ตอนที่แล้วบทที่ 157 สตรีใจอำมหิต!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 159 ช่วงชิง 

บทที่ 158 คิดหรือว่าจะหาเจ้าไม่พบ 


หลังหายใจออกคลายความกังวล หลัวเฉิงก็นึกถึงวาจาของหวงซาง ทันใดนัยน์ตาก็ประกายแสงเยือกเย็น

“ผู้อาวุโสที่รับผิดชอบในการทดสอบ...ก็มีเพียงผู้อาวุโสเหอเท่านั้น! หากผู้ใดสังหารข้าจะกลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกได้โดยตรง นั่นเท่ากับว่า ผู้ใดในที่นี้ก็ล้วนเป็นศัตรูกับข้าทั้งสิ้น! แต่ไม่คิดเลยว่าฐานะผู้อาวุโสฝ่ายนอกจะมีอำนาจถึงเพียงนี้ ถึงขั้นคิดปิดท้องฟ้าด้วยฝ่ามือเดียวเลยงั้นหรือ?”

หลัวเฉิงไม่รู้ว่าผู้อาวุโสเหอเป็นผู้วางแผนการอันโหดร้ายนี้ หรือยังมีผู้อื่นอยู่เบื้องหลังคอยบงการเขาอีก

แต่อย่างไรเสีย เห็นได้ชัดว่ายามหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ย่อมไม่มีเวลาให้คิดใคร่ครวญอีกต่อไป

ไม่แปลกใจเลย ที่ว่าเหตุใดยามผู้อื่นได้พบเห็นเขาย่อมมีความอยากปรารถนาจะสังหารเช่นนี้!

สิ่งล่อใจในการกลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกนั้นนับว่ามีแรงจูงใจสูงใช่ชั่ว อาจเรียกได้ว่าเป็นโอกาสสวรรค์ประทานก็มิผิด! แม้นต้องเอาชีวิตเข้าแลกก็ยังนับว่าคุ้มค่า!

ศิษย์บำรุงสำนักในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่นั้นนับว่าไม่เป็นปัญหา แต่หากเป็นระดับห้าแถมยังกรูกันมาเป็นกลุ่ม หลัวเฉิงเองก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถเอาตัวรอดได้

“เกรงว่าข้าต้องรีบขัดเกลาวิชามังกรแท้ให้ทะลวงระดับโดยเร็วเสียแล้ว!”

ดวงตาหลัวเฉิงจ้องไปที่ร่างหวงซาง และโจวจินซวน

หลัวเฉิงไม่รอช้ารีบเดินเข้าหาหมายกลืนกินวิญญาณยุทธ์ทั้งคู่ทันที แต่ทันใดนั้น เงาดำตะคุ่มก็พุ่งร่างออกมาจากด้านหลังของต้นไม้ใหญ่ พร้อมกับหมัดกระด้างที่กระชากห้วงอากาศขาดสะบั้น!

หลัวเฉิงขมวดคิ้วลิ่วหน้าแล้วตั้งท่าชกหมัดสวนพลัน

ปัง!

เสียงดังกึกก้องกัมปนาท ก่อนปรากฏร่างหนึ่งร่อนลงตรงหน้าหลัวเชิงห่างออกไปสามก้าว

“ไม่เลว คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะสามารถรับหมัดของข้าได้!”

ผู้มาเยือนเปิดปากหัวเราะเย้ยหยัน

หลัวเฉิงเงยหน้าขึ้นมอง ทันใดม่านตาก็หรี่แคบ “หานเฟิง!”

ผู้มาเยือนแต่งกายด้วยชุดสีดำ ดวงตาเรียวแคบจมูกสูงโด่ง พานให้ผู้คนรู้สึกครั่นคร้าม นามนั้นคือหานเฟิง!

ระหว่างนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เสี้ยวอึดใจก็มีสองร่างไหวกายออกมาจากป่าทึบ ยืนทางด้านหลังของหานเฟิง

“คิดหรือว่าคนเยี่ยงข้าจะตามหาเจ้าไม่พบ ไอ้ขยะอุบาทว์บัดซบ!”

หานเฟิงจ้องยังหลัวเฉิงแล้วเหยียดยิ้มดุร้ายดุจเดียวกับอสรพิษ

ทันทีที่ปลายเท้าของเขาสัมผัสพื้นเกาะชิงอวิ๋น สิ่งแรกที่หานเฟิงคิดก็คือตามหาหลัวเฉิง

แต่น่าเสียดายที่เกาะชิงอวิ๋นนั้นกว้างใหญ่ใช่น้อย จึงเป็นเรื่องยากที่จะหาพบได้ง่ายๆ แต่บังเอิญได้ยินเสียงร้องของหวงซางเมื่อครู่ จึงรีบปรี่เข้ามาทันที

เมื่อมองยังสบบนพื้น หานเฟิงก็แสยะยิ้มกล่าวว่า “โชคดีที่ยังไม่มีผู้ใดสังหารเจ้าไปเสียก่อน เพราะชีวิตเจ้าเป็นของข้า!”

“ลำพังแค่เจ้าน่ะหรือ เฮอะ!”

หลัวเฉิงแค่นเสียงเย้ยหยัน

เขาไม่ได้หวั่นเกรงต่อความสามารถของหานเฟิงอยู่แล้ว ตั้งแต่แรกเริ่มที่ยังมิได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่ด้วยซ้ำ ตอนนี้ยิ่งแล้วไปใหญ่

“เจ้ากล้ากล่าววาจาเช่นนี้กับพี่หานเฟิงได้อย่างไร!”

“พี่หานเฟิง รีบฆ่ามันเร็วๆ เถิด ท่านจะได้กลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกทันที!”

ลูกศิษย์บำรุงสำนักอีกสองคนที่ยืนข้างหานเฟิงตามตวาดด้วยความโกรธแค้น

แววตาของหานเฟิงเข้มขึ้น “ไอ้หนู ที่นี่ไม่ได้อยู่ในสำนัก เจ้าคิดว่าจะมีผู้ใดยื่นมือเข้าช่วยหรืออย่างไรกัน?”

“ข้าเคยบอกไปแล้วว่าหากเจอกันครั้งหน้า ข้าจะให้เจ้าคุกเข่าเลียพื้นรองเท้าข้า! นี่มันถึงเวลาที่เจ้าต้องทำตามที่ข้าสั่งแล้ว!”

“เลือกมา จะยอมคุกเข่าอย่างเชื่อฟังแล้วตายไปแต่โดยดี หรือจะให้ข้าทรมานเจ้าให้สาหัสเสียก่อนค่อยเลือกว่าเจ้าจะตายอย่างไร!!”

“วาจาใหญ่โตโอหังนัก รับกระบี่ของข้าให้ได้แล้วข้าจะบอกเจ้า!”

ดวงตาหลัวเฉิงเรียบเฉย ทันใดก็กระชับด้ามกระบี่ฟาดฟันออกไปทันที

“สวรรค์ถล่มสายลมชะงัก!”

ฟึบ!

แสงกระบี่รวมตัวเป็นเส้น คล้ายดั่งอาชาขาวโลดแล่นทะยานผ่านห้วงอากาศ

“ไม่ประมาณตน……”

หานเฟิงมองเพลงกระบี่อย่างเย้ยหยัน ก่อนยื่นมือออกไปหมายใช้สองนิ้วหนีบเพื่อหยุด

ขณะที่นิ้วทั้งสองกระชั้นชิดใกล้จะหนีบกระบี่ได้ แสงกระบี่นั้นก็หายไปจากสายตาหานเฟิงทันที!

ฉึก!

ใบหน้าของหานเฟิงนิ่งอึ้ง ด้วยความรู้สึกเจ็บชาที่หน้าอก เมื่อทอดสายตาลงไปก็พบว่ากระบี่สีดำเล่มหนึ่งแทงทะลวงหน้าอกเขาจนทะลุไปแล้ว

“เป็น เป็นไปได้อย่างไร……”

หานเฟิงมองกระบี่สีดำยาวที่เสียบหยุดตรงหว่างอกตน ด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อระคนสงสัยว่าไฉนกระบี่จึงทะลวงอกเขาได้

หลัวเฉิงไม่ตอบ เพียงดึงกระบี่ทลายสวรรค์ออกจากอกหานเฟิง แล้วเดินไล่ล่าสังหารอีกสองคนที่เหลือ

“ไม่จริง! พี่ใหญ่หานเฟิงตายแล้ว!”

“หนีเร็ว!”

ศิษย์บำรุงสำนักสองคนนี้ มักจะเกาะติดหานเฟิงแล้วอาศัยบารมีอวดเบ่งอำนาจ และระดับการฝึกปรือก็อยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสามเท่านั้น เมื่อเห็นหลัวเฉิงย่างเท้าเข้าใกล้ด้วยจิตสังหารก็ต่างขวัญเสียแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง

แต่ทว่า หลัวเฉิงกลับรวดเร็วยิ่งกว่า

ฉัวะ! ฉัวะ!

ทันทีที่หลัวเฉิงฟันกระบี่ศีรษะก็กระเด็นเช่นเดียวกัน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด