บทที่ 256 โกดังสินค้า
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 256 โกดังสินค้า
หลังจากเดินไปมาในหุบเขานอกถ้ำนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ดัสต์อัพก็วนรอบเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 1 ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงอยู่ครู่หนึ่ง จนกลุ่มหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่แบกวัสดุไว้บนบ่าเดินผ่านเขาไป เขาจึงหยุดเดินเตร่และหันกลับไปมองด้วยความรำคาญใจ จากนั้นสายตาของเขาก็จับจ้องไปยังหุ่นยนต์ดีเซปติคอนสีเขียว แล้วจึงส่งเสียงฟึดฟัดอย่างเย็นชา พร้อมกับเดินเตร่ต่อไปในฐานทัพ
เรื่องเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ทำให้ดัสต์อัพอารมณ์เสียอย่างมาก
นับตั้งแต่วันนั้นในบราซิล เมื่อเขารู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องขณะค้นหา "เมททริกซ์แห่งจิตพลังผู้นำ" ให้กับท่านผู้นำสตาร์สครีม ต่อมาเขาก็ได้ค้นพบดีเซปติคอนที่ไม่รู้จักตัวนั้นซึ่งมีร่างกายจักรกลที่ด้อยกว่าของเขาเอง ดัสต์อัพคิดว่าเขาได้เจอกับเป้าหมายที่สามารถจัดการได้ง่ายแล้ว เขาตั้งใจจะกำจัดดีเซปติคอนตัวนั้นและทำให้มันกลายเป็นข้ารับใช้ของเขา
เขาไม่คาดคิดเลยว่าการกระทำที่หุนหันพลันแล่นของเขาจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่หลวง ดีเซปติคอนตัวนั้นแม้ว่าจะมีร่างกายจักรกลที่ดูไม่ได้แข็งแกร่ง แต่กลับมีความสามารถในการต่อสู้มากกว่าดัสต์อัพ ยิ่งไปกว่านั้น ปืนใหญ่พลาสมาที่เขาใช้ยังสร้างปัญหาให้กับดัสต์อัพเป็นอย่างมากอีกด้วย
สิ่งที่ทำให้ดัสต์อัพตกใจมากยิ่งกว่านั้นคือ ฝูงหุ่นยนต์ต่อสู้ที่จู่ ๆ ก็โผล่มา ซึ่งพวกมันดูแตกต่างจากดีเซปติคอนอย่างชัดเจน เครื่องจักรที่แปลกประหลาดพวกนี้ล้วนติดตั้งอาวุธพลาสมา ทั้งที่แม้แต่ดีเซปติคอนที่สร้างขึ้นใหม่ภายใต้การนำของท่านผู้นำสตาร์สครีมอย่างดัสต์อัพก็มีเพียงไม่กี่ตัว และสงวนไว้สำหรับนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกมันเท่านั้น
หากเปรียบเทียบแล้ว ดัสต์อัพเป็นผู้มีพลังน้อยกว่าดีเซปติคอนรุ่นที่สร้างขึ้นในเวลาเดียวกัน และยังมีเพียงอาวุธสำหรับการต่อสู้ระยะประชิดเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
ผลลัพธ์นั้นง่ายต่อการคาดเดา ดัสต์อัพแพ้ และเขาก็แพ้อย่างย่อยยับ
เขาถูกบังคับให้ยอมจำนนต่อดีเซปติคอนที่เรียกตัวเองว่า "เฟรนซี่" เฟรนซี่ยังได้ฝังการควบคุมไว้ภายในแกนหลักของ ดัสต์อัพอีกด้วย
ตั้งแต่นั้นมา ดัสต์อัพก็ถูกเฟรนซี่พามายังสถานที่แห่งนี้
เห็นได้ชัดว่าเฟรนซี่ไม่ไว้เชื่อใจในความจงรักภักดีของเขาเลย นับตั้งแต่นำดัสต์อัพขึ้นมาที่นี่ ไม่เพียงแต่การเคลื่อนไหวของเขาถูกจำกัด แต่เฟรนซี่ยังส่งนักรบดีเซปติคอนระดับต่ำชื่อ "ฮิสทีเรีย" เพื่อจับตาดูเขาอย่างใกล้ชิด
ในช่วงเวลานี้ ดัสต์อัพได้ครุ่นคิดถึงการหลบหนีอยู่ตลอดเวลา ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ฮิสทีเรีย ผู้ซึ่งมีอาวุธพลาสมาเช่นกัน รวมถึงหุ่นยนต์ต่อสู้อีกหลายตัว ดัสต์อัพก็ขาดความมั่นใจที่จะเอาชนะพวกมันทั้งหมดได้ในทันที
และต่อให้เขาเอาชนะมันพวกนี้ได้หมด ตัวควบคุมของเฟรนซี่ภายในแกนหลักของเขาก็เพียงพอที่จะปลิดชีพเขาแล้วขอเพียงแค่คิด
ดัสต์อัพได้พยายามส่งสัญญาณทางไกลไปยังดวงจันทร์ เพื่อขอให้สตาร์สครีมส่งความช่วยเหลือและช่วยชีวิตเขากลับมา
ในวันที่เขาถูกนำตัวมาที่ฐาน เขาก็ฉวยโอกาสที่พวกยามไม่ทันระวังตัว พยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกไป
น่าเสียดายที่ดัสต์อัพประเมินกลไกการควบคุมที่เฟรนซี่วางไว้ต่ำเกินไป
แทนที่จะส่งสัญญาณได้สำเร็จ ความพยายามดังกล่าวกลับไปกระตุ้นกลไกการตรวจสอบที่เฟรนซี่ได้ฝังไว้ในตัวเขา
ตั้งแต่นั้นมา ฮิสทีเรียก็คอยติดตามดัสต์อัพอย่างต่อเนื่อง แทบจะเรียกได้ว่าเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เขาตกอยู่ใต้อาณัติของผู้จับกุมอย่างสมบูรณ์
แสงสีส้มในดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย แต่ขณะที่เขากำลังเดินไปยังทางเข้าฐานที่พักอาศัยในปัจจุบัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองลึกลงไปในหลุมที่ถูกดัดแปลงด้วยวิธีการของมนุษย์ที่อยู่ข้างหน้า ภายในจิตใจที่กระสับกระส่ายของเขาร่องรอยของความสงสัยและความอยากรู้อยากเห็นได้ผุดปรากฏขึ้น
เฟรนซี่คือใครกัน?
ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นส่วนหนึ่งของเหล่าดีเซปติคอน ทำไมเขาถึงไม่เคยพบกับเฟรนซี่ในฐานบนดวงจันทร์เลย?
เฟรนซี่มีอาวุธพลาสม่ามากมายได้ยังไง และสามารถสร้างฐานลับบนโลกได้ยังไง?
ความสงสัยเหล่านี้อยู่ในใจของเขาตั้งแต่เขาถูกพามาที่นี่
ถึงเขาจะไม่สามารถออกห่างจากฐานทัพได้มากนัก ยกเว้นแค่พื้นที่หวงห้ามบางแห่ง แต่เขาก็สามารถเดินเตร่ไปมาในฐานทัพส่วนใหญ่ได้
ดังนั้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาจึงได้สำรวจฐานทัพ
สิ่งที่เขาพบเจอมา มันได้สร้างความกังวลในตัวเขาเป็นอย่างยิ่ง
"ให้ตายสิ เฟรนซี่มันกำลังพยายามทำอะไรที่นี่กัน?"
ฐานมีขนาดมหึมามาก แม้ว่าโครงสร้างของมันดูเหมือนจะสร้างขึ้นบนถ้ำใต้ดินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ความกว้างใหญ่ของฐานนั้นก็เกินกว่าฐานดวงจันทร์ที่ซึ่งดัสต์อัพถูกสร้างขึ้นหลายเท่า
ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดของฐานยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
มี "หุ่นยนต์อุตสาหกรรม" จำนวนนับไม่ถ้วน พวกมันล้วนทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยใต้ดิน ขุดลึกลงไปในส่วนลึกของโลกและภูเขาโดยรอบ
ในขณะเดียวกัน ก็พื้นที่ไปถึงหุบเขาที่อยู่ใกล้เคียงอีก
ในช่วงเวลาสั้นๆ เกิดการก่อสร้างจำนวนมากเกิดขึ้นในรัศมีหลายสิบกิโลเมตรรอบๆ ฐาน ซึ่งรวมถึงโรงงานผลิตหุ่นยนต์อุตสาหกรรมและหุ่นยนต์ต่อสู้ โรงงานผลิตโลหะสังเคราะห์ สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการผลิตพลังงานไฟฟ้าพลังน้ำและแม้แต่พลังงานเทอร์โมนิวเคลียร์ นอกจากนี้บนเนินเขาบางแห่ง ยังมีการติดตั้งระบบป้องกันที่หนาแน่นจำนวนมาก
เมื่อเทียบกับฐานดวงจันทร์ ในแง่ของอุปกรณ์ถือว่าเทียบได้ไม่ติด แต่ดัสต์อัพก็ยังทึ่งมากกับสถานที่นี้ซึ่งเฟรนซี่ได้สร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเขาเอง
ในมุมมองของเขา แม้ว่าเฟรนซี่จะประกาศตัวเองว่าเป็นดีเซปติคอน ไม่ได้มีพลังเทียบเท่าสตาร์สครีมผู้เป็นนายของเขา แต่ความทะเยอทะยานของมันก็ไม่ได้น้อยไปกว่ากันเลย เฟรนซี่ดูจะเป็นบุคคลที่อันตรายอย่างยิ่ง
ดัสต์อัพคิดพลางขึ้นเขา เดินทางลึกเข้าไปในใจกลางของฐาน
เมื่อเข้ามาใกล้โกดังสินค้า ดัสต์อัพก็เหลือบมองไปที่ใกล้ๆ ทีมเครื่องจักรที่ขยันขันแข็ง ซึ่งถูกเรียกว่า "หุ่นยนต์อุตสาหกรรม" กำลังทำงานอย่างขยันขันแข็งอยู่หน้าโกดังสินค้า งานของพวกมันมีหลายอย่าง รวมถึงการเสริมกำลังโกดังสินค้าด้วยประตูตะกั่วหนาที่ทำขึ้นเองด้วย
ตะกั่ว เป็นโลหะที่มีอยู่มากมายทั้งบนโลกและในจักรวาล มีคุณสมบัติในการป้องกันรังสีพิเศษ
สามวันก่อนหน้านี้ โกดังสินค้าได้กลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมต่าง ๆ
ทีมหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเข้าออกกันวุ่น มีการขนส่งอุปกรณ์และวัสดุจำนวนมากเข้าและออก ไม่นานหลังจากนั้น ประตูตะกั่วก็ถูกติดตั้งที่นี่อย่างกะทันหัน ซึ่งทำให้ดัสต์อัพเกิดความสงสัยขึ้นในทันที
"เฟรนซี่ไม่ได้อยู่ในห้องปฏิบัติการของมัน แต่อยู่ในโกดังสินค้า...มันกำลังทำอะไรอยู่ในนั้นกันแน่?”
ความสงสัยเหล่านี้ยังคงผุดขึ้นในใจของเขา เกาะกุมเขาเหมือนแมว ทำให้เขาไม่อาจต้านทานและหยุดเดินลง สายตาต้องการที่จะลอบมองเข้าไปข้างใน
น่าเสียดายที่ทั้งโกดังสินค้าและห้องปฏิบัติการของซุนเฉิงเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูงภายในฐานทัพ แม้แต่ฮิสทีเรียและคนอื่นๆ ก็ไม่สามารถเข้าไปได้โดยไม่ได้รับอนุญาต นับประสาอะไรกับดัสต์อัพที่กำลังถูกจับกุมอยู่
ฮิสทีเรียสังเกตเห็นสายตาของดัสต์อัพที่มองไปยังโกดังสินค้าอย่างรวดเร็ว สีหน้าเยาะเย้ยพลันปรากฏบนใบหน้าของฮิสทีเรียทันที
“เจ้ากำลังมองอะไร? ออกไปเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะเข้าไปได้...”
หลังจากพูดจบ หุ่นยนต์ต่อสู้หลายตัวที่อยู่ด้านหลังเขาก็เดินก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน โดยปากกระบอกปืนของพวกมันยกขึ้นอย่างแผ่วเบา
เมื่อเห็นเป็นเช่นี้ ดัสต์อัพก็รู้สึกหงุดหงิดยิ่ง
เขาเหลือบมองฮิสทีเรียอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาเปล่งประกายเจตนาฆ่า
โชคดีที่เขาเหมือนเพิ่งนึกได้ว่าตนถูกคุมขังอยู่ จึงได้แต่ระงับเจตนาฆ่าที่เดือดพล่านในตัวเขาได้ ดัสต์อัพพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา หันศีรษะหนีและเดินไปยังที่อยู่อาศัยของเขา
ซึ่งพอฮิสทีเรียเลื่อนสายตากลับไปที่โกดัง ความเย้ยหยันในดวงตาของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์ สายตาของฮิสทีเรียคล้ายกำลังคาดหวังอะไรบางอย่าง!
__________