บทที่ 158 คิดหรือว่าจะหาเจ้าไม่พบ
หลังหายใจออกคลายความกังวล หลัวเฉิงก็นึกถึงวาจาของหวงซาง ทันใดนัยน์ตาก็ประกายแสงเยือกเย็น
“ผู้อาวุโสที่รับผิดชอบในการทดสอบ...ก็มีเพียงผู้อาวุโสเหอเท่านั้น! หากผู้ใดสังหารข้าจะกลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกได้โดยตรง นั่นเท่ากับว่า ผู้ใดในที่นี้ก็ล้วนเป็นศัตรูกับข้าทั้งสิ้น! แต่ไม่คิดเลยว่าฐานะผู้อาวุโสฝ่ายนอกจะมีอำนาจถึงเพียงนี้ ถึงขั้นคิดปิดท้องฟ้าด้วยฝ่ามือเดียวเลยงั้นหรือ?”
หลัวเฉิงไม่รู้ว่าผู้อาวุโสเหอเป็นผู้วางแผนการอันโหดร้ายนี้ หรือยังมีผู้อื่นอยู่เบื้องหลังคอยบงการเขาอีก
แต่อย่างไรเสีย เห็นได้ชัดว่ายามหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ย่อมไม่มีเวลาให้คิดใคร่ครวญอีกต่อไป
ไม่แปลกใจเลย ที่ว่าเหตุใดยามผู้อื่นได้พบเห็นเขาย่อมมีความอยากปรารถนาจะสังหารเช่นนี้!
สิ่งล่อใจในการกลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกนั้นนับว่ามีแรงจูงใจสูงใช่ชั่ว อาจเรียกได้ว่าเป็นโอกาสสวรรค์ประทานก็มิผิด! แม้นต้องเอาชีวิตเข้าแลกก็ยังนับว่าคุ้มค่า!
ศิษย์บำรุงสำนักในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่นั้นนับว่าไม่เป็นปัญหา แต่หากเป็นระดับห้าแถมยังกรูกันมาเป็นกลุ่ม หลัวเฉิงเองก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถเอาตัวรอดได้
“เกรงว่าข้าต้องรีบขัดเกลาวิชามังกรแท้ให้ทะลวงระดับโดยเร็วเสียแล้ว!”
ดวงตาหลัวเฉิงจ้องไปที่ร่างหวงซาง และโจวจินซวน
หลัวเฉิงไม่รอช้ารีบเดินเข้าหาหมายกลืนกินวิญญาณยุทธ์ทั้งคู่ทันที แต่ทันใดนั้น เงาดำตะคุ่มก็พุ่งร่างออกมาจากด้านหลังของต้นไม้ใหญ่ พร้อมกับหมัดกระด้างที่กระชากห้วงอากาศขาดสะบั้น!
หลัวเฉิงขมวดคิ้วลิ่วหน้าแล้วตั้งท่าชกหมัดสวนพลัน
ปัง!
เสียงดังกึกก้องกัมปนาท ก่อนปรากฏร่างหนึ่งร่อนลงตรงหน้าหลัวเชิงห่างออกไปสามก้าว
“ไม่เลว คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะสามารถรับหมัดของข้าได้!”
ผู้มาเยือนเปิดปากหัวเราะเย้ยหยัน
หลัวเฉิงเงยหน้าขึ้นมอง ทันใดม่านตาก็หรี่แคบ “หานเฟิง!”
ผู้มาเยือนแต่งกายด้วยชุดสีดำ ดวงตาเรียวแคบจมูกสูงโด่ง พานให้ผู้คนรู้สึกครั่นคร้าม นามนั้นคือหานเฟิง!
ระหว่างนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เสี้ยวอึดใจก็มีสองร่างไหวกายออกมาจากป่าทึบ ยืนทางด้านหลังของหานเฟิง
“คิดหรือว่าคนเยี่ยงข้าจะตามหาเจ้าไม่พบ ไอ้ขยะอุบาทว์บัดซบ!”
หานเฟิงจ้องยังหลัวเฉิงแล้วเหยียดยิ้มดุร้ายดุจเดียวกับอสรพิษ
ทันทีที่ปลายเท้าของเขาสัมผัสพื้นเกาะชิงอวิ๋น สิ่งแรกที่หานเฟิงคิดก็คือตามหาหลัวเฉิง
แต่น่าเสียดายที่เกาะชิงอวิ๋นนั้นกว้างใหญ่ใช่น้อย จึงเป็นเรื่องยากที่จะหาพบได้ง่ายๆ แต่บังเอิญได้ยินเสียงร้องของหวงซางเมื่อครู่ จึงรีบปรี่เข้ามาทันที
เมื่อมองยังสบบนพื้น หานเฟิงก็แสยะยิ้มกล่าวว่า “โชคดีที่ยังไม่มีผู้ใดสังหารเจ้าไปเสียก่อน เพราะชีวิตเจ้าเป็นของข้า!”
“ลำพังแค่เจ้าน่ะหรือ เฮอะ!”
หลัวเฉิงแค่นเสียงเย้ยหยัน
เขาไม่ได้หวั่นเกรงต่อความสามารถของหานเฟิงอยู่แล้ว ตั้งแต่แรกเริ่มที่ยังมิได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่ด้วยซ้ำ ตอนนี้ยิ่งแล้วไปใหญ่
“เจ้ากล้ากล่าววาจาเช่นนี้กับพี่หานเฟิงได้อย่างไร!”
“พี่หานเฟิง รีบฆ่ามันเร็วๆ เถิด ท่านจะได้กลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกทันที!”
ลูกศิษย์บำรุงสำนักอีกสองคนที่ยืนข้างหานเฟิงตามตวาดด้วยความโกรธแค้น
แววตาของหานเฟิงเข้มขึ้น “ไอ้หนู ที่นี่ไม่ได้อยู่ในสำนัก เจ้าคิดว่าจะมีผู้ใดยื่นมือเข้าช่วยหรืออย่างไรกัน?”
“ข้าเคยบอกไปแล้วว่าหากเจอกันครั้งหน้า ข้าจะให้เจ้าคุกเข่าเลียพื้นรองเท้าข้า! นี่มันถึงเวลาที่เจ้าต้องทำตามที่ข้าสั่งแล้ว!”
“เลือกมา จะยอมคุกเข่าอย่างเชื่อฟังแล้วตายไปแต่โดยดี หรือจะให้ข้าทรมานเจ้าให้สาหัสเสียก่อนค่อยเลือกว่าเจ้าจะตายอย่างไร!!”
“วาจาใหญ่โตโอหังนัก รับกระบี่ของข้าให้ได้แล้วข้าจะบอกเจ้า!”
ดวงตาหลัวเฉิงเรียบเฉย ทันใดก็กระชับด้ามกระบี่ฟาดฟันออกไปทันที
“สวรรค์ถล่มสายลมชะงัก!”
ฟึบ!
แสงกระบี่รวมตัวเป็นเส้น คล้ายดั่งอาชาขาวโลดแล่นทะยานผ่านห้วงอากาศ
“ไม่ประมาณตน……”
หานเฟิงมองเพลงกระบี่อย่างเย้ยหยัน ก่อนยื่นมือออกไปหมายใช้สองนิ้วหนีบเพื่อหยุด
ขณะที่นิ้วทั้งสองกระชั้นชิดใกล้จะหนีบกระบี่ได้ แสงกระบี่นั้นก็หายไปจากสายตาหานเฟิงทันที!
ฉึก!
ใบหน้าของหานเฟิงนิ่งอึ้ง ด้วยความรู้สึกเจ็บชาที่หน้าอก เมื่อทอดสายตาลงไปก็พบว่ากระบี่สีดำเล่มหนึ่งแทงทะลวงหน้าอกเขาจนทะลุไปแล้ว
“เป็น เป็นไปได้อย่างไร……”
หานเฟิงมองกระบี่สีดำยาวที่เสียบหยุดตรงหว่างอกตน ด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อระคนสงสัยว่าไฉนกระบี่จึงทะลวงอกเขาได้
หลัวเฉิงไม่ตอบ เพียงดึงกระบี่ทลายสวรรค์ออกจากอกหานเฟิง แล้วเดินไล่ล่าสังหารอีกสองคนที่เหลือ
“ไม่จริง! พี่ใหญ่หานเฟิงตายแล้ว!”
“หนีเร็ว!”
ศิษย์บำรุงสำนักสองคนนี้ มักจะเกาะติดหานเฟิงแล้วอาศัยบารมีอวดเบ่งอำนาจ และระดับการฝึกปรือก็อยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสามเท่านั้น เมื่อเห็นหลัวเฉิงย่างเท้าเข้าใกล้ด้วยจิตสังหารก็ต่างขวัญเสียแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง
แต่ทว่า หลัวเฉิงกลับรวดเร็วยิ่งกว่า
ฉัวะ! ฉัวะ!
ทันทีที่หลัวเฉิงฟันกระบี่ศีรษะก็กระเด็นเช่นเดียวกัน!