ตอนที่แล้วบทที่ 43 เหมือนพลาสเตอร์ยาที่ติดแน่นอยู่บนตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 45 จิตวิญญาณสั่นสะเทือนไปกับเขา

บทที่ 44 แค่ลงมือเล็กน้อย ก็รู้ขีดจำกัดด้านวรรณกรรมของเธอแล้ว


"ตอนนี้เขียนทันไหม?"

เหยียนเสี่ยวซีเห็นเพื่อนนั่งข้างที่เป็นเขาขงเบ้งค่อยๆ หยิบกระดาษเปล่าออกมา แล้วจับปากกาดำในมือ ดูเหมือนจะเตรียมตัวเขียนแล้ว เธอพูดอย่างหงุดหงิดว่า "เหลือเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเอง ก่อนหน้านี้นายไปทำอะไรมา? อ๋อ... นายนอนหลับกับเล่นเกมนี่เอง"

เผชิญกับคำเยาะเย้ยของนักเรียนอัจฉริยะ เฉินเสี่ยวซินไม่ได้สนใจอะไรเลย เขาพูดเรียบๆ ว่า "ครึ่งชั่วโมงสำหรับเธออาจจะไม่พอ แต่สำหรับฉันมันเหลือเฟือ ที่ไม่เขียนก่อนหน้านี้เพราะว่ายังไม่มีเวที ตอนนี้มีเวทีแล้ว"

"..."

"นี่นายกำลังอวดฉันอยู่เหรอ?"

เหยียนเสี่ยวซีกลอกตา พูดอย่างโมโหว่า "ฉันเกลียดที่สุดเลยคนที่ชอบอวดแบบนี้ อวดแล้วระวังโดนฟ้าผ่านะ รู้ไหม ได้ ได้... นายเขียนสิ! ฉันจะดูนายเขียน! ฉันอยากรู้นักว่านายมีฝีมือพอที่จะอวดหรือเปล่า โมโหจริง... มาอวดต่อหน้าฉัน"

อย่างไรก็ตาม... รอไปตั้งหนึ่งนาทีเต็มๆ เขาก็ยังไม่ลงมือเขียน

"เฮ้!"

"เขียนสิ!"

"นี่นาย... นายเหม่ออะไรอยู่น่ะ?" เหยียนเสี่ยวซีเห็นเขาขงเบ้งนั่งเหม่ออยู่ข้างๆ เธอจึงเตือนอย่างหงุดหงิด "ไม่มีเวลาแล้วนะ!"

เฉินเสี่ยวซินหลับตา ตอบอย่างสงบว่า "อย่าเสียงดัง... ฉันกำลังสื่อสารทางจิตวิญญาณกับตอลสตอย บัลซัค และเชคสเปียร์อยู่"

โอ้โห... อวดเก่งจริงๆ!

ฉัน เหยียนเสี่ยวซี ขอยกให้นายเป็นราชาแห่งการอวดเลย!

เหยียนเสี่ยวซีกลอกตา และไม่เตือนอะไรเขาอีก เธอรอเวลาหมดอย่างว่าง่าย แล้วจะได้ชนะการพนันครั้งนี้

ในตอนนั้นเอง

เฉินเสี่ยวซินลืมตาขึ้นทันที หยิบปากกาขึ้นมาเขียนอย่างรวดเร็วบนกระดาษ เร็วจนเห็นแค่เงาของแขนเท่านั้น ทำเอาเหยียนเสี่ยวซีที่นั่งข้างๆ ตกตะลึง ถ้าบอกว่าเขากำลังคำนวณ ความเร็วแบบนี้ก็พอเข้าใจได้ แต่นี่เขากำลังเขียนบทความ! ถึงจะบันดาลใจพุ่งพล่านก็ไม่น่าจะเร็วขนาดนี้นะ?

เขา... เขาตั้งใจเขียนบทความจริงๆ หรือเปล่านะ? หรือว่าคิดว่าตัวเองจะแพ้ เลยเริ่มเขียนส่งๆ แล้ว?

เหยียนเสี่ยวซีอยากจะชะโงกไปดูว่าเขากำลังเขียนมั่วๆ หรือเปล่า แต่สุดท้ายก็อดทนเอาไว้ ยังไงก็เหลือเวลาไม่ถึงสิบกว่านาที เดี๋ยวก็รู้เองว่าเกิดอะไรขึ้น

ฉัวะๆๆ------

เฉินเสี่ยวซินกำลังตั้งหน้าตั้งตาเขียน ตอนนี้เขาหมกมุ่นอยู่กับมันอย่างสมบูรณ์ ในหัวมีแต่ตัวอักษร ไม่มีความคิดอื่นใดเลย

ผ่านไปอีกห้านาที เฉินเสี่ยวซินรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเขียนเสร็จ แต่ว่า... แต่ว่าแรงบันดาลใจในการเขียนยังไม่หมดเลย เขารู้สึกว่าตัวเองยังเขียนต่อได้อีก อย่างไรก็ตาม... ข้อจำกัดด้านจำนวนคำทำให้เขาต้องจบก่อน เหมือนกับนักเขียนนิยายออนไลน์คนหนึ่งชื่อไท่ไป๋เหมา(เจ้าของเรื่องนี่แหละ5555)ที่ยังเขียนต่อไปได้ แต่ตั้งใจจบตอนตรงนั้น

จบแล้ว... แต่เรื่องราวของฉันยังเขียนต่อไปได้อีกนะ! เฉินเสี่ยวซินมองดูเนื้อหามากมายบนกระดาษขาว ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกอึดอัด ไม่สะใจเลยสักนิด ฉัน... ฉันรู้สึกแย่มากเลย!

"เขียนเสร็จแล้วเหรอ?"

เสียงของเหยียนเสี่ยวซีดังขึ้นข้างหู ดึงความคิดของเฉินเสี่ยวซินกลับมาสู่ความเป็นจริง

"เฮ้อ"

"จริงๆ แล้วยังเขียนไม่จบ"

"แต่ก็ถือว่าส่งได้แล้วล่ะ" เฉินเสี่ยวซินตอบอย่างไม่เต็มอิ่ม "นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าการเขียนมันง่ายและสนุกขนาดนี้ ไม่รู้ว่าทำไมนักเขียนในอินเทอร์เน็ตถึงชอบเลื่อนอัพเดต หรือหยุดเขียนกลางคัน ก่อนหน้านี้ยังไม่เข้าใจว่าทำไมนักอ่านถึงอยากจับนักเขียนขังไว้ในห้องมืด แต่ตอนนี้... ฉันเข้าใจแล้ว"

เหยียนเสี่ยวซีมองเขาด้วยสายตาเหยียดๆ พูดอย่างหงุดหงิดว่า "เลิกอวดได้แล้ว รีบให้ฉันดูหน่อย"

เฉินเสี่ยวซินส่งบทความของตัวเองให้เหยียนเสี่ยวซีเงียบๆ เมื่อนักเรียนอัจฉริยะได้รับบทความจากเพื่อนนั่งข้างที่เป็นเขาขงเบ้ง เธอก็เริ่มอ่านทันที... ผลปรากฏว่าแค่ประโยคแรกๆ ก็ทำให้หัวใจเธอสั่นไหว

วิเศษจริงๆ------

การเปิดเรื่องนี้ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน!

ชี้ให้เห็นถึงการถกเถียงเรื่องการต่อสู้ได้อย่างตรงประเด็น เหยียนเสี่ยวซีกัดริมฝีปาก เก็บความชื่นชมที่มีต่อใครบางคนเอาไว้ แล้วอ่านบทความนี้ต่อไป

เพียงครู่เดียว

เมื่อเหยียนเสี่ยวซีอ่านถึงครึ่งทาง อารมณ์ของเธอก็สั่นไหวเล็กน้อย พร้อมๆ กับความรู้สึกจนปัญญาที่ไหลบ่าเข้ามาไม่หยุด... บทความนี้แทบจะไม่มีการอวดฝีมืออะไรเลย มีแต่การถ่ายทอดความรู้สึกที่แท้จริง โดยเฉพาะในแง่ของตรรกะและการถกเถียง... แทบจะสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

หรือว่า ฉันจะแพ้เขาอีกแล้ว? ก่อนหน้านี้แพ้เรื่องวรรณคดีโบราณให้เขา ตอนนี้แม้แต่วรรณกรรมสมัยใหม่ก็แพ้เขาอีก ต่อไปก็คงจะแพ้ภาษาอังกฤษ แพ้เคมี แพ้ชีววิทยา แม้แต่คณิตศาสตร์และฟิสิกส์ก็แพ้... แล้วก็ไม่มีอะไรให้แพ้อีกแล้ว หน้า... หน้าก็ไม่ต้องมีแล้ว! ไม่ ไม่ ไม่! ฉัน... ฉันต้องรักษาความได้เปรียบในวิชาวิทยาศาสตร์เอาไว้ให้ได้! เหยียนเสี่ยวซีกลั้นอารมณ์ที่ซับซ้อน อ่านบทความในมือต่อไป ผลคือยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกหมดแรง บทความ "กุหลาบ" ของเธอเมื่อเทียบกับบทความนี้แล้ว มัน... มันไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย บทความนี้นำหน้า "กุหลาบ" ของเธอไปไกลมาก

คิดถึงตรงนี้ ความแค้นในใจก็พุ่งพล่านขึ้นมา... เขาเขียนบทความดีๆ ได้ แต่กลับให้ฉันเขียนแทน

ทันใดนั้นความคิดไปเองของเหยียนเสี่ยวซีก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

ผู้ชายไร้ยางอาย... แค่อยากเห็นฉันเป็นตัวตลก

"เป็นไงบ้าง?"

"เจ๋งไหมล่ะ?"

"ฉันบอกเธอแล้วไง... แค่ลงมือเล็กน้อย ก็รู้ขีดจำกัดด้านวรรณกรรมของเธอแล้ว" เฉินเสี่ยวซินพูดอย่างกวนประสาท

ทันทีที่พูดจบ

เหยียนเสี่ยวซีก็ยกเท้าขึ้นเหยียบเท้าเขาอย่างแรง... โอ๊ย------

ฉัน... ฉันช่างซวยจริงๆ!!

ใบหน้าของเฉินเสี่ยวซินบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดทันที

"เจ็บไหม?"

เหยียนเสี่ยวซีถามอย่างกัดฟัน

"อืม"

เฉินเสี่ยวซินทำหน้าน่าสงสาร พยักหน้าเบาๆ ใส่เธอ

"ห้ามอวดต่อหน้าฉัน"

เหยียนเสี่ยวซีเบ้ปาก แล้วส่งกระดาษคืนให้เขา พูดเรียบๆ ว่า "ยอมรับว่านายเก่ง... ฉัน... ฉันสู้นายไม่ได้ในด้านวรรณกรรม"

"หา?"

"เธอไม่ดื้อดึงหน่อยเหรอ?"

เฉินเสี่ยวซินมองเธอด้วยความสงสัย

"พูดตามความจริง... มีอะไรให้ต้องดื้อดึงล่ะ" เหยียนเสี่ยวซีกลอกตา ตอบกลับอย่างหงุดหงิด "ฉันรู้ว่าเธอคิดจะทำอะไร... ฉันไม่มีทางให้โอกาสแบบนั้นหรอก"

เฉินเสี่ยวซินยิ้มแหยๆ ถือบทความที่ตัวเองเขียน ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ในใจนึกว่านี่เป็นแค่ส่วนบนเท่านั้น ยังมีส่วนกลางและส่วนล่างอีก พอดีตอนนี้กำลังอยู่ในอารมณ์ เขียนให้จบไปเลยดีกว่า แล้วค่อยส่งให้คุณครูหยาง เพื่อแลกกับความสงบสุขในสองเดือนข้างหน้า

คิดแล้ว เขาก็หยิบกระดาษขาวมาอีกสองแผ่น เริ่มเขียนอย่างขะมักเขม้น... ตอนนี้เขากลับเข้าสู่สภาวะการเขียนอีกครั้ง

เหยียนเสี่ยวซีมองดูเขาเงียบๆ มองเพื่อนนั่งข้างที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับการเขียน ในดวงตาฉายแววประหลาดใจ และมีความกังวลเล็กน้อย บางที... บางทีตำแหน่งที่หนึ่งของชั้นปีอาจจะรักษาไว้ไม่ได้แล้ว ในด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์เธอก็แทบไม่ต่างจากเขา อย่างมากก็ทิ้งห่างเขาได้แค่สามคะแนน แต่ในวิชาภาษาจีน เขาอาจจะทิ้งห่างเธอได้ถึงห้าคะแนน ส่วนที่เหลือคือภาษาอังกฤษ เคมี ชีววิทยา... หวังว่า... หวังว่าภาษาอังกฤษจะช่วยทิ้งห่างเขาได้อีกนิดหนึ่ง

เมื่อเทียบกับเหยียนเสี่ยวซีที่กำลังคิดวุ่นวาย ตอนนี้เฉินเสี่ยวซินกำลังเพลิดเพลินกับการเขียนอย่างลื่นไหล

จนกระทั่งเสียงกริ่งดังขึ้น เขาก็วางปากกาแล้ววิ่งไปกินข้าวทันที

เหยียนเสี่ยวซีหยิบบทความที่ยังเขียนไม่เสร็จขึ้นมา พินิจพิเคราะห์เนื้อหาในนั้นอย่างละเอียด แล้วในวินาทีถัดมาสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด