เสียงกร๊อบดังขึ้นที่คอของเฉาจี เมื่อกระดูกลำคอถูกบีบจนละเอียดเขาก็สิ้นใจตายคามือของหลัวเฉิงทันที

เมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายสิ้นใจตายแล้ว หลัวเฉิงก็โยนร่างของเฉาจีไปทางด้านข้าง แล้วสืบเท้าเข้าหาเซวียเหิน

ครั้นได้เห็นเช่นนั้น เซวียเหินก็ถึงกับสูดหายใจเข้าลึกอย่างเหนื่อยหอบ

เพราะชายตรงหน้านี้ สามารถสังหารคนได้อย่างไรปรานีราวกับบทขยี้เพียงหมดปลวก! ความแข็งแกร่งของเขานั้นมากจนน่าหวาดกลัวทีเดียว!

เซวียเหินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับสติอารมณ์ จากนั้นประสานมือกำหมัดกัดฟันกล่าว

“ขอบคุณศิษย์พี่ที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด