กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 235 เส้นทางที่เชื่อมต่อกับโลกอินทนิลเร้นลับ!
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 235 เส้นทางที่เชื่อมต่อกับโลกอินทนิลเร้นลับ!
“พระสูตรจักรพรรดิ!”
เมิ่งชิ่งจือสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
เขามองอ๋าวเสวียนอย่างไม่แสดงท่าทีใด ๆ
เคยได้ยินมาว่าเผ่ามังกรแท้มีรากฐานที่แข็งแกร่ง แต่ไม่เคยเชื่อ
วันนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
หยิบพระสูตรจักรพรรดิออกมาอย่างง่ายดาย วิธีการเช่นนี้มีเพียงขุมอำนาจไม่กี่แห่งเท่านั้น ที่สามารถทำได้
พระสูตรจักรพรรดิหยินนิลกาฬ เป็นมรดกของมหาจักรพรรดิท่านหนึ่ง สำหรับเผ่ามังกรแท้แล้วมีเพียงคุณค่าในการอ้างอิง
เพราะพวกเขามีพระสูตรจักรพรรดิลำดับสูงสุดของตนเอง ไม่ว่าจะมีพระสูตรจักรพรรดิหยินนิลกาฬหรือไม่ก็ไม่ต่างกัน
ตอนนี้นำมาทำการค้าขาย ช่างเหมาะสมยิ่งนัก
“พระสูตรจักรพรรดิหยินนิลกาฬ...”
เมิ่งชิ่งจือมองพระสูตรจักรพรรดิ ในใจรู้สึกอิจฉายิ่งนัก หากพระสูตรจักรพรรดิเล่มนี้ เป็นของสำนักมารเก้าขุมนรก
คาดว่า...ไม่นาน สำนักมารเก้าขุมนรกจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก!
“ผู้อาวุโส เมื่อครู่ท่านกล่าวว่า พลังของโลกอินทนิลเร้นลับนั้นแข็งแกร่งกว่าโลกใบนี้ ไม่ทราบว่ามีมหาจักรพรรดิกี่คน พลังของพวกเขาเป็นเช่นไร”
อ๋าวเสวียนกล่าวอย่างแผ่วเบา
หลี่อวิ๋นมองอ๋าวเสวียนแวบหนึ่ง ในใจรู้สึกทึ่ง เผ่ามังกรแท้นั้นใจกว้างยิ่งนัก
พระสูตรจักรพรรดิหนึ่งเล่มก็โยนออกมาโดยไม่ลังเล แถมยังถามข่าวสารต่อหน้าเมิ่งชิ่งจือคงมีแผนการแอบแฝงอยู่
หลี่อวิ๋นมองแผงระบบของอ๋าวเสวียน จึงเข้าใจทันที
อ๋าวเสวียนผู้นี้ มิใช่คนเลวร้าย รู้ว่าโลกอื่นนั้นน่ากลัว การซื้อข้อมูลข่าวสารในตอนนี้ เท่ากับการช่วยเหลือเผ่ามนุษย์
เพราะว่าการช่วยเหลือเผ่ามนุษย์ ก็เหมือนกับการช่วยเหลือเผ่าอสูร
สงครามระหว่างโลก ไม่มีใครสามารถหลบหนีได้ ตอนนี้ บรรพบุรุษของเผ่าอีกาทองคำได้เดินทางไปแล้ว แม้จะยังไม่ลงมือ แต่ก็แสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนว่าต้องการช่วยเหลือเผ่ามนุษย์
ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ หากเผ่าอีกาทองคำยังคงคิดร้ายต่อเผ่ามนุษย์ คงไม่ต่างอะไรกับการทำให้เผ่าพันธุ์อื่น ๆ ในโลกนี้ไม่พอใจ
ข้อมูลข่าวสารที่อ๋าวเสวียนซื้อในวันนี้
เขาต้องการให้เมิ่งชิ่งจือ นข่าวสารเหล่านี้กลับไปบอกเผ่าพันธุ์อื่น ๆ
ทำให้เผ่าพันธุ์ต่าง ๆ รู้จักโลกอินทนิลเร้นลับ
การต่อสู้ในอนาคตอาจจะง่ายดายขึ้น
“รู้จักหน้าที่เช่นนี้ ก็ไม่เลว”
หลี่อวิ๋นมองข้อมูลของโลกอินทนิลเร้นลับ ใช้แต้มกลไกสวรรค์สี่แสนแต้ม ตรวจสอบอย่างละเอียด กล่าวอย่างช้า ๆ “โลกอินทนิลเร้นลับ เบื้องหน้า มีมหาจักรพรรดิสี่คน!”
“คนที่เปิดเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างโลก คือมหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬ!”
“ในบรรดามหาจักรพรรดิสี่คน มีสองคนที่กำลังเปิดเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างโลก คนหนึ่งจะเดินทางมาถึงในอีกสามเดือน อีกคนหนึ่งจะเดินทางมาถึงในอีกหนึ่งปี”
“นี่คือข้อมูลพื้นฐานของมหาจักรพรรดิสี่คน ลองดูเถอะ”
กล่าวจบ หลี่อวิ๋นก็โยนแผ่นหยกออกไปตกลงไปในมือของอ๋าวเสวียน
ส่วนเมิ่งชิ่งจือไม่ได้รับ
การได้ฟังข่าวสารโดยไม่ต้องจ่าย ก็ไม่ควรจะมากเกินไป มหาจักรพรรดิสี่คน ข้อมูลพื้นฐานของพวกเขามีค่ามาก อ๋าวเสวียนมอบพระสูตรจักรพรรดิให้เขา ก็ไม่สมควรที่จะมอบให้เมิ่งชิ่งจืออีก
หากอ๋าวเสวียนไม่สนใจ หลังจากดูแผ่นหยก คงจะมอบให้เมิ่งชิ่งจือ
“มหาจักรพรรดิสี่คน... ช่างน่ากลัว”
อ๋าวเสวียนอ่านข้อมูลภายในแผ่นหยก
ผ่านไปนานจึงถอนหายใจด้วยความหนักอึ้ง
เขาไม่นึกเลยว่า มหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬที่เพิ่งจะเดินทางมาถึงโลกใบนี้ จะบรรลุระดับจักรพรรดิเพียงเจ็ดหมื่นปี
เป็นคนที่บรรลุระดับจักรพรรดิช้าที่สุด
ส่วนคนที่บรรลุระดับจักรพรรดิเร็วที่สุด
มีอายุขัยหนึ่งล้านสามแสนสองหมื่นปี!
มหาจักรพรรดิทั้งสี่ หากร่วมมือกัน โลกของพวกเขา คงไม่อาจต้านทาน
ท่านเจ้าหอไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ
เพียงแค่หลิงเซียวคนเดียว แม้เขาจะเก่งกาจเพียงใด ก็คงไม่สามารถต่อกรกับมหาจักรพรรดิสี่คนได้
มหาจักรพรรดิแต่ละคนล้วนเป็นอัจฉริยะในยุคของตนเอง ไร้ผู้ต่อต้าน
การต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่ง หลิงเซียวยังไม่แน่ใจว่าจะชนะ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้แบบหนึ่งต่อสอง หรือมากกว่านั้น
พวกเขาบรรลุระดับจักรพรรดิมานับแสนปี การสั่งสมพลังคงไม่ธรรมดา การเอาชนะ หรือสังหารหลิงเซียวคงไม่ใช่เรื่องยาก
“หากมหาจักรพรรดิทั้งสี่เดินทางมาถึง โลกใบนี้ คงต้องพบเจอกับหายนะ” อ๋าวเสวียนกล่าวอย่างแผ่วเบา
แม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะคิดว่าในโลกใบนี้ มีมหาจักรพรรดิที่ซ่อนตัวอยู่ แต่โลกอินทนิลเร้นลับเล่า
พวกเขาจะมีหรือไม่
เมื่อครู่ท่านผู้อาวุโสได้กล่าวอย่างชัดเจน มีเพียงมหาจักรพรรดิสี่คน เบื้องหลัง ไม่มีใครรู้
ท่านเจ้าหอมักจะกล่าวเป็นนัย ๆ เช่นนั้นต้องระวัง
ข้างกาย เมิ่งชิ่งจือมองแผ่นหยก ในใจอยากรู้อยากเห็นยิ่งนัก
ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับมหาจักรพรรดิสี่คน
ใครก็ตามที่ได้ยินคงอยากจะรู้
เขาลองอ้าปากหลายครั้ง สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยปาก
หากเขาเอ่ยปาก เมิ่งชิ่งจือมั่นใจว่า อ๋าวเสวียนคงจะเยาะเย้ยเขาอย่างแน่นอน
ไม่มีทางเลือก ใครให้สำนักมารเก้าขุมนรกอ่อนแอกว่าเล่า
การที่รู้ข้อมูลเบื้องต้นก็ควรจะพอใจแล้ว
“ท่านผู้อาวุโส ตอนนี้กองกำลังของมหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬ เดินทางมาถึงทั้งหมดแล้วหรือไม่?” เมิ่งชิ่งจือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงได้เอ่ยถาม
ตอนนี้ สิ่งมีชีวิตที่เดินทางข้ามโลกมา ร่วมมือกับขุมอำนาจหนึ่งของเผ่ามนุษย์ ต่อสู้กันอย่างดุเดือด แม้แต่อาวุธจักรพรรดิก็ยังถูกนำออกมาใช้ พื้นที่โดยรอบหลายล้านลี้กลายเป็นสมรภูมิรบ
การต่อสู้ครั้งนี้ ทำให้ผู้คนมากมายสงสัยว่า มหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬคงจะย้ายคนทั้งหมดมาที่นี่
นอกจากตัวเขาเอง คนที่สามารถเดินทางมาถึง คงเดินทางมาถึงแล้ว
“อืม?”
หลี่อวิ๋นเลิกคิ้ว
เมิ่งชิ่งจือมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก มือสั่นเทา หยิบอาวุธระดับอภิศักดิ์สิทธิ์ออกมาหนึ่งชิ้น วางไว้เบื้องหน้าหลี่อวิ๋น
นี่คือสิ่งที่เขาได้รับมาจากสิ่งมีชีวิตสามแสนตน ยังไม่ได้อุ่นมือก็ต้องเสียไปแล้ว
“ผู้อาวุโส ข้าน้อยก็อยากจะถามเรื่องนี้” อ๋าวเสวียนกล่าวอย่างรวดเร็ว
เขายื่นมือออกไป โยนโอสถระดับอภิศักดิ์สิทธิ์หนึ่งขวดลงบนโต๊ะ จากนั้นจึงมองเมิ่งชิ่งจือด้วยสายตาดูถูก
“แค่ก”
เมิ่งชิ่งจือกระแอมไอเบา ๆ
เขารีบเก็บอาวุธที่กำลังจะมอบให้หลี่อวิ๋น
มีคนยินดีจ่ายเงินแล้ว หากเขาโง่เขลา เสียเงินเช่นนี้คงไม่ต่างอะไรกับคนโง่
เก็บอาวุธชิ้นนี้เอาไว้ บางทีเขาอาจจะสามารถซื้อโอกาสสักครั้ง ทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น เพิ่มรากฐานของสำนักมารเก้าขุมนรกไม่ดีกว่าหรือ?
“ไม่ใช่”
หลี่อวิ๋นส่ายหน้าเบา ๆ
“หา?”
เมิ่งชิ่งจือและอ๋าวเสวียนสีหน้าเปลี่ยนไปพร้อมกัน
“ตอนนี้ คนที่เดินทางมาถึง เป็นเพียงกองกำลังล่วงหน้าของมหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬ พวกเขาที่เจ้าเห็น เป็นเพียงคนของขุมอำนาจอื่นที่ต้องการเข้ามาร่วมสนุก”
หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างแผ่วเบา
ไพ่ตายที่แท้จริงของมหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬยังไม่ปรากฏตัว
แต่ขุมอำนาจอื่น ๆ แตกต่างออกไป พวกเขารู้ว่ามีเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างโลก จึงไม่สามารถสงบนิ่งได้
โลกใบหนึ่งหมายถึงโอกาสมากมาย
หากมีมหาจักรพรรดิเปิดเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างโลก ไม่ห้ามขุมอำนาจอื่น ๆ ขุมอำนาจมากมาย คงจะพุ่งทะลักเข้าไป
ชัดเจนว่ามหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬ ต้องการให้คนเหล่านี้เป็นกองกำลังล่วงหน้า ทำลายรากฐานของโลกใบนี้ บีบบังคับมหาจักรพรรดิหนึ่งหรือสองคนให้ออกมา
ทำให้ผลกระทบต่อตัวเขาน้อยที่สุด
นี่คือบทเรียนที่มหาจักรพรรดิแห่งโลกอินทนิลเร้นลับในอดีตทิ้งเอาไว้
หากมหาจักรพรรดิคนนั้นไม่ได้นำคนทั้งหมดมาที่นี่คงไม่พ่ายแพ้อย่างยับเยิน จนถึงขั้นกองทัพทั้งหมดถูกทำลาย
“จริงสิ”
หลี่อวิ๋นนึกอะไรบางอย่างออก
โบกมือ ภาพหนึ่งปรากฏขึ้น ภายในภาพ มีเงาร่างสองร่างยืนอยู่ กลิ่นอายเย็นยะเยียบ สายตาของพวกเขามองข้ามทุกสิ่งทุกอย่าง
“เมื่อครู่ มีระดับกึ่งจักรพรรดิสองคน เดินทางข้ามโลกมาถึง พวกเขาไม่ใช่ลูกน้องของมหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬ แต่เป็นผู้อาวุโสของขุมอำนาจแห่งหนึ่ง”
“ยิ่งไปกว่านั้น”
“พวกเขายังนำอาวุธจักรพรรดิมาด้วย”
ในเมื่อทุกคนในโลกใบนี้ร่วมมือกัน เขาจึงไม่ปิดบังข่าวสารนี้ เพราะสองคนนั้น
ได้เดินทางไปยังสมรภูมิรบแล้ว ไมได้ซ่อนตัว
ผู้คนมากมายต่างก็เห็น
การที่เขาเปิดเผยไพ่ตายของพวกเขา ไม่นับว่าเป็นอันใด
เพียงแค่ลงมือ ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับอาวุธจักรพรรดิ ก็จะถูกเปิดเผย ไม่นาน ข้อมูลข่าวสารนี้ก็จะไม่มีค่า
“นี่...”
เมื่อเห็นภาพนี้ อ๋าวเสวียนและเมิ่งชิ่งจือต่างก็ใจหาย
พลังที่โลกอินทนิลเร้นลับแสดงออกมา ช่างน่ากลัว
กองกำลังของมหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬ ยังไม่ทันได้ลงมือ เพียงแค่ขุมอำนาจอื่น ๆ ก็สามารถกดข่มเผ่ามนุษย์ได้
ครั้งนี้ไม่มีจักรพรรดิปฐมกาลโบราณ!
แม้จะมีคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้
พวกเขามีเพียงหนึ่งคน แต่อีกฝ่ายมีสี่คน จะสู้ได้อย่างไร?
รวมกับระดับกึ่งจักรพรรดิที่เพิ่งเดินทางมาถึง ตอนนี้ โลกอินทนิลเร้นลับได้ส่งระดับกึ่งจักรพรรดิมาสามคน อาวุธจักรพรรดิสองชิ้นแล้ว
อ๋าวเสวียนและเมิ่งชิ่งจือต่างก็หวั่นไหว
พวกเขาควรจะเข้าร่วมสงครามหรือไม่?
หากมหาจักรพรรดิไม่ลงมือ ระดับกึ่งจักรพรรดิและอาวุธจักรพรรดิคือพลังสูงสุด!
พวกเขายังไม่ทันตัดสินใจ ภาพก็เปลี่ยนไป
ดวงอาทิตย์ดวงหนึ่งปรากฏขึ้นบนสมรภูมิรบ ภายในดวงอาทิตย์ มีนกสีทองสามขา ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง ราวกับเทพเจ้าอสูรตกลงมายังพื้นดิน
เพียงแค่ปล่อยรังสีอำนาจ พื้นดินเบื้องล่างก็พังทลาย แสงสว่างแผ่กระจายออกไป พื้นที่โดยรอบหลายหมื่นลี้ กลายเป็นดินแดนที่แห้งแล้ง
“บรรพบุรุษของเผ่าอีกาทองคำลงมือแล้ว”
เมื่อเห็นภาพนี้ ทั้งสองรู้สึกหนักอึ้งยิ่งขึ้น
เผ่าอีกาทองคำลงมือ
นั่นหมายถึง เผ่าอสูรรู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้แล้ว มหาจักรพรรดิแห่งโลกเงาโลหิตในอดีต เพียงแค่ส่งระดับกึ่งจักรพรรดิมาสองคน
แต่โลกอินทนิลเร้นลับในตอนนี้ มหาจักรพรรดิยังไม่ได้ลงมือก็ส่งระดับกึ่งจักรพรรดิมาสามคน ถืออาวุธจักรพรรดิสองชิ้น
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้พลังที่แท้จริงของโลกอินทนิลเร้นลับ แต่ก็พอจะเดาได้จากสถานการณ์เบื้องหน้า
โลกใบนี้ อ่อนแอกว่าโลกเงาโลหิตเสียอีก
เผ่าพันธุ์ต่าง ๆ หากไม่ร่วมมือกัน
คงต้องพบกับหายนะ
ภาพเปลี่ยนไปอีกครั้ง
บรรพบุรุษของเผ่าอีกาทองคำ ต่อสู้กับระดับกึ่งจักรพรรดิสองคน แสงสว่างเจิดจ้า ปกคลุมท้องฟ้า เสียงคำรามดังกึกก้อง
แม้จะอยู่ไกล แต่พวกเขาก็ยังคงรู้สึกถึงความดุเดือด
ใกล้ ๆ สมรภูมิรบ กึ่งจักรพรรดิเย่ และกึ่งจักรพรรดิหลิน ร่วมมือกัน ต่อสู้กับระดับกึ่งจักรพรรดิจากโลกอินทนิลเร้นลับ การต่อสู้ครั้งนี้ยืดเยื้อ แม้ฝ่ายตนเองจะเหนือกว่า แต่ไม่สามารถสังหารอีกฝ่ายได้
“ไม่อาจรอคอยได้อีกต่อไป”
อ๋าวเสวียนกัดฟัน
ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เขาต้องการเดินทางไปยังสมรภูมิรบ เผ่ามังกรแท้เป็นถึงเผ่าพันธุ์ใหญ่ ปกครองมหาสมุทร มีเผ่าพันธุ์มากมายอยู่ใต้อำนาจ
หากนิ่งเฉย เผ่าพันธุ์อื่น ๆ คงจะคิดว่าเผ่ามังกรแท้นั้นขี้ขลาด
“รอสักครู่”
เมิ่งชิ่งจือขมวดคิ้ว หยุดอ๋าวเสวียนเอาไว้ คิดอย่างรวดเร็ว
“อืม?”
อ๋าวเสวียนหยุดก้าวเท้า สีหน้าไม่พอใจ เอ่ยอย่างเย็นชา “สหายเต๋าเมิ่ง กลัวแล้วหรือ?”
“ไม่ใช่”
เมิ่งชิ่งจือส่ายหน้า เขาหันไปมองหลี่อวิ๋น ดวงตาเป็นประกาย เอ่ยถามอย่างคาดหวัง “ท่านผู้อาวุโส พลังของท่านไร้เทียมทาน คาดว่าคงเป็นถึงยอดฝีมือในบรรดามหาจักรพรรดิ”
“ไม่ทราบว่า ท่านผู้อาวุโส สามารถเปิดเส้นทางที่เชื่อมต่อกับโลกอินทนิลเร้นลับได้หรือไม่”