ตอนที่แล้วบทที่​ 38 : การปรุงโอสถ​ครั้งแรก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40​ : ถึงสำนักธารา, เจตนาดาบที่แข็งแกร่ง!

บทที่​ 39 : ดาบที่เจ้าสำนัก​​ธาราไม่สามารถดึงออกมาได้!


บทที่​ 39 : ดาบที่เจ้าสำนัก​​ธาราไม่สามารถดึงออกมาได้!

ตูมมมมม!

หลินเสวียนใช้เพลิงบัวแดงในการควบเเน่​นน้ำยาสมุนไพรที่อยู่ภายในเตาหลอมโอสถสีเลือด!

ตอนนี้, หลินเสวียนค่อยๆเข้าใจเเล้วว่าผลของทักษะการปรุงโอสถสมบูรณ์​เป็นอย่างไร

ภายใต้ผลของการปรุงโอสถสมบูรณ์​…หลินเสวียนสามารถควบคุมอุณหภูมิของเพลิงบัวแดงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ในตอนนี้ เพลิงโอสถดูเหมือนจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของหลินเสวียน

ดังนั้น, การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างของน้ำยาสมุนไพรภายในเตาหลอมโอสถสีเลือดล้วนถูกหลินเสวียนควบคุมอย่างสมบูรณ์แบบผ่านทางเพลิงโอสถ!

นอกจากนี้, หลินเสวียนยังสามารถมองเห็นกระบวนการทั้งหมดได้อย่าง​ชัดเจน​

ตั้งแต่น้ำยาสมุนไพรที่เป็นของเหลวในตอนแรกค่อยๆรวมตัวกันกลายเป็นโอสถทีละเม็ด

นี่คือกระบวนการปรุงโอสถที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ!

หนึ่งวัน!

สองวัน!

สามวัน!

หลินเสวียนใช้เวลาสามวันเต็มๆจึงสามารถ​ปรุงโอสถได้สำเร็จ

ทันใดนั้น, หลินเสวียนก็ยื่นมือออกมาตบเบาๆที่เตาหลอมโอสถสีเลือด!

ฝาเตาเปิดออก, จากนั้น​โอสถสิบสองเม็ดก็ลอยออกมาพร้อมกับเพลิงโอสถ ก่อนจะตกลงบนมือของหลินเสวียน

“สมบูรณ์แบบ!”

หลินเสวียนมองดูโอสถสิบสองเม็ดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความยินดี!

ผู้ปรุงโอสถแต่ละคนจะสามารถปรุงโอสถได้จำนวนไม่เท่ากันในหนึ่งเตา

ผู้ปรุงโอสถที่มีพรสวรรค์ต่ำหรือมีทักษะและการควบคุมเพลิงโอสถไม่คล่องแคล่ว…มักจะทำให้สรรพคุณทางยาสูญเสียไปเป็นจำนวนมาก

คนพวกนั้น…การปรุงโอสถได้หนึ่งเม็ดต่อหนึ่งเตาถือว่าไม่เลวแล้ว!

การที่หลินเสวียนสามารถปรุงโอสถได้ถึงสิบสองเม็ดในหนึ่งเตา เป็นเพราะเขาหลอมรวมสรรพคุณทางยาได้อย่างสมบูรณ์แบบ และดึงศักยภาพของเพลิงโอสถ​ออกมาได้จนถึงขีดสุด

[นายท่าน ข้าเก่งไหมล่ะ!]​

คัมภีร์เตาหลอมโลหิตเอ่ยขึ้นอย่างภาคภูมิใจ

“เก่งมาก!”

หลินเสวียนยกนิ้วโป้งให้คัมภีร์​เตาหลอม​โลหิต​!

[นี่เป็นแค่การปรุงโอสถครั้งแรกของข้าเท่านั้น​]​

[ข้ารู้สึกว่าถ้าข้าได้ปรุงโอสถอีกสักสองสามครั้ง ได้สัมผัสกับผลของการปรุงโอสถสมบูรณ์​มากขึ้น…ข้าอาจจะเข้าใจอะไรมากกว่า​นี้​ก็ได้!]

คัมภีร์เตาหลอมโลหิตพึมพำกับตัวเอง

คัมภีร์เตาหลอมโลหิตรู้สึกว่าตนเองใกล้จะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว…แต่ก็ยังขาดอะไรไปอีกนิด

สิ่งนี้ทำให้คัมภีร์เตาหลอมโลหิตรู้สึกทรมานใจอย่างมาก!

“ไม่ต้องห่วง!”

“ในอนาคตเจ้ายังมีโอกาสปรุงโอสถอีกเยอะ!”

“แต่ตอนนี้ ข้าอยากจะลองดูว่าโอสถหลอมลมปราณนี้จะมีผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง”

หลังจากพูดจบ, หลินเสวียนก็หยิบโอสถหลอมลมปราณขึ้นมาเม็ดหนึ่ง

โอสถหลอมลมปราณนี้มีขนาดเท่าปลายนิ้วโป้ง…มีสีใสแวววาว เเละบนพื้นผิวยังมีหมอกจางๆลอยอยู่

ดูรวมๆแล้วไม่ธรรมดาเลย

หลินเสวียนอ้าปากกลืนโอสถหลอมลมปราณลงไป!

“ตูม!”

ร่างกายของหลินเสวียนสั่นสะท้าน

สรรพคุณทางยาได้ไหลบ่าเเละพุ่งตรงไปทั่วร่างกายของหลินเสวียนอย่างรวดเร็ว​!

[ว้าว!]​

[รสชาติของโอสถ ช่างน่าหลงใหลจริงๆ!]​

[รสชาติไม่เลวไปกว่าศิลาวิญญาณเลย!]​

ทันทีที่หลินเสวียนกลืนโอสถลงไป วิชาฝึกปราณขั้นพื้นฐานก็ร้องตะโกน​อย่างตื่นเต้น​ทันที​

[วิชาฝึกปราณขั้นพื้นฐานดูดกลืน​โอสถเป็นครั้งแรก จึงเข้าสู่สภาวะ​หยั่งรู้…ทำให้สรรพคุณทางยาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!]

[วิชาระฆังทองคำอมตะ ดูดซับพลังของโอสถเป็นครั้งแรก​…ทำให้เข้าใจแก่นแท้ของความเป็นอมตะ​มากขึ้น, ผิวทองแดง​เเละกระดูกเหล็กกำลังเปลี่ยนแปลง!]

ภายในทะเลลมปราณของหลินเสวียน

กลุ่มก้อนลมปราณขนาดเท่าลูกท้อสามก้อน กำลังหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง

พวกมันกำลังดูดซับสรรพคุณทางยาอย่างตะกละตะกลาม!

พลังปราณ​ที่อยู่ภายในโอสถหลอมลมปราณ ค่อยๆถูกหลอมรวมเข้าไปในทะเลลมปราณ…เพื่อเพิ่มพลังลมปราณของหลินเสวียนอย่างต่อเนื่อง

เเละโอสถนี้ยังส่งผลต่อวิชาระฆังทองคำอมตะอีกด้วย!

ก่อนหน้านี้ หลินเสวียนฝึกฝนจนบรรลุผิวทองแดง​เเละกระดูกเหล็ก

คมดาบและคมกระบี่ไม่อาจทำอันตรายเขาได้

ในตอนนี้ ร่างกายของหลินเสวียนกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ระดับที่สูงขึ้น!

“ตูมมมม!”

“ตูมมมม!”

“ตูมมมม!”

ไม่ถึงครึ่งวัน!

โอสถหลอมลมปราณหนึ่งเม็ดก็ถูกหลินเสวียนหลอมรวมจนหมด

เเละโอสถนี้ทำให้กลุ่มก้อนลมปราณภายในทะเลลมปราณของหลินเสวียนขยายใหญ่ขึ้นอย่างมาก!

พลังวิญญาณที่เพิ่มขึ้นนี้…บางส่วน​ถูกชี้นำโดยวิชาระฆังทองคำอมตะ, เพื่อ​หลอมรวมเข้าไปในร่างกายของหลินเสวียนอย่างต่อเนื่อง…เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของเขาอย่างมาก

[หมดแล้ว?]​

[ขาดอีกนิดเดียว!]​

[นายท่าน รีบกินโอสถอีกเม็ดเร็วเข้า ข้ารู้สึกว่าข้าใกล้สำเร็จวิชาแล้ว!]​

หลังจากที่หลอมรวมโอสถหลอมลมปราณหนึ่งเม็ด, วิชาระฆังทองคำอมตะก็ร้องขออีกครั้งด้วยความกระหาย

[“ใช่ๆๆ….นายท่าน ความรู้สึกที่พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบนี้มันยอดเยี่ยมมาก!]​

วิชาฝึกปราณขั้นพื้นฐานก็ร้องขอเช่นกัน​

“ไม่มีปัญหา!”

หลินเสวียนกลืนโอสถหลอมลมปราณลงไปอีกเม็ดทันที!

เม็ดที่สาม!

เม็ดที่สี่!

เม็ดที่ห้า!

……

สิบสองเม็ด!

หลินเสวียนฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาหกวันเต็มๆ

เขากลืนโอสถหลอมลมปราณทั้งสิบสองเม็ดลงไปจนหมด!

[วิชาฝึกปราณขั้นพื้นฐาน หลอมรวมโอสถหลอมลมปราณสิบสองเม็ดอย่างต่อเนื่อง…ทำให้พลังลมปราณของท่านเลื่อนระดับเป็นระดับหลอมรวมลมปราณขั้นที่เจ็ด!]

[วิชาระฆังทองคำอมตะ ภายใต้ผลของโอสถได้เปลี่ยนผิวทองแดง​เเละกระดูกเหล็ก…เป็นกายาอมตะขั้นต้น, พลังป้องกันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!]

[วิชาระฆังทองคำอมตะ เข้าใจแก่นแท้ของความเป็นอมตะอย่างถ่องแท้….ทำให้เข้าใจวิชาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เลื่อนระดับเป็นระดับสีเหลืองขั้นสูง!]

“วิชาระฆังทองคำอมตะ ก็เลื่อนระดับเป็นระดับสีเหลืองขั้นสูงแล้ว?”

หลินเสวียนรู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย​

[นายท่าน พระน้อยมิได้ทำให้ท่านผิดหวังใช่หรือไม่?]​

[ไม่เหมือนกับบางคน ดูถูกคนอื่นไปทั่ว…สุดท้ายก็ติดอยู่แค่ระดับสีเหลืองขั้นกลาง ยังสู้พระน้อยที่เป็นคนพิการไม่ได้เลย!]​

ดูเหมือนว่าวิชาระฆังทองคำอมตะจะยังเคืองไม่หาย!

เห็นได้ชัดว่ามันยังจำได้ว่าวิชาดาบคลั่งสามวิถีเคยพูดว่ามันเป็นคนพิการ และดูถูกมัน

ตอนนี้วิชาระฆังทองคำอมตะแซงหน้าวิชาดาบคลั่งสามวิถีไปแล้ว มันจึงต้องพูดจาดูถูกกลับบ้างเป็นธรรมดา

[เจ้าพระขี้อวด!]​

วิชาดาบคลั่งสามวิถีพูดอย่างขุ่นเคือง

[พระร้อย, เจ้าพิโรธ​น้อย…พวกเราต่างก็เป็นผู้ช่วยของนายท่าน ไม่ต้องมาทะเลาะกันหรอก]

วิชาฝึกปราณขั้นพื้นฐานที่คิดว่าตัวเองเป็นพี่ใหญ่จึงรีบพูดไกล่เกลี่ย

[หึ…พวกเจ้าอย่าได้ใจกันไปหน่อยเลย!]​

วิชาดาบคลั่งสามวิถีพูดอย่างไม่พอใจ

จากนั้นเขาก็หันมาพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอน

[นายท่าน ถ้าท่านไม่ช่วยข้าหาดาบที่ดีกว่านี้….ข้าต้องแย่แน่ๆ!]​

ตอนนี้วิชาดาบคลั่งสามวิถีเริ่มร้อนใจแล้วจริงๆ!

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะช่วยเจ้าหาเอง!”

หลินเสวียนปลอบใจด้วยรอยยิ้ม

เรื่องนี้, เขาคิดว่าจะให้หลินเทียนช่วยหา

……..

“คุณชายสาม ท่านออกมาแล้ว!”

ทันทีที่หลินเสวียนก้าวออกจากห้อง เซียวจี๋เซียงที่มีรอยคล้ำใต้ตา…ก็เอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ

หลินเสวียนปรุงโอสถสามวัน ฝึกฝนอีกหกวัน…รวมกันเป็นเก้าวัน

เซียวจี๋เซียงเฝ้าอยู่หน้าประตูตลอดเก้าวัน แทบจะไม่ไปไหน…ตอนนี้เขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว

“อืม!”

“เจ้าลำบากมากแล้ว”

หลินเสวียนตบไหล่ของเซียวจี๋เซียงเบาๆพร้อมรอยยิ้ม

“ไม่เป็นไรครับ!”

“แต่ข้าก็เกือบจะทนไม่ไหวแล้วจริงๆ”

เซียวจี๋เซียงหาวออกมา, แสดงให้เห็นว่าเหนื่อยมากจริงๆ

“จริงสิ เซียวจี๋เซียง….เจ้าเคยได้ยินไหมว่าในเมืองหลางหยาของเรามีดาบดีๆบ้างใหม?”

“ยิ่งเป็นดาบที่เซียนเคยใช้ยิ่งดี!” หลินเสวียนถามเข้าประเด็น​

เซียวจี๋เซียงเป็นแหล่งข่าวที่มีชื่อเสียง

เขารู้เรื่องในเมืองหลางหยาดีกว่าหลินเสวียนเสียอีก

เรื่องของเมืองหลางหยา…ถามเขาย่อมไม่ผิด

“ดาบที่เซียนเคยใช้?”

“ในเมืองหลางหยาไม่มีหรอกครับ”

“แต่ข้าเคยได้ยินมาว่า สำนักธารามีดาบเล่มหนึ่งที่มหัศจรรย์มาก”

“มันถูกปักอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ที่หน้าประตูสำนักธารา”

“แม้แต่เจ้าสำนักธาราก็ยังดึงดาบเล่มนั้นออกมาไม่ได้!”

ทันใดนั้น, ดวงตาของเซียวจี๋เซียงก็เป็นประกาย

……………………

5 3 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด