ตอนที่แล้วตอนที่ 34 : กลยุทธ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 36 : พวกเจ้าทำได้ยังไงกัน

ตอนที่ 35 : โบสถ์ทัณฑ์สวรรค์


ตอนที่ 35 : โบสถ์ทัณฑ์สวรรค์

กระสุนทะลุลำคอของอีกฝ่าย ทำให้เลือดสาดกระเซ็นออกมา

ชายคนนั้นพยายามจะหนี แต่ร่างของเขาก็เริ่มทรุดตัวลงไปแล้ว

เขาล้มลงกับพื้นพร้อมด้วยเสียงดัง ‘ตุบ’

ถึงกระนั้นมือของเขาก็ยังเอื้อมไปที่หน้าอก และพยายามจะดึงบางสิ่งออกมา

บาเซนรีบวิ่งเข้ามา เตะศีรษะของอีกฝ่าย ทำให้อีกฝ่ายแน่นิ่งไป

หวู่เหิงก้าวออกมาและลั่นไกปืนใส่ชายคนนี้อีกครั้ง

ปัง ปัง~!

เสียงปืนดังก้องในขณะที่กระสุนทะลวงเข้าใส่หน้าอกของเขา

ร่างของอีกฝ่ายแน่นิ่งไปในทันที

[ท่านได้รับค่าประสบการณ์ +64]

เสียงประกาศของระบบดังขึ้นเพื่อยืนยันถึงความตายของศัตรู

หวู่เหิงสั่งให้บาเซนจับตาดูบริเวณโดยรอบเอาไว้

หลังจากเปลี่ยนแม็กกาซีนใหม่ให้กับทั้งตัวเองและบาเซน เขาก็เก็บแม็กกาซีนเปล่าที่เพิ่งโยนทิ้งไปที่พื้น

หวู่เหิงเหลือบมอบศพที่อยู่บนพื้น จากนั้นเขาก็ตัดสินใจละทิ้งความคิดที่จะขนศพไปที่โลกซอมบี้

มันยังไม่แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับออทรัคและคาวิน่ากันแน่ นอกจากนี้หากพบว่ามีร่องรอยของการต่อสู้แต่ไม่มีศพ มันก็จะทำให้เกิดความสงสัยได้

เขาไตร่ตรองอย่างรวดเร็ว และเริ่มวิ่งไปพร้อมกับบาเซน

ในขณะเดียวกัน เขาก็สงสัยว่าทหารที่อยู่ข้างนอกจะรับรู้สถานการณ์ที่อยู่ที่นี่ไหม

ถ้าเขาไม่ส่งสัญญาณอะไรออกไป มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะไม่มีใครรู้สถานการณ์ที่นี่เลย

เขาหยุดกะทันหันและรีบไปที่หน้าต่างที่หันไปทางแปลงดอกไม้

เขาใช้ทักษะจาระบีเพื่อราดลงไปบนแปลงดอกไม้ จากนั้นก็จุดไฟที่เศษผ้า และโยนมันเข้าไป

หวือ~!

ทันใดนั้นเอง เปลวเพลิงอันร้อนแรงก็พุ่งขึ้นมา และส่องสว่างไปทั่วทั้งท้องฟ้าในยามค่ำคืน

เขาไม่เชื่อว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งนี้

เมื่อมีคนเห็นกองเพลิงนี้ พวกเขาก็จะเข้ามาตรวจสอบสมาคมนักผจญภัยทันที

ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของพวกทหาร มันก็หมายความว่าเมืองหินดำทั้งเมืองคงจะล่มสลายไปแล้ว

ในกรณีเช่นนี้ เขาก็อาจจะหนีกลับไปที่โลกซอมบี้แทน

เมื่อทุกสิ่งเรียบร้อยแล้ว หวู่เหิงก็วิ่งไปยังห้องโถงต่อ

...

ณ ห้องโถง

รอบๆ ร่างของคาวิน่ามีคนยืนอยู่ห้าคน พวกเขาต่างก็ถือดาบยาวหรือไม่ก็มีดสั้น แม้ว่าพวกเขาจะแต่งตัวไม่เหมือนกัน แต่การประสานงานของพวกเขาก็ยอดเยี่ยมมาก

พวกเขากำลังล้อมโจมตีคาวิน่าอยู่

ในเงามืดไม่ไกลนัก มันมีร่างในชุดคลุมสีดำที่มีอีกาเกาะอยู่บนไหล่ซึ่งกำลังเฝ้าดูอย่างเงียบๆ

ในบางครั้งคนผู้นี้ก็จะปลดปล่อยหอกพลังงานสีฟ้าออกมาเพื่อขัดขวางการเคลื่อนไหวของคาวิน่า

มันเหมือนกับว่าพวกเขากำลังเล่นกับเหยื่อของตัวเองอยู่เลย

สภาพของคาวิน่าไม่ได้ดีเท่าไรเลย เธอชุ่มไปด้วยเลือด และมีรอยแผลอยู่ทั่วตัว

ผมสีทองของเธอภายใต้หมวกจับตัวเป็นก้อนและติดอยู่กับใบหน้าของเธอ

ดาบยาวในมือของเธอเหวี่ยงไปมา และรับมือกับคนที่อยู่รอบๆ

“คนสวย เจ้ามีพรสวรรค์จริงๆ ทำไมไม่เข้าร่วมกับพวกเราล่ะ?” ชายในชุดคลุมสีดำพูดออกมา เสียงของเขาฟังดูน่าหลงใหลมาก

คาวิน่าหอบหายใจ เธอกระทืบเท้า แค่นเสียงออกมา และไม่ได้ตอบอะไร

ชายในชุดคลุมพยักหน้าและลูบไปที่อีกาบนไหล่

แกว๊ก~!

เสียงร้องแหลมดังออกมาจากอีกาตัวนั้น

คาวิน่าเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว และพบว่าอีกาตัวนี้กำลังจ้องมาที่เธอ

ดวงตาของมันดูเหมือนจะกลืนกินวิญญาณของเธอเข้าไปราวกับห้วงอเวจี

ในเสี้ยววินาทีที่เธอเสียสมาธิ คนอื่นๆ ก็ยกดาบขึ้นและตวัดมาที่เธอ

ในขณะที่ดาบกำลังจะตวัดลงมานั้น…

หวือ~!

ทันใดนั้นก็มีลำแสงอันเข้มข้นพุ่งออกมาจากระยะไกล และกวาดมาที่สายตาของพวกเขา

ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตอบสนอง เสียงปืนก็ดังกึกก้องออกมา

ปัง ปัง ปัง!

กระสุนทะลวงผ่านความมืด และพุ่งเข้าใส่คนพวกนี้

ถึงแม้จะไม่มีใครโดนยิง แต่กระสุนปืนก็ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับพวกเขาชั่วขณะ

พวกเขาถอยไปอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาระยะห่าง

ภายในความมืด บาเซนได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และพุ่งเข้าหาฝูงชน มันอุ้มร่างของคาวิน่าที่กำลังสับสนขึ้นมาและถอยกลับเข้าไปในเงามืด

หวู่เหิงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

หวือ~!

เสียงกระพือปีกดังออกมา

ภายใต้แสงไฟฉายที่เหลืออยู่ มันก็มีอีกาดำตัวหนึ่งบินผ่านศีรษะของเขาไปแล้ว

หวู่เหิงที่กำลังประหลาดใจเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัวและสบตากับอีกาตัวนั้น

ในพริบตา ดวงตาของอีกาตัวนั้นก็ยืดขยายออกราวกับหุบเหวที่กำลังขยายตัว และหวู่เหิงก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาราวกับดวงวิญญาณของเขาถูกกลืนกิน

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกนี้ก็หายไปอย่างรวดเร็ว และสายตาของเขาก็กลับมาชัดเจนอีกครั้ง

“นี่มันบ้าอะไรกัน!”

หวู่เหิงโยนไฟฉายของเขาเข้าใส่หัวของอีกา และกระแทกมันไปติดกำแพง

“ฆ่ามันซะ!”

ชายในชุดคลุมสีดำที่อยู่ไกลออกไปตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

คนทั้งห้าพุ่งออกมาจากความมืดทันที

ในขณะที่พวกเขาขยับเข้ามาใกล้ หวู่เหิงก็จับปืนและเหนี่ยวไกปืน

หลังจากวางคาวิน่าลงแล้ว บาเซนก็เหนี่ยวไกปืนจากด้านข้างด้วยเช่นกัน ทำให้กระสุนถูกสาดเข้าไปในห้องโถง และคนทั้งห้าที่กำลังพุ่งเข้ามาก็ทรุดตัวลงไปในทันที

ชายในชุดคลุมสีดำที่อยู่ไกลออกไปตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เขาหันไปและพยายามจะหลบหนีเข้าไปในความมืด

หวู่เหิงสาดไฟฉายของเขาไปที่อีกฝ่ายและลั่นไกปืน

ส่วนบาเซนก็พุ่งตามไปติดๆ

กระสุนทะลวงเข้าไปในความมืด และพุ่งเข้าใส่ชายในชุดคลุมสีดำ

[ท่านได้รับค่าประสบการณ์ +55]

ชายในชุดคลุมสีดำตายคาที่

หลังจากยืนยันได้แล้วว่าเป้าหมายถูกสังหาร หวู่เหิงก็รีบถอยกลับมาข้างๆ คาวิน่า

ร่างของเธอย้อมไปเลือด และมันก็มีบาดแผลน้อยใหญ่อยู่เต็มไปหมด

การที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้จนถึงตอนนี้ภายใต้การกลุ้มรุมจากคนเป็นจำนวนมากเช่นนี้ เธอก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว

เขาหยิบยาฟื้นพลังสองขวดออกมาจากกระเป๋าเป้ พยายามป้อนมันให้กับคาวิน่า และเทยาฟื้นพลังกับยาถอนพิษให้กับเธอ

เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าอันไหนจะมีประโยชน์ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ชีวิตของเธอก็ต้องมาก่อน

หลังจากเว้นจังหวะไปชั่วขณะ เขาก็เปิดยาฟื้นฟูวิญญาณอีกขวดและกรอกปากเธอด้วย

แค่ก แค่ก!

คาวิน่าสำลักออกมาอย่างรุนแรง และพ่นยาที่เพิ่งถูกกรอกปากเข้าไปออกมา

จากนั้นเธอก็ลืมตาขึ้น “นี่มัน…?”

“ข้าเพิ่งกรอกยาให้เจ้า เจ้าไม่เป็นไรนะ?”

“ไม่มีอะไรร้ายแรง”

หวู่เหิงพยักหน้า “เจ้าพักก่อนเถอะ ความช่วยเหลือน่าจะมาถึงในไม่ช้า ข้าจะไปดูหัวหน้าหน่อย”

“ไม่ พวกเราต้องไปด้วยกัน มันมีศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าอยู่ทางฝั่งนั้น” เมื่อพูดเช่นนี้ออกมาแล้ว คาวิน่าก็พยายามจะลุกขึ้น

ศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า?

หวู่เหิงเข้าใจแล้วว่าทำไมคาวิน่าจึงไม่หนีไปและเลือกประจัญหน้ากับคนจำนวนมากมายขนาดนี้

ถ้าเธอหนีไป แรงกดดันทางฝั่งของออทรัคก็คงจะเพิ่มขึ้นแน่ๆ

หวู่เหิงพยักหน้า เขาเองก็ไม่คิดจะทิ้งเธอไว้ที่นี่เหมือนกัน

มันยังไม่ชัดเจนว่าจะมีศัตรูอีกไหม และมันคงจะปลอดภัยกว่าถ้าพวกเขาจะเกาะกลุ่มกันไว้

“งั้นก็ไปกันเถอะ!”

...

สองคนหนึ่งโครงกระดูกเคลื่อนตัวไปตามโถงทางเดินอย่างรวดเร็ว

ตู้ม ตู้ม~!

จากความมืดในระยะไกล มันมีเสียงโครมครามรุนแรงดังขึ้น

เมื่อเลี้ยวที่มุมทางเดินแล้ว พวกเขาก็เห็นร่างสูงร่างหนึ่งกำลังต่อสู้กับออทรัคอยู่

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากทางด้านหลัง ทั้งคู่ก็ผละออกจากกันและหันมามอง

หวู่เหิงและคาวิน่าเองก็มองไปที่ศัตรูเช่นกัน

ชายร่างกำยำที่มีความสูงเกือบสองเมตร ลำตัวเปลือยท่อนบนและมีกล้ามเป็นมัดๆ กำลังต่อสู้ด้วยมือเปล่าโดยไม่ใช้อาวุธอะไร

ส่วนออทรัคก็ดูจะเหนื่อยล้าขึ้นมาแล้ว

เขาหอบหายใจ เกราะหน้าอกสีเงินของเขาพังไปแล้ว และดูเหมือนจะเป็นเพราะแรงกระแทกอันรุนแรง

เมื่อเห็นว่าเพื่อร่วมหน่วยทั้งสองคนมาถึง ใบหน้าของออทรัคก็ปรากฏร่องรอยของความดีใจออกมา “พวกเจ้าเรียกกำลังเสริมมารึยัง?”

“น่าจะตามมาในไม่ช้า” หวู่เหิงตอบ

ไม่มีใครรู้ว่าจะมีกำลังเสริมมาไหม แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่อาจยอมรับได้ในตอนนี้ว่าพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้

ออทรัคพยักหน้าจากนั้นก็พูดต่อ “ผู้อาวุโสแห่งโบสถ์ทัณฑ์สวรรค์—ป้าอู๋ตง เขาโดดเด่นในด้านการต่อสู้มือเปล่า เขาทั้งแข็งแกร่งและว่องไวมาก”

บัดซบ!

โบสถ์ทัณฑ์สวรรค์อยู่ที่นี่แล้ว ส่วนกองกำลังหลักของเมืองหินดำก็อยู่นอกเมือง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด