ตอนที่ 35 : โบสถ์ทัณฑ์สวรรค์
ตอนที่ 35 : โบสถ์ทัณฑ์สวรรค์
กระสุนทะลุลำคอของอีกฝ่าย ทำให้เลือดสาดกระเซ็นออกมา
ชายคนนั้นพยายามจะหนี แต่ร่างของเขาก็เริ่มทรุดตัวลงไปแล้ว
เขาล้มลงกับพื้นพร้อมด้วยเสียงดัง ‘ตุบ’
ถึงกระนั้นมือของเขาก็ยังเอื้อมไปที่หน้าอก และพยายามจะดึงบางสิ่งออกมา
บาเซนรีบวิ่งเข้ามา เตะศีรษะของอีกฝ่าย ทำให้อีกฝ่ายแน่นิ่งไป
หวู่เหิงก้าวออกมาและลั่นไกปืนใส่ชายคนนี้อีกครั้ง
ปัง ปัง~!
เสียงปืนดังก้องในขณะที่กระสุนทะลวงเข้าใส่หน้าอกของเขา
ร่างของอีกฝ่ายแน่นิ่งไปในทันที
[ท่านได้รับค่าประสบการณ์ +64]
เสียงประกาศของระบบดังขึ้นเพื่อยืนยันถึงความตายของศัตรู
หวู่เหิงสั่งให้บาเซนจับตาดูบริเวณโดยรอบเอาไว้
หลังจากเปลี่ยนแม็กกาซีนใหม่ให้กับทั้งตัวเองและบาเซน เขาก็เก็บแม็กกาซีนเปล่าที่เพิ่งโยนทิ้งไปที่พื้น
หวู่เหิงเหลือบมอบศพที่อยู่บนพื้น จากนั้นเขาก็ตัดสินใจละทิ้งความคิดที่จะขนศพไปที่โลกซอมบี้
มันยังไม่แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับออทรัคและคาวิน่ากันแน่ นอกจากนี้หากพบว่ามีร่องรอยของการต่อสู้แต่ไม่มีศพ มันก็จะทำให้เกิดความสงสัยได้
เขาไตร่ตรองอย่างรวดเร็ว และเริ่มวิ่งไปพร้อมกับบาเซน
ในขณะเดียวกัน เขาก็สงสัยว่าทหารที่อยู่ข้างนอกจะรับรู้สถานการณ์ที่อยู่ที่นี่ไหม
ถ้าเขาไม่ส่งสัญญาณอะไรออกไป มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะไม่มีใครรู้สถานการณ์ที่นี่เลย
เขาหยุดกะทันหันและรีบไปที่หน้าต่างที่หันไปทางแปลงดอกไม้
เขาใช้ทักษะจาระบีเพื่อราดลงไปบนแปลงดอกไม้ จากนั้นก็จุดไฟที่เศษผ้า และโยนมันเข้าไป
หวือ~!
ทันใดนั้นเอง เปลวเพลิงอันร้อนแรงก็พุ่งขึ้นมา และส่องสว่างไปทั่วทั้งท้องฟ้าในยามค่ำคืน
เขาไม่เชื่อว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งนี้
เมื่อมีคนเห็นกองเพลิงนี้ พวกเขาก็จะเข้ามาตรวจสอบสมาคมนักผจญภัยทันที
ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของพวกทหาร มันก็หมายความว่าเมืองหินดำทั้งเมืองคงจะล่มสลายไปแล้ว
ในกรณีเช่นนี้ เขาก็อาจจะหนีกลับไปที่โลกซอมบี้แทน
เมื่อทุกสิ่งเรียบร้อยแล้ว หวู่เหิงก็วิ่งไปยังห้องโถงต่อ
...
ณ ห้องโถง
รอบๆ ร่างของคาวิน่ามีคนยืนอยู่ห้าคน พวกเขาต่างก็ถือดาบยาวหรือไม่ก็มีดสั้น แม้ว่าพวกเขาจะแต่งตัวไม่เหมือนกัน แต่การประสานงานของพวกเขาก็ยอดเยี่ยมมาก
พวกเขากำลังล้อมโจมตีคาวิน่าอยู่
ในเงามืดไม่ไกลนัก มันมีร่างในชุดคลุมสีดำที่มีอีกาเกาะอยู่บนไหล่ซึ่งกำลังเฝ้าดูอย่างเงียบๆ
ในบางครั้งคนผู้นี้ก็จะปลดปล่อยหอกพลังงานสีฟ้าออกมาเพื่อขัดขวางการเคลื่อนไหวของคาวิน่า
มันเหมือนกับว่าพวกเขากำลังเล่นกับเหยื่อของตัวเองอยู่เลย
สภาพของคาวิน่าไม่ได้ดีเท่าไรเลย เธอชุ่มไปด้วยเลือด และมีรอยแผลอยู่ทั่วตัว
ผมสีทองของเธอภายใต้หมวกจับตัวเป็นก้อนและติดอยู่กับใบหน้าของเธอ
ดาบยาวในมือของเธอเหวี่ยงไปมา และรับมือกับคนที่อยู่รอบๆ
“คนสวย เจ้ามีพรสวรรค์จริงๆ ทำไมไม่เข้าร่วมกับพวกเราล่ะ?” ชายในชุดคลุมสีดำพูดออกมา เสียงของเขาฟังดูน่าหลงใหลมาก
คาวิน่าหอบหายใจ เธอกระทืบเท้า แค่นเสียงออกมา และไม่ได้ตอบอะไร
ชายในชุดคลุมพยักหน้าและลูบไปที่อีกาบนไหล่
แกว๊ก~!
เสียงร้องแหลมดังออกมาจากอีกาตัวนั้น
คาวิน่าเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว และพบว่าอีกาตัวนี้กำลังจ้องมาที่เธอ
ดวงตาของมันดูเหมือนจะกลืนกินวิญญาณของเธอเข้าไปราวกับห้วงอเวจี
ในเสี้ยววินาทีที่เธอเสียสมาธิ คนอื่นๆ ก็ยกดาบขึ้นและตวัดมาที่เธอ
ในขณะที่ดาบกำลังจะตวัดลงมานั้น…
หวือ~!
ทันใดนั้นก็มีลำแสงอันเข้มข้นพุ่งออกมาจากระยะไกล และกวาดมาที่สายตาของพวกเขา
ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตอบสนอง เสียงปืนก็ดังกึกก้องออกมา
ปัง ปัง ปัง!
กระสุนทะลวงผ่านความมืด และพุ่งเข้าใส่คนพวกนี้
ถึงแม้จะไม่มีใครโดนยิง แต่กระสุนปืนก็ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับพวกเขาชั่วขณะ
พวกเขาถอยไปอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาระยะห่าง
ภายในความมืด บาเซนได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และพุ่งเข้าหาฝูงชน มันอุ้มร่างของคาวิน่าที่กำลังสับสนขึ้นมาและถอยกลับเข้าไปในเงามืด
หวู่เหิงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
หวือ~!
เสียงกระพือปีกดังออกมา
ภายใต้แสงไฟฉายที่เหลืออยู่ มันก็มีอีกาดำตัวหนึ่งบินผ่านศีรษะของเขาไปแล้ว
หวู่เหิงที่กำลังประหลาดใจเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัวและสบตากับอีกาตัวนั้น
ในพริบตา ดวงตาของอีกาตัวนั้นก็ยืดขยายออกราวกับหุบเหวที่กำลังขยายตัว และหวู่เหิงก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาราวกับดวงวิญญาณของเขาถูกกลืนกิน
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกนี้ก็หายไปอย่างรวดเร็ว และสายตาของเขาก็กลับมาชัดเจนอีกครั้ง
“นี่มันบ้าอะไรกัน!”
หวู่เหิงโยนไฟฉายของเขาเข้าใส่หัวของอีกา และกระแทกมันไปติดกำแพง
“ฆ่ามันซะ!”
ชายในชุดคลุมสีดำที่อยู่ไกลออกไปตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
คนทั้งห้าพุ่งออกมาจากความมืดทันที
ในขณะที่พวกเขาขยับเข้ามาใกล้ หวู่เหิงก็จับปืนและเหนี่ยวไกปืน
หลังจากวางคาวิน่าลงแล้ว บาเซนก็เหนี่ยวไกปืนจากด้านข้างด้วยเช่นกัน ทำให้กระสุนถูกสาดเข้าไปในห้องโถง และคนทั้งห้าที่กำลังพุ่งเข้ามาก็ทรุดตัวลงไปในทันที
ชายในชุดคลุมสีดำที่อยู่ไกลออกไปตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เขาหันไปและพยายามจะหลบหนีเข้าไปในความมืด
หวู่เหิงสาดไฟฉายของเขาไปที่อีกฝ่ายและลั่นไกปืน
ส่วนบาเซนก็พุ่งตามไปติดๆ
กระสุนทะลวงเข้าไปในความมืด และพุ่งเข้าใส่ชายในชุดคลุมสีดำ
[ท่านได้รับค่าประสบการณ์ +55]
ชายในชุดคลุมสีดำตายคาที่
หลังจากยืนยันได้แล้วว่าเป้าหมายถูกสังหาร หวู่เหิงก็รีบถอยกลับมาข้างๆ คาวิน่า
ร่างของเธอย้อมไปเลือด และมันก็มีบาดแผลน้อยใหญ่อยู่เต็มไปหมด
การที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้จนถึงตอนนี้ภายใต้การกลุ้มรุมจากคนเป็นจำนวนมากเช่นนี้ เธอก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว
เขาหยิบยาฟื้นพลังสองขวดออกมาจากกระเป๋าเป้ พยายามป้อนมันให้กับคาวิน่า และเทยาฟื้นพลังกับยาถอนพิษให้กับเธอ
เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าอันไหนจะมีประโยชน์ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ชีวิตของเธอก็ต้องมาก่อน
หลังจากเว้นจังหวะไปชั่วขณะ เขาก็เปิดยาฟื้นฟูวิญญาณอีกขวดและกรอกปากเธอด้วย
แค่ก แค่ก!
คาวิน่าสำลักออกมาอย่างรุนแรง และพ่นยาที่เพิ่งถูกกรอกปากเข้าไปออกมา
จากนั้นเธอก็ลืมตาขึ้น “นี่มัน…?”
“ข้าเพิ่งกรอกยาให้เจ้า เจ้าไม่เป็นไรนะ?”
“ไม่มีอะไรร้ายแรง”
หวู่เหิงพยักหน้า “เจ้าพักก่อนเถอะ ความช่วยเหลือน่าจะมาถึงในไม่ช้า ข้าจะไปดูหัวหน้าหน่อย”
“ไม่ พวกเราต้องไปด้วยกัน มันมีศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าอยู่ทางฝั่งนั้น” เมื่อพูดเช่นนี้ออกมาแล้ว คาวิน่าก็พยายามจะลุกขึ้น
ศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า?
หวู่เหิงเข้าใจแล้วว่าทำไมคาวิน่าจึงไม่หนีไปและเลือกประจัญหน้ากับคนจำนวนมากมายขนาดนี้
ถ้าเธอหนีไป แรงกดดันทางฝั่งของออทรัคก็คงจะเพิ่มขึ้นแน่ๆ
หวู่เหิงพยักหน้า เขาเองก็ไม่คิดจะทิ้งเธอไว้ที่นี่เหมือนกัน
มันยังไม่ชัดเจนว่าจะมีศัตรูอีกไหม และมันคงจะปลอดภัยกว่าถ้าพวกเขาจะเกาะกลุ่มกันไว้
“งั้นก็ไปกันเถอะ!”
...
สองคนหนึ่งโครงกระดูกเคลื่อนตัวไปตามโถงทางเดินอย่างรวดเร็ว
ตู้ม ตู้ม~!
จากความมืดในระยะไกล มันมีเสียงโครมครามรุนแรงดังขึ้น
เมื่อเลี้ยวที่มุมทางเดินแล้ว พวกเขาก็เห็นร่างสูงร่างหนึ่งกำลังต่อสู้กับออทรัคอยู่
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากทางด้านหลัง ทั้งคู่ก็ผละออกจากกันและหันมามอง
หวู่เหิงและคาวิน่าเองก็มองไปที่ศัตรูเช่นกัน
ชายร่างกำยำที่มีความสูงเกือบสองเมตร ลำตัวเปลือยท่อนบนและมีกล้ามเป็นมัดๆ กำลังต่อสู้ด้วยมือเปล่าโดยไม่ใช้อาวุธอะไร
ส่วนออทรัคก็ดูจะเหนื่อยล้าขึ้นมาแล้ว
เขาหอบหายใจ เกราะหน้าอกสีเงินของเขาพังไปแล้ว และดูเหมือนจะเป็นเพราะแรงกระแทกอันรุนแรง
เมื่อเห็นว่าเพื่อร่วมหน่วยทั้งสองคนมาถึง ใบหน้าของออทรัคก็ปรากฏร่องรอยของความดีใจออกมา “พวกเจ้าเรียกกำลังเสริมมารึยัง?”
“น่าจะตามมาในไม่ช้า” หวู่เหิงตอบ
ไม่มีใครรู้ว่าจะมีกำลังเสริมมาไหม แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่อาจยอมรับได้ในตอนนี้ว่าพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้
ออทรัคพยักหน้าจากนั้นก็พูดต่อ “ผู้อาวุโสแห่งโบสถ์ทัณฑ์สวรรค์—ป้าอู๋ตง เขาโดดเด่นในด้านการต่อสู้มือเปล่า เขาทั้งแข็งแกร่งและว่องไวมาก”
บัดซบ!
โบสถ์ทัณฑ์สวรรค์อยู่ที่นี่แล้ว ส่วนกองกำลังหลักของเมืองหินดำก็อยู่นอกเมือง